สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปเที่ยว "น่าน" นะคะ

ไปน่านมาก็หลายครั้ง  แต่ไม่เคยเบื่อเลยสักครั้ง มีแต่ความประทับใจ อิ่มใจ
เพราะความน่ารักของผู้คน บรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความนิ่มนวล
ลองตามมานะคะ แล้วจะรู้ว่า น่าน นี่แหละ แหล่งชาร์ทพลังงานใจ ชั้นเยี่ยมเลย

ทริปนี้ เป็นทริป 3 วัน 2 คืน เราเลือกไปทางอากาศกัน เครื่องลงที่สนามบินน่าน ห้าโมงเย็นวันเสาร์
อากาศดีเยี่ยม ท้องฟ้าเปิด สวยมาก





ทริปนี้เราเช่ารถจาก rentalcars  เสริชเจอจากเฟชบุค เป็นนิสสันมารช์  ราคาตั้งแต่ 5โมงเย็นวันเสาร์ ถึงเที่ยงวันจันทร์ อยู่ที่ 1500 บาท
ไม่รวมน้ำมัน เจ้าของรถใจดีน่ารักมาก ไม่หวงรถเลย บอกเราว่า รอยถลอกขีดข่วนไม่ซีเรียสค่ะ  แค่ไม่ชนหนักๆ มาเป็นพอ 🐥🐥


พอได้รถ ก็ขับเข้าเมืองไปทานก๋วยเตี๊ยวไร้เทียมทาน อยู่ในตัวเมือง ร้านหาไม่ยาก อยู่ในตลาดเลย
ร้านนี้จะเด่นเรื่อง กระดูกหมูค่ะ ชามละ  50 บาท ได้กระดูกติดเนื้อมาชิ้นเบ้อเร่อเลย
ส่วนลูกชิ้น  หมูเด้งก็มีนะคะ อร่อยไม่แพ้กัน



จากนั้นเข้าที่พักกัน เฮือนน่านนิทรา อยู่หลังวัดหัวเวียงใต้ เข้าได้สองทาง
ป้าเจ้าของใจดีน่ารักมาก เป็นกันเองสุดๆ เสียดายทริปนี้ไม่มีภาพกับที่พัก ด้วยความที่ไปหลายรอบมาก
จนเหมือนไปบ้านญาติ เลยไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้
(ปกติเราจะไปพัก เทวราช แต่ช่วงหลังๆ ราคาเริ่มแพง เลยกลับมานอนบ้านป้าเหมือนเดิม คืนละ 600 ราคามิตรภาพมาก)

อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ก็เริ่มลุยราตรี จุดนี้ต้องรีบหน่อย 3 ทุ่มกว่าๆ  น่านก็จะกลายเป็นเมืองนิทรา ร้านรวงจะทยอยปิด ถ้าช้านี่อดเดินถนนคนเดินนะคะ ตลาดวาย เงียบกริบ บอกเลย
ของขายที่ถนนคนเดินนับว่าน้อย และไม่หลากหลายเท่าจังหวัดอื่น แต่เราก็ชอบเดิน เพราะมีวิวสวยๆ อย่างวัดภูมินทร์ให้ซึมซับบรรยากาศ




ตรงลานหน้าวัดจะมีเวที การแสดงของน้องๆ



แต่เราเลือกเดินยิ้ม มาฟังน้องๆ ในมุมมืดกลุ่มนี้ค่ะ  หาทุนการศึกษาในมุมมืดมาก
แทบไม่ได้ยินเสียงเพราะโดนเวทีใหญ่กลบ แต่ตั้งใจเล่นมาก ไม่ผิดคีย์เลย


ช่วยบริจาคไปนิดหน่อยตามกำลังทรัพย์ น้องๆ ยิ้มดีใจ เราก็ดีใจด้วย
อิ่มใจละ หาของอิ่มท้องต่อดีกว่า

