คือเรื่องมีอยู่ว่า คุณยายของผม ช่วงนั้นแกปัสสาวะบ่อย เลยไปหาหมอ ประมาณสิ้นเดือนสิงหาคม
ก็ไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน คือ โรงพยาบาลประจำอำเภอ
ก็ไปตรวจเลือดหาสาเหตุดูผลปรากฏว่า........คุณยายผมเป็นโรคไตระยะสุดท้าย ระดับที่5 ต้องฟอกไตสถานเดียว คุณแม่โทรมาบอก ผมช็อคไปหมด คิดอะไรไม่ออกตื้อไปหมดเลย ยายก็ช็อค ตาก็ช็อค ครอบครัวช็อคกันไปหมด เพราะที่บ้านก็กินอาหารปกติ บางครั้งบางคราวที่ผมกลับไปเยี่ยมก็ทำอาหารรสจัดให้เป็นบางครั้ง คือตอนนั้นใจคอผมไม่ดีมาก นั่งร้องไห้กลัวจะเสียแกไป เพราะยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้แกดีใจเลย ความคิดแรกเลยถ้าแกเป็นโรคไตจริงๆผมจะไปหาหมอตรวจว่าไตผมกับยายเข้ากันได้ไหมผมจะเสียสละให้ แต่ไปศึกษาดูข้อมูลแล้ว การเปลี่ยนไตต้องไม่ควรเกิน 65 ปี เพราะเสี่ยงต่ออันตรายของผู้ป่วยเอง คุณยายผมอายุ 74 ปี น้ำหนัก 33 กิโลกรัม คือตอนนั้นแย่มากจริงๆ ผมคิดว่ายายน่าจะหนัก ประมาณ 40-42 กิโลกรัม พอแม่โทรมาบอกงงเลย แล้วยิ่งต้องควบคุมน้ำหนัก อาหารการกินด้วย ผมกังวลใจมากเลย แม่ก็บอกกลัวยายจะไม่ทนตอนฟอกเลือด จากที่โทรหาแกอาทิตย์ละครั้งบ้าง เดือนละ 5-6 ครั้งบ้าง โทรหาแกทุกวัน ให้กำลังใจทุกวัน ยายต้องไม่เป็นไรนะ ยายต้องไม่เป็นไรนะ ยายบอกยายสู้อยู่แล้ว
สรุป...ยายต้องทำการทำบล็อคแขน เป็นท่อไว้สำหรับเอาเลือดออกไปฟอกแล้วนำเลือดกลับเข้าสู่ร่างกาย ในวันที่ 10 สิงหาคม
10 สิงหาคม
โรงพยาบาลที่ยายไปตรวจรอบนี้คือ โรงพยาบาลประจำจังหวัด
ก่อนทำการจะทำบล็อคแขน ก็ต้องทำการเจาะเลือด แม่ก็เข้าไปฟังหมอพูดด้วย ผลปรากฏว่าคุณหมอบอก คุณยายปกติดี ไม่ต้องทำอะไรเลย ยาก็ไม่ต้องกิน อาหารก็กินได้ปกติ หรือถ้าอยากได้ยาก็จะจัดยาบำรุงสุขภาพให้ ผ่านมา 6 โมงเย็นผมเลิกงาน ก็มีสายเข้าจากเบอร์ที่บ้าน ซึ่งตั้งแต่เรียนมหาลัย จนถึงทำงาน เบอร์บ้านพึ่งเคยโทรหาครั้งเดียว เมื่อวานเป็นสายที่ 2 ซึ่งผมไม่ได้รับ (ขับรถอยู่) พอกลับถึงห้องโทรกลับ ก็ไม่ติดสายไม่ว่าง ตอนนั้นกระวนใจมาก คิดเรื่องแย่ๆตลอด ยายจะเป็นอะไรบ้าง สุดท้ายคุยกับแม่แล้วบอกปกติ อ้าว......
ผมนี่ขึ้นเลยยยย โมโหก็โมโห ดีใจก็ดีใจ
เห้ย....โรงพยาบาล ผลตรวจ แพทย์ประจำอาการ ตรวจออกมาแบบนี้ได้ไง มันไม่ใช่อาการของโรคไข้หวัด ที่ทานยา หรือฉีดยาแล้วจะหายนะ นี่มันเป็นโรคแห่งความเป็นความตายเลยนะ ผมควรจะเชื่อคุณคุณหมอโรงพยาบาลไหนดีครับเนี้ยยยย คือจริงๆแม่ผมก็เป็นพยาบาลนะ แกก็งงเหมือนกัน ตรวจที่นึงโรคไตระยะสุดท้าย ตรวจที่นึงบอกปกติดี
คือถามว่าผมดีใจไหมถ้าคุณยายปกติ ดีใจมากด้วย แต่ถามว่าถ้ายายผมปกติ การวินิจฉัยโรคครั้งนั้น สภาพจิตใจ ยายผมละ ตาผมละ ครอบครัวผมละ ถ้าสภาพจิตใจยายไม่แข็งพอช็อคตายขึ้นมาละทำไง
สรุปตอนนี้....กำลังโทรไปเกลี้ยกล่อม ขอให้ไปตรวจ โรงพยาบาลประจำภาค จะได้เป็นตัวตัดสินไปเลย เพราะตอนนี้สมองตีกันมั่วไปหมดแล้ว จะเชื่อใครดี เราก็ไม่มีความรู้ด้านนี้ จะหวังพึ่งคนที่มีความรู้ด้านนี้แต่กลับคือ
ปล.แก้ไข เพิ่ม Tag ครับ
โรงพยาบาลนึงบอกเป็นโรคไตระยะสุดท้าย โรงพยาบาลนึงบอกปกติดี สรุปผมจะเชื่อโรงพยาบาลไหนดี ?
