สวัสดีครับ
ในที่สุด part ที่ 2 ก็เสร็จสมบูรณ์
เพื่อนๆหลายคนคงตั้งข้อสังเกตุเกี่ยวกับชื่อ part นี้ละสิ ว่าทำไมถึงตั้งชื่อ part ว่า "
อารยธรรมที่คุ้นเคย"
...ก็เป็นเพราะว่าพาร์ทนี้เราจะเน้นไปในสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของเกาหลีใต้นั้นเองครับ
นอกจากเพื่อนๆจะได้เข้าใจและทราบถึงประวัติความเป็นมาของกรุงโซลแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินกับสถานที่ชิลๆชิคๆ
ที่อยู่รอบๆเมืองได้อีกด้วย สำหรับเพื่อนที่อยากรับชมภาพประกอบเพิ่มเติม และโลเคชั่นที่ชัดเจน
สามารถรับชมและติดตามได้ที่
IG : banks.de.voyage หรือ hashtag
#imSEOULalone คร้าบ
โอเคร งั้นเรามาเริ่มกันด้วยโปรแกรมช่วงเวลาและสถานที่ที่ผมไปวันแรกๆเลยดีกว่า
let's go!
หลังจากที่ผมผ่าน ตม สนามบินอินชอนมาเรียบร้อยแล้ว
ก็เดินทางเข้ากรุงโซลโดย bus limousine หมายเลข
6001* (incheon - dongdaemun - myeongdong)
ใช้เวลาแค่ 45นาที ก็เดินทางถึงสถานี dongdaemun cultural and history park ใกล้ๆที่พักของผมละครับ
โรงแรมที่ผมเลือกพักในทริปครั้งนี้คือ Philstay Dongdaemun Economic จริงๆก็ไม่ใช่โรงแรมหรอก
เรียกว่าเกสเฮ้าส์ดีกว่า แต่คุณภาพและบริการเค้าเทียบเท่าโรงแรมดีๆได้เลย ห้องก็ใหม่มากด้วย
ช่วงที่ผมไป เกสเฮ้าส์พึ่งเปิดได้ไม่นานและผมก็เป็นเกสคนแรกของที่นี้ด้วย บับว่าเจ้าของให้การต้อนรับระดับ VIP มากๆ
ซื้อ kyochon กับโซจูมาเลี้ยงเกือบทู๊กวัน 555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้*"เอ้อ! พูดถึงร้านไก่ทอดของที่นี้นิส ถ้าเป็นเมืองไทยบ้านเรา bonchon เป็นร้านฮอตฮิตสำหรับขาไก่ทอดมาก
แต่มาถามคนที่นี้เค้าไม่รู้จัก bonchon นะครับ เพราะว่าที่โซลไม่เคยมีร้าน bonchon มาเปิดเลย มีแต่ kyochon เท่านั้นที่เป็นโซลแท้ๆ
แหนะ อึ้งกันไปดิ๊ 55 ถ้าใครไปถามถึงร้าน bonchon คนที่นี้เค้าจะทำหน้างงๆกันและเดินจากไปในที่สุดนั้นเอง"
**บอกทริคในการเลือกพักโรงแรมเล็กน้อยดีกว่า ส่วนใหญ่เวลาผมเลือกที่พักต่างประเทศจะค้นหาใน
- www.hotelcombined.com
- www.booking.com
- www.agoda.com
แนะนำให้เลือกจากเว็ป hotelcombined ก่อนนะครับ เพราะเวปนี้เค้าจะสแกนจากเว็ปเอเจ้นอื่นที่เรทดีๆก่อน
เรียงลำดับจากเรทที่ถูกสุดในเอเจ้นนั้นๆไปจนถึงแพงสุด
1.
