Hello !!!
จากที่ผ่านมาเราได้นั่งอ่านรีวิวของคนอื่นเกี่ยวกับ การท่องเที่ยว จ.น่าน มาเยอะพอสมควร
วันนี้เราขอแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบ Local life ของเราและผองเพื่อนบ้างนะ
ขอรื้อที่มานิสสสนึง ประมาณต้นเดือน สค.58 อยู่ดีๆคุณเพื่อนสาวก็โทรมาแล้วบอกว่า "เมิงๆ ตรูอยากจะ slow life ที่ จ.น่าน " " นอนดูดาวบนดอยเสมอดาว สัมผัสธรรมชาติ นั่งจิบกาแฟชิวๆ ใช้ชีวิตแบบ slow life " เราก็ตอบเพื่อนคำเดียว ... "จัดเลย 555" (ตอบแบบไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย)
" เราจะไปเที่ยวกันแบบตามประสาคนโสด ไร้คู่ จะดื่มด่ำกับความว้าเหว่ ...ประมาณว่าเอาให้ช้ำสุดๆ 555
ได้ผู้ร่วมทริปกันมาทั้งหมด 4 คน ซึ่งคนสุดท้ายที่มาร่วมทริปด้วย ณ ตอนนั้นเพิ่งเลิกกับแฟนได้ไม่ถึง 24 ชม. นางตัดสินใจ จองตั๋วเครื่องบินไปกับพวกเราด้วย (แล้วมารู้ทีหลังว่า นางก็จองตั๋วไปเที่ยวเชียงใหม่คนเดียวอีก 1 ทริป ...OMG ไม่ถึง 24 ชม. นางจัดไป 2 ทริปเลยจ้าาา ) หลังจากนั้นเราก็ปฏิบัติการหาข้อมูล อ่านรีวิวต่างๆนาๆ ที่เดินทางไปเที่ยว จ.น่าน ว่าเขาไปเที่ยวที่ไหน กินอะไร มีกิจกรรมอะไรบ้าง พักที่ไหน...คือทุกสิ่งอย่างที่จะหาได้
สัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงวันเดินทาง เพิ่งจะเช็คฝนฟ้าอากาศ .....โทรจองที่พักกับอุทยานแห่งชาติดอยภูคา (กะจะไปนอนดูดาวบนภู ตื่นเช้ามาจะได้เจอทะเลหมอก ถ่ายรูปชิวๆ) สิ่งที่วาดไว้พังทลายยยย
"ช่วงนี้อากาศแปรปรวนค่ะ เมื่อคืนฝนตกหนักค่ะ ท้องฟ้าปิด คาดว่าอาทิตย์หน้าพายุจะเข้าอีก 1 ลูกค่ะ " จบข่าว หาที่พักใหม่เลยคร้าบบบบ
4 ส.ค.58 การเดินทางของพวกเราเริ่มขึ้น
ต่างคนต่างจินตนาการทริปของตัวเองไปอย่างมากมาย ว่าจะได้นอนแบบนี้ ได้กินอย่างนั้น ไปเที่ยวที่นู้น นอนชิวๆที่นี่ เราก็จัดเตรียมหาแผนที่ แนะนำที่กิน ที่นอน (ก็หลายแผ่นอยู่นะ) แล้วก็บอกทุกคนว่า " คืนนี้เราจะพักที่ โฮมสเตย์ตานงค์ อ.ปัว ส่วนคืนถัดไป...ค่อยหาเอา 555"
เราเดินทางไปถึงท่าอากาศยานน่านนคร ประมาณ 11.30 น. with Airasia
แล้วมาเช่ารถเก๋งในพื้นที่เอา เมื่อทุกคนประจำที่นั่งเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางไป อ.ปัว ในทันที แล้วเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางของเราใหม่
เป็น........... LOCAL LIFE !!!
