สมาคมฟุตบอลของประเทศเพื่อนบ้านโดนวิจารณ์เละ! หลังไทยทำผลงานเด่นเกิน

ตอนนี้วงการฟุตบอลของประเทศเพื่อนบ้านต้องเจอวิกฤตปัญหามากมาย
ถ้าลองย้อนกลับไปดูข้อมูลต่างๆ จะพบว่าประเทศไทยมักโดนนำไปเปรียบเทียบอยู่บ่อยครั้ง
โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ฟุตบอลไทยเกือบทุกรุ่นได้เป็น Champions ในหลายๆ รายการ
ผมจึงขอสรุปเหตุการณ์ของวงการฟุตบอลประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะสมาคมฟุตบอลของเขามาให้อ่านกัน
(หากผิดพลาดขออภัย)

อินโดนีเซีย



เริ่มจากปัญหาภายในของอินโดนีเซียระหว่าง The Football Association of Indonesia (PSSI) และ Indonesian government
ถึงขั้นมีข่าวว่าอาจจะต้องพักการแข่งขัน League ภายในประเทศ เพราะทางรัฐบาลสั่งเลื่อนการเปิด League มาแล้วถึง 3 ครั้ง
เนื่องจากทาง Professional Sport Committee (BOPI) ของประเทศได้เห็นว่าสโมสรใน ISL ยังไม่มี Pro licenses
ตามที่ Asian Football Confederation (AFC) กำหนดมา จนทำให้สโมสร Sriwijaya FC คิดจะย้ายไปเล่นใน S-League สิงคโปร์
ซึ่งในอดีตอินโดนีเซียก็เคยเกิดเหตุการณ์แยก League และ หยุดพัก League มาแล้ว
รวมถึงมีการแทรกแซงจากรัฐบาลจน FIFA ต้องเข้ามาแก้ไข แต่ในที่สุดแล้วฟุตบอลอินโดนีเซียก็ถูก FIFA ban ห้ามแข่ง
โดยนัดที่ได้เห็นทีมชาติอินโดนีเซียได้เล่นล่าสุดก็คือ AFC U-23 2016 Championship Qualification และ Sea Game 2015

AFC U-23 2016 Championship Qualification ประเทศไทยเข้ารอบในขณะที่อินโดนีเซียตกรอบ

ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/2016_AFC_U-23_Championship_qualification

Sea Game 2015 อินโดนีเซียแพ้ไทยไป 5-0 ในรอบ Semi-finals และแพ้เวียดนาม 5-0 ในรอบชิงอันดับ 3

ภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Football_at_the_2015_Southeast_Asian_Games

รวมถึงในช่วงเวลานั้นฟุตบอลหญิงของไทยก็ได้เข้าไปเล่นฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรก
ก็ยิ่งทำให้แฟนบอลและสื่อตั้งคำถามถึงการทำงานของสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียและรัฐบาล


ที่มา http://ppantip.com/topic/33598688, http://uk.reuters.com/article/2015/05/31/uk-soccer-fifa-indonesia-idUKKBN0OG03920150531, http://globalvoicesonline.org/2015/07/11/following-fifa-ban-indonesian-football-association-tells-government-to-butt-out/


มาเลเซีย

ด้วยผลงานที่ล้มเหลวใน Sea Game และ AFF Suzuki Cup ที่ผ่านๆ มา โดยมีไทยเป็นผู้คว้าแชมป์มาตลอด

AFF Suzuki Cup 2014


Sea Game 2015 มาเลเซียแพ้ไทยไป 0-1 และตกรอบในกลุ่ม B


รวมถึงยังมองไม่เห็นอนาคตของการเปลี่ยนแปลงที่ดีจาก The Football Association of Malaysia (FAM)
ไม่ว่าจะเป็นแผนที่จะใช้นักเตะโอนสัญชาติมาเล่นให้กับทีมชาติมาเลเซียเพื่อยกระดับทีมชั่วคราว หรือ ใช้รุ่นเยาวชนมาเล่นแทนรุ่นพี่
อีกทั้งด้วยผลงานในฟุตบอลโลกที่ย่ำแย่ที่สุด ที่ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนทีมงานโค้ชได้ไม่ทันไร ก็เกิดเรื่องใหม่ตามมา
เพราะการแก้ปัญหาดังกล่าวไม่ได้ทำให้ความไม่พอใจของแฟนบอลที่สะสมมาตลอดลดน้อยลงไป