Dongdaemun Design Plaza
ขอประเดิมที่แรกในโซลด้วยดงแดมุนดีไซน์พลาซ่าก่อนเลย เพื่อนๆที่ชื่นชอบซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง producer
ที่พึ่งออนแอร์จบไปได้ไม่นานคงจำกันได้และคุ้นกันเป็นอย่างดี ที่นี้เค้าออกแบบโดยสถาปนิกลูกครึ่งอิรัก-อังกฤษชื่อดัง Zara Hadid
มาออกแบบอาคารให้ ซึ่งเป้าหมายของรัฐบาลเกาหลีต้องการให้ดีไซน์พลาซ่าแห่งนี้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในกรุงโซล
และผลตอบรับมาก็ดีเยี่ยมเลยจริงๆครับ
พื้นที่ในดีไซน์พลาซ่าก็จะแบ่งเป็น 5 ส่วน
-Art hall
-Design Museum
-Exhibition Hall
-Business Center
-Park***
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้*** ส่วนมากร้านค้าอินดี้และร้านอาหารแผงลอยชอบมาตั้งขายยามค่ำคืนเอาใจวัยรุ่นโซลผู้ชื่นชอบบรรยากาศ
ทุ่งดอกกุหลาบเรืองแสงจำนวนนับหมื่นดอกที่ตั้งอยู่ในพาร์คแห่งนี้
สำหรับ
Dongdaemun Design Plaza สามารถเยี่ยมชมได้ทุกช่วงเวลา ตั้งแต่ 10.00-21.00น.
ไม่เสียค่าเข้าชมคร้าบ(สำหรับบาง hall น้า ดูดีๆหละ) มีมุมถ่ายรูปมากมายเลย แต่ละช่วงก็จะมีอารมณ์ต่างกัน
อยู่ที่ว่าเพื่อนๆชอบไปตอนไหนของวันเนอะ ส่วนเวลาที่ผมเลือกไปเป็นช่วงเช้า 10-12.00 ครับ
"ย่านเมืองเก่า (Old Seoul)"
โปรแกรมต่อจากดีไซน์พลาซ่าก็เป็นส่วนของย่านเมืองเก่าครับ ผมคิดว่าคงใช้เวลาครึ่งวันสำหรับย่านนี้เลย
(ซึ่งผมใช้เวลาย่านนี้ถึง 2 ครั้ง ครั้งละ 4-5 ชั่วโมง) เพื่อเป็นการประหยัดเวลา และเพื่อเก็บภาพให้ครบทุกสถานที่สำคัญ
เพื่อนๆจำเป็นต้องเตรียมแผนการเดินทางให้ดีๆ จะดีต่อข้อขามากครับ
ถ้าเดินมั่วผมว่าเพื่อนๆคงต้องขอบายโดยเร็วพรันแน่นอน เพราะมีหลายที่มากๆที่ไม่ควรพลาดและคอยให้พวกเราเข้าไปแวะชมคร้าบ
***แผนการเดินทางในย่าน the old seoul ของผมเป็นแบบนี้ครับ
กวางฮวามุน ----> เคียงบ๊อกกุง ----> MMCA ----> National Folk Museum of Korea ----> ซัมชองดง
----> บุกชอน ----> ชางด๊อกกุง
พยายามเฉลี่ยเวลาในส่วนที่เราชอบแต่ละที่ให้ดีๆนะครับ เพราะบางวันคนจะเยอะมาก เช่น เสาร์-อาทิตย์
นอกจากเราจะแบ่งพื้นที่ถ่ายรูปให้กับบรรดานักท่องเที่ยวแล้ว ชาวโซลเค้าก็จะมาทวงพื้นที่วันหยุดของเค้าเช่นกันฮะ
2.