มุ่งหน้าตรงไปร้านป้านิ่ม ร้านขนมหวานชื่อดัง ร้านป้ามีสองชั้นนะ เราเลือกนั่งชั้นบน เห็นวิววัดศรีพันต้นสวยมาก
(ไม่มีรูปอีกแล้ว)

อย่างที่บอกสามทุ่มหน่อยๆ เมืองนิทราแล้ว เลยไปกาดน่านต่อ
หาที่สังสรรค์นิดหน่อยก่อนกลับไปนอน

กาดน่านจะเป็นที่รวมร้านเหล้าหลายร้านมาก เราเลือกนั่งเสวนา
เพราะคุ้นชินกับชื่อ คล้ายๆ กับเสวนาพาเพลินย่านรัชโยธินนั่นไง
ร้านที่นี่จะอากาศดี แต่เสียอย่างเดียว เพลงจะตีกันมั่วไปหมด ด้วยความที่ร้านติดอยู่ติดกัน ทำให้ฟังเพลงไม่รู้เรื่องเลย

ได้เวลาดีสี่ทุ่มเตรียมกลับที่พัก เพราะพรุ่งนี้วางแผนจะไปดอยเสมอดาว ต้องตื่นตั้งแต่ตีสามครึ่งแน่ะ รีบกลับๆ
ไปถึงเฮือนน่านนิทรา ป้ารออยู่เลยค่ะ บอกลงกลอนประตูชั้นบนด้วย ใครกลับที่หลังมีหน้าที่ปิดบ้าน 🐥🐥🐥


ป้าจะนอนชั้นล่าง แขกที่มาพักนอนชั้นบน เลยต้องล็อคบ้านเพื่อความปลอดภัย

ตีสามกว่าแล้ว ตื่นๆ อาบน้ำ เตรียมไปดอยเสมอดาว
ล้อหมุนจากที่พักตี 4 นิดๆ
ขับไปทางเวียงสา มืดตลอดทาง น่ากลัวนิดหน่อย ทางคดเคี้ยว ต้องระมัดระวัง เพราะทางมืดมาก

6 โมงเช้าที่ดอยเสมอดาว

หมอกลงจัดมาก มองไม่เหนอะไรเลย แต่สภาพอากาศสดชื่นดีเยี่ยม หายใจเต็มปอด

ป้ายดอยเสมอดาว จุดนี้ห้ามพลาด


บรรยากาศโดยรอบ



ใกล้ๆ กันจะมีผาหัวสิงห์ แต่หมอกลงเยอะจนสิงห์หาย มองไม่เห็นเลย เห็นแต่ป้ายลิบๆ โน่น



เดินไปเดินมา 2 ชั่วโมง จวนจะ 8 โมงเช้า พี่เจ้าหน้าที่มาบอกให้รีบลง เพราะเค้าจะวางท่อกัน เดี๋ยวลงไม่ได้
เลยรีบลง จุดหมายต่อไป ผาชู้ ดูสายธงชาติที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ไม่ไกลจากดาวเสมอดอย เอ๊ย ดอยเสมอดาว





ค่าเข้าอุทยานคนละ 20 ถ้ามีรถ บวกเพิ่มอีกคันละ 30  อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน
พี่เจ้าหน้าที่ดูเหงาๆ เลยถามว่าพี่คะอยู่คนเดียวไม่เหงาเหรอ พี่เจ้าหน้าที่บอกว่าเหงาครับแต่อาศัยคุยกับนักท่องเที่ยวหล่ะครับ คลายเหงาได้เยอะ

ใครแวะไปชวน พี่เค้าคุยเยอะๆ นะคะ คลายเหงาเจ้าหน้าที่กัน

ถึงแล้ว ผาชู้ ตำนานผาชู้ก็ซึ้งเอาเรื่องเหมือนกัน แต่จำไม่ได้เป๊ะๆ เลยไม่กล้าเล่า กลัวผิด
ไว้ไปอ่านกันที่ดอยนะ