"ที่พักหรู....เราไม่นอน ร้านอาหารไฮโซ...เราไม่กิน เราจะเน้นข้างทาง "
เห็นว่าอร่อย น่ากิน ท้องถิ่นๆ ต้องแวะ 55)
แผนที่ ข้อมูลที่เตรียมมาเกือบทั้งหมด พับเก็บใส่เป้ในจุดที่ลึกที่สุด (นี่ตรูหาข้อมูลต่างๆมาทำไมเนี่ย
)
เส้นทางระหว่างไปปัว จะลำบากนิดนึง เพราะเขากำลังทำถนนอยู่
จุดแรกที่เราแวะคือ CAFE' DE PUE (ร่างกายต้องการกาแฟ และเพื่อนบางคนแอบหิว)
แวะหลบฝนหน่อย ชักจะเริ่มตกหนักละ อันตรายยย
และก็ข้าวผัดกระเพราะทะเล
รวมสั่งอาหารไป 3 อย่าง (แค่เบาๆ รองท้อง) และก็ กาแฟ 3 แก้ว น้ำผึ้งมะนาวอีก 1
ค่าเสียหายประมาน 350 บาท
แล้วเจ้าของก็แถมเจ้านี่มาด้วยยย
คู่มือในการเดินทาง แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของ จ.น่าน
จากนั้นพวกเราก็ขับรถชิวๆไปที่ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ (ผาเก๊าะน้ำกูน-บ้านหัวน้ำ) เพื่อจะไปกินเห็ดกัน เพราะที่นั่นเขาเพาะเห็ดเอง (มันจะต้องเป็นอาหารพื้นเมืองสุดๆ) อยู่เส้นทางไปดอยภูคานะ
เมื่อไปถึงเราก็บรรเลงกับการถ่ายภาพ ชื่นชมบรรยากาศ และก็ enjoy กับการกินอาหารที่ประกอบไปด้วยเห็ดๆ
ลาบเห็ดอีสาน
ยำเห็ดห้าสหาย
ต้มยำเห็ดยานางิ
และสั่งกาแฟน่าน อีก 1 แก้ว (แล้วก็ถามคนขายว่า กาแฟน่าน คือยังไง? แล้วเขาก็ตอบมาว่า ....ก็คือกาแฟปลูกที่น่านครับ ---> จบปิ๊ง!!!)
ค่าเสียหายประมาณ 300 บาท
**รสชาติของอาหารจะไม่จัดมาก เป็นตามสไตล์คนเหนือรึป่าวก็ไม่รู้ คิดๆดู อาจจะเหมาะกับคนกินเจมั๊ง
หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่ตัวเมืองปัวอีก 1 รอบ เข้าไปที่วัดต้นแหลง
เป็นวัดโบราณ สร้างมาสมัยชาวไทลื้อที่อพยพมาจากสิบสองปันนาในรุ่นแรกๆ เป็นวัดเล็กๆ แทบจะประมาณวัดตามหมู่บ้าน ตามชุมชนนั้นๆ
ทีนี้พวกเราก็ได้ฤกษ์เข้าที่พักละ @โฮมสเตย์ตานงค์
ที่พักจะอยู่ห่างจากตัวเมืองปัวประมาณ 4 กม. เข้าไปทางวัดส้าน(วัดคุรุราษฎร์รังสรรค์) แยกซ้ายไปวัดดอนสถาน เส้นทางจะเล็กนิดนึง เราต้องขับผ่านหมู่บ้านเข้าไป เพราะโฮมสเตย์ตานงค์อยู่ด้านหลังกลางทุ่งนา
สัก 6 โมงเย็นพวกเราวางแผนกันว่าจะไปถนนคนเดินปัวกัน พอไปถึง....เงียบกริบ ป้าแถวนั้นเขาบอกว่า มันไม่มีแล้วจ้า มันมีแต่คนซื้อไม่ค่อยมีคนขาย (อดเลยยยย
)
พวกเราเลยลองหาร้านของกินอื่นดู แต่ !!! ต้องงาน Local เท่านั้น.
ต้องร้านนี้เลย...."ล้านข้าวปัน"
ถนนเส้น น่าน ไป ปัว เจอ 7-11 เลี้ยวซ้าย ขับตรงไปประมาณ 200 เมตร ร้านอยู่ฝั่งขวามือ
ไข่ม้วนหมี่เหลือง
ข้าวพันผักต้นตำหรับ (คนทำใจดี แถมไข่ดาวโปะหน้า พี่เขาบอกว่าเดี๋ยวถ่ายรูปไม่สวย
)
ข้าวพันผักสุกี้ (ลักษณะคล้ายๆต้นตำหรับ แต่ราดน้ำสุกี้)
หมี่พัน น้ำจิ้มแจ่ว
หมี่คลุก (ลักษณะคล้ายผัดหมี่ทั่วไป)
พันไม้ (คนขายแถม เอาไว้กินเล่น
)
มีน้ำแดง Hale's Blue Boy ให้ทานด้วยยย
ค่าเสียหายจำไม่ได้อ่ะ แต่ว่า อร่อย อิ่ม แน่น และไม่แพงด้วย
หลังจากนั้นก็กลับบ้านกลางทุ่งนาของเราดีกว่าาาา
ถ้าต้องการความเป็นกันเอง สบายๆ อารมณ์เหมือนมีบ้านอยู่กลางทุ่งนา พอกลางคืนก็ฟังเสียงจั๊กจั่น อึ่งอ่าง ขับกล่อมให้พวกเรานอนหลับสบายยย
[CR] Slow life in น่าน เหรอ?
