"ขอชื่นชมขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ" ตั้งแต่ตอนแรก-ตอนล่าสุด(ตอนที่6) (สปอยล์นะคะ) อยากให้อ่านมากๆ

สาวแว่นอยากให้ทีมงานละครเรื่องนี้รวมถึงนักแสดงได้อ่านกระทู้นี้จังค่ะ

สาวแว่นวันนี้อยากจะมาแชร์ความรู้สึกหลังจากที่ได้ดู ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ จนถึงตอนล่าสุดค่ะ
จุดเปลี่ยนของเรื่องได้ดำเนินมาถึงแล้ว พีคได้อีก...



          ขอเป็นเจ้าสาวสักครั้งให้ชื่นใจ เนื้อเรื่องสนุกแปลกใหม่น่าสนใจดีค่ะ ตั้งแต่ดูตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนล่าสุด
           รู้สึกมันเหมือนเป็นการปูทางเรื่องราวราวมา ให้คนดูได้เห็นคาแรคเตอร์ของตัวละครอย่างชัดเจน
           จนเรื่องดำเนินมาจนถึงจุดเปลี่ยน คือการสลับร่าง ทีนี้เราจะมาดูกันว่าเรื่องราวมันจะสนุกเข้มข้นมากแค่ไหน


นี่คือสิ่งที่ตัวจขกท.เด็กอายุ 18 คนนึงรู้สึกชอบและขอชื่นชมค่ะ



1.สิ่งที่ชอบเป็นพิเศษของเรื่องนี้คือ"คีย์ซีน และ ไตเติ้ล" ดูมีเรื่องราวดีค่ะ และมีอินเนอร์ตัวละครชัดมาก เป็นคีย์ซีนที่เป็นภาพเคลื่อนไหวที่ถ่ายแยกเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของตัวละครและเรื่องราวในละคร ไม่ใช่แค่ภาพนิ่งธรรมดาๆทั่วไป หรือตัดเป็นภาพในละครเหมือนละครทั่วไปส่วนใหญ่ แต่เคยเห็นแนวนี้จากของค่ายมาสเตอร์วัน เรื่องแผนร้ายพ่ายรัก นางร้ายซัมเมอร์ ก๊วนคานทองกับแก๊งพ่อปลาไหล และนางสาวทองสร้อย ซึ่งชอบมากๆ "ชื่นชมในด้านความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยแบบนี้" ทำดีแล้วทำต่อไปนะคะเยี่ยมประหลาดใจยิ้มเยี่ยมดอกไม้


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


2.เพลงประกอบ เพลง หากฉันตาย 60 Miles และเวอร์ชั่นผู้หญิง ฟังเสียงน่าจะวี วิโอเลต เพลงนี้จริงๆก็ดังมากๆอยู่แล้ว ได้ฟังตอนทีเซอร์ตัวแรกออกมาหลังงานบอลหรือเปิดบิ๊กวิคสามไม่แน่ใจนะคะ รู้สึกว่าเพลงนี้มันเข้ากันและตอบโจทย์เนื้อหาของเรื่องได้ดีมาก แต่ตั้งแต่ละครออนแอร์พึ่งได้ฟังในตอนล่าสุดที่พึ่งออกอากาศไป ตอนแรกก็แอบสงสัยอยู่ตั้งนานว่าไม่มีเพลงนี้หรอ แต่พอได้ดูตอนล่าสุดนี้ทำให้เข้าใจว่า "เพลงที่ใช่มันจะมาในเวลาที่เหมาะสม"ซึ่งพอเปิดมามันช่างเข้ากับพ้อยท์ของเรื่องและสถานการณ์ตอนนั้นมากๆ อันนี้ต้องไปดูกันเอาเองว่าเพลงมันเข้ากันยังไง "ชื่นชมว่าเลือกเพลงได้เหมาะกับเรื่องราวในละครดีมากค่ะ"ยิ้มยิ้มเยี่ยมเยี่ยม


3.ความรู้สึกหลังจากที่ดูฉากนี้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


            
เป็นอะไรที่ค่อนข้างบับคั้นอารมณ์คนดูเหลือเกิน เพราะคนดูต่างก็รอคอยว่าเมื่อไหร่จะสลับร่าง ตัดสลับฉากระหว่างวีว่ากำลังจะถูกยิง กับ ตอนที่ลมกำลังจะขึ้นไปที่ห้องมุกรินได้ดีเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ทำให้จขกท.รู้สึก เฟลมากๆกับการดูฉากนี้ เฟลในที่นี้ไม่เฟลเรื่องการแสดงหรือฉากนี้ทำออกมาไม่ดีนะคะ
"แต่เรารู้สึกเฟลเพราะมันออกมาดีมากๆจริงๆ"


เฟลเพราะอะไร? คำตอบอยู่นี่...

