เพิ่งจบแมตช์ไปหมาด ๆ สำหรับการแข่งเทนิสชายยูเอสโอเพนรอบ 8 คนสุดท้าย สายบน
แชมป์เก่าและมือวางอันดับ 1 ต่างผ่านเข้ารอบไปได้
ในตอนแรกผมกะจะโลภมาก....ดูให้ครบที้ง 3 แมตช์เลยครับ
ทั้งคู่ ซองก้า - ซิลิช....การประชันกันของคู่พี่น้องวิลลเลี่ยม......รวมทั้งคู่ โลเปซ - โนวัค
แต่คู่ซองก้า - ซิลิช เกิดดราม่ากันจนถึงเวลาที่ผมจ๊ะเอ๋กับคนส่งหนังสือพิมพ์พอดี....คู่เจ๊วิลเลี่ยมเลยต้องตัดใจ
แมตช์วันนี้เป็นการแข่งเทนนิสที่อารมณ์ต่างกันสุดขั้วอย่างแท้จริง
คู่แรกระหว่าง ซองก้า และ ซิลิช เป็นการประชันกันระหว่างพลังต่อพลัง
หวดใส่กันเต็มเหนี่ยว...หวดไม่เลี้ยง......แถมซิลิชยังเข้าบอลเร็วด้วย
คู่ที่สองระหว่าง โนวัค และ โลเปซ กลับต่างจากคู่แรก....เป็นการหักเหลี่ยมกันด้วยชั้นเชิง.....เทคนิค....และแผนการเล่น
ขอเก็บตกสิ่งที่น่าสนใจจากการแข่งสองคู่นี้ซักหน่อยครับ
เริ่มจากคู่แรกระหว่าง ซองก้า และ ซิลิช
เมื่อวานผมพูดถึงเรื่องที่ว่า.....ความสำเร็จในอาชีพและอันดับโลกโดยรวม ๆ ของซองก้ามักนำหน้าซิลิชอยู่เสมอ....แต่ทำไมซิลิชกลับเอาชนะซองก้าได้มากกว่า
เมื่อวานผมตั้งข้อสังเกตว่า...ซองก้ามักมีสถิติที่ไม่ดียามเจอกับนักเทนนิสเสิร์ฟหนัก
วันนี้ผมขอตั้งสมมุติฐานอีกอย่างครับ
ผมมองว่าการที่ซองก้าแพ้ซิลิชอยู่เสมอทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้อันดับโลกของซองก้าก็มักดีกว่าซิลิชแท้ ๆ ก็เพราะ..
" พลังใจของซองก้าไม่มั่นคงเท่าซิลิช "
พูดถึงตรงนี้หลายท่านคงไม่เห็นด้วย....เมื่อวานเห็นอยู่ทนโท่ว่าซองก้าสามารถกลับมาจากการโดนนำไปก่อน 2 เซ็ต จนต้องไปตัดสินในเซ็ตที่ 5 ชัด ๆ
ในประวัติการเล่นของซองก้าก็เคยพลิกจากแมตช์ที่โดนโรเจอร์นำ 5 - 2 กำลังจะตายอยู่รอมร่อ...สุดท้ายก็พลิกกลับมาชนะแมตช์นั้นได้ในที่สุด
แบบนี้จะบอกว่าจิตใจไม่มั่นคงได้อย่างไร ?