Gwanghwamun Plaza (กวางอามุนพลาซ่า)
ก่อนหน้านี้รัฐบาลเกาหลีใต้ได้มีนโยบายปรับถนน 16 เลน (อุตะ จะทำเป็นลานเครื่องบินลงจอดหรือไงฟะ)
ให้กลายเป็นลานสาธารณะขนาดใหญ่เพื่อเป็นสถานที่ทำกิจกรรมและลานพักผ่อนให้ชาวกรุงโซล และผลออกมาก็ประสบผลสำเร็จ
อย่างงดงาม นอกจากลานแห่งนี้จะกว้างขวางอลังการแล้ว วิวทิวทัศน์รอบข้างก็ดีอีกด้วย เพื่อนสามารถมองเห็นประตูวังเคียงบ๊อก และ
ภูเขาที่อยู่ด้านหลังได้อย่างชัดเจนทีเดียว
ส่วนด้านหน้าลานน้ำพุนี้ก็จะมีอนุสาวรีย์ของพลเรือเอก Yi San-Sin ผู้ซึ่งเป็นคนนำทัพเกาหลี
ต่อสู้กับญี่ปุ่นจนได้รับเอกราชจากการยึดครองของประเทสญี่ปุ่น
ส่วนรูปปั้นสีทองอร่ามที่เพื่อนๆเห็นในรูปนั้นก็คืออนุสาวรีย์พระเจ้าเซจงมหาราช
กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โชซอน ผู้ทรงประดิษฐ์อักษรเกาหลี hangul (ฮันกึล) ให้ประชาชนชาวเกาหลีได้มีภาษาใช้จนมาถึงปัจจุบัน
พี่ไทยเราก็มีพ่อขุนรามคำแหงไงครับ ถ้าเพื่อนๆคนไหนไม่ทราบนี้ แนะนำให้ไปเรียนภาษาไทยใหม่นะครับ ฮ่าๆๆ
ส่วนใครที่สะดวกผ่านมาลานนี้ตอนกลางคืน เค้าก็มีการโชว์แสงสีที่น้ำพุด้วย สวยไปอีกแบบเนอะ
สำหรับเพื่อนคนไหนจะมาเยี่ยมชม กวางฮามุนพลาซ่า สามารถเดินทางโดยใช้
subway line 5 (สีม่วง) สถานี Gwanghwamun
หลังจากที่เพลิดเพลินกับลานกวางฮามุนแล้ว เพื่อนๆสามารถเดินต่อไปยังวังเคียงบ๊อกได้อย่างสบายเลยครับ
ผมแนะนำให้เป็นที่แรกก่อนเยี่ยมชมวังเคียงบ๊อกเนอะ
3.
Gyeongbokgung พระราชวังเคียงบ๊อก
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมถึงไม่เรียกว่าวังเคียงบ๊อกกุงละ เพราะว่า
กุง ในภาษาเกาหลีแปลว่าวัง
เพื่อนๆอย่าไปพูดทับว่า วังเคียงบ๊อกกุงกับคนที่รู้ภาษาเกาหลีเข้านะ เด๋ยะหมอจะไม่รับเย็บเอาจิงๆ (หน้าแตกจร้า555)
เคียงบ๊อกกุงก็เปรียบเสมือนวัดพระแก้วบ้านเราเนอะ เป็นแลนด์มาร์คสำคัญประจำเมือง
เวลาชาวต่างชาติมากรุงเทพแล้วต้องแวะไปวัดพระแก้วและพระราชวังฉันใด คนไทยอย่างเราๆก็แวะไปเคียงบ๊อกกุงฉันนั้นคร้าบ
เรามาทำความรู้จักกับเคียงบ๊อกกุงกันดีกว่าเนอะ เผื่อจะได้ไปเล่าต่อคนอื่นๆได้
วังแห่งนี้สร้างขึ้นหลังสถาปนาราชวงศ์โชซอนบนพื้นที่ 5 ล้านฟุต มีตำหนักมากมายให้เราเดินเยี่ยมชมครับ
วิธีการเยี่ยมชมที่ดีสุดก็คือเข้าทางประตูใหญ่ "กวางฮามุน (Gwanghwamun)" ด้านทิศใต้
ถ้าไปช่วง 10.30, 13.30 และ 15.30 จะได้ชมการเปลี่ยนเวรยามของทหารราชองครักษ์ ใช้เวลา 30 นาที
