ฉัน(จะพยายาม)กลับไป..ด้วยเหตุผลบางประการ คือคิดถึงประสบการณ์ครูอาสาบนดอย : )

ประมาณ 3 เดือนที่แล้ว เข้ามาตั้งกระทู้
“ ฉันไป..ด้วยเหตุผลบางประการ และกลับมาพร้อมประสบการณ์ครูอาสาบนดอย : ) ”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาอ่าน แสดงความคิดเห็น แล้วก็แชร์กันไปเยอะโดยเฉพาะเพื่อนพี่น้องที่รู้จักกัน
ตั้งกระทู้ครั้งนี้เพราะอยากอัพเดตความเป็นไปของที่นั่นหลังจากได้กลับไปอีกครั้งและจากเท่าที่ทราบข่าวมา
เผื่อใครที่ติดตามตั้งแต่คราวก่อนจะบังเอิญกลับมาอ่านอีก ..
* กระทู้นี้ภาพน้อยมาก ไม่ค่อยได้ถ่ายภาพเลย

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หลังจากที่โพสกระทู้ที่แล้วไม่นาน อีกไม่กี่วันเราก็ได้กลับไปที่นั่น มีคณะครูอาสาขึ้นไปพร้อมกันสิบกว่าคน
เด็กๆ สนุกสนานกันใหญ่ ไม่มีความเงียบเหงาแล้วล่ะค่ะคราวนี้ บรรยากาศและกิจกรรมทั่วไปไม่ได้ต่างจากเดิมมาก
ที่มีเพิ่มเติมคงเป็นห้องน้ำที่มีคนบริจาคค่าวัสดุอุปกรณ์ให้กับหมู่บ้าน แล้วชาวบ้านกับครูช่วยกันสร้างเอง
เดือนก่อนเริ่มขุดหลุม ตั้งเสา ทำหลังคา เทปูน กลับไปอีกทีคราวนี้ช่วยกันต่อท่อน้ำ เตรียมถังใส่น้ำ ใกล้จะได้ใช้กันแล้ว



นอกจากนั้นก็มีแปลงเกษตร ที่ชาวบ้านช่วยกันลงแรงทั้งหมู่บ้านเตรียมพื้นที่ กั้นรั้ว สร้างศาลา ขุดบ่อ
เพื่อให้เด็กๆ มีพื้นที่สำหรับช่วยกันปลูกและดูแลพืชผัก ไว้ใช้ประกอบอาหารกลางวันกันต่อไป
ซึ่งตอนนี้ถ้าผู้ใหญ่ใจดีอยากส่งเมล็ดพันธุ์ไปให้ก็ยินดีรับนะคะ



จำได้ว่าวันนั้นเดินขึ้นไปดู โอ้โห..มาเกือบทั้งหมู่บ้าน ลงแรงขนาดนี้ดูท่าแล้วแรงเราคงสู้ชาวบ้านไม่ได้
เลยไปช่วยดูแลตัวแทนแม่บ้านทำกับข้าวในครัวน่าจะเหมาะกับเรามากกว่าค่ะ
ซึ่งไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากคอยตอบว่าอะไรอยู่ตรงไหน หาวัตถุดิบมาให้ นอกนั้นแม่ๆเค้าลุยเอง



กลับไปคราวนี้มีของฝากเด็กๆ เป็นพวกของเล่นกับขนม ที่เพื่อนๆของเราพอรู้ว่าจะกลับไปอีกครั้งเลยโอนเงินมาช่วยกัน
มีส่วนตัวบ้างเป็นบางคนที่ร้องไห้ตอนเราจะกลับ (คิดเองว่าเด็กรักเราเลยร้อง ฮ่าๆๆ) เลยซื้อเสื้อผ้าไปฝากเป็นพิเศษ



---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อีกเรื่องที่สำคัญมากคืออาหารการกิน เนื่องจากมีครูอาสาหลายคนเลยจัดเวรทำอาหาร อิ่มอร่อยกันทุกมื้อ
ส่วนตัวเราเองที่รู้สึกทำสำเร็จแล้ว อย่างแรกคือหุงข้าวสุกทั้งหม้อ ไม่ไหม้ไม่แฉะ ต้องขอบคุณพี่เบียร์ที่ช่วยสอนค่ะ
อีกอย่างคือกะปริมาณอาหารกลางวันที่ทำแจกเด็กได้พอดี ไม่ขาดไม่เกิน ตักให้คนสุดท้ายของวันก็หมดหม้อพอดี