เสาธงยาวมาก มองไม่เห็นธงชาติเลย



จากผาชู้ก็ลงมาเที่ยวต่อที่เสาดินนาน้อย



เสาดินเป็นไงไม่รู้แต่ขอบอกว่าหมานาน้อยแซ่บและตลก มาก เจอรถไม่หลบเลย นอนมันตรงนั้น ขับรถผ่านไปใกล้ ๆ  ผงกหัวมาดู แล้วก็นอนต่อ
เป็นแบบนี้ตลอดทางไปเสาดิน ทั้งหมาทั้งไก่ แซ่บจริงๆ

นั่นๆ เห็นไหม หมา
ใครผ่านเส้นทางนี้ลองสังเกตดูนะ แล้วจะยิ้มเหมือนที่เรายิ้ม


ถึงแล้ว เสาดินนาน้อย



มีต้นดิกเดียมด้วย ที่ว่าใครไปเกา ต้นจะสั่น เราไปยืนเกาตั้งนาน  เขย่าต้นอีกตะหาก ต้นก็นิ่งไม่ไหวติง
สงสัยตอนไป ดิกเดียมจะหลับ


จากนั้นก็ขับรถกลับเมือง ด้วยความหิว
พุ่งตรงไปเฮือนฮอมโลด



จะบอกว่า อาหารที่น่าน รสชาติอาจจะไม่อร่อยตรึงใจ จนต้องกลับมาซ้ำร้านใดร้านหนึ่ง
อยากให้ลองชิมหลายๆ ร้าน ดูบรรยากาศ ความเป็นกันเองแทน
เพราะส่วนตัวเราว่า รสชาติอาหารจะไม่ต่างกันมากเท่าไหร่

อิ่มท้องก็เดินมาไหว้ศาลหลักเมือง

อันนี้สวยมาก คลายนาค หลายชั้นมาก นับถือฝีมือคนปั้นที่สุด


ตามโปรมแกรม เราจะไปหมู่บ้านไทลื้อวัดหนองบัว ที่ท่าวังผา ขับรถจากตัวเมืองไป1 ชั่วโมง
ไปถึงช้วน......  ฝนตก หาหมู่บ้านไทลื้อที่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมบ้านไม่เจอ จะลงไปวัดหนองบัวก็ลงไม่ได้ ฝนลงแรงมาก

ช้วนอย่างแรงตามสายฝน
ยอมแพ้ขับรถกลับ ฝากไว้ก่อนคราวหน้ามาเอาคืน

จากนั้นไปหอศิลป์ริมน่านต่อ


จะบอกว่า นั่งเพลินกับการอ่านหนังสือและกินกาแฟ มากกว่าเดินดูภาพ
หัวเราไม่ค่อยไปทางศิลปะเท่าไหร่



บรรยากาศร้านกาแฟ


กาแฟที่นี่รสชาติจะเบาไปหน่อย แต่มีบางตัวกินแล้วหัวทิ่ม





สงสัยเมา



นั่งเพลินพอสมควรแก่เวลา ใกล้5 โมงเย็นหอศิลป์จวนปิด เดินชมบรรยากาศโดยรอบก่อน

บันไดพี่เสือภายในอาคาร



ภาพวาดฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเทพ


บรรยากาศภายนอก





5 โมงได้เวลาปิด
กลับสิครับ รออะไร แฮ่
พุ่งไปวัดพระธาตุเขาน้อยต่อ



จากจุดนี้จะมองเห็นเมืองน่าน โดยรอบ สวยมาก


เหนื่อยได้ที่ ตะลุยมาทั้งวัน ไหว้พระเสร็จก็กลับที่พัก อาบน้ำ ออกมาเดินถนนคนเดินหาของกิน
อ้อ จะบอกว่า ใครจะหาซื้อเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ที่น่าน งานยากนะจ๊ะ 7-11 ไม่มี เค้ารณรงค์ไม่ขายกัน
โน่นเลยบิ๊กซี ไม่ก็ดื่มที่กาดน่าน

แต่เราไม่ไหวละ กลับที่พักนอน พรุ่งนี้ว่ากันใหม่

พักผ่อนตามอัธยาศัยแป๊ป เดี๋ยวมาเล่าต่อนะ