จากที่ผ่านมาเราได้นั่งอ่านรีวิวของคนอื่นเกี่ยวกับ การท่องเที่ยว จ.น่าน มาเยอะพอสมควร
วันนี้เราขอแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบ Local life ของเราและผองเพื่อนบ้างนะ
ขอรื้อที่มานิสสสนึง ประมาณต้นเดือน สค.58 อยู่ดีๆคุณเพื่อนสาวก็โทรมาแล้วบอกว่า "เมิงๆ ตรูอยากจะ slow life ที่ จ.น่าน " " นอนดูดาวบนดอยเสมอดาว สัมผัสธรรมชาติ นั่งจิบกาแฟชิวๆ ใช้ชีวิตแบบ slow life " เราก็ตอบเพื่อนคำเดียว ... "จัดเลย 555" (ตอบแบบไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย) " เราจะไปเที่ยวกันแบบตามประสาคนโสด ไร้คู่ จะดื่มด่ำกับความว้าเหว่ ...ประมาณว่าเอาให้ช้ำสุดๆ 555
ได้ผู้ร่วมทริปกันมาทั้งหมด 4 คน ซึ่งคนสุดท้ายที่มาร่วมทริปด้วย ณ ตอนนั้นเพิ่งเลิกกับแฟนได้ไม่ถึง 24 ชม. นางตัดสินใจ จองตั๋วเครื่องบินไปกับพวกเราด้วย (แล้วมารู้ทีหลังว่า นางก็จองตั๋วไปเที่ยวเชียงใหม่คนเดียวอีก 1 ทริป ...OMG ไม่ถึง 24 ชม. นางจัดไป 2 ทริปเลยจ้าาา ) หลังจากนั้นเราก็ปฏิบัติการหาข้อมูล อ่านรีวิวต่างๆนาๆ ที่เดินทางไปเที่ยว จ.น่าน ว่าเขาไปเที่ยวที่ไหน กินอะไร มีกิจกรรมอะไรบ้าง พักที่ไหน...คือทุกสิ่งอย่างที่จะหาได้
สัปดาห์สุดท้ายก่อนถึงวันเดินทาง เพิ่งจะเช็คฝนฟ้าอากาศ .....โทรจองที่พักกับอุทยานแห่งชาติดอยภูคา (กะจะไปนอนดูดาวบนภู ตื่นเช้ามาจะได้เจอทะเลหมอก ถ่ายรูปชิวๆ) สิ่งที่วาดไว้พังทลายยยย "ช่วงนี้อากาศแปรปรวนค่ะ เมื่อคืนฝนตกหนักค่ะ ท้องฟ้าปิด คาดว่าอาทิตย์หน้าพายุจะเข้าอีก 1 ลูกค่ะ " จบข่าว หาที่พักใหม่เลยคร้าบบบบ
ต่างคนต่างจินตนาการทริปของตัวเองไปอย่างมากมาย ว่าจะได้นอนแบบนี้ ได้กินอย่างนั้น ไปเที่ยวที่นู้น นอนชิวๆที่นี่ เราก็จัดเตรียมหาแผนที่ แนะนำที่กิน ที่นอน (ก็หลายแผ่นอยู่นะ) แล้วก็บอกทุกคนว่า " คืนนี้เราจะพักที่ โฮมสเตย์ตานงค์ อ.ปัว ส่วนคืนถัดไป...ค่อยหาเอา 555"
เราเดินทางไปถึงท่าอากาศยานน่านนคร ประมาณ 11.30 น. with Airasia
แล้วมาเช่ารถเก๋งในพื้นที่เอา เมื่อทุกคนประจำที่นั่งเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกเดินทางไป อ.ปัว ในทันที แล้วเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางของเราใหม่
เป็น........... LOCAL LIFE !!!