มาดูกันว่าทำไมผมถึงคิดเช่นนั้น
การโดนกดดันจนเล่นพลาดง่าย ๆ เองของซองก้าในสองเซ็ตแรก
สถานการณ์ในเซ็ตแรกนั้น....ซองก้าถือว่าเริ่มต้นได้ดีกว่าซิลิช...มีโอกาสเบรคได้ก่อนแต่ก็ทำไม่ได้....พอโอกาสมาถึงซิลิชบ้าง....ซิลิชพยายามตื๊อกดดันซองก้าไม่ยอมให้ซองก้ารักษาเกมเสิร์ฟง่าย ๆ
พอถูกกดดันหนัก ๆ เข้า ซองก้าก็เริ่มพลาดง่าย ๆ รวมถึงเลือกช็อตผิดพลาดจนปิดเกมเสิร์ฟไม่ลง
พอเสียเซ็ตแรกไป...ในเซ็ตสอง....ซองก้าก็เริ่มตีไม่เฉียบคมแบบในเซ็ตแรก...และก็เหมือนเดิมคือ ยามที่โดนกดดันมาก ๆ ซองก้าจะเริ่มเล่นผิดพลาดจนตีเสียเองง่าย ๆ จนโดนเบรคและเสียเซ็ตที่สองไป
เซ็ตที่สามเล่นอย่างไม่มีความคาดหวัง กลับส่งผลดี
พอเข้าเซ็ตสาม..ซองก้าซึ่งเห็น ๆ ว่ามีอาการเจ็บที่หัวเข่า...คงจะเริ่มปลง ๆ
การเริ่มปลง ๆ นี่ล่ะกลับส่งผลดีเกินคาดกับซองก้า
เขาตีโดยที่ไม่มีความคาดหวังว่าจะชนะเท่าสองเซ็ตแรก....ความกดดันที่เผชิญอยู่จึงหายไป....จึงกลับมาเล่นดีได้เช่นเดิม
ผนวกกับตัวซิลิชเองซึ่งนำไปก่อนสองเซ็ต....คงจะคิดถึงเรื่องถนอมตัวไว้ตีรอบต่อไปจนเริ่มหย่อนให้ซองก้า
ในที่สุดซองก้าก็ได้เซ็ตที่สาม
พลังใจตามกระแสเกมของฝ่ายที่ตามหลัง...การสู้อย่างไม่มีอะไรจะเสียทำให้ความสับสนหมดไป
หลังได้เซ็ตสาม ซองก้าซึ่งเป็นฝ่ายตามหลังอยู่เริ่มมีใจฮึกเหิม.....ความฮึกเหิมในลักษณะที่ตกเป็นรองและตีตื้นกลับมาได้แบบนี้...เป็นความฮึกเหิมพิเศษที่ไม่มีวันดับมอดครับ...
คนที่รู้สึกว่าตัวเองจะต้องแพ้กลับตีตื้นมาได้....เขาจะไม่มีความกลัวที่จะแพ้อีกต่อไป....เพราะเขาผ่านความรู้สึกที่ว่าตัวเองแพ้แหง ๆ มาเรียบร้อย....สามารถตีได้อย่างมั่นใจและไม่มีอะไรจะเสีย
เพราะฉะนั้นถึงจะโดนซิลิชกดดันอย่างไร.....ซองก้าก็มีแต่ฮึดสู้...ไม่สับสนจนพลาดเองง่าย ๆ และถูกเบรคแบบในสองเซ็ตแรก
ยังไงก่อนหน้านี้ก็เหมือนตายอยู่แล้ว...ถ้าจะแพ้ 3 - 1 เซ็ต มันก็ไม่ต่างกับการแพ้ 3 - 0 เซ็ตเลยซักนิด ซองก้าจึงเอาตัวรอดมาได้
ในที่สุดซองก้าก็ได้เซ็ตที่สี่มาแต่ก็ไปแพ้ในเซ็ตที่ห้าอย่างฉิวเฉียด
ผมมองว่าพลังใจของซองก้าในเซ็ตที่สาม สี่ และ ห้า เป็นพลังใจที่เกิดขึ้นจากกระแสของเกม...ไม่ใช่พลังใจส่วนตัวของซองก้าครับ
สิ่งที่แสดงถึงพลังใจจริง ๆ ของซองก้า...คือตอนที่โดนกดดันจนตีพลาดง่าย ๆ และถูกเบรคในเซ็ตแรก และ เซ็ตที่สอง
