ยายเคยเล่าเรื่องผีให้ฟัง สมัยก่อนบ้านจะปลูกเป็นกระต๊อบ ซึ่งมักจะปลูกบ้านริมคลองกัน (เวลาไฟไหม้ก็ตักน้ำคลองนั่นล่ะสาด) แล้วมีเด็กกำพร้า2พี่น้อง คือพ่อแม่ตายหมด อาศัยคนในหมู่บ้านแบ่งอาหารให้ก็อยู่กันแค่2พี่น้องในบ้าน คนพี่เป็นผช.อายุ11ขวบ ส่วนคนน้องเป็นผญ.อายุ7ขวบ วันนึงพี่ชายลงไปงมหาปลา น้องสาวเห็นพี่เล่นน้ำก็ขอเล่นด้วย แต่พี่ให้เล่นอยู่แค่ริมตลิ่ง เพราะน้องยังเล็กมาก จนกระทั่งคนพี่งมหาปลาไปซักพัก พอหันมาดูน้อง ปรากฎว่าน้องหายไปแล้ว พี่ชายก็งมหาคิดว่าน้องจมน้ำ แต่งมหายังไงก็หาไม่เจอ จึงวิ่งไปเรียกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านมาช่วย คนในหมู่บ้านก็แยกย้ายกันตามหาแต่ก็หาไม่เจอ เลยบอกให้เด็กชายถอดใจ ว่าน้องสาวคงจมน้ำตายไปแล้ว รอ3วันให้ศพอืดพ้นน้ำขึ้นมา ชาวบ้านจะช่วยกันจัดงานศพให้ แต่พี่ชายไม่ยอมถอดใจ หลังจากพวกผู้ใหญ่แยกย้ายกันกลับบ้าน ก็งมในน้ำหาน้องสาวต่อไป จนดึกดื่นเที่ยงคืนก็ยังไม่หยุดหา ท้ายที่สุดจึงหมดแรงจมน้ำไปด้วยอีกคน เช้าวันรุ่งขึ้น ชาวบ้านไปเจอศพคนพี่ลอยติดอยู่ที่ตลิ่งเลยช่วยกันหอบศพมากลางหมู่บ้าน (สมัยก่อนวัดไม่เยอะเหมือนสมัยนี้จึงทำการเผาศพกันเองในหมู่บ้าน) ชาวบ้านช่วยกันต่อโลงและสุมกิ่งไม้รอบๆเตรียมเผา (สมัยก่อนไม่มีฟอมมารีนจึงไม่เอาศพไว้นานจะเน่าส่งกลิ่น) ในขณะที่กำลังจะทำการเผา ในตอนนั้นอยู่ๆก็มีน้ำหลาก ชาวบ้านหนีน้ำกันยกใหญ่ น้ำได้ซัดโลงศพหายไปด้วย ซึ่งภายหลังชาวบ้านก็ช่วยกันตามหาโลงศพที่โดนน้ำพัดลอยไป แต่ก็น่าแปลกไม่มีใครพบเห็นเลยสักคน ผ่านไปนานชาวบ้านก็ลืมเรื่อง2พี่น้องคู่นี้ไป วันนึง มีชายหาปลาออกมาวางแหในตอนดึก อยู่ๆเค้าก็เห็นคนพายเรือมาทางเค้า ชายหาปลาโมโห ตะโกนต่อว่ายกใหญ่ "เฮ้ย!!เอ็งเป็นใครวะ นี่มันเขตหาปลาของข้า ไปทางอื่นโว้ย!!" เรือที่พายตรงมาทางคนหาปลากลับเงียบ และยังคงจ้ำพายต่อ จนกระทั้งเรือนั่นเข้ามาใกล้ๆ ชายหาปลามองเห็นลางๆจากแสงไฟตะเกียงบนเรือ พอมองดีๆ เรือนั่นกลับไม่ใช่เรือ แต่เป็นโลง โลงศพของเด็กชายและที่นั่งอยู่บนโลงนั่นก็คือเด็กชายที่จมน้ำตายไปแล้ว "ลุงๆ เห็นน้องสาวผมมั้ย..." จบ.
ยายเล่าเรื่องผีให้ฟัง