เป็นอีกนึงสิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงเคียงบ๊อกกุงคร้าบ
เมื่อเพื่อนๆเข้ามาในบริเวณพระราชวังแล้วก็จะเห็นตำหนักด้านหน้า
เขตพระราชฐานชั้นในและสวน ทำให้เราสามารถจินตนาการถึงความรุ่งโรจน์ของเกาหลีเมื่อหลายร้อยปีก่อนได้อย่างดีเลยคร้าบ
แต่เพื่อนๆที่เคยไปเคียงบ๊อกกุงหลายคนคงข้องใจว่าทำไมตัวพระตำหนักทุกองค์ถึงดูใหม่นัก
ก็เพราะว่า
ส่วนใหญ่ของเคียงบ๊อกกุงถูกเผาทำลายโดยญี่ปุ่นไปเกือบหมดนั้นเองฮะ
ที่เพื่อนๆเห็นอยู่ปัจจุบันเป็นตัวอาคารที่สร้างใหม่เกือบทั้งหมดเลย
แต่กระนั้นก็ถือเป็นความพยายามอย่างใหญ่หลวงของรัฐบาลเกาหลีที่สามารถเนรมิตรูปแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิม
และกลิ่นไอความเก่าแก่ให้ฟื้นคืนชีพมาอีกครั้งครับ
#เพื่อนคนไหนที่สนใจเยี่ยมชมวังเคียงบ๊อกสามารถรับชมได้ตั้งแต่
จันทร์-ศุกร์ 9.00-18.00น. (มีนาคม-ตุลาคม)
และ 8.00-17.00น. (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์)
เสาร์-อาทิตย์ 9.00-19.00น. ปิดทุกวันอังคาร*
ค่าเข้าชมคนละ 3,000 วอน
การเดินทาง : subway line 3 (สายสีส้ม)
สถานี Gyeongbokgung exit 5 เข้าทางด้านข้างของวังคร้าบผม
4.
MMCA (National Museum of Modern and Contemporary Art, Seoul) พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งชาติ (โซล)
หลังจากใช้เวลาเดินถ่ายรูปจากเคียงบ๊อกกุงแล้วรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงละเกิน
แนะนำมาแวะพักชมงานศิลปะที่ museum แห่งนี้เลยคร้าบแอร์เย็นฉ่ำมาก ขอบอก!
อะมาสาระกันนิด museum แห่งนี้เปิดตัวขึ้นในปี 2013 และได้รับการออกแบบโดย ศาสตราจารย์ Mihn Hyun-jun
เค้าก็บอกว่าเค้าเนียตั้งใจให้ museum เนี้ยะ ดูเรียบง่าย เพื่อทำให้คนที่แวะมาชมสามารถมาได้บ่อยๆ และค่อยๆดูไปไม่ต้องรีบเร่ง
ถึงแม้ว่าแต่ละอาคารจะแยกส่วนกันแต่ก็สามารถเดินถึงกันได้อย่างสบายเลยคร้าบ
นอกจากนี้แล้วเพื่อนๆสามารถนั่งกินขนมหรือกาแฟใน museum ได้ด้วยนะ
คาเฟ่เค้าก็ออกแนว minimalism เรียบง่ายแต่สวยงาม เหมาะแก่การนั่งเม้ากับเพื่อนฝูงที่ร่วมเดินทางมาด้วยครับ
สำหรับใครที่มาอโลนแบบผมก็ไม่ต้องเส้าใจไป เพราะมีอีกหลาย museum ให้แวะเวียนตลอดแนวเลยคร้าบ
ส่วนวิธีการเดินทางมา museum ไม่ยากเลย อยู่ถัดจากเคียงบ๊อกกุงแค่นั้นเอง
5.