อาจเพราะคู่ต่อสู้เป็นคนที่ตัวเองแพ้ต่อเนื่องมาหลายครั้ง
ตอนที่พลิกล็อคมโหฬารกับโรเจอร์ ตีจาก 5 - 2 มาชนะ ก็มาจากเหตุผลเดียวกัน
ซึ่งพลังใจตามกระแสของเกมแบบนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นมาได้ทุกครั้งครับ ไม่ใช่ของที่จะพึ่งพาเป็นไม้เด็ดได้
ความมั่นคงทางจิตใจแท้ ๆ ของเจ้าตัวนั่นล่ะครับ...เป็นสิ่งที่เชื่อถือได้มากกว่า
หากนำมาดี ๆ จนจบแมตช์ได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเจอกดดันมาก ๆ ก็อาจเพลี่ยงพล้ำได้
ผมว่าซองก้าต้องแก้ไขเรื่องนี้ให้ได้....ฝีมือก็ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ใจต้องนิ่งด้วย
นี่เป็นแค่ความเห็นจากความรู้สึกส่วนตัวของผมนะครับ...จับต้องเป็นรูปธรรมไม่ได้
มาพูดถึงอีกแมตช์นึงกัน
การเล่นเกมเสิร์ฟด้วยแผนการเล่นที่เสี่ยงของโลเปซ
วันนี้สิ่งที่โลเปซวางแผนมาเล่นในเกมเสิร์ฟตัวเองคือคำที่เราได้ยินบ่อย ๆ ในการ์ตูนญี่ปุ่น " ยอมให้เฉือนเนื้อเพื่อตัดกระดูก " ครับ
โลเปซเสิร์ฟเสี่ยงมาก ๆ ทั้งแรงทั้งล่อแหลม...หากไม่ได้แต้มกินเปล่าก็กะว่าให้โนวัครีเทิร์นยาก ๆ....เอสของโรเปซจึงมากแต่เสิร์ฟแจกแต้มเองก็เยอะตาม
นอกจากนั้นโลเปซยังใช้วิธีเสิร์ฟแอนด์วอลเล่ย์...เสิร์ฟเสร็จพุ่งขึ้นหน้าไปตะครุบลูกที่โนวัครีเทิร์นมาแรง ๆ หรือรีเทิร์นเลียด ๆ มาลงเท้าโลเปซ
เซ็ตแรกไม่ประสบความสำเร็จจึงแพ้ขาด 6 - 1
จะว่าไปก็เป็นการเลือกที่ไม่เลว....เพราะโลเปซรู้ว่าโนวัครีเทิร์นลูกเสิร์ฟได้ดี....ถ้าไม่เสิร์ฟไปเสี่ยง ๆ แบบนั้นโนวัคก็จะรีเทิร์นลูกกลับมาเล่นโดยที่ฝ่ายตัวเองไม่ได้เปรียบ....ถ้าเล่นสงครามท้ายคอร์ตกันตนเองก็เป็นรอง
เพราะงั้นสู้เสิร์ฟกะเอาแต้มแบบนั้นหรือขึ้นมาปิดแต้มหน้าเน็ตให้เร็วโดยไม่เล่นยืดเยื้อเลยดีกว่า
ในเซ็ตที่สองถือว่าประสบความสำเร็จในการขึ้นหน้าเน็ตครับ...ประกอบกับเสิร์ฟกินเปล่าได้ จึงรักษาเกมเสิร์ฟไว้ได้
สงครามชั้นเชิง
ส่วนการเล่นเป็นฝ่ายรับของโลเปซ....จุดนี้เป็นสงครามแห่งชั้นเชิงที่น่าดูชมมากครับ
ไม่ได้ใช้สปีดบอลแรง ๆ หวดแลกหมัดกันอย่างในคู่แรก....โลเปซเลือกใช้ทั้งโฟร์แฮนด์ท็อปสปินและแบ๊คแฮนด์สไลด์ในการทำลายจังหวะโนวัคและป้องกันตัวไปในตัว...
