จากรายงานของเอเอฟพี สภาวะเศรษฐกิจจีนประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกยังคงแสดงให้เห็นความอ่อนแออย่างต่อเนื่องโดยตัวเลขการส่งออกของเดือนสิงหาคมที่ผ่านมามีมูลค่าลดลง 6.1 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับตัวเลขจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าตัวเลขประมาณการเฉลี่ยซึ่งคาดว่าการส่งออกของจีนอาจลดลงถึง 6.6 เปอร์เซ็นต์เมื่อคำนวณจากค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมาจากการสำรวจของ Bloomberg ที่ได้รวบรวมการวิเคราะห์จากนักเศรษฐศาสตร์หลายราย และถือว่าเป็นการปรับตัวที่ดีขึ้นจากเดือนกรกฎาคมที่ติดลบถึง 8.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อคำนวณจากค่าเงินหยวน
จีนถือเป็นผู้ค้าและผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลกที่เป็นหัวขบวนที่นำพาการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมาตลอดหลายสิบปีหลังก่อนเผชิญกับสภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และความผันผวนของตลาดหุ้นในปีนี้
ทางการจีนพยายามเร่งปรับสมดุลทางเศรษฐกิจ โดยหวังเพิ่มสัดส่วนการบริโภคภายในประเทศเพื่อช่วยพยุงการเติบโตอย่างยั่งยืน แต่การเปลี่ยนผ่านไม่ใช่งานง่าย และตลาดโลกต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความกังวลต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
"การส่งออกไปยังสหรัฐฯและชาติอาเซียนยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่การส่งสินค้าไปยังสหภาพยุโรปและญี่ปุ่นได้ปรับตัวลดลง" แถลงการณ์ของหน่วยงานด้านศุลกากรของจีนกล่าว
ตัวเลขการนำเข้าของจีนในเดือนสิงหาคมก็ลดลงเช่นกัน คิดเป็นสัดส่วน 14.3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อคำนวณด้วยสกุลเงินดอลลาร์ โดยเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว ส่งผลให้ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์มีมูลค่าลดลงถ้วนหน้า
จากสถิติดังกล่าวทำให้ตัวเลขการนำเข้าของจีนลดลงเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน และเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่กว่าการประมาณการเฉลี่ยของ Bloomberg ที่คาดว่าจะลดลงเพียง 7.9 เปอร์เซ็นต์เมื่อคำนวณด้วยสกุลเงินดอลลา
ที่มา มติชน
จีนใกล้เจ๊ง ??? ส่งออก นำเข้าติดลบต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังสูงกว่าตัวเลขประมาณการเฉลี่ยซึ่งคาดว่าการส่งออกของจีนอาจลดลงถึง 6.6 เปอร์เซ็นต์เมื่อคำนวณจากค่าเงินดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมาจากการสำรวจของ Bloomberg ที่ได้รวบรวมการวิเคราะห์จากนักเศรษฐศาสตร์หลายราย และถือว่าเป็นการปรับตัวที่ดีขึ้นจากเดือนกรกฎาคมที่ติดลบถึง 8.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อคำนวณจากค่าเงินหยวน
จีนถือเป็นผู้ค้าและผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลกที่เป็นหัวขบวนที่นำพาการเติบโตของเศรษฐกิจโลกมาตลอดหลายสิบปีหลังก่อนเผชิญกับสภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ และความผันผวนของตลาดหุ้นในปีนี้
ทางการจีนพยายามเร่งปรับสมดุลทางเศรษฐกิจ โดยหวังเพิ่มสัดส่วนการบริโภคภายในประเทศเพื่อช่วยพยุงการเติบโตอย่างยั่งยืน แต่การเปลี่ยนผ่านไม่ใช่งานง่าย และตลาดโลกต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากความกังวลต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
"การส่งออกไปยังสหรัฐฯและชาติอาเซียนยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่การส่งสินค้าไปยังสหภาพยุโรปและญี่ปุ่นได้ปรับตัวลดลง" แถลงการณ์ของหน่วยงานด้านศุลกากรของจีนกล่าว
ตัวเลขการนำเข้าของจีนในเดือนสิงหาคมก็ลดลงเช่นกัน คิดเป็นสัดส่วน 14.3 เปอร์เซ็นต์ เมื่อคำนวณด้วยสกุลเงินดอลลาร์ โดยเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว ส่งผลให้ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์มีมูลค่าลดลงถ้วนหน้า
จากสถิติดังกล่าวทำให้ตัวเลขการนำเข้าของจีนลดลงเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกัน และเป็นตัวเลขที่ย่ำแย่กว่าการประมาณการเฉลี่ยของ Bloomberg ที่คาดว่าจะลดลงเพียง 7.9 เปอร์เซ็นต์เมื่อคำนวณด้วยสกุลเงินดอลลา
ที่มา มติชน