National Folk Museum of Korea (พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเกาหลี)
เราคนไทยไปเที่ยวต่างแดน สิ่งนึงเลยที่เราอยากรู้คือวิถีชีวิต และการดำเนินชีวิตของคนในประเทศนั้นว่าเค้าดำเนินกันมาอย่างไรบ้าง
การเดินชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะทำให้เพื่อนๆเพลิดเพลินแน่นอน นอกจากภายในพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งนี้ได้ดีไซน์บ้านเรือนในยุคก่อน
ของเกาหลีได้อย่างดีแล้ว เค้ายังสามารถอธิบายรูปแบบชีวิตของคนในยุคนั้นได้อย่างดีเยี่ยมเลย ผมแนะนำครับว่าเพื่อนๆต้องลองมาชม
ซักครั้ง อีกอย่างมีพร๊อพพวกบ้านสมัยก่อนขนาดย่อมๆสวยๆไว้ รอให้เราไปกดชัตเตอร์กันแบบรัวๆคร้าบ
สำหรับเพื่อนคนไหนที่สนใจเข้าชม สามารถเดินเลาะตามกำแพงของวังเคียงบ๊อกกุงได้เลย
ทางเข้าพิพิธภัณฑ์จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ MMCA คร้าบ เวลาที่เปิดแสดงมีดังนี้เลย
จันทร์ - ศุกร์ 9.00-18.00น. (มีนาคม-ตุลาคม)
และ 8.00-17.00น. (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์)
เสาร์-อาทิตย์ 9.00-19.00น. ปิดวันอังคาร
เข้าชมฟรีนะคร้าบ
[CR] i'm SEOUL alone โซลคนเดียวก็เฟี้ยวได้แฮะ! part.2 "อารยธรรมที่คุ้นเคย"
ในที่สุด part ที่ 2 ก็เสร็จสมบูรณ์
เพื่อนๆหลายคนคงตั้งข้อสังเกตุเกี่ยวกับชื่อ part นี้ละสิ ว่าทำไมถึงตั้งชื่อ part ว่า "อารยธรรมที่คุ้นเคย"
...ก็เป็นเพราะว่าพาร์ทนี้เราจะเน้นไปในสถานที่ท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของเกาหลีใต้นั้นเองครับ
นอกจากเพื่อนๆจะได้เข้าใจและทราบถึงประวัติความเป็นมาของกรุงโซลแล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินกับสถานที่ชิลๆชิคๆ
ที่อยู่รอบๆเมืองได้อีกด้วย สำหรับเพื่อนที่อยากรับชมภาพประกอบเพิ่มเติม และโลเคชั่นที่ชัดเจน
สามารถรับชมและติดตามได้ที่
IG : banks.de.voyage หรือ hashtag #imSEOULalone คร้าบ
http://ppantip.com/topic/34150120
โอเคร งั้นเรามาเริ่มกันด้วยโปรแกรมช่วงเวลาและสถานที่ที่ผมไปวันแรกๆเลยดีกว่า
let's go!
หลังจากที่ผมผ่าน ตม สนามบินอินชอนมาเรียบร้อยแล้ว
ก็เดินทางเข้ากรุงโซลโดย bus limousine หมายเลข 6001* (incheon - dongdaemun - myeongdong)
ใช้เวลาแค่ 45นาที ก็เดินทางถึงสถานี dongdaemun cultural and history park ใกล้ๆที่พักของผมละครับ
โรงแรมที่ผมเลือกพักในทริปครั้งนี้คือ Philstay Dongdaemun Economic จริงๆก็ไม่ใช่โรงแรมหรอก
เรียกว่าเกสเฮ้าส์ดีกว่า แต่คุณภาพและบริการเค้าเทียบเท่าโรงแรมดีๆได้เลย ห้องก็ใหม่มากด้วย
ช่วงที่ผมไป เกสเฮ้าส์พึ่งเปิดได้ไม่นานและผมก็เป็นเกสคนแรกของที่นี้ด้วย บับว่าเจ้าของให้การต้อนรับระดับ VIP มากๆ
ซื้อ kyochon กับโซจูมาเลี้ยงเกือบทู๊กวัน 555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
**บอกทริคในการเลือกพักโรงแรมเล็กน้อยดีกว่า ส่วนใหญ่เวลาผมเลือกที่พักต่างประเทศจะค้นหาใน
- www.hotelcombined.com
- www.booking.com
- www.agoda.com
แนะนำให้เลือกจากเว็ป hotelcombined ก่อนนะครับ เพราะเวปนี้เค้าจะสแกนจากเว็ปเอเจ้นอื่นที่เรทดีๆก่อน
เรียงลำดับจากเรทที่ถูกสุดในเอเจ้นนั้นๆไปจนถึงแพงสุด
1. Dongdaemun Design Plaza
ขอประเดิมที่แรกในโซลด้วยดงแดมุนดีไซน์พลาซ่าก่อนเลย เพื่อนๆที่ชื่นชอบซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง producer
ที่พึ่งออนแอร์จบไปได้ไม่นานคงจำกันได้และคุ้นกันเป็นอย่างดี ที่นี้เค้าออกแบบโดยสถาปนิกลูกครึ่งอิรัก-อังกฤษชื่อดัง Zara Hadid
มาออกแบบอาคารให้ ซึ่งเป้าหมายของรัฐบาลเกาหลีต้องการให้ดีไซน์พลาซ่าแห่งนี้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในกรุงโซล
และผลตอบรับมาก็ดีเยี่ยมเลยจริงๆครับ
พื้นที่ในดีไซน์พลาซ่าก็จะแบ่งเป็น 5 ส่วน
-Art hall
-Design Museum
-Exhibition Hall
-Business Center
-Park***
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สำหรับ Dongdaemun Design Plaza สามารถเยี่ยมชมได้ทุกช่วงเวลา ตั้งแต่ 10.00-21.00น.