            
ฉากที่ลาภิศอุ้มมุกรินขึ้นจากอ่างหลังจากที่กรีดแขนตัวเองมากอด แล้วมุกรินก็บอกรักลม มีเพลงหากฉันตายขึ้น เป็นเสียงวี เดี่ยวๆไม่มีดนตรีมานิดๆ จังหวะและเวลามันได้มากๆนี่น้ำตาเริ่มคลอๆแล้วค่ะ เพลงทำให้ขนลุก และรู้สึกถึงอารมณ์เศร้ามากๆ แล้วยิ่งมาขยี้อารมณ์มากๆ ตอนที่อยู่หน้าลิฟต์ ลมอุ้มมุกรินออกมาจากห้อง ลนลานกดลิฟต์ไปทุกตัว ทำอะไรไม่ถูก สุดท้ายก็ทรุดตัวลงนั่งกอดมุกรินร้องไห้ แล้วก็มีเพลงนี้ขึ้นมาอีก แต่เป็นเสียงวง 60 Miles Ver.ออริจินอล จังหวะนั่นแหละค่ะ   ปิดตาร้องไห้เลย ร้องไห้ร้องไห้FacepalmFacepalmเม่าคัทลอสเม่าคัทลอสเม่าจอแดงเม่าจอแดง2เม่าร้องไห้เม่าร้องไห้
             แปลกมากๆตั้งแต่ดูละครไม่เคยเป็นแบบนี้เลยจริงๆ คือมันรู้สึกเจ็บปวดตามตัวละคร มันเศร้ามากๆ อารมณ์มันพีคมากๆ คือก็มีบ้างนะคะที่ดูละครแล้วร้องไห้ตาม แต่เรื่องนี้มันแปลกตรงที่เรารู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดของตัวละคร อย่างเรื่องอื่นที่ร้องเพราะรู้สึกสงสารในความดราม่านั้นๆ แต่เรื่องนี้ร้องเพราะเรา"รู้สึกเจ็บปวดเศร้าเสียใจมากๆเหมือนกับว่าเราเป็นตัวละครตัวนั้น" ไม่รู้ว่าเราโอเวอร์ไปเองคนเดียวรึป่าว ไม่ได้จะอวยอะไรนะคะ แต่ ณ เวลานั้นความรู้สึกมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ซึ่งหลังจากดูฉากนี้จบ เหมือนเราก็ยังปรับอารมณ์ให้มันลงไม่ได้ ต้องขอไปหาเปิดยูทูปเปิดเพลงรักเพื่อผ่อนคลายอารมณ์  ซึ่งใช้เวลาพักนึงเหมือนกัน เม่าฝึกจิตเม่าในกองไฟเม่าฝนตกเม่าฝนตก
             และนี่คือที่มาของคำว่าเฟลของเรา "เฟล เพราะรู้สึกว่าเราเป็นตัวละครตัวนั้นเอง" นั่นหมายความว่า "ฉากนี้ทำออกมาได้สมบูรณ์แบบ"           องค์ประกอบทุกอย่างมันประจวบเหมาะกันพอดี บวกกับการปูเรื่องราวความสัมพันธ์ของตัวละครตั้งแต่ตอนต้น มาจนถึงตอนนี้ ว่าพวกเขาไปเจออะไรมา   เคยทำอะไรมา "เหตุที่มันส่งผลจนทำให้มาถึงจุดเปลี่ยนตรงนี้" รวมไปถึงการส่งอารมณ์กันของนักแสดง (ซึ่งเราจะพูดในข้อต่อๆไป)


4.เกรท วิรินทร-แมท ภีรนีย์  : อาปูรณ์ - วีว่า

                  
ขอพูดถึงพระนางก่อนนะคะ เรื่องนี้เป็นการโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้งของทั้งคู่ แต่ก็นับได้ว่าเป็นคู่ที่เข้าขากันมากๆในเรื่องของการแสดงด้วยกันก็ไม่ต้องพูดถึงเก่งทั้งคู้อยู่แล้ว อาจจะเป็นเพราะส่วนตัวสนิทกันด้วย และร่วมงานกันมาค่อนข้างหลายเรื่อง น่าจะรู้จักหวะในการเล่นของกันและกันดี พี่เกรทเรื่องนี้ดูหล่อขึ้น ด้วยบุคลิกของอาปูรณ์ที่ดูสมาร์ท เป็นผู้ใหญ่เพราะต้องจัดการบริหารงานหลายๆอย่างของตระกูลวรรณะดำรง ซึ่งดูเชื่อได้สำหรับพี่เกรทในบทของอาปูรณ์ สำหรับพี่แมท เป็นคนที่แสดงแนววีนเหวี่ยงได้ดีอยู่แล้ว แต่ในเรื่องนี้ไม่ใช่การวีนเพราะความงี่เง่าเอาแต่ใจตัวเอง เหมือนเรื่องก่อนๆ แต่เหวี่ยงเพราะต้องรักษาสิทธิ์และศักดิ์ศรีของตัวเอง เหวี่ยงเพราะถูกปลูกฝังจากคุณย่า เหมือนที่ทำกับอาปูรณ์ มันจะเป็นการเหวี่ยงที่ดูโตและมีวุฒิภาวะ ยิ่งทะนงในศักดิ์ศรี มีเหตุมีผล แต่เมื่อได้รู้ความจริงว่าอะไรเป็นอะไร วีว่าก็เป็นผู้หญิงที่น่ารักมากๆคนนึง ฉากกุ๊กกิ๊กนี่เล่นเอาคนดูละลายกันไปตามๆกัน "ชื่นชมว่าพี่ๆทั้งคู่เป็นนักแสดงที่เก่งมากๆค่ะ"