ก็ไปโรงพยาบาลใกล้บ้าน คือ โรงพยาบาลประจำอำเภอ
ก็ไปตรวจเลือดหาสาเหตุดูผลปรากฏว่า........คุณยายผมเป็นโรคไตระยะสุดท้าย ระดับที่5 ต้องฟอกไตสถานเดียว คุณแม่โทรมาบอก ผมช็อคไปหมด คิดอะไรไม่ออกตื้อไปหมดเลย ยายก็ช็อค ตาก็ช็อค ครอบครัวช็อคกันไปหมด เพราะที่บ้านก็กินอาหารปกติ บางครั้งบางคราวที่ผมกลับไปเยี่ยมก็ทำอาหารรสจัดให้เป็นบางครั้ง คือตอนนั้นใจคอผมไม่ดีมาก นั่งร้องไห้กลัวจะเสียแกไป เพราะยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้แกดีใจเลย ความคิดแรกเลยถ้าแกเป็นโรคไตจริงๆผมจะไปหาหมอตรวจว่าไตผมกับยายเข้ากันได้ไหมผมจะเสียสละให้ แต่ไปศึกษาดูข้อมูลแล้ว การเปลี่ยนไตต้องไม่ควรเกิน 65 ปี เพราะเสี่ยงต่ออันตรายของผู้ป่วยเอง คุณยายผมอายุ 74 ปี น้ำหนัก 33 กิโลกรัม คือตอนนั้นแย่มากจริงๆ ผมคิดว่ายายน่าจะหนัก ประมาณ 40-42 กิโลกรัม พอแม่โทรมาบอกงงเลย แล้วยิ่งต้องควบคุมน้ำหนัก อาหารการกินด้วย ผมกังวลใจมากเลย แม่ก็บอกกลัวยายจะไม่ทนตอนฟอกเลือด จากที่โทรหาแกอาทิตย์ละครั้งบ้าง เดือนละ 5-6 ครั้งบ้าง โทรหาแกทุกวัน ให้กำลังใจทุกวัน ยายต้องไม่เป็นไรนะ ยายต้องไม่เป็นไรนะ ยายบอกยายสู้อยู่แล้ว
สรุป...ยายต้องทำการทำบล็อคแขน เป็นท่อไว้สำหรับเอาเลือดออกไปฟอกแล้วนำเลือดกลับเข้าสู่ร่างกาย ในวันที่ 10 สิงหาคม
10 สิงหาคม
โรงพยาบาลที่ยายไปตรวจรอบนี้คือ โรงพยาบาลประจำจังหวัด
ก่อนทำการจะทำบล็อคแขน ก็ต้องทำการเจาะเลือด แม่ก็เข้าไปฟังหมอพูดด้วย ผลปรากฏว่าคุณหมอบอก คุณยายปกติดี ไม่ต้องทำอะไรเลย ยาก็ไม่ต้องกิน อาหารก็กินได้ปกติ หรือถ้าอยากได้ยาก็จะจัดยาบำรุงสุขภาพให้ ผ่านมา 6 โมงเย็นผมเลิกงาน ก็มีสายเข้าจากเบอร์ที่บ้าน ซึ่งตั้งแต่เรียนมหาลัย จนถึงทำงาน เบอร์บ้านพึ่งเคยโทรหาครั้งเดียว เมื่อวานเป็นสายที่ 2 ซึ่งผมไม่ได้รับ (ขับรถอยู่) พอกลับถึงห้องโทรกลับ ก็ไม่ติดสายไม่ว่าง ตอนนั้นกระวนใจมาก คิดเรื่องแย่ๆตลอด ยายจะเป็นอะไรบ้าง สุดท้ายคุยกับแม่แล้วบอกปกติ อ้าว......
ผมนี่ขึ้นเลยยยย โมโหก็โมโห ดีใจก็ดีใจ
เห้ย....โรงพยาบาล ผลตรวจ แพทย์ประจำอาการ ตรวจออกมาแบบนี้ได้ไง มันไม่ใช่อาการของโรคไข้หวัด ที่ทานยา หรือฉีดยาแล้วจะหายนะ นี่มันเป็นโรคแห่งความเป็นความตายเลยนะ ผมควรจะเชื่อคุณคุณหมอโรงพยาบาลไหนดีครับเนี้ยยยย คือจริงๆแม่ผมก็เป็นพยาบาลนะ แกก็งงเหมือนกัน ตรวจที่นึงโรคไตระยะสุดท้าย ตรวจที่นึงบอกปกติดี
คือถามว่าผมดีใจไหมถ้าคุณยายปกติ ดีใจมากด้วย แต่ถามว่าถ้ายายผมปกติ การวินิจฉัยโรคครั้งนั้น สภาพจิตใจ ยายผมละ ตาผมละ ครอบครัวผมละ ถ้าสภาพจิตใจยายไม่แข็งพอช็อคตายขึ้นมาละทำไง
สรุปตอนนี้....กำลังโทรไปเกลี้ยกล่อม ขอให้ไปตรวจ โรงพยาบาลประจำภาค จะได้เป็นตัวตัดสินไปเลย เพราะตอนนี้สมองตีกันมั่วไปหมดแล้ว จะเชื่อใครดี เราก็ไม่มีความรู้ด้านนี้ จะหวังพึ่งคนที่มีความรู้ด้านนี้แต่กลับคือ
ปล.แก้ไข เพิ่ม Tag ครับ