โนวัคก็เน้นการวางทิศทางมากกว่าใช้สปีดบอลบดขยี้คู่ต่อสู้....มีการวางแผนการเล่นหลายอย่าง...ทั้งล่อคู่ต่อสู้มาหน้าเน็ตและล็อปข้าม...ยิงนำเพื่อหาจังหวะขึ้นหน้าเน็ต
โดยส่วนตัวผมชอบเกมแบบนี้มากกว่าเกมที่สองฝ่ายยิงถล่มใส่กันแบบคู่แรกครับ
วิธีการเล่นของโลเปซมีความเสี่ยงมากเกินไป....หากนำมาเล่นตอนระหว่างเซ็ตปกติมันก็พอไปได้
แต่พอเข้าไทร์เบรคซึ่งแต้มมีความละเอียด...แค่พังติดต่อกันสองแต้มก็สาหัสแล้วครับ
ก็เลยแพ้ไปในไทร์เบรค
ต้องถือว่าวันนี้โลเปซสู้ได้ไม่เลวครับ
โนวัค โจโควิช คนเก่าเมื่อ2 - 3 ปีก่อนของผม
วันนี้น่าดีใจที่ไม่เห็นโนวัคมีอารมณ์ฉุนเฉียวแบบแมตช์ก่อนครับ
คราวที่แล้วโนวัคกระทืบกระเป๋าราวกับเป็นชาวบ้านรุมประชาฑันท์คนร้ายคดีวางระเบิดราชประสงค์ที่กำลังถูกนำไปทำแผน ฯ ที่สถานที่จริง
เพราะไอ้ผู้ร้ายนั่นแท้ ๆ ...ทำเอาเราเสียอรรถรสในการดูเทนนิสแบบนี้ไปสองรอบแล้ว
กลับมาเรื่องของเรา....ผมว่าโนวัคที่นิ่ง ๆ แบบวันนี้...ตบมือให้กับคะแนนงาม ๆ ของคู่แข่งบ่อยครั้ง เป็นโนวัคที่น่าชื่นชมแบบเมื่อ 2 - 3 ปี ก่อนครับ
หลัง ๆ มานี้รู้สึกไม่ดีอยู่บ้างเวลาที่โนวัคระบายอารมณ์กับแร๊กเก็ต....จำได้ว่าก่อนได้เบคเกอร์มาเป็นโค๊ชโนวัคทำแบบนี้น้อยมาก....เวลาอัดอั้นมาก ๆ อย่างมากก็จะตะโกนลั่นสนามเป็นการปลดปล่อย
ถึงผมจะไม่ได้เป็นแฟนโนวัคก็จริง...แต่ก็ชื่นชมโนวัคไม่น้อย...เห็นช่วงหลัง ๆ นี่...เขาระบายอารมณ์ฉุนเฉียวใส่สิ่งของบ่อย ๆ ก็รู้สึกไม่ดี
หรืออย่าง " F ปลิวว่อน " ของเมอเรย์เมื่อวานก็ไม่อยากเห็นเมอเรย์ทำนักครับ
* ยังมีต่อในความเห็นที่ 1 ครับ
US Open รอบ 8 คน.....พลังต่อพลัง.......ชั้นเชิงต่อชั้นเชิง
แชมป์เก่าและมือวางอันดับ 1 ต่างผ่านเข้ารอบไปได้
ในตอนแรกผมกะจะโลภมาก....ดูให้ครบที้ง 3 แมตช์เลยครับ
ทั้งคู่ ซองก้า - ซิลิช....การประชันกันของคู่พี่น้องวิลลเลี่ยม......รวมทั้งคู่ โลเปซ - โนวัค
แต่คู่ซองก้า - ซิลิช เกิดดราม่ากันจนถึงเวลาที่ผมจ๊ะเอ๋กับคนส่งหนังสือพิมพ์พอดี....คู่เจ๊วิลเลี่ยมเลยต้องตัดใจ
แมตช์วันนี้เป็นการแข่งเทนนิสที่อารมณ์ต่างกันสุดขั้วอย่างแท้จริง
คู่แรกระหว่าง ซองก้า และ ซิลิช เป็นการประชันกันระหว่างพลังต่อพลัง
หวดใส่กันเต็มเหนี่ยว...หวดไม่เลี้ยง......แถมซิลิชยังเข้าบอลเร็วด้วย
คู่ที่สองระหว่าง โนวัค และ โลเปซ กลับต่างจากคู่แรก....เป็นการหักเหลี่ยมกันด้วยชั้นเชิง.....เทคนิค....และแผนการเล่น
ขอเก็บตกสิ่งที่น่าสนใจจากการแข่งสองคู่นี้ซักหน่อยครับ
เริ่มจากคู่แรกระหว่าง ซองก้า และ ซิลิช
เมื่อวานผมพูดถึงเรื่องที่ว่า.....ความสำเร็จในอาชีพและอันดับโลกโดยรวม ๆ ของซองก้ามักนำหน้าซิลิชอยู่เสมอ....แต่ทำไมซิลิชกลับเอาชนะซองก้าได้มากกว่า
เมื่อวานผมตั้งข้อสังเกตว่า...ซองก้ามักมีสถิติที่ไม่ดียามเจอกับนักเทนนิสเสิร์ฟหนัก
วันนี้ผมขอตั้งสมมุติฐานอีกอย่างครับ
ผมมองว่าการที่ซองก้าแพ้ซิลิชอยู่เสมอทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้อันดับโลกของซองก้าก็มักดีกว่าซิลิชแท้ ๆ ก็เพราะ..
