ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยนะคับว่า
1. กระทู้นี้เป็น
"กระทู้รีวิวครั้งแรกในชีวิต" ไม่เคยเขียนอะไรแบบนี้เลย ที่เขียนเพราะอยากแชร์ประสบการณ์ที่ได้ไปเที่ยวมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันบ้าง อาจจะมีผิดพลาดบ้าง งงๆบ้าง ยังไงต้องขออภัยด้วย
2. รูปประกอบ ถ่ายจาก iPhone 5S แล้วบีบขนาดให้เล็กลงเพื่อที่จะโพสต์ลงในนี้ได้ แล้วก็ไม่แต่งรูปด้วย อาจจะไม่ชัดมากและก็ไม่สวยมาก เพราะอยากให้เห็นบรรยากาศจริงๆที่ได้ไปถ่ายมา
3. ทริปนี้ไม่เน้นอาหารการกิน จะเน้นการไปพักผ่อนมากกว่า
4. ทริปนี้ไม่เน้นว่าต้องประหยัด คืออยากซื้ออะไรก็ซื้อ อยากกินอะไรก็กิน อยากไปไหนก็ไป ไม่เน้นประหยัดแต่ก็ไม่ลำบากจนเกินไป
5. ผมโสด และไปเที่ยวคนเดียว
เริ่มเลยแล้วกันนะคับ
ตื่นมาเช้าวันเสาร์ที่ 5 กันยา 58 เป็นวันหยุดที่ว่างมาก ไม่มีอะไรทำ เลยคิดจะออกไปเที่ยว อยู่แต่ในห้อง น่าเบื่อจะตาย
นั่งคิดอยู่พักใหญ่ว่าจะออกไปไหนดี ก็นึกถึง
" บ า ง ก ร ะ เ จ้ า " ขึ้นมา เลยหากระทู้รีวิวในเน็ตนั่งอ่านไปเรื่อยๆ
ผมเป็นคนที่จะต้องศึกษาข้อมูลก่อน ว่าเดินทางไปยังไง มีที่เที่ยวที่ไหนน่าสนใจ มีร้านอาหารไหนเด็ดๆ ไม่ใช่แนวไปลุยเอาข้างหน้านะคับ
วางแผนชีวิตวันนี้เรียบร้อย ก็รีบอาบน้ำแต่งตัว ออกจากหอทันที
จุดเริ่มต้นคือ "BTS หมอชิต" เพราะสะดวกที่สุดแล้ว ปลายทางคือ "BTS บางนา"
คนค่อนข้างเยอะ ต่อแถวซักพักก็ได้บัตรโดยสารมา 52 บาท
ใช้เวลาประมาณ 35 นาที ก็มาถึง BTS บางนา
จากนั้นก็ลง BTS ทางออกที่ 1 แล้วก็เดินหาวินมอไซค์คับ ตอนที่ผมไปถึง วินตรงบันไดทางลงหายเกลี้ยง ไม่รู้ไปไหนกันหมด เลยต้องเดินไปทางสี่แยกบางนา จนเจอพี่วิน ก็บอกแกเลยว่าไป "วัดบางนานอก" ค่าบริการ 20 บาท พี่วินก็จะขับไปทางกรมสรรพาวุธทหารเรือจนสุดทาง จะเจอวัด
วัดนี้คนเยอะเหมือนกัน มีคนมาทำบุญตลอด แต่เราไม่ได้มาทำบุญ เรามาขึ้นเรือที่นี่คับ
เดินมารอที่ท่าเรือเลย จะอยู่ข้างๆวัด มีป้ายสีเหลืองเล็กๆเขียนว่า "ท่าเรือ ไปตลาดบางน้ำผึ้ง"
สังเกตว่าจะมีทั้งคนทั้งมอไซค์รอขึ้นเรืออยู่
ที่นี่ นอกจากจะมีคนลงเรือข้ามฟากแล้ว ยังมีรถมอไซค์ที่ลงเรือข้ามฟากด้วย เป็นเอกลักษณ์ดี ไม่เหมือนใคร
ก่อนที่เรือจะข้ามฟาก ก็มีเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่(มาก) ขับผ่านไป
ทั้งคนทั้งรถ อยู่กันบนเรือแบบหนาแน่นพอสมควร
แปบเดียวก็มาถึง"ท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก" ค่าโดยสาร 4 บาท จ่ายบนฝั่งนะคับ
