▼△ วันหยุดที่ผ่านมารู้สึกอยากออกไปเที่ยวสูดอากาศซักหน่อย ในหัวคิดว่า...ไปไหนดีว่ะ ! !! อยากไปที่มีต้นไม้ มีดอกไม้ มีแม่น้ำ แต่อยู่ในกรุงเทพฯ ไม่ใช่สวนสาธารณะ? ลองค้นหาใน Google ไปเจอรีวิวเยอะมาก "บางกระเจ้า" พอเข้าไปอ่านดู น่าไปจังเลย มีปั่นจักรยานเที่ยวด้วย แถมไม่ไกลจากที่พักเราอีก งั้นไปที่นี่แหละ
▼△ เริ่มออกเดินทางจากที่พักมุ่งสู่ท่าเรือวัดคลองเตยนอกด้วยรถจักรยานยนต์ ลุยยยยย : ) แต่ถ้าใครไม่สะดวกก็มีรถเมล์มาลงที่ตลาดคลองเตย นั่งวินหรือแท็กซี่ต่อไปที่ท่าเรือวัดคลองเตยนอกก็ได้นะคะ หรือนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ออกทางออกหมายเลข 1 แล้วก็ต่อรถไปท่าเรือวัดคลองเตยนอกได้เช่นกัน เลือกตามแต่สะดวกเนาะ เดินเข้ามาในซอยวัด จะเห็นท่าเรือเลยค่ะ ค่าเรือข้ามฟากคนละ 10 บาท ดี๊ดี ! !! 10 บาทก็ข้ามไปเที่ยวได้แล้ว ><'
▼△ ท่าเรือ นิคือท่าเรือนะนิ 555 น่ากลัวนิดหน่อย กลัวตกน้ำ แต่ก็มันส์ๆ ดี ไม่สนอ่ะใจไปถึงบางกระเจ้าแล้ว ยิ้ม <'
▼△ เรือมาแล้วววววว ! เรือมาแล้ว TT คือเรือไม่มีร่มชูชีพให้หนูเลยง่ะ หนูมองรอบเรือมีแต่คนขับเรือกับผู้โดยสาร แล่นอย่างเร็วข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไป แง่ๆๆ กลัว
กลัวในที่นี่คือว่ายน้ำไม่เป็นนิดิ แต่เอาว่ะมีตั้ง 7 คน ที่นั่งไปด้วยกันรวมคนขับเรือ มาถึงนี่แล้วข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแค่นี้กลัวอะไร สั่นนิดหน่อย 5555
▼△ ถึงใจจะกลัว แต่มือก็รัวชัตเตอร์ เก็บภาพบรรยากาศท่าเรือคลองเตยมาฝาก เรือเยอะมากกกกก : )
▼△ ถึงท่าเรือบางกระเจ้า รู้สึกท้องโล่งงงงงง ! นั่งเรือไม่เกิน 5 นาทีก็ถึงแล้วนะคะไม่ไกลมาก เลยรู้สึกกลัวแค่แปปเดียวไม่ต้องลุ้นนาน 555 ท่าเรือบางกระเจ้าพอน้ำลดลงไป ดูไม่ดีนิดหน่อยเนาะด้านล่างดูรกๆ ไป
▼△ พอมาถึงท่าเรือก็มาต่อคิวเช่ารถจักรยานปั่นกันค่ะ รายละเอียดการเช่ารถจักรยาน 1 ชม. 50 บาท แต่ถ้าเช่าทั้งวัน 100 บาท มัดจำด้วยเงิน 1,000 บาท หรือไม่ก็บัตรประชาชนนะคะ จำได้คราวๆ ประมาณนี้ วันนี้คนเยอะมากจักรยานไม่พอเช่า เรากับน้องยืนคุยกันซักพักแล้วเดินไปหยิบแผนที่ที่โต๊ะ ตรงเช่าจักรยานแล้วเลือกที่จะ "เดิน" ค่ะ
" แผนที่ก็ประมาณนี้นะคะ "