"ที่พักหรู....เราไม่นอน ร้านอาหารไฮโซ...เราไม่กิน เราจะเน้นข้างทาง "เห็นว่าอร่อย น่ากิน ท้องถิ่นๆ ต้องแวะ 55)
แผนที่ ข้อมูลที่เตรียมมาเกือบทั้งหมด พับเก็บใส่เป้ในจุดที่ลึกที่สุด (นี่ตรูหาข้อมูลต่างๆมาทำไมเนี่ย )
เส้นทางระหว่างไปปัว จะลำบากนิดนึง เพราะเขากำลังทำถนนอยู่
จุดแรกที่เราแวะคือ CAFE' DE PUE (ร่างกายต้องการกาแฟ และเพื่อนบางคนแอบหิว)
แวะหลบฝนหน่อย ชักจะเริ่มตกหนักละ อันตรายยย
และก็ข้าวผัดกระเพราะทะเล
รวมสั่งอาหารไป 3 อย่าง (แค่เบาๆ รองท้อง) และก็ กาแฟ 3 แก้ว น้ำผึ้งมะนาวอีก 1
ค่าเสียหายประมาน 350 บาท
แล้วเจ้าของก็แถมเจ้านี่มาด้วยยย
คู่มือในการเดินทาง แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวของ จ.น่าน
จากนั้นพวกเราก็ขับรถชิวๆไปที่ ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ (ผาเก๊าะน้ำกูน-บ้านหัวน้ำ) เพื่อจะไปกินเห็ดกัน เพราะที่นั่นเขาเพาะเห็ดเอง (มันจะต้องเป็นอาหารพื้นเมืองสุดๆ) อยู่เส้นทางไปดอยภูคานะ
เมื่อไปถึงเราก็บรรเลงกับการถ่ายภาพ ชื่นชมบรรยากาศ และก็ enjoy กับการกินอาหารที่ประกอบไปด้วยเห็ดๆ
ลาบเห็ดอีสาน
ยำเห็ดห้าสหาย
ต้มยำเห็ดยานางิ
และสั่งกาแฟน่าน อีก 1 แก้ว (แล้วก็ถามคนขายว่า กาแฟน่าน คือยังไง? แล้วเขาก็ตอบมาว่า ....ก็คือกาแฟปลูกที่น่านครับ ---> จบปิ๊ง!!!)
ค่าเสียหายประมาณ 300 บาท
**รสชาติของอาหารจะไม่จัดมาก เป็นตามสไตล์คนเหนือรึป่าวก็ไม่รู้ คิดๆดู อาจจะเหมาะกับคนกินเจมั๊ง
หลังจากนั้นเราก็กลับมาที่ตัวเมืองปัวอีก 1 รอบ เข้าไปที่วัดต้นแหลง
เป็นวัดโบราณ สร้างมาสมัยชาวไทลื้อที่อพยพมาจากสิบสองปันนาในรุ่นแรกๆ เป็นวัดเล็กๆ แทบจะประมาณวัดตามหมู่บ้าน ตามชุมชนนั้นๆ
ทีนี้พวกเราก็ได้ฤกษ์เข้าที่พักละ @โฮมสเตย์ตานงค์
ที่พักจะอยู่ห่างจากตัวเมืองปัวประมาณ 4 กม. เข้าไปทางวัดส้าน(วัดคุรุราษฎร์รังสรรค์) แยกซ้ายไปวัดดอนสถาน เส้นทางจะเล็กนิดนึง เราต้องขับผ่านหมู่บ้านเข้าไป เพราะโฮมสเตย์ตานงค์อยู่ด้านหลังกลางทุ่งนา
สัก 6 โมงเย็นพวกเราวางแผนกันว่าจะไปถนนคนเดินปัวกัน พอไปถึง....เงียบกริบ ป้าแถวนั้นเขาบอกว่า มันไม่มีแล้วจ้า มันมีแต่คนซื้อไม่ค่อยมีคนขาย (อดเลยยยย )
พวกเราเลยลองหาร้านของกินอื่นดู แต่ !!! ต้องงาน Local เท่านั้น.
ต้องร้านนี้เลย...."ล้านข้าวปัน"
ถนนเส้น น่าน ไป ปัว เจอ 7-11 เลี้ยวซ้าย ขับตรงไปประมาณ 200 เมตร ร้านอยู่ฝั่งขวามือ
ไข่ม้วนหมี่เหลือง
ข้าวพันผักต้นตำหรับ (คนทำใจดี แถมไข่ดาวโปะหน้า พี่เขาบอกว่าเดี๋ยวถ่ายรูปไม่สวย )
ข้าวพันผักสุกี้ (ลักษณะคล้ายๆต้นตำหรับ แต่ราดน้ำสุกี้)
หมี่พัน น้ำจิ้มแจ่ว
หมี่คลุก (ลักษณะคล้ายผัดหมี่ทั่วไป)
พันไม้ (คนขายแถม เอาไว้กินเล่น )
มีน้ำแดง Hale's Blue Boy ให้ทานด้วยยย
ค่าเสียหายจำไม่ได้อ่ะ แต่ว่า อร่อย อิ่ม แน่น และไม่แพงด้วย
หลังจากนั้นก็กลับบ้านกลางทุ่งนาของเราดีกว่าาาา
ถ้าต้องการความเป็นกันเอง สบายๆ อารมณ์เหมือนมีบ้านอยู่กลางทุ่งนา พอกลางคืนก็ฟังเสียงจั๊กจั่น อึ่งอ่าง ขับกล่อมให้พวกเรานอนหลับสบายยย