ที่วัดนี้ก็มีท่าน้ำไว้นั่งพักผ่อน บรรยากาศแบบชิวมาก เกือบหลับ ฮ่าๆๆ นอกจากนี้ก็มีจุดเช่าจักรยาน"อ๊อดตู้โค้ก" ค่าเช่าก็มี 2 แบบ คิดเป็นชั่วโมงก็ชม.ละ 30 บาท คิดเป็นวันก็วันละ 80 บาท แล้วก็จะแถมแผนที่ท่องเที่ยวบางกะเจ้าด้วย 1 แผ่น หรือถ้าไม่อยากปั่นจักรยาน ก็มีพี่วินมอไซค์ (ใส่เสื้อวินสีเหลือง) ไว้คอยบริการรับส่งถึงที่
นี่แผนที่คับ
หลังจากนั่งชิว กินบรรยากาศที่วัดอยู่พักใหญ่ ก็จัดการเช่าจักรยานมา 1 คัน โดยทิ้งบัตรประชาชนไว้ ตอนเอาจักรยานมาคืน ค่อยจ่ายค่าเช่า
เสร็จแล้วก็มุ่งไปที่ร้านกาแฟ"กาแฟในบ้าน"ก่อนเลย ที่หลายกระทู้มาเยือนบ่อยๆ ไหนๆก็มาถึงที่แล้ว และผมเองก็ชอบกินกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ก็ต้องมาโดนซักแก้ว
เส้นทางหลังจากปั่นออกมาจากวัด ก็จะมีสภาพประมาณนี้ ถนนคอนกรีต สองข้างทางเป็นป่าบ้าง บ้านคนบ้าง สลับกันไป
แนะนำว่าให้ระวังรถใหญ่ ทั้งมอไซค์ ทั้งรถยนต์ เพราะมีค่อนข้างเยอะ แล้วก็ขับกันเร็วพอสมควร
ปั่นมาประมาณ 15 นาที (ปั่นช้านะคับ) ก็มาถึงร้าน"กาแฟในบ้าน" เป็นร้านเล็กๆแต่ลูกค้าเยอะ อยู่ริมถนนเพชรหึงษ์ มาถึงแล้วก็มองหาเมนูประจำร้าน ก็ไปเจอเมนู"กาแฟในบ้าน" เหมือนชื่อร้านเลย เป็นกาแฟผสมชาเขียว (เพิ่งจะเคยกินครั้งแรกในชีวิต) รสชาติใช้ได้ อร่อยกำลังดีเลย ราคา 40 บาท เมนูในร้าน ราคาจะอยู่ที่ 20-50 บาท ผมว่าก็ไม่แพงนะเมื่อเทียบกับรสชาติและบรรยากาศ
เสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางต่อ ผมเลือกไปที่"วัดบางกระเจ้านอก" ทำไมน่ะหรอ ? เพราะชาวบ้านเค้าไม่ไปกันน่ะสิคับ ฮ่าๆๆ
พอไปถึงก็ เป็นวัดที่เงียบมากๆ ไม่มีตลาด ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว ถ้าอยากอยู่เงียบๆสงบๆก็แนะนำที่นี่
วัดบางกระเจ้านอกมีอนุสาวรีย์ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ด้วยนะ
เสร็จแล้วก็ลุยกันต่อ เลือกลุยที่"สวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์" Landmark ของที่นี่ ซึ่งทางเข้าก็ค่อนข้างลึก กว่าจะถึงเล่นเอาหอบแฮกๆ
ลักษณะของสวนสาธารณะแห่งนี้ก็จะคล้ายๆกับสวนจตุจักร หรือสวนหลวง ร.9 แต่เจ๋งกว่าตรงที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบกว่าเยอะ แล้วก็มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติอยู่หลายจุด นอกจากนี้ก็มีครอบครัว เพื่อนฝูง คู่รัก มานอนพักผ่อนบริเวณสนามหญ้าด้วย บางกลุ่มถึงกับเอาเสื่อมาปูนอนกันเลยทีเดียว
ระหว่างที่ลงไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ก็เจอ"ตัวเงินตัวทอง" ว่ายน้ำป๋อมแป๋มด้วย
ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีนะ เพราะเค้าว่ากันว่าถ้าป่าไหนมีตัวเงินตัวทอง ถือว่าระบบนิเวศที่นั่นสมบูรณ์มาก