จนกระทั่งมันได้ถูกระบายออกมาในการแข่งขัน FIFA World Cup qualification / Asian Cup qualifying play-off round
ระหว่าง มาเลเซีย กับ ซาอุ โดยเหล่า Ultras Malaya ได้ทำการจุด flares และขว้างลงไปในสนาม

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

โดยทางแฟนบอลเหล่านั้นได้แสดงความไม่พอใจ และให้เหตุผลว่าเป็นการต่อสู้และต่อต้านสมาคมฟุตบอลมาเลเซีย
ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ก็จะถูกทาง FIFA นำไปพิจารณาถึงผลกระทบต่อการแข่งขันในรายการฟุตบอลโลก
แต่เรื่องมันไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อมีแฟนบอลมาเลเซียบางส่วนได้แสดงท่าทีคุกคามต่อแฟนบอลซาอุ อาจทำให้เรื่องบานปลายต่อไปอีก






สำหรับตอนนี้ทาง FAM กำลังรอการตัดสินใจของทาง FIFA ถึงประเด็นความปลอดภัยในสนามอย่างจริงจัง
โดยเฉพาะความปลอดภัยของผู้เข้าชมการแข่งขัน, ผู้เล่น และ เจ้าหน้าที่ ในสนามต่อไป
หนทางของวงการฟุตบอลมาเลเซียจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้นต้องติดตามกันอีกนาน


ที่มา TERENGGANU FA, http://ppantip.com/topic/33981290, http://ppantip.com/topic/33672521, http://ppantip.com/topic/33651766http://fam.org.my/news-articles/102-latest-news/959-kenyataan-rasmi-timbalan-presiden-fam-mengenai-insiden-pada-perlawanan-antara-malaysia-dan-arab-saudi


เวียดนาม

ด้วยความหวังของเวียดนามในชุด U19 HAGL JMG (2014) นั้นล้มเหลวและไม่สามารถก้าวข้ามไทยไปได้
ถูกตอกย้ำด้วยผลงานในฟุตบอลโลกที่แพ้ไทย 1-0 ด้วยวิธีการเล่นที่ไม่ค่อยมีแฟนบอลคนไหนชื่นชอบ
จนมาถึงรุ่นเยาวชนในรายการต่างๆ ที่มีไทยกวาดแชมป์ไปเกือบทุกรายการ ตามมาด้วยความผิดหวังรอบสอง
ของ U19 All Star Academy (2015) ที่เต็มไปด้วยเยาวชนจากศูนย์ฝึกของสโมสรในเวียดนาม ที่เชื่อมั่นว่าดีกว่ารุ่น U19 ในอดีต
แต่กลับพ่ายแพ้ให้แก่ไทยถึง 6-0 ชนิดที่แฟนบอลและสื่อเวียดนามทำใจกันไม่ได้




ส่งผลให้ทาง The Vietnam Football Federation (VFF) โดนกดดันจากหลายฝ่าย
พร้อมทั้งถูกวิจารณ์ถึงแนวทางการพัฒนาฟุตบอลเวียดนามจากผลงานที่ผ่านๆ มา
จนถึงกับต้องมีการทำแบบสำรวจเพื่อกดดันให้ทาง VFF ไล่โค้ชชาวญี่ปุ่น Toshiya Miura พ้นจากตำแหน่ง



ถึงขนาดที่ Đoàn Nguyên Đức เจ้าของสโมสร HAGL ใน V-League และมีตำแหน่ง Deputy chairman ใน VFF
ที่เคยแสดงออกถึงการสนับสนุนการทำงานของ Miura และชื่นชมจนถึงขั้นอยากให้มาเป็นโค้ชในสโมสรของเขา
ได้ออกอาการหัวเสียถึงผลงานของทีมชาติเวียดนามทุกรุ่น โดยได้ออกมาวิจารณ์ถึงการทำงานของ Miura อย่างรุนแรง