ไม่เสียค่าเข้าชมคร้าบ(สำหรับบาง hall น้า ดูดีๆหละ) มีมุมถ่ายรูปมากมายเลย แต่ละช่วงก็จะมีอารมณ์ต่างกัน
อยู่ที่ว่าเพื่อนๆชอบไปตอนไหนของวันเนอะ ส่วนเวลาที่ผมเลือกไปเป็นช่วงเช้า 10-12.00 ครับ
"ย่านเมืองเก่า (Old Seoul)"
โปรแกรมต่อจากดีไซน์พลาซ่าก็เป็นส่วนของย่านเมืองเก่าครับ ผมคิดว่าคงใช้เวลาครึ่งวันสำหรับย่านนี้เลย
(ซึ่งผมใช้เวลาย่านนี้ถึง 2 ครั้ง ครั้งละ 4-5 ชั่วโมง) เพื่อเป็นการประหยัดเวลา และเพื่อเก็บภาพให้ครบทุกสถานที่สำคัญ
เพื่อนๆจำเป็นต้องเตรียมแผนการเดินทางให้ดีๆ จะดีต่อข้อขามากครับ
ถ้าเดินมั่วผมว่าเพื่อนๆคงต้องขอบายโดยเร็วพรันแน่นอน เพราะมีหลายที่มากๆที่ไม่ควรพลาดและคอยให้พวกเราเข้าไปแวะชมคร้าบ
***แผนการเดินทางในย่าน the old seoul ของผมเป็นแบบนี้ครับ
----> บุกชอน ----> ชางด๊อกกุง
พยายามเฉลี่ยเวลาในส่วนที่เราชอบแต่ละที่ให้ดีๆนะครับ เพราะบางวันคนจะเยอะมาก เช่น เสาร์-อาทิตย์
นอกจากเราจะแบ่งพื้นที่ถ่ายรูปให้กับบรรดานักท่องเที่ยวแล้ว ชาวโซลเค้าก็จะมาทวงพื้นที่วันหยุดของเค้าเช่นกันฮะ
2. Gwanghwamun Plaza (กวางอามุนพลาซ่า)
ก่อนหน้านี้รัฐบาลเกาหลีใต้ได้มีนโยบายปรับถนน 16 เลน (อุตะ จะทำเป็นลานเครื่องบินลงจอดหรือไงฟะ)
ให้กลายเป็นลานสาธารณะขนาดใหญ่เพื่อเป็นสถานที่ทำกิจกรรมและลานพักผ่อนให้ชาวกรุงโซล และผลออกมาก็ประสบผลสำเร็จ
อย่างงดงาม นอกจากลานแห่งนี้จะกว้างขวางอลังการแล้ว วิวทิวทัศน์รอบข้างก็ดีอีกด้วย เพื่อนสามารถมองเห็นประตูวังเคียงบ๊อก และ
ภูเขาที่อยู่ด้านหลังได้อย่างชัดเจนทีเดียว
ส่วนด้านหน้าลานน้ำพุนี้ก็จะมีอนุสาวรีย์ของพลเรือเอก Yi San-Sin ผู้ซึ่งเป็นคนนำทัพเกาหลี
ต่อสู้กับญี่ปุ่นจนได้รับเอกราชจากการยึดครองของประเทสญี่ปุ่น
ส่วนรูปปั้นสีทองอร่ามที่เพื่อนๆเห็นในรูปนั้นก็คืออนุสาวรีย์พระเจ้าเซจงมหาราช
กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โชซอน ผู้ทรงประดิษฐ์อักษรเกาหลี hangul (ฮันกึล) ให้ประชาชนชาวเกาหลีได้มีภาษาใช้จนมาถึงปัจจุบัน
พี่ไทยเราก็มีพ่อขุนรามคำแหงไงครับ ถ้าเพื่อนๆคนไหนไม่ทราบนี้ แนะนำให้ไปเรียนภาษาไทยใหม่นะครับ ฮ่าๆๆ
ส่วนใครที่สะดวกผ่านมาลานนี้ตอนกลางคืน เค้าก็มีการโชว์แสงสีที่น้ำพุด้วย สวยไปอีกแบบเนอะ
สำหรับเพื่อนคนไหนจะมาเยี่ยมชม กวางฮามุนพลาซ่า สามารถเดินทางโดยใช้
subway line 5 (สีม่วง) สถานี Gwanghwamun
หลังจากที่เพลิดเพลินกับลานกวางฮามุนแล้ว เพื่อนๆสามารถเดินต่อไปยังวังเคียงบ๊อกได้อย่างสบายเลยครับ
ผมแนะนำให้เป็นที่แรกก่อนเยี่ยมชมวังเคียงบ๊อกเนอะ