ไม่รู้จะบรรยายยังไง เอาภาพไปดูแทนแล้วกันนะคับ
ผมใช้เวลากับสวนแห่งนี้เกือบชั่วโมง เพราะมันชิวมากกกกกกกกกกกกกกกกก
เสร็จแล้วก็ลุยต่อ เริ่มหิวแล้ว เลยเลือกจะไป"ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง" อยู่ติดกับ"วัดบางน้ำผึ้งใน"
คือเจ็บใจตัวเองมาก เพราะไปถึงตอน 4 โมงเย็น ซึ่งร้านค้าบางส่วนทยอยเก็บร้านแล้ว T^T แต่ส่วนใหญ่ก็ยังขายกันอยู่ สินค้าส่วนใหญ่ก็จะเหมือนตลาดน้ำอื่นๆ แต่ที่ชอบคือแม่ค้าพ่อค้าที่นี่ เกือบทุกคนจะใส่เสื้อสีเดียวกัน เป็นทีม (สีม่วง) แสดงให้เห็นว่าชุมชนที่นี่เข้มแข็ง มีความรักสามัคคีกันมากพอสมควร
อย่างที่บอกไปแล้วว่าร้านค้าบางส่วนทยอยเก็บร้าน ประกอบกับหิวมาก ดาหน้าเดินหาของกินอย่างเดียว เลยไม่ได้ถ่ายรูปร้านค้าหรือขนมอะไรมาให้ดูกันเลย ต้องขออภัยด้วยคับ -/\-
เดินหาของกินไปพักนึง ก็มาสะดุดตากับร้าน"เรือนนมสด" เป็นบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ อยู่ตรงข้ามกับอบต.บางน้ำผึ้ง ออกแนวคลาสสิคย้อนยุคนะ อย่างที่บอกแล้วว่าเป็นเรือนไทย ลูกค้าเยอะเหมือนกัน คือในร้านจะขายเมี่ยงคำ เป็นถาดๆ ชุดละ 20 กับ 30 บาท แล้วก็มีชา กาแฟ ขายด้วย ก็เข้าไปอุดหนุนกาแฟทันที ไม่ได้กินเมี่ยงหรอกคับ (มีแต่รูปร้านนะคับ ไม่มีรูปของกินอีกแล้ว ต้องขออภัยอีกรอบ)
อิ่มท้องแล้วก็ดูนาฬิกา น่าจะได้เวลากลับแล้ว ก็ปั่นจักรยานกลับมาที่เดิม วัดบางน้ำผึ้งนอก
คืนจักรยาน จ่ายค่าเช่าจักรยาน 80 บาท (เช่าทั้งวัน) (จริงๆแค่ 3 ชั่วโมง) เรียบร้อย ก็เข้าไปทำบุญไหว้พระซักหน่อย แล้วก็ไปนั่งเสพบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกรอบ
เหลือบไปเห็นเด็กๆกระโดดแม่น้ำเจ้าพระยาเล่นกันสนุกสนาน เลยถ่ายรูปซักหน่อย
ระหว่างนั่งชิวอยู่ เรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่(มาก) ก็ผ่านมาอีกลำ
แล้วก็ถึงเวลากลับ เดินไปลงเรือที่ท่าเดิม จ่ายค่าโดยสาร 4 บาท แล้วออกไปนั่งรอเรือที่โป๊ะ พักใหญ่ๆเรือก็มา
ลงเรือเรียบร้อย พอเรือออกก็หยิบมือถือมาถ่ายรูป ถ่ายได้รูปเดียว แบตหมด
เป็นอันจบ Half day trip บางกระเจ้าของผม อย่างที่บอกว่าผมไม่เน้นเรื่องอาหารการกินนะ อยากมาเสพบรรยากาศมากกว่า
ส่วนตัว สนับสนุนการมาเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติแบบนี้ นอกจากเราจะไม่ทำลายธรรมชาติแล้ว ยังเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน ให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมด้วย
จริงๆยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่ผมไม่ได้ไป เนื่องด้วยเรื่องเวลาและความอยากไป เช่น พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย สวนไม้ดอกไม้ประดับ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เป็นต้น
อาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจประการใด ก็ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบ แล้วก็ขออภัยหากมีข้อผิดพลาดด้วยนะคับ
ข้อแนะนำ
1. ถ้าคิดจะมาปั่นจักรยาน ควรพกหมวก หรือเสื้อแขนยาว หรือปลกแขน และทาครีมกันแดดมาด้วย เพราะแดดร้อน ผมนี่ดำปี๋ แขนสองสีเลย
2. ถ้าคิดจะมาเพื่อลุยหาของกิน แนะนำว่าให้เตรียมเงินมาเยอะหน่อย เพราะตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ของกินเยอะมากกกกกกกกกกกกก
3. อยากให้มาปั่นจักรยานมากกว่าขับรถยนต์มา เพราะที่นี่เค้ารณรงค์ให้ปั่นจักรยานเที่ยว นอกจากจะช่วยลดมลพิษ ไม่รบกวนชาวบ้านแล้ว ยังได้ออกกำลังกายด้วย (อย่างที่เค้าบอกว่าที่นี่เป็น"ปอดของกรุงเทพ" ใครๆก็ต้องอยากมาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่นี่ จริงมั้ย ??) แต่ถ้าจะขับรถส่วนตัวมาก็ได้ ที่นี่มีจุดจอดรถไว้ให้บริการอยู่เยอะพอสมควร โดยเฉพาะบริเวณตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
4. มาเที่ยวแบบสร้างสรรค์ ไม่ทำลายธรรมชาติ ไม่ทิ้งขยะ ไม่เสียงดังรบกวนคนอื่น
[CR] (Review) ครึ่งวัน พาเที่ยว " บ า ง ก ร ะ เ จ้ า " แบบอินดี้
1. กระทู้นี้เป็น"กระทู้รีวิวครั้งแรกในชีวิต" ไม่เคยเขียนอะไรแบบนี้เลย ที่เขียนเพราะอยากแชร์ประสบการณ์ที่ได้ไปเที่ยวมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันบ้าง อาจจะมีผิดพลาดบ้าง งงๆบ้าง ยังไงต้องขออภัยด้วย
2. รูปประกอบ ถ่ายจาก iPhone 5S แล้วบีบขนาดให้เล็กลงเพื่อที่จะโพสต์ลงในนี้ได้ แล้วก็ไม่แต่งรูปด้วย อาจจะไม่ชัดมากและก็ไม่สวยมาก เพราะอยากให้เห็นบรรยากาศจริงๆที่ได้ไปถ่ายมา
3. ทริปนี้ไม่เน้นอาหารการกิน จะเน้นการไปพักผ่อนมากกว่า
4. ทริปนี้ไม่เน้นว่าต้องประหยัด คืออยากซื้ออะไรก็ซื้อ อยากกินอะไรก็กิน อยากไปไหนก็ไป ไม่เน้นประหยัดแต่ก็ไม่ลำบากจนเกินไป
5. ผมโสด และไปเที่ยวคนเดียว
เริ่มเลยแล้วกันนะคับ
ตื่นมาเช้าวันเสาร์ที่ 5 กันยา 58 เป็นวันหยุดที่ว่างมาก ไม่มีอะไรทำ เลยคิดจะออกไปเที่ยว อยู่แต่ในห้อง น่าเบื่อจะตาย
นั่งคิดอยู่พักใหญ่ว่าจะออกไปไหนดี ก็นึกถึง " บ า ง ก ร ะ เ จ้ า " ขึ้นมา เลยหากระทู้รีวิวในเน็ตนั่งอ่านไปเรื่อยๆ
ผมเป็นคนที่จะต้องศึกษาข้อมูลก่อน ว่าเดินทางไปยังไง มีที่เที่ยวที่ไหนน่าสนใจ มีร้านอาหารไหนเด็ดๆ ไม่ใช่แนวไปลุยเอาข้างหน้านะคับ