▼△ เริ่มต้นการเดินทางจากท่าเรือบางกระเจ้า มุ่งหน้าสู่พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย เพราะใกล้สุดละตามแผนที่ 555 ถนนที่เดินก็จะเป็นลักษณะแบบนี้ ข้างทางเป็นป่าไม้ มีเสาไฟฟ้า มีบ้านพักของชาวบ้าน ปะปนกันไปค่ะ ไม่น่ากลัวเดินเล่นได้ชิวๆ **ที่วันนี้เลือกเดินเที่ยวได้เพราะไม่มีแดด เดินเล่นสบาย แต่วันที่แดดร้อนๆ พูดได้เลยค่ะไม่ไหวๆ รอจักรยานดีกว่า หรือถ้าขี้เกียจรอก็ให้พี่วินไปส่งแต่ละจุดได้เลยค่ะ : )
▼△ ระหว่างทางเดินจะมีดอกไม้ ต้นไม้ หลากหลายสายพันธุ์ให้ดูให้ชม ถ้าไม่เดินก็ไม่รู้ ไม่เห็นมัน ข้อดีของการเดินเที่ยว คือ ได้เห็นในส่วนที่คนอื่นไม่เห็น ข้อเสียคือ เหนื่อย ก็แค่นั่น
| พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย |
▼△ เดินเข้ามาภายในพิพิธภัณฑ์ โหยยยยย ! !! ร่มรื่นมากเลยค่ะ ลืมเหนื่อยเลย อย่าลืมแวะลงทะเบียนว่ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นะคะ มีตู้รับบริจาคค่าอาหารปลาด้วย ถ้าไม่ลำบากก็ช่วยกันบริจาคด้วยเนาะ ทางพิพิธภัณฑ์จะได้นำเงินไปดูแลน้องปลาทั้งหลาย และนำไปพัฒนาพิพิธภัณฑ์ให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ต่อไปนานแสนนาน : )
▼△ มองไปจะสะดุดตาเลยค่ะ นี่คือ สถาปัตยกรรมเรือนไทยประยุกต์ซึ่งประดิษฐานบูรพกษัตริย์ไทย ๒ พระองค์
▼△ ก่อนไปเที่ยวก็ศึกษาข้อมูลพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทยกันได้ก่อน ตามลิ้งค์...
http://www.fightingfishgallery.com/ ที่พิพิธภัณฑ์จะมีร้านขายกาแฟ ขนมด้วยนะคะ ถ้าเหนื่อยก็แวะพักนั่งจิบชา กาแฟ ดูปลากัดชิลๆ ได้เลย อารมณ์แบบว่า สบายตา สบายใจ สบายกาย : )
▼△ ออกจากพิพิธภัณฑ์เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอป้ายบอกทางเป็นระยะ ว่ากี่กิโลถึงที่ไหน ก็เลือกเลยค่ะจะไปที่ไหนก่อน ปั่นไหวหรือเปล่า ถ้าไม่ไหวก็เที่ยวใกล้ๆ ก่อนละกัน แต่เราต้องถามว่าเดินไหวหรือเปล่าเพราะนี่ก็บ่ายโมงแล้ว หิวแล้ว ไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งก่อนละกัน ของกินต้องเยอะ แต่ แต่ ไกลไปนะ เดินไม่ไหวแน่เลย โบกรถซิค่ะรออะไร แท็กซี่ขับผ่านมาพอดี พี่ค่ะ...ไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งโลดดดดด ! !!
