"เลเธส" คือ "Necromancer" นอกรีตที่ไม่ได้อยู่ในลัทธิ มีความกระหายในพลัง โลภมากเกินกว่าผู้ใดจะหยั่งถึง ไม่ว่าสิ่งใดคือเป้าหมาย ล้วนแล้วแต่ไร้ความปราณีเมื่อต้องไล่ล่า ทั้งยังไม่มีความอดทนต่อเรื่องเล็กน้อยด้วย

Lethes ควรที่จะได้เป็น "Deathspeaker" หรือตำแหน่งผู้นำของเหล่า Necromancer หากนางไม่ได้ดูหมิ่นสมดุลของความเป็นและความตาย นางมีพลังเวทย์ที่ลึกล้ำและไม่รู้ที่มา นางต้องการสร้างอาณาจักรของคนตายอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่หลังจากที่นางได้ปล่อยคำสาปร้ายไปทั่ว "Necropolis" เมืองหลวงของเหล่าเนโครแมนเซอร์ ทำให้นางต้องถูกตัดสินโทษด้วยอาจารย์ของนางอย่าง "Xul" ผู้ที่จะติดตามนางกลับมารับโทษและนางหลังจากที่นางได้หนีหายไป โดยที่นางได้ทิ้งอาณาจักรแห่งความตายนี้ไป จนกระทั่งวันนึงก็ได้พบกับ เศษชิ้นส่วนของ "Worldstone"

สาเหตุหนึ่งที่ทำให้นางคิดจะเปลี่ยนเมืองหลวงให้กลายเป็นอาณาจักรคนตายนั้น เพราะเริ่มเดิมที นางรู้สึกว่าอาจารย์ของตนนั้น มักบอกกล่าวและบังคับให้ตัวนางระงับพลังของตนเองไว้ ทำให้ศักยภาพที่ควรจะสูงขึ้นกลับลดลง จนนางได้ละทิ้งลัทธิไป และได้ออกเดินทางตามหา Worldstone เพื่อนำพลังของมันมาปรับเปลี่ยนพื้นที่ในการสร้างดินแดนของนาง แต่แล้วเมื่อ Worldstone ได้ถูกทำลาย นางก็ได้ค้นพบชิ้นส่วนของมัน

ในปี 1270 Lethes ได้เดินทางมายัง "Ashwold Cemetery" เพื่อตามหาหลุมศพของ "Queen Asylla" นางเชื่อว่า วิญญาณของราชินีอซิลล่านั้น จะนำพานางไปหา Leoric เพื่อใช้พลังของ "The skeleton king" ในการสร้างกองทัพแห่งความตายอันยิ่งใหญ่ได้ นางได้จับทหารยามชื่อ "Fjord" เพื่อถามหาข้อมูลของที่ตั้งของหลุมศพราชินีที่ถูกเก็บไว้เป็นความลับ แต่ฆ่าชาวบ้านและทหารคนอื่นอื่น และปล่อยให้ทหารยามคนนี้มีชีวิตต่อไป โดยไม่ทราบว่าเพราะอะไรเขาถึงรอดอยู่ แต่สาเหตุคงเพราะเขาเป็นคนเดียวที่ยอมบอกตำแหน่งที่ตั้งของสุสานลับ

บริเวณทางไปสุสานใต้ดิน Lethes กำลังทรมานทหารยามสองคนเพื่อรีดข้อมูลเพิ่มถึงตำแหน่งที่ชัดเจนอีกครั้ง นางได้ฆ่าหนึ่งในนั้นเพราะไม่ยอมพูดอะไรและกำลังจะฆ่าอีกคน จนเขาได้บอกไปว่ามีเพียงแค่สาวรับใช้ของราชินีเท่านั้นที่รู้ตำแหน่ง แต่แล้ว Xul ก็ได้ปรากฏตัวขึ้น เพื่อช่วยชีวิตทหารยามคนนั้น พร้อมทั้งหยุดยั้งสิ่งที่เลเธสจะทำ นางบอกกับเขาว่าจะไม่หยุดสิ่งนี้ นางบอกเหตุผลที่จะใช้ worldstone ในการสร้างดินแดนของตนเอง และตอนนี้นางได้ใช้เศษชิ้นส่วนของมัน เสริมพลังของนางแล้วปลุกคนตายขึ้นมาขัดขวาง "ซุล" ไว้ จึงเป็นหน้าที่ของนักผจญภัยที่ต้องติดตามไปเพื่อหยุดยั้งเลเธสให้ได้