" พลังใจของซองก้าไม่มั่นคงเท่าซิลิช "
พูดถึงตรงนี้หลายท่านคงไม่เห็นด้วย....เมื่อวานเห็นอยู่ทนโท่ว่าซองก้าสามารถกลับมาจากการโดนนำไปก่อน 2 เซ็ต จนต้องไปตัดสินในเซ็ตที่ 5 ชัด ๆ
ในประวัติการเล่นของซองก้าก็เคยพลิกจากแมตช์ที่โดนโรเจอร์นำ 5 - 2 กำลังจะตายอยู่รอมร่อ...สุดท้ายก็พลิกกลับมาชนะแมตช์นั้นได้ในที่สุด
แบบนี้จะบอกว่าจิตใจไม่มั่นคงได้อย่างไร ?
มาดูกันว่าทำไมผมถึงคิดเช่นนั้น
การโดนกดดันจนเล่นพลาดง่าย ๆ เองของซองก้าในสองเซ็ตแรก
สถานการณ์ในเซ็ตแรกนั้น....ซองก้าถือว่าเริ่มต้นได้ดีกว่าซิลิช...มีโอกาสเบรคได้ก่อนแต่ก็ทำไม่ได้....พอโอกาสมาถึงซิลิชบ้าง....ซิลิชพยายามตื๊อกดดันซองก้าไม่ยอมให้ซองก้ารักษาเกมเสิร์ฟง่าย ๆ
พอถูกกดดันหนัก ๆ เข้า ซองก้าก็เริ่มพลาดง่าย ๆ รวมถึงเลือกช็อตผิดพลาดจนปิดเกมเสิร์ฟไม่ลง
พอเสียเซ็ตแรกไป...ในเซ็ตสอง....ซองก้าก็เริ่มตีไม่เฉียบคมแบบในเซ็ตแรก...และก็เหมือนเดิมคือ ยามที่โดนกดดันมาก ๆ ซองก้าจะเริ่มเล่นผิดพลาดจนตีเสียเองง่าย ๆ จนโดนเบรคและเสียเซ็ตที่สองไป
เซ็ตที่สามเล่นอย่างไม่มีความคาดหวัง กลับส่งผลดี
พอเข้าเซ็ตสาม..ซองก้าซึ่งเห็น ๆ ว่ามีอาการเจ็บที่หัวเข่า...คงจะเริ่มปลง ๆ
การเริ่มปลง ๆ นี่ล่ะกลับส่งผลดีเกินคาดกับซองก้า
เขาตีโดยที่ไม่มีความคาดหวังว่าจะชนะเท่าสองเซ็ตแรก....ความกดดันที่เผชิญอยู่จึงหายไป....จึงกลับมาเล่นดีได้เช่นเดิม
ผนวกกับตัวซิลิชเองซึ่งนำไปก่อนสองเซ็ต....คงจะคิดถึงเรื่องถนอมตัวไว้ตีรอบต่อไปจนเริ่มหย่อนให้ซองก้า
ในที่สุดซองก้าก็ได้เซ็ตที่สาม
พลังใจตามกระแสเกมของฝ่ายที่ตามหลัง...การสู้อย่างไม่มีอะไรจะเสียทำให้ความสับสนหมดไป
หลังได้เซ็ตสาม ซองก้าซึ่งเป็นฝ่ายตามหลังอยู่เริ่มมีใจฮึกเหิม.....ความฮึกเหิมในลักษณะที่ตกเป็นรองและตีตื้นกลับมาได้แบบนี้...เป็นความฮึกเหิมพิเศษที่ไม่มีวันดับมอดครับ...