▼△ พี่แท็กซี่ถามว่าจะให้ส่งด้านหน้า หรือเข้าไปในตลาดเลย เราซึ่งไม่รู้และไม่ถาม ตอบไปโดยเร็วว่า..ด้านหน้าก็ได้ค่ะเดี๋ยวเดินเข้าไปเอง ลงหน้าซอย เพชรหึงษ์ 26 นึกว่าเดินไม่ไกล ที่ไหนได้ก็ไกลใช่ย่อย : (
▼△ เส้นทางที่เดิน เดิน และเดินเข้าไปในซอย ท้องก็หิว งกก็งก ถ้าจะโบกรถอีกก็เปลืองตังส์ อีกนิดเดียวก็จะถึง คิดซะว่ามาเดินเล่นออกกำลังกาย หร๊าาาาา..
▼△ ระหว่างทางเดินผ่าน เจออะไรก็ถ่ายไปเรื่อยแหละค่ะ : )
| ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง |
▼△ เดินมาถึงจนได้ เจอป้ายตลาดน้ำบางน้ำผึ้งแล้ว หายเหนื่อยเลย ท้องก็ร้องเต็มที่เหมือนรู้ 555
▼△ เดินข้ามคลองมาฝั่งขวาจะมีร้านอาหาร กาแฟ เก๋ๆ ชิคๆ ให้เรานั่งชิลได้เหมือนกันนะคะ
▼△ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ยินดีตอนรับทุกคนค่ะ พร้อมเดินตะลุยตลาดกันแล้วค่ะ ไป !!!!!!
▼△ เป็นไงกันบ้างคะ ของกินเยอะมาก เน้นๆ ว่าเยอะมากกกกกกก ! !! มาที่นี่ต้องทำท้องให้ว่างนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน เดินผ่านร้านนี้ก็น่ากิน ร้านนี้ก็น่าลอง โอ๊ยยยยย ! ละลานตากันเลยทีเดียวเชียว จุดหนึ่งที่สะดุดตามาก คือพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่จะใส่เสื้อสีม่วง มากันเป็นธีมเลยค่ะ ^^
ที่ตลาดน้ำมีบ่อปลาคาร์ฟให้ดู ให้ชม เยอะมากค่ะ เด็กๆ เล็กๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเราสามารถซื้อนมป้อนใส่ปากให้ปลาคาร์ฟได้ด้วย
▼△ พักเหนื่อยกันที่ร้านส้มตำ จำชื่อร้านไม่ได้ รู้แต่ว่าร้านข้างๆ เป็นร้านขายกาละแม รสชาติส้มตำกลิ่นปลาร้านิอิสานแท้ๆ เด้อ แซ่บหลาย ขนมจีนน้ำยาผสมก็แซ่บค่ะ ราคาก็ไม่แพง
▼△ อิ่มแล้วก็เดินมานั่งเล่นแถวลานดนตรีบางน้ำผึ้ง นั่งฟังเพลงเก่าๆ นักร้องก็คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย และป้าๆ น้า อา ในชุมชนขึ้นมาผลัดกันร้อง อิ่มท้องนั่งฟังเพลงแทบจะหลับได้เลยค่ะ บรรยากาศดีมากเลย เพลงก็เก่าดี ฟังแล้วเห็นถึงความแตกต่างของเพลงในปัจจุบัน
▼△ ที่นี่จะมีลานศิลปะในสวนด้วยนะคะ มีปูนปั้นให้ระบายสี วาดภาพระบายสี จุดนี้จะมีเด็กๆ อยู่กันเยอะเลย และยังมีการขายสินค้าที่เกี่ยวกับศิลปะไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด ถุงผ้า ต่างๆ มากมาย
▼△ เรือนนมสด ซึ่งเป็นเรือนไม้เก่าๆ ที่ไว้ค่อยตอนรับคนที่ผ่านไปผ่านมา มีกาแฟโบราณ เมี่ยงคำให้ชิมฟรี ติดอกติดใจก็สั่งเป็นชุดได้ราคาไม่แพง และของสะสมเก่าแก่มากมาย เดินตลาดจนเมื่อยก็แวะมานั่งเล่นนอนเล่นที่นี่ได้ค่ะ
▼△ เดินเล่นที่ตลาดน้ำ จนพ่อค้าแม่ค้าเริ