วางแผนชีวิตวันนี้เรียบร้อย ก็รีบอาบน้ำแต่งตัว ออกจากหอทันที
จุดเริ่มต้นคือ "BTS หมอชิต" เพราะสะดวกที่สุดแล้ว ปลายทางคือ "BTS บางนา"
คนค่อนข้างเยอะ ต่อแถวซักพักก็ได้บัตรโดยสารมา 52 บาท
ใช้เวลาประมาณ 35 นาที ก็มาถึง BTS บางนา
จากนั้นก็ลง BTS ทางออกที่ 1 แล้วก็เดินหาวินมอไซค์คับ ตอนที่ผมไปถึง วินตรงบันไดทางลงหายเกลี้ยง ไม่รู้ไปไหนกันหมด เลยต้องเดินไปทางสี่แยกบางนา จนเจอพี่วิน ก็บอกแกเลยว่าไป "วัดบางนานอก" ค่าบริการ 20 บาท พี่วินก็จะขับไปทางกรมสรรพาวุธทหารเรือจนสุดทาง จะเจอวัด
วัดนี้คนเยอะเหมือนกัน มีคนมาทำบุญตลอด แต่เราไม่ได้มาทำบุญ เรามาขึ้นเรือที่นี่คับ
เดินมารอที่ท่าเรือเลย จะอยู่ข้างๆวัด มีป้ายสีเหลืองเล็กๆเขียนว่า "ท่าเรือ ไปตลาดบางน้ำผึ้ง"
สังเกตว่าจะมีทั้งคนทั้งมอไซค์รอขึ้นเรืออยู่
ที่นี่ นอกจากจะมีคนลงเรือข้ามฟากแล้ว ยังมีรถมอไซค์ที่ลงเรือข้ามฟากด้วย เป็นเอกลักษณ์ดี ไม่เหมือนใคร
ก่อนที่เรือจะข้ามฟาก ก็มีเรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่(มาก) ขับผ่านไป
ทั้งคนทั้งรถ อยู่กันบนเรือแบบหนาแน่นพอสมควร
แปบเดียวก็มาถึง"ท่าเรือวัดบางน้ำผึ้งนอก" ค่าโดยสาร 4 บาท จ่ายบนฝั่งนะคับ
ที่วัดนี้ก็มีท่าน้ำไว้นั่งพักผ่อน บรรยากาศแบบชิวมาก เกือบหลับ ฮ่าๆๆ นอกจากนี้ก็มีจุดเช่าจักรยาน"อ๊อดตู้โค้ก" ค่าเช่าก็มี 2 แบบ คิดเป็นชั่วโมงก็ชม.ละ 30 บาท คิดเป็นวันก็วันละ 80 บาท แล้วก็จะแถมแผนที่ท่องเที่ยวบางกะเจ้าด้วย 1 แผ่น หรือถ้าไม่อยากปั่นจักรยาน ก็มีพี่วินมอไซค์ (ใส่เสื้อวินสีเหลือง) ไว้คอยบริการรับส่งถึงที่
นี่แผนที่คับ
หลังจากนั่งชิว กินบรรยากาศที่วัดอยู่พักใหญ่ ก็จัดการเช่าจักรยานมา 1 คัน โดยทิ้งบัตรประชาชนไว้ ตอนเอาจักรยานมาคืน ค่อยจ่ายค่าเช่า
เสร็จแล้วก็มุ่งไปที่ร้านกาแฟ"กาแฟในบ้าน"ก่อนเลย ที่หลายกระทู้มาเยือนบ่อยๆ ไหนๆก็มาถึงที่แล้ว และผมเองก็ชอบกินกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ ก็ต้องมาโดนซักแก้ว
เส้นทางหลังจากปั่นออกมาจากวัด ก็จะมีสภาพประมาณนี้ ถนนคอนกรีต สองข้างทางเป็นป่าบ้าง บ้านคนบ้าง สลับกันไป
แนะนำว่าให้ระวังรถใหญ่ ทั้งมอไซค์ ทั้งรถยนต์ เพราะมีค่อนข้างเยอะ แล้วก็ขับกันเร็วพอสมควร
ปั่นมาประมาณ 15 นาที (ปั่นช้านะคับ) ก็มาถึงร้าน"กาแฟในบ้าน" เป็นร้านเล็กๆแต่ลูกค้าเยอะ อยู่ริมถนนเพชรหึงษ์ มาถึงแล้วก็มองหาเมนูประจำร้าน ก็ไปเจอเมนู"กาแฟในบ้าน" เหมือนชื่อร้านเลย เป็นกาแฟผสมชาเขียว (เพิ่งจะเคยกินครั้งแรกในชีวิต) รสชาติใช้ได้ อร่อยกำลังดีเลย ราคา 40 บาท เมนูในร้าน ราคาจะอยู่ที่ 20-50 บาท ผมว่าก็ไม่แพงนะเมื่อเทียบกับรสชาติและบรรยากาศ
เสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางต่อ ผมเลือกไปที่"วัดบางกระเจ้านอก" ทำไมน่ะหรอ ? เพราะชาวบ้านเค้าไม่ไปกันน่ะสิคับ ฮ่าๆๆ
พอไปถึงก็ เป็นวัดที่เงียบมากๆ ไม่มีตลาด ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว ถ้าอยากอยู่เงียบๆสงบๆก็แนะนำที่นี่
วัดบางกระเจ้านอกมีอนุสาวรีย์ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ด้วยนะ
เสร็จแล้วก็ลุยกันต่อ เลือกลุยที่"สวนสาธารณะศรีนครเขื่อนขันธ์" Landmark ของที่นี่ ซึ่งทางเข้าก็ค่อนข้างลึก กว่าจะถึงเล่นเอาหอบแฮกๆ
ลักษณะของสวนสาธารณะแห่งนี้ก็จะคล้ายๆกับสวนจตุจักร หรือสวนหลวง ร.9 แต่เจ๋งกว่าตรงที่นี่ค่อนข้างเงียบสงบกว่าเยอะ แล้วก็มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติอยู่หลายจุด นอกจากนี้ก็มีครอบครัว เพื่อนฝูง คู่รัก มานอนพักผ่อนบริเวณสนามหญ้าด้วย บางกลุ่มถึงกับเอาเสื่อมาปูนอนกันเลยทีเดียว
ระหว่างที่ลงไปเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ก็เจอ"ตัวเงินตัวทอง" ว่ายน้ำป๋อมแป๋มด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีนะ เพราะเค้าว่ากันว่าถ้าป่าไหนมีตัวเงินตัวทอง ถือว่าระบบนิเวศที่นั่นสมบูรณ์มาก
ไม่รู้จะบรรยายยังไง เอาภาพไปดูแทนแล้วกันนะคับ
ผมใช้เวลากับสวนแห่งนี้เกือบชั่วโมง เพราะมันชิวมากกกกกกกกกกกกกกกกก
เสร็จแล้วก็ลุยต่อ เริ่มหิวแล้ว เลยเลือกจะไป"ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง" อยู่ติดกับ"วัดบางน้ำผึ้งใน"
คือเจ็บใจตัวเองมาก เพราะไปถึงตอน 4 โมงเย็น ซึ่งร้านค้าบางส่วนทยอยเก็บร้านแล้ว T^T แต่ส่วนใหญ่ก็ยังขายกันอยู่ สินค้าส่วนใหญ่ก็จะเหมือนตลาดน้ำอื่นๆ แต่ที่ชอบคือแม่ค้าพ่อค้าที่นี่ เกือบทุกคนจะใส่เสื้อสีเดียวกัน เป็นทีม (สีม่วง) แสดงให้เห็นว่าชุมชนที่นี่เข้มแข็ง มีความรักสามัคคีกันมากพอสมควร
อย่างที่บอกไปแล้วว่าร้านค้าบางส่วนทยอยเก็บร้าน ประกอบกับหิวมาก ดาหน้าเดินหาของกินอย่างเดียว เลยไม่ได้ถ่ายรูปร้านค้าหรือขนมอะไรมาให้ดูกันเลย ต้องขออภัยด้วยคับ -/\-
เดินหาของกินไปพักนึง ก็มาสะดุดตากับร้าน"เรือนนมสด" เป็นบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ อยู่ตรงข้ามกับอบต.บางน้ำผึ้ง ออกแนวคลาสสิคย้อนยุคนะ อย่างที่บอกแล้วว่าเป็นเรือนไทย ลูกค้าเยอะเหมือนกัน คือในร้านจะขายเมี่ยงคำ เป็นถาดๆ ชุดละ 20 กับ 30 บาท แล้วก็มีชา กาแฟ ขายด้วย ก็เข้าไปอุดหนุนกาแฟทันที ไม่ได้กินเมี่ยงหรอกคับ (มีแต่รูปร้านนะคับ ไม่มีรูปของกินอีกแล้ว ต้องขออภัยอีกรอบ)