"3 ครั้งที่ผ่านมาในการพบกับไทยนั้นเราไม่เคยชนะเลย มันเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ว่าทุกคนเห็นแล้วจะสามารถยอมรับมันได้
พวกเรายังคงมีความมุ่งมั่นที่จะชนะไทย ตัวผมเองก็ทุ่มเทให้กับวงการฟุตบอลไปมากมายด้วยการสร้าง Football academy"

"สำหรับ Miura นั้นมีปรัชญาฟุตบอลแบบเก่า และมันไม่เหมาะสมกับสมัยนี้ ซึ่งพวกเราต้องสร้างผู้เล่นให้มีเทคนิคมากกว่านี้
เล่นไปกับบอลด้วยสติปัญญาและความสร้างสรรค์ และด้วยวิธีการของโค้ชมิอุระที่นำมาใช้กับทีมมันล้มเหลว
ตอนนี้พวกเราไม่สามารถที่จะชนะไทย มาเลเซีย หรือ เมียนม่า ผมต้องการจะบอกด้วยข้อความง่ายๆ ว่า
ฟุตบอลเวียดนามภายใต้การคุมทีมของมิอุระนั้นจะไม่ทำให้พัฒนาขึ้น"


ตอนนี้สถานการณ์ของ VFF และทีมชาติเวียดนามยังคงอยู่ในสภาวะไม่มั่นคง
เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือน ก็ต้องต้อนรับการมาเยือนของอิรัก และไทย
ที่ต่างแสดงความต้องการ 3 คะแนน ในบ้านของเวียดนามให้ได้

ล่าสุดทาง Đoàn Nguyên Đức ได้ออกมาแถลงการณ์ถึง VFF และ Miura อันเป็นการตอกย้ำถึงความคิดของเขา



"ถ้า VFF ไม่ต่อสัญญากับ Miura ผมจะยอมจ่ายเงินค่าจ้างโค้ชคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม รวมถึงออกค่าฝึกสอนฟุตบอลให้เอง
ผมยืนยันว่าจะออกค่าใช้จ่ายเองให้ทั้งหมด"


หากพูดถึงผลงานในฟุตบอลของ Miura ทาง Đoàn Nguyên Đức ก็ได้วิจารณ์ว่า

"จนถึงตอนนี้เวียดนามก็ได้เพิ่มเรื่องสุขภาพของนักเตะ, สภาพร่างกาย, การเล่นป้องกันที่แข็งแกร่ง
แต่ด้วยวิธีการใช้แผนตั้งรับและโต้กลับ ด้วยการโยนบอลยาวจากแนวรับไปหากองหน้า
มันไม่เหมาะกับลักษณะของคนเวียดนาม และนั่นจะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของทีมเลวร้ายลงไปอีกในสายตาของแฟนบอล"

"ฟุตบอลเวียดนามต้องมีผู้เล่นที่เต็มไปด้วยเทคนิค, เราจะต้องหาโค้ชที่ดีกว่านี้
เพื่อให้ทีมมีการบุกที่สวยงามเพื่อชัยชนะ ไม่ใช่อย่างที่เป็นในตอนนี้"


จากกระแสของแฟนบอลและสื่อ รวมถึงการออกมาพูดของ Đoàn Nguyên Đức
ทำให้เป็นที่ค่อนข้างแน่นอนว่า Miura อาจจะไม่ได้อยู่ทำทีมชาติเวียดนามจนจบฟุตบอลโลกก็เป็นได้

หากแต่ถ้านี่เป็นเพียงการแสดงออกเพื่อลดกระแสต่อต้านของประชาชนเวียดนาม
การปรับเปลี่ยนอย่างกระทันหันในระหว่างที่มีการแข่งขันสำคัญรออยู่ มันจะคุ้มหรือไม่ ?
แล้วใครจะเป็นผู้ที่เหมาะสมกับการมารับหน้าที่โค้ชต่อจาก Miura ซึ่งต้องแบกรับความคาดหวังที่โถมเข้ามาอย่างหนัก

คงต้องติดตามกันต่อไป ว่าการเปลี่ยนแปลงของเวียดนามมันจะมีผลกระทบอย่างไรในฟุตบอลโลกของกลุ่ม F
ซึ่งมีไทยร่วมกลุ่มโดยไทยยังคงเป็นที่ 1 ของตาราง และมีอิรักตามมาเป็นที่ 2 ขณะที่เวียดนามอยู่ที่ 3 ของกลุ่ม