3. Gyeongbokgung พระราชวังเคียงบ๊อก
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมถึงไม่เรียกว่าวังเคียงบ๊อกกุงละ เพราะว่า กุง ในภาษาเกาหลีแปลว่าวัง
เพื่อนๆอย่าไปพูดทับว่า วังเคียงบ๊อกกุงกับคนที่รู้ภาษาเกาหลีเข้านะ เด๋ยะหมอจะไม่รับเย็บเอาจิงๆ (หน้าแตกจร้า555)
เคียงบ๊อกกุงก็เปรียบเสมือนวัดพระแก้วบ้านเราเนอะ เป็นแลนด์มาร์คสำคัญประจำเมือง
เวลาชาวต่างชาติมากรุงเทพแล้วต้องแวะไปวัดพระแก้วและพระราชวังฉันใด คนไทยอย่างเราๆก็แวะไปเคียงบ๊อกกุงฉันนั้นคร้าบ
เรามาทำความรู้จักกับเคียงบ๊อกกุงกันดีกว่าเนอะ เผื่อจะได้ไปเล่าต่อคนอื่นๆได้
วังแห่งนี้สร้างขึ้นหลังสถาปนาราชวงศ์โชซอนบนพื้นที่ 5 ล้านฟุต มีตำหนักมากมายให้เราเดินเยี่ยมชมครับ
วิธีการเยี่ยมชมที่ดีสุดก็คือเข้าทางประตูใหญ่ "กวางฮามุน (Gwanghwamun)" ด้านทิศใต้
ถ้าไปช่วง 10.30, 13.30 และ 15.30 จะได้ชมการเปลี่ยนเวรยามของทหารราชองครักษ์ ใช้เวลา 30 นาที
เป็นอีกนึงสิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงเคียงบ๊อกกุงคร้าบ
เมื่อเพื่อนๆเข้ามาในบริเวณพระราชวังแล้วก็จะเห็นตำหนักด้านหน้า
เขตพระราชฐานชั้นในและสวน ทำให้เราสามารถจินตนาการถึงความรุ่งโรจน์ของเกาหลีเมื่อหลายร้อยปีก่อนได้อย่างดีเลยคร้าบ
แต่เพื่อนๆที่เคยไปเคียงบ๊อกกุงหลายคนคงข้องใจว่าทำไมตัวพระตำหนักทุกองค์ถึงดูใหม่นัก
ก็เพราะว่าส่วนใหญ่ของเคียงบ๊อกกุงถูกเผาทำลายโดยญี่ปุ่นไปเกือบหมดนั้นเองฮะ
ที่เพื่อนๆเห็นอยู่ปัจจุบันเป็นตัวอาคารที่สร้างใหม่เกือบทั้งหมดเลย
แต่กระนั้นก็ถือเป็นความพยายามอย่างใหญ่หลวงของรัฐบาลเกาหลีที่สามารถเนรมิตรูปแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิม
และกลิ่นไอความเก่าแก่ให้ฟื้นคืนชีพมาอีกครั้งครับ
#เพื่อนคนไหนที่สนใจเยี่ยมชมวังเคียงบ๊อกสามารถรับชมได้ตั้งแต่
จันทร์-ศุกร์ 9.00-18.00น. (มีนาคม-ตุลาคม)
และ 8.00-17.00น. (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์)
เสาร์-อาทิตย์ 9.00-19.00น. ปิดทุกวันอังคาร*
ค่าเข้าชมคนละ 3,000 วอน
การเดินทาง : subway line 3 (สายสีส้ม)
สถานี Gyeongbokgung exit 5 เข้าทางด้านข้างของวังคร้าบผม
4. MMCA (National Museum of Modern and Contemporary Art, Seoul) พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยแห่งชาติ (โซล)
หลังจากใช้เวลาเดินถ่ายรูปจากเคียงบ๊อกกุงแล้วรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรงละเกิน
แนะนำมาแวะพักชมงานศิลปะที่ museum แห่งนี้เลยคร้าบแอร์เย็นฉ่ำมาก ขอบอก!