คนที่รู้สึกว่าตัวเองจะต้องแพ้กลับตีตื้นมาได้....เขาจะไม่มีความกลัวที่จะแพ้อีกต่อไป....เพราะเขาผ่านความรู้สึกที่ว่าตัวเองแพ้แหง ๆ มาเรียบร้อย....สามารถตีได้อย่างมั่นใจและไม่มีอะไรจะเสีย
เพราะฉะนั้นถึงจะโดนซิลิชกดดันอย่างไร.....ซองก้าก็มีแต่ฮึดสู้...ไม่สับสนจนพลาดเองง่าย ๆ และถูกเบรคแบบในสองเซ็ตแรก
ยังไงก่อนหน้านี้ก็เหมือนตายอยู่แล้ว...ถ้าจะแพ้ 3 - 1 เซ็ต มันก็ไม่ต่างกับการแพ้ 3 - 0 เซ็ตเลยซักนิด ซองก้าจึงเอาตัวรอดมาได้
ในที่สุดซองก้าก็ได้เซ็ตที่สี่มาแต่ก็ไปแพ้ในเซ็ตที่ห้าอย่างฉิวเฉียด
ผมมองว่าพลังใจของซองก้าในเซ็ตที่สาม สี่ และ ห้า เป็นพลังใจที่เกิดขึ้นจากกระแสของเกม...ไม่ใช่พลังใจส่วนตัวของซองก้าครับ
สิ่งที่แสดงถึงพลังใจจริง ๆ ของซองก้า...คือตอนที่โดนกดดันจนตีพลาดง่าย ๆ และถูกเบรคในเซ็ตแรก และ เซ็ตที่สอง
อาจเพราะคู่ต่อสู้เป็นคนที่ตัวเองแพ้ต่อเนื่องมาหลายครั้ง
ตอนที่พลิกล็อคมโหฬารกับโรเจอร์ ตีจาก 5 - 2 มาชนะ ก็มาจากเหตุผลเดียวกัน
ซึ่งพลังใจตามกระแสของเกมแบบนั้นมันไม่ได้เกิดขึ้นมาได้ทุกครั้งครับ ไม่ใช่ของที่จะพึ่งพาเป็นไม้เด็ดได้
ความมั่นคงทางจิตใจแท้ ๆ ของเจ้าตัวนั่นล่ะครับ...เป็นสิ่งที่เชื่อถือได้มากกว่า
หากนำมาดี ๆ จนจบแมตช์ได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเจอกดดันมาก ๆ ก็อาจเพลี่ยงพล้ำได้
ผมว่าซองก้าต้องแก้ไขเรื่องนี้ให้ได้....ฝีมือก็ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ใจต้องนิ่งด้วย
นี่เป็นแค่ความเห็นจากความรู้สึกส่วนตัวของผมนะครับ...จับต้องเป็นรูปธรรมไม่ได้
มาพูดถึงอีกแมตช์นึงกัน
การเล่นเกมเสิร์ฟด้วยแผนการเล่นที่เสี่ยงของโลเปซ
วันนี้สิ่งที่โลเปซวางแผนมาเล่นในเกมเสิร์ฟตัวเองคือคำที่เราได้ยินบ่อย ๆ ในการ์ตูนญี่ปุ่น " ยอมให้เฉือนเนื้อเพื่อตัดกระดูก " ครับ
โลเปซเสิร์ฟเสี่ยงมาก ๆ ทั้งแรงทั้งล่อแหลม...หากไม่ได้แต้มกินเปล่าก็กะว่าให้โนวัครีเทิร์นยาก ๆ....เอสของโรเปซจึงมากแต่เสิร์ฟแจกแต้มเองก็เยอะตาม
นอกจากนั้นโลเปซยังใช้วิธีเสิร์ฟแอนด์วอลเล่ย์...เสิร์ฟเสร็จพุ่งขึ้นหน้าไปตะครุบลูกที่โนวัครีเทิร์นมาแรง ๆ หรือรีเทิร์นเลียด ๆ มาลงเท้าโลเปซ
เซ็ตแรกไม่ประสบความสำเร็จจึงแพ้ขาด 6 - 1
จะว่าไปก็เป็นการเลือกที่ไม่เลว....เพราะโลเปซรู้ว่าโนวัครีเทิร์นลูกเสิร์ฟได้ดี....ถ้าไม่เสิร์ฟไปเสี่ยง ๆ แบบนั้นโนวัคก็จะรีเทิร์นลูกกลับมาเล่นโดยที่ฝ่ายตัวเองไม่ได้เปรียบ....ถ้าเล่นสงครามท้ายคอร์ตกันตนเองก็เป็นรอง
เพราะงั้นสู้เสิร์ฟกะเอาแต้มแบบนั้นหรือขึ้นมาปิดแต้มหน้าเน็ตให้เร็วโดยไม่เล่นยืดเยื้อเลยดีกว่า
ในเซ็ตที่สองถือว่าประสบความสำเร็จในการขึ้นหน้าเน็ตครับ...ประกอบกับเสิร์ฟกินเปล่าได้ จึงรักษาเกมเสิร์ฟไว้ได้
สงครามชั้นเชิง
ส่วนการเล่นเป็นฝ่ายรับของโลเปซ....จุดนี้เป็นสงครามแห่งชั้นเชิงที่น่าดูชมมากครับ
ไม่ได้ใช้สปีดบอลแรง ๆ หวดแลกหมัดกันอย่างในคู่แรก....โลเปซเลือกใช้ทั้งโฟร์แฮนด์ท็อปสปินและแบ๊คแฮนด์สไลด์ในการทำลายจังหวะโนวัคและป้องกันตัวไปในตัว...
