ตัวผมเองก็อายุอยู่ในหลัก 30+ ผ่านตาหนังไทยมาทุกแนว ต้องยอมรับว่าสังคมหนังไทยบ้านเราหรือตลาดบ้านเราเปลี่ยนไปมาก สมัยผมยังเด็กแนวหนังจะไม่มีแนวตายตัว แนวแฟนตาซีผจญภัยไล่ล่าลึกลับ หายไปเลยจากหนังไทย




เรื่องราวของ ลายทอง ชายหนุ่มที่ได้ปลดปล่อยดวงวิญญาณบริสุทธิ์ของแสงโสมให้คืนร่างกลายเป็นคนจากการถูกขังไว้ในหม้อโดยฝีมือของจอมปีศาจ อาบูฮัดซัน เขาได้พาแสงโสมมาอาศัยอยู่ที่บ้านโดยโกหกว่าเธอคือผู้ที่มีบุญคุณแก่เขา ในขณะที่ฝ่ายอาบูฮัดซัน ที่เคียดแค้นเป็นอย่างมาก ได้พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แสงโสมกลับคืนมา หนึ่งในหนทางนั้นคือ การพยายามทำร้าย แก้วมาลี คนรักของลายทองเพื่อให้เขาบอกที่ซ่อนของแสงโสม

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



เรื่องย่อ เกี้ย (สุรศักดิ์) พนักงานในบริษัท แอบหลงรักอรอุมา (วาสนา) ผู้เป็นเจ้านายและเป็นว่าที่เจ้าของบริษัท เพราะพ่อของเธอจะให้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัทในอีกไม่กี่วัน ทำให้พิศาล (สุประวัติ) ผู้เป็นอาวางแผนฮุบบริษัท ด้วยการไปว่าจ้างอาจารย์เดช (วัชระ) ผู้มีอำนาจมนต์ดำ อรอุมาจึงเหมือนคนถูกผีเข้าและควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่ก่อนที่จะเป็นอะไรมากกว่านั้น อาจารย์ส่วย (ตรี) ที่มีอาคมแก่กล้าอีกคนก็มาระงับเหตุได้ทัน
อาจารย์ส่วย ขอให้เกี้ยที่สนิทกับเขาเป็นการส่วนตัวและยังเกิดราศีสิงห์ที่จะข่มอำนาจมนต์ดำในตัวอรอุมาได้ช่วยชั่วคราวพาเธอไปรักษากับศิษย์ผู้พี่ของอาจารย์ส่วยที่เชียงใหม่ในคือจันทคราสที่จะมาถึงในคืนมะรืนนี้ โดยที่เกี้ยมีเพื่อนสนิทสองคนคือ   ต๋อง (ธัธชัย) และอ๋า (ศุภกร) เดินทางไปด้วย ระหว่างทางคนทั้งสามต้องเผชิญกับอาถรรพ์มนต์ดำมากมายและได้รับการช่วยเหลือจากอาจารย์ปุ๋ย (สมชาย) ศิษย์พี่ของอาจารย์ส่วยนั่นเอง อาจารย์ปุ๋ยจึงพาทุกคนไปยังโรงแรมที่เชื่อว่าจะมีหม้อราหูวัตถุศักดิ์สิทธิ์ชิ้นสำคัญที่หายสาบสูญไปนานซ่อนอยู่
อาจารย์เดชปลุกชีพศพที่ถูกหมาบ้ากัดตายให้กลายเป็นผีดิบและทำให้คนในโรงแรมที่เกี้ยและพวกไปพักกลายเป็นผีดิบไปจนหมด เกี้ย อรอุมา ต๋อง อ๋า และอาจารย์ปุ๋ยจึงต้องหนีผีกันจ้าละหวั่น ไม่นานอาจารย์ส่วยก็มาสมทบอีกคนจนผีดิบร้ายถูกจำกัด อาจารย์ปุ๋ยและอาจารย์ส่วยจึงเริ่มทำพิธีขับไล่มนต์ดำหลลังจากพบหม้อราหูโดยบังเอิญ โดยมีอาจารย์เดชที่ต้องการพิสูจน์ความศักดิ์สิทธิ์ของหม้อราหูว่าจะสามารถทำงายมนต์ดำของเขาได้หรือไม่ มาร่วมด้วยอีกคน

--------------------------------------------------------------------------------





การผจญภัยใยยุคหินของป๋อง(สุรศักดิ์ วงษ์ไทย) ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อป๋องถูกขับไล่ออกจากเผ่า ป๋องเดินทางหาดินแดนแห่งน้ำ จนเจอกับ แฟรงค์ จ๋อม ...จ๋อม ติ๊ก..ติ๊ก และ แป๋ง พวกเขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย จนกว่าจะได้พบกับความจริง จ๋อม..จ๋อม โกหกทุกคนว่าพ่อหายตัวไป แต่ที่จริงแล้วพ่อของ จ๋อม...จ๋อม เป็รราชาแห่งน้ำ ทุกคนเดินทางไปยังดินแดนแห่งน้ำ เพื่อไปท่วงสิทธิ์ของ จ๋อม..จ๋อม คืนจากไอ้พวกควายที่ยึดอำนาจไปโดยไม่ชอบธรรม ความสามารถในหารเอาชนะไดโนเสาร์ของป๋อง ได้เป็นราชาแห่งน้ำอย่างที่หวังเอาไว้และปกครองคนในเผ่าให้อยู่อย่างสงบสุข


------------------------------------------------------

ยกตัวอย่างมาแค่ 3 เรื่อง ซึ่งตัวหนังก็ไม่ได้ดูยิ่งใหญ่อะไรมาก แต่มีบท มีเนื้อเรื่อง และความตลก อยู่ในหนังที่จะพอดูเพลินๆ และสนุกไปกับมัน จะเห็นได้ว่าหนังไทยสมัยก่อนบทค่อนข้างละเอียด การดำเนินเรื่องก็ค่อนข้างเข้าใจง่าย มุขตลกเป็นระยะ ไม่ตัดตอนหรือตัดช่วงความห่างของแต่ละสถานะการณ์มากเกินไป เลยทำให้ดูแบบค่อนข้างไหลลื่นและเพลินจนลืมเวลา

อยากให้หนังสมัยนี้มีความแฟนตาซีมากกว่านี้ คิดกรอบหนังให้กว้างกว่านี้ หนังไม่จำเป็นต้องเป็นหนังรักหนังผีหรือหนังตลก แนวหนังผจญภัย ก็น่าจะขายได้ ขอแค่บทมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ CG พอประมาณ ผมว่าน่าจะขายได้

ยอมรับว่าหนังที่พึ่งสร้างมาไม่นาน เรื่องสมิง ก็ถือว่าเป็นแนวแฟนตาซีไล่ล่า แต่หนังบทค่อนข้างอ่อน และจำกัดพื้นที่เกิดเหตุมากเกิน เลยไม่เห็นความผจญภัยจากตัวหนังเลย จะเห็นได้ว่า 3 เรื่องที่ผมยกมา จะมีจุดเกิดเหตุ หาเหตุผล และหาวิธีแก้ไข และเริ่มลงมือแก้ไข ซึ่งวิธีแก้ไข ก็แล้วแต่หนังจะนำเสนอ แต่ระหว่างนั้นมันเกิดการผจญภัยขึ้นมีการไล่ล่าหรือขัดขวาง จึงทำให้เรื่องสนุก ผมจึงหวังว่าจะมีสักวันที่หนังไทยแนวผจญภัยจะมีกลับมาให้ดูอีกครั้งครับ