ไม่ได้ถ่ายภาพอาหารไว้ มีแค่อาหารช่วงหลังๆที่กลุ่มครูอาสากลับไปแล้วเรายังอยู่ต่อ
ซึ่งถ้าเราเป็นคนทำจะใช้ตัวช่วยที่ติดขึ้นไปบ้าง แต่ถ้าครูทำจะเป็นอาหารง่ายๆ ที่ปกติเราไม่กินเพราะไม่คุ้นเคย
กลับมาเลยได้อวดพ่อแม่ว่าลูกสาวก็กินแบบนี้เป็นเหมือนกันนะ


อันนี้พกไป มีอะไรวางขายนี่กวาดไปหมดค่ะ ฮ่าๆๆ


กินง่าย อยู่ง่าย มีอะไรก็กินไปจ้าาา

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เดือนนี้มีคนเจ็บเยอะค่ะ ส่วนใหญ่ทำงานไร่งานสวนแล้วมีอุบัติเหตุเป็นแผลกันมา มีครูอาสาที่เรียนสายสุขภาพ
เลยช่วยทำแผลดูแลชาวบ้านกับเด็กๆ พอทุกคนกลับไปเหลือครูผู้ชายอีกสองคนกับเรา งานเข้าซิคะทีนี้
ดีที่ไม่ได้กลัวแผลกลัวเลือดอะไร (ถ้าไม่หนักมาก) มีบ้างที่ต้องพาส่งหาหมอ ซึ่งมีครูอาสาได้ช่วยมอบเงินช่วยเหลือให้
กับใช้เงินจากกองทุนที่มีคนบริจาคไว้คอยช่วยเหลือเด็กๆเวลาเจ็บป่วยค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

มีอยู่สองคนที่เราได้เข้าไปดูใกล้ชิด คนแรกเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ปวดท้องจนร้องไห้
พูดไทยยังไม่ได้ แม่ของเด็กก็ด้วยเลยต้องอาศัยเด็กโตช่วยแปล กลัวจะปวดไส้ติ่งเลยให้คนพาลงไปหาหมอ
ผลการตรวจหมอเขียนใส่กระดาษแจ้งกลับว่าเป็นอาการของโรคกระเพาะอาหาร



อีกคนตกต้นไม้นอนประคบสมุนไพรอยู่บ้าน ดูอาการแล้วแขนไม่หัก โล่งอกไป แต่ครอบครัวกังวลใจเพราะเด็กร้องตลอด
ถามครูว่ายาไหมที่ไม่ใช่พาราซึ่งพอจะมีแต่ครูต้องกลับลงไปหาเองที่โรงเรียน วันนั้นเด็กๆได้ช่วยจูงช่วยดึงครูพราว
ขึ้นลงเนินตากฝน ทั้งมืดแล้วไฟฟ้าไม่มี ไฟฉายก็หยิบไปกระบอกเดียว ลื่นแล้วลื่นอีก (^^”)



ภาพนี้ไม่รู้จะอธิบายอะไร คิดว่าเห็นภาพแล้วคงเข้าใจว่าทำไมถึงแอบถ่ายมา
นิยามคำว่า “ครู” ของแต่ละคนต่างกันไป สำหรับเราแล้ว ครูคือทุกอย่าง
พอเห็นแบบนี้ก็ยังเกิดความรู้สึกเดิมที่คิดว่าตัวเองยังไม่ดีเพียงพอสำหรับคำนี้ (มันเป็นแค่ความรู้สึกค่ะ แฮะๆ)


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ส่วนการเรียนการสอน เราเพิ่งจะได้สอนจริงจังตอนที่คณะครูอาสากลับไปค่ะ เป็นประสบการณ์ใหม่เลยแหละ
สอนนักเรียนสามระดับชั้นในเวลาเดียวกัน สอนเสร็จเขียนแบบฝึกไว้บนกระดานแล้วไปอีกชั้นต่อ
ซึ่งทั้งหมดอยู่ในอาคารเดียวกัน ไม่มีการกั้นห้องใดๆทั้งสิ้น พยายามเต็มที่เท่าที่ทำได้เพราะเคยสอนแต่มัธยม
ระลึกถึงครูบาอาจารย์ของตัวเองว่าเคยสอนเรายังไง และเราควรทำยังไงให้เหมาะกับเด็กที่จะช่วยให้เรียนรู้ได้มากที่สุด