โนวัคก็เน้นการวางทิศทางมากกว่าใช้สปีดบอลบดขยี้คู่ต่อสู้....มีการวางแผนการเล่นหลายอย่าง...ทั้งล่อคู่ต่อสู้มาหน้าเน็ตและล็อปข้าม...ยิงนำเพื่อหาจังหวะขึ้นหน้าเน็ต
โดยส่วนตัวผมชอบเกมแบบนี้มากกว่าเกมที่สองฝ่ายยิงถล่มใส่กันแบบคู่แรกครับ
วิธีการเล่นของโลเปซมีความเสี่ยงมากเกินไป....หากนำมาเล่นตอนระหว่างเซ็ตปกติมันก็พอไปได้
แต่พอเข้าไทร์เบรคซึ่งแต้มมีความละเอียด...แค่พังติดต่อกันสองแต้มก็สาหัสแล้วครับ
ก็เลยแพ้ไปในไทร์เบรค
ต้องถือว่าวันนี้โลเปซสู้ได้ไม่เลวครับ
โนวัค โจโควิช คนเก่าเมื่อ2 - 3 ปีก่อนของผม
วันนี้น่าดีใจที่ไม่เห็นโนวัคมีอารมณ์ฉุนเฉียวแบบแมตช์ก่อนครับ
คราวที่แล้วโนวัคกระทืบกระเป๋าราวกับเป็นชาวบ้านรุมประชาฑันท์คนร้ายคดีวางระเบิดราชประสงค์ที่กำลังถูกนำไปทำแผน ฯ ที่สถานที่จริง
เพราะไอ้ผู้ร้ายนั่นแท้ ๆ ...ทำเอาเราเสียอรรถรสในการดูเทนนิสแบบนี้ไปสองรอบแล้ว
กลับมาเรื่องของเรา....ผมว่าโนวัคที่นิ่ง ๆ แบบวันนี้...ตบมือให้กับคะแนนงาม ๆ ของคู่แข่งบ่อยครั้ง เป็นโนวัคที่น่าชื่นชมแบบเมื่อ 2 - 3 ปี ก่อนครับ
หลัง ๆ มานี้รู้สึกไม่ดีอยู่บ้างเวลาที่โนวัคระบายอารมณ์กับแร๊กเก็ต....จำได้ว่าก่อนได้เบคเกอร์มาเป็นโค๊ชโนวัคทำแบบนี้น้อยมาก....เวลาอัดอั้นมาก ๆ อย่างมากก็จะตะโกนลั่นสนามเป็นการปลดปล่อย
ถึงผมจะไม่ได้เป็นแฟนโนวัคก็จริง...แต่ก็ชื่นชมโนวัคไม่น้อย...เห็นช่วงหลัง ๆ นี่...เขาระบายอารมณ์ฉุนเฉียวใส่สิ่งของบ่อย ๆ ก็รู้สึกไม่ดี
หรืออย่าง " F ปลิวว่อน " ของเมอเรย์เมื่อวานก็ไม่อยากเห็นเมอเรย์ทำนักครับ
* ยังมีต่อในความเห็นที่ 1 ครับ