อิ่มท้องแล้วก็ดูนาฬิกา น่าจะได้เวลากลับแล้ว ก็ปั่นจักรยานกลับมาที่เดิม วัดบางน้ำผึ้งนอก
คืนจักรยาน จ่ายค่าเช่าจักรยาน 80 บาท (เช่าทั้งวัน) (จริงๆแค่ 3 ชั่วโมง) เรียบร้อย ก็เข้าไปทำบุญไหว้พระซักหน่อย แล้วก็ไปนั่งเสพบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกรอบ
เหลือบไปเห็นเด็กๆกระโดดแม่น้ำเจ้าพระยาเล่นกันสนุกสนาน เลยถ่ายรูปซักหน่อย
ระหว่างนั่งชิวอยู่ เรือขนส่งสินค้าขนาดใหญ่(มาก) ก็ผ่านมาอีกลำ
แล้วก็ถึงเวลากลับ เดินไปลงเรือที่ท่าเดิม จ่ายค่าโดยสาร 4 บาท แล้วออกไปนั่งรอเรือที่โป๊ะ พักใหญ่ๆเรือก็มา
ลงเรือเรียบร้อย พอเรือออกก็หยิบมือถือมาถ่ายรูป ถ่ายได้รูปเดียว แบตหมด
เป็นอันจบ Half day trip บางกระเจ้าของผม อย่างที่บอกว่าผมไม่เน้นเรื่องอาหารการกินนะ อยากมาเสพบรรยากาศมากกว่า
ส่วนตัว สนับสนุนการมาเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติแบบนี้ นอกจากเราจะไม่ทำลายธรรมชาติแล้ว ยังเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน ให้ชาวบ้านมีรายได้เสริมด้วย
จริงๆยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่งที่ผมไม่ได้ไป เนื่องด้วยเรื่องเวลาและความอยากไป เช่น พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย สวนไม้ดอกไม้ประดับ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เป็นต้น
อาจจะถูกใจหรือไม่ถูกใจประการใด ก็ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบ แล้วก็ขออภัยหากมีข้อผิดพลาดด้วยนะคับ
ข้อแนะนำ
1. ถ้าคิดจะมาปั่นจักรยาน ควรพกหมวก หรือเสื้อแขนยาว หรือปลกแขน และทาครีมกันแดดมาด้วย เพราะแดดร้อน ผมนี่ดำปี๋ แขนสองสีเลย
2. ถ้าคิดจะมาเพื่อลุยหาของกิน แนะนำว่าให้เตรียมเงินมาเยอะหน่อย เพราะตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ของกินเยอะมากกกกกกกกกกกกก
3. อยากให้มาปั่นจักรยานมากกว่าขับรถยนต์มา เพราะที่นี่เค้ารณรงค์ให้ปั่นจักรยานเที่ยว นอกจากจะช่วยลดมลพิษ ไม่รบกวนชาวบ้านแล้ว ยังได้ออกกำลังกายด้วย (อย่างที่เค้าบอกว่าที่นี่เป็น"ปอดของกรุงเทพ" ใครๆก็ต้องอยากมาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่นี่ จริงมั้ย ??) แต่ถ้าจะขับรถส่วนตัวมาก็ได้ ที่นี่มีจุดจอดรถไว้ให้บริการอยู่เยอะพอสมควร โดยเฉพาะบริเวณตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง
4. มาเที่ยวแบบสร้างสรรค์ ไม่ทำลายธรรมชาติ ไม่ทิ้งขยะ ไม่เสียงดังรบกวนคนอื่น
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น