อะมาสาระกันนิด museum แห่งนี้เปิดตัวขึ้นในปี 2013 และได้รับการออกแบบโดย ศาสตราจารย์ Mihn Hyun-jun
เค้าก็บอกว่าเค้าเนียตั้งใจให้ museum เนี้ยะ ดูเรียบง่าย เพื่อทำให้คนที่แวะมาชมสามารถมาได้บ่อยๆ และค่อยๆดูไปไม่ต้องรีบเร่ง
ถึงแม้ว่าแต่ละอาคารจะแยกส่วนกันแต่ก็สามารถเดินถึงกันได้อย่างสบายเลยคร้าบ
นอกจากนี้แล้วเพื่อนๆสามารถนั่งกินขนมหรือกาแฟใน museum ได้ด้วยนะ
คาเฟ่เค้าก็ออกแนว minimalism เรียบง่ายแต่สวยงาม เหมาะแก่การนั่งเม้ากับเพื่อนฝูงที่ร่วมเดินทางมาด้วยครับ
สำหรับใครที่มาอโลนแบบผมก็ไม่ต้องเส้าใจไป เพราะมีอีกหลาย museum ให้แวะเวียนตลอดแนวเลยคร้าบ
ส่วนวิธีการเดินทางมา museum ไม่ยากเลย อยู่ถัดจากเคียงบ๊อกกุงแค่นั้นเอง
5. National Folk Museum of Korea (พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเกาหลี)
เราคนไทยไปเที่ยวต่างแดน สิ่งนึงเลยที่เราอยากรู้คือวิถีชีวิต และการดำเนินชีวิตของคนในประเทศนั้นว่าเค้าดำเนินกันมาอย่างไรบ้าง
การเดินชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะทำให้เพื่อนๆเพลิดเพลินแน่นอน นอกจากภายในพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งนี้ได้ดีไซน์บ้านเรือนในยุคก่อน
ของเกาหลีได้อย่างดีแล้ว เค้ายังสามารถอธิบายรูปแบบชีวิตของคนในยุคนั้นได้อย่างดีเยี่ยมเลย ผมแนะนำครับว่าเพื่อนๆต้องลองมาชม
ซักครั้ง อีกอย่างมีพร๊อพพวกบ้านสมัยก่อนขนาดย่อมๆสวยๆไว้ รอให้เราไปกดชัตเตอร์กันแบบรัวๆคร้าบ
สำหรับเพื่อนคนไหนที่สนใจเข้าชม สามารถเดินเลาะตามกำแพงของวังเคียงบ๊อกกุงได้เลย
ทางเข้าพิพิธภัณฑ์จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ MMCA คร้าบ เวลาที่เปิดแสดงมีดังนี้เลย
จันทร์ - ศุกร์ 9.00-18.00น. (มีนาคม-ตุลาคม)
และ 8.00-17.00น. (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์)
เสาร์-อาทิตย์ 9.00-19.00น. ปิดวันอังคาร
เข้าชมฟรีนะคร้าบ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น