ผมเป็นนักศึกษาครับ  รถคันนี้เป็นรถคันแรกที่ซื้อมาจากเงินเก็บตัวเอง จากการทำงานตัวเองตลอด 4 ปีที่ผ่านมา
แต่ช่วงหลังมา มหาวิทยาลัยมีนักศึกษาใช้รถยนต์มากขึ้น  เลยตัดสินใจกลับไปใช้จักรยานยนต์แบบเดิม รถคันนี้เลยถูกจอดไว้เฉยๆ

เมื่อเช้าแวะไปดูรถยนต์ตัวเองที่จอดทิ้งไว้สักพักแล้ว ปรากฏว่าก็ต้องช็อคครับ เจอรอยบุบใหญ่มาก ที่ประตูหลังซ้าย ไม่มีร่องรอย ไม่มีคู่กรณี ไม่มีอะไรเลย
สันนิษฐานว่าต้องถูกรถคันอื่น ถอยมาชนแน่ๆเลย

ตอนนั้นวิตกมาก เดินสำรวจบริเวณรอบๆ มีกล้องวงจรปิดอยู่ 1 ตัว  กะว่าจะไปแจ้งความเพื่อนำบันทึกประจำวัน ไปขอดูกล้องวงจรปิด

ก่อนจะไป เริ่มสอบถามเพื่อนๆที่อยู่ใกล้ๆเคียงกันบอกว่า เห็นรอยบุบช่วงวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้บอก ไม่เห็นคู่กรณี ไม่เห็นรถที่มาชน
อู้หู กว่าเราจะมาเจอนี่ผ่านไป 7 วันแล้วนะเนี่ย

พอไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรใกล้บ้าน  เข้าไปถึงโต๊ะรับแจ้งความ เจ้าหน้าที่ถามว่ามาทำอะไร ก็บอกมาแจ้งความโดนชนแล้วหนี  
จะมาขอเอกสารไปขอดูกล้องวงจรปิดครับ เจ้าหน้าที่ก็พยักหน้าหงึกๆ บอกให้รอ

ก็รอครับ สักพักเจ้าหน้าที่ถามไกลๆอีกว่า ใหนลองเล่าคร่าวๆซิ  ก็เลยเล่าดั่งด้านบนให้เจ้าหน้าที่ฟัง
แล้วก็ต้องอึ้ง เมื่อเจ้าหน้าที่บอกว่า "ให้ไปเอารถมา" ผมก็บอกไปตามจริงว่ารถคันนี้ไม่ค่อยได้ใช้ครับ สตาร์ทไม่ติด
เจ้าหน้าที่ก็ย้ำอีกว่า ถ้าขับมาไม่ได้ก็ให้ไปลากมา ....

ตอนนั้นมืดมนเลยครับ  คิดไปคิดมาถึงกระบวนการทั้งหมด  กว่าจะลากไป กว่าจะได้บันทึกข้อความ ไปดูวงจรปิดแบบสุ่มๆไม่รู้วันเวลา
กว่าจะหารถเจอ กว่าจะหาคนเจอ กว่าจะขอให้รับผิดชอบ สู้เอาเวลาตรงนี้ไปตั้งใจทำงาน เก็บเงิน ซ่อมรถดีกว่าใหม

นี่เป็นครั้งแรกครับที่เป็นผู้เสียหาย และพยายามจะทำอะไรให้มันเป็นไปตามระบบ ตามวิธีการขั้นตอน
แต่ต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้