ไม่รู้ใครเขียน แต่ครูพราวถือวิสาสะไม่ลบค่ะ ปล่อยไว้ตรงมุมกระดานนั่นแหละ ><

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

การจากลามาทักทายเราอีกครั้งแล้วค่ะ มีผู้ใหญ่ท่านนึงเคยสอนว่า “ความผูกพันทำให้เป็นทุกข์”
เราว่าเราผูกพันกับที่นั่นไปแล้ว ทั้งกับชาวบ้านกับเด็กๆ แต่เราพยายามจะไม่ทุกข์เพราะความผูกพันนี้
เก็บไว้แต่ความทรงจำที่ดี เรื่องราวที่ทำให้เรามีความสุขแค่นั้นคงเพียงพอแล้ว
อีกอย่าง.. ถึงตัวเราจะไม่สามารถกลับไปที่นั่นได้ในตอนนี้ แต่เรายังสามารถส่งความคิดถึงส่งสิ่งของไปให้เด็กๆ
ผ่านทางคุณครูที่คอยเป็นคนส่งต่อให้อีกที ขอบคุณนะคะ : )

และสำหรับรอบนี้ได้ซ้อนมอเตอร์ไซค์กลับลงไปค่ะ เพิ่งเริ่มต้นฤดูฝนเลยยังไม่ลำบากมาก (ครูเค้าบอกอย่างนั้น)
ซึ่งเวลากลับลงไปบรรดาครูแต่ลงหมู่บ้านจะลงพร้อมกัน มีอะไรจะได้ช่วยเหลือได้



ไม่สามารถถ่ายภาพอะได้ค่ะ ไม่กล้าควักโทรศัพท์มือถือออกมา ฮ่าๆๆ
แต่ถ้าภาพเคลื่อนไหวพอจะมีอยู่บางช่วงที่ลงเดิน (ที่เดินอยู่นั่นเราเอง)
https://www.facebook.com/405291886192005/videos/844274588960397/?video_source=pages_finch_main_video

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ก่อนกลับกรุงเทพฯ ได้เห็นรองเท้าที่มีคนส่งมาให้จากการจัดโครงการรองเท้าเพื่อน้อง
ของเพจชีวิตบนดอย เนื่องจากเข้าฤดูฝนแล้วพื้นแฉะ สิ่งสกปรกไหลนองไปทั่ว การมีรองเท้าดีๆ สามารถช่วยป้องกัน
ทั้งพยาธิ เชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมได้มากมาย อีกทั้งใช้ประโยชน์ได้นานด้วย (ตอนนี้โครงการเสร็จสิ้นแล้วนะคะ)
รองเท้าที่ได้มาจากการบริจาคและนำเงินบริจาคไปซื้อ ได้ส่งให้กับ ศศช. หมู่บ้านอื่นๆด้วย แบ่งปันกันไปค่ะ



ยังคงมีผู้ใหญ่ใจดีแวะเวียนไปหา ส่งความช่วยเหลือ สิ่งของเครื่องใช้ไปให้เด็กๆอยู่ตลอดค่ะ  
ทั้งครูอาสาระยะสั้นที่ขึ้นไปกัน ได้เห็นภาพอยู่บ้าง พาลให้คิดถึงเด็กๆและที่นั่น
คิดในแง่ดีว่าอย่างน้อยเราได้รับรู้ความเป็นไป ได้เห็นว่าพวกเค้ามีความสุขกันก็ดีแล้ว




คนนี้เพื่อนที่มหาวิทยาลัยของเราเอง ทักมาถามรายละเอียดแล้วชวนคนรู้จักช่วยกัน
สรุปส่งไป 14 ลัง เยอะมากๆ ถึงกับต้องจ้างรถขนของไปส่งไปรษณีย์กันเลย


---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ท้ายสุด.. ขอบคุณบูม เพื่อนของเพื่อน ที่ตอนนี้เป็นเพื่อนของเรา ขึ้นไปเป็นครูอาสาเมื่อเดือนสิงหาคม
ช่วยพาของฝากจากเราไปให้เด็กๆ แล้วก็พาของฝากจากเด็กๆ กลับมาให้



อ่านแล้วยิ้มทั้งน้ำตา อาจจะเขียนผิดๆถูกๆ เรียบเรียงแปลกๆ แต่สำหรับเด็กที่นั่น
การเขียนภาษาไทยได้ยาวขนาดนี้ต้องใช้ความพยายามมาก

และนี้แหละค่ะที่ทำให้ .. ฉัน(จะพยายาม)กลับไป ..

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สำหรับผู้ใหญ่ใจดีนะคะ ติดต่อไปได้ที่ facebook fanpage “ชีวิตบนดอย” จะมี Events อยู่เรื่อยๆค่ะ
หรืออยากช่วยเหลือด้านไหนส่งข้อความไปได้ ซึ่งบางช่วงที่ขึ้นดอย ไม่มีสัญญาณไม่ได้ตอบ
อดทนรอ ใจเย็นๆกันก่อนนะคะ ติดต่อมาทางเราก็ได้ค่ะเดี๋ยวจะช่วยประสานส่งต่อให้อีกที ^^

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่