ที่มา http://thethao247.vn/bong-da-viet-nam/tuyen-quoc-gia-vn/vote-vff-co-nen-sa-thai-hlv-toshiya-miura-d111951.html, http://thethao247.vn/bong-da-viet-nam/tuyen-quoc-gia-vn/nhm-muon-sa-thai-hlv-miura-du-viet-nam-thang-dai-loan-d111907.html, http://thethao247.vn/bong-da-viet-nam/tuyen-quoc-gia-vn/phong-vien-iraq-tin-rang-viet-nam-con-lau-moi-bang-thai-lan-d111932.html, http://ppantip.com/topic/33331406, http://thethao247.vn/bong-da-viet-nam/tuyen-quoc-gia-vn/bau-duc-khang-dinh-thang-thai-lan-khong-kho-d111956.html


สปป.ลาว

ทาง Lao Football Federation นั้น เคยมีปัญหาเรื่องขาดแคลนโค้ชที่มี Coach Licence
โดยตอนนั้นในรายการแข่งขันระดับประเทศทุกรายการต้องใช้งาน David Booth เพียงคนเดียว
ซึ่งตัว David Booth นั้นก็ทำงานให้กับสโมสรอยู่แล้วด้วย ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ของแฟนบอลและสื่อ
โดยทางสมาคมฟุตบอลลาวได้ออกมาอธิบายถึงสาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ

1. David Booth มี Licence ระดับ A ตามมาตรฐาน AFC และ FIFA
2. คนอื่นมี Licence แค่ระดับ B และต้องรอให้ได้ระดับ A ก่อนจึงจะเปิดโอกาสให้มารับใช้ชาติ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ต่อมาก็ได้ใช้โค้ชต่างชาติมากขึ้นเช่น Steve Darby โค้ชทีมชาติลาวชุดใหญ่
และ Phan Tôn Lợi โค้ชทีมชาติลาวรุ่น U19 ปี (สำหรับโค้ชชาวเวียดนามคนนี้ เมื่อปี 2014
ได้สร้างผลงาน คือ นำสโมสร Hoàng Anh Attapeu Football Club ใน Lao League เป็นแชมป์
โดยสโมสรนี้อยู่ในเครือของ Hoàng Anh Gia Lai Group เจ้าของเดียวกับสโมสร Hoàng Anh Gia Lai ใน V-League)

และก็มีเรื่องของปัญหาการให้โอกาสนักเตะที่อยู่ต่างประเทศเข้ามารับใช้ชาติ
เพราะด้วยตัวกฎหมายเองนั้น ไม่เอื้ออำนวย เรียกได้ว่าเสียโอกาสพัฒนาวงการฟุตบอลเป็นอย่างมาก

Billy Ketkeophomphone

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ซึ่งปัญหาต่างๆ เหล่าก็เป็นเรื่องที่ทางสมาคมฟุตบอลลาวต้องหาทางแก้ไข แต่ด้วยผลงานของรุ่นเยาวชนที่ผ่านมา
ทั้ง U19 ที่ได้อันดับ 3 ในรายการ AFF U19 CHAMPIONSHIP 2015 (ได้รับเงินสนับสนุน 100.000.000 กีบ)
และ U16 ที่ได้อันดับ 4 ในรายการ AFF U16 CHAMPIONSHIP 2015 (ได้รับเงินสนับสนุน 30.000.000 กีบ)
ก็ช่วยทำให้สมาคมฯ สามารถแสดงผลงานต่อหน้าประชาชนได้


ที่มา ສະຫະພັນບານເຕະແຫ່ງຊາດລາວ, http://ppantip.com/topic/33649362, https://en.wikipedia.org/wiki/Dave_Booth, http://laosports.com/, https://en.wikipedia.org/wiki/Hoang_Anh_Attapeu_F.C.

ใส่เนื้อหาเพิ่มไม่ได้แล้ว (เอารูปท่าน วรวีร์ มัคคุดี มาลงเพิ่มเพื่อเป็นการสดุดีถึงผลงานดีไหมครับ?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่