Lethes ได้เจอกับสาวรับใช้และได้ข้อมูลตำแหน่งของหลุมศพแล้ว นางฆ่าสาวรับใช้ทิ้งก่อนจะเรียกนักเวทย์ผีดิบขึ้นมา เพื่อคอยขัดขวางใครก็ตามที่กำลังตามมา มันซื้อเวลาให้นาง จนได้ไปพบกับหลุมศพของราชินี Asylla's นางตั้งใจจะปลุกอซิลล่าขึ้นมาและใช้วิญญาณของนางเป็นพลังในการควบคุมและยึดพลังของ Leoric ไว้กับตนเอง แต่แล้ว Xul กับนักผจญภัยได้เดินทางมาถึงและกำลังจะเข้าหยุดยั้ง เลเธสได้ร่ายบาเรียปกป้องกันไว้ ผูกไว้กับโกเลมทั้งสามตัวเพื่อยากต่อการทำลาย แต่ไม่นานจากนั้น นักผจญภัยก็ได้จัดการอุปสรรคเหล่านั้นจนหมด และกำลังเข้าถึงตัวของเลเธส โดยที่ ซุลกับเลเธสนั้นได้สู้ตัดสินกันอยู่ โดยที่พิธีกรรมได้ใกล้สำเร็จ วิญญาณของราชินีอซิลล่าได้ผูกกับเลโอริก หรืออีกนัยนึงในตัวของเลโอริกเองก็มีพลังของ "Diablo" อยู่ด้วยเช่นกัน ซุลได้เข้าขัดขวางพิธีกรรมแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อเลเธสอยู่ในวงอัญเชิญนางจะไม่ได้รับผลจากการโจมตีใดใด

ขณะที่ Xul พยายามจะหยุดยั้งพิธีกรรม เหล่านักผจญภัยต้องบุกเข้าไปภายในคฤหาสน์เพื่อสังหาร The skeleton king ที่ถูกผูกวิญญาณไว้อยู่ จนในที่สุดก็สามารถสังหารเขาลงได้ ทางด้านนอกก็เหมือนกับครั้งก่อนที่เคยเกิดขึ้น เมื่อพลังของราชันโครงกระดูกหมดลง เลเธสจะต้องถูกซุลสังหาร แต่เพราะความใจอ่อนหรือเห็นว่าเป็นลูกศิษย์เขากลับไม่สามารถสังหารนางได้ แต่ผิดกันกับเลเธสที่พร้อมจะฆ่าอาจารย์ของนางได้ทุกเมื่อ เลเธสได้โอกาสหนีไปอีกครั้ง และเหล่านักผจญภัยได้ตามนางไปติดติดจนถึงเขตสุสานของลอร์ดทั้งหลาย เลเธสไม่ได้หนีแต่หยุดสู้กับนักผจญภัย จนในที่สุดก็ถูกสังหาร ก่อนตายได้ระเบิดเป็นสายเลือดพุ่งไปทั่วบริเวณก่อนที่ซุลจะตามมาถึงแล้วบอกว่า นางยังไม่ตาย และให้จดจำไว้ว่า "หากไม่เห็นศพก็ไม่นับว่าตาย นั่นคือร่างแยกที่ถูกสร้างขึ้นด้วยเลือด" และอีกอย่างในตอนนี้เลเธสยังได้ถือครองชิ้นส่วนของ Worldstone อีกด้วย Xul จะบอกกับนักผจญภัยว่าเขาจะติดตามนางไปเอง และจะหยุดนางให้ได้

ปล.เป็นอันจบเรื่องราวที่แม้ดูเหมือนว่ายังไม่จบแต่ข้อมูลในตอนนี้ก็มีเพียงเท่านี้ คงต้องรออัพเดตในส่วนของการขยายเนื้อเรื่องต่อต่อไปอีกทีเน้ออออ