5. อาเล็ก ธีรเดช - ก้อย รัชวิน : ลาภิศ หรือ ลม - มุกริน

               
ขอพูดกันแบบยาวๆเลยนะคะ เพราะมันต่อยอดจากข้อที่ 3 ขอพูดถึงพี่ก้อยก่อนนะคะ เราก็รู้จักพี่ก้อย จากการแสดงหนัง ซึ่งดังและขึ้นชื่อเรื่องการแสดงอยู่แล้ว ดังนั้นไม่แปลกใจที่พี่ก้อยสามารถรับบทมุกรินได้ เพราะตัวละครมุกรินเป็นคนที่ผ่านอะไรมาเยอะมาก จนถึงมีประสบการณ์ถึงขนาดเคยทำแท้งมาแล้ว ดังนั้นก็ต้องแบกรับกับความเจ็บปวดนั้นไว้มากพอสมควร พอมันถึงจุดที่มันทนไม่ไหวก็ระเบิดออกมาหมด ทั้งอารมณ์และคำพูด
เหมือนฉากนี้


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ทั้งคู่รับส่งอารมณ์กันได้ดีมาก


         
มาในส่วนของ พี่อาเล็ก ที่รับบทเป็น ลม กันบ้างนะคะ ส่วนตัวเราชอบ ตัวละครลาภิศนะ (อันนี้ไม่ได้อวยนักแสดงนะคะ) แค่ชอบบทที่มันดูเป็นมุนษย์ดี มันมีทั้งด้านมืดและด้านสว่าง คนเรามันก็เคยทำเรื่องผิดพลาดกันมาแล้วทั้งนั้น ซึ่งพวกเราอาจจะคุ้นเคยกับบทส่วนใหญ่ที่พี่อาเล็กเล่น จะเป็นคนดี ขี้เล่น จะมีที่แหวกไปนิดๆก็คือ บทพัชระ ในทรายสีเพลิง แต่เรื่องนี้จะค่อนข้างแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งมากกว่าว่าร้าย แต่ร้ายเพราะอะไร ร้ายเพราะ "เขารักแม่ของเขามาก มากจนยอมทำทุกอย่างเพื่อแม่ได้ แม้ว่าตัวเขาเองจะต้องเจ็บปวด" ซึ่งพี่อาเล็กแสดงได้ดีมาก เล่นได้เข้าถึงอารมณ์และทำให้คนดูเชื่อได้ว่าคนนี้คือ  ลาภิศ ไม่ใช่ อาเล็ก ทั้งท่าทางการพูดจา ความยียวนกวนประสาท การหว่านเส่นห์แบบเพลย์บอย สายตาอินเนอร์มาเต็ม หรือการระเบิดอารมณ์คนเดียวในรถอย่างฉากนี้


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

                  
  มันเป็นอะไรที่ส่งถึงกันได้มากๆจริงๆ นี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงได้อินและรู้สึกเป็นปวดมากๆ กับความรักของมุกรินกับลม ในฉากที่เล่าไว้ในข้อ 3 "เพราะอินเนอร์ทางการแสดงของทั้งคู่มันเยอะมาก จนเรารู้สึกได้" "และขอบอกว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่ใครๆก็ทำได้" "ขอชื่นชมที่พวกคุณทำได้    พวกคุณคือ... นักแสดง"เยี่ยมเยี่ยมเยี่ยมนานาเยี่ยมนานาเยี่ยมนานาเยี่ยมนานาเยี่ยมนานาเก่งนานาเก่ง


                  
สาวแว่น  วันนี้ขอพูดเท่านี้ก่อนละกันค่ะ เอาไว้ตอนไหนที่รู้สึกมันใช่จริงๆจะมาแชร์ให้อ่านกันอีกนะคะ
                                    ขอบคุณสำหรับคนที่อ่านมาจนจบนะคะ ใครที่ดู Ep. ล่าสุดแล้ว รู้สึกยังไงกันบ้างก็มาแชร์ความรู้สึกกันนะคะ
                                                สุดท้ายนี้ขอบคุณเจ้าของคลิปแล้วภาพที่เอามาใช้ประกอบกระทู้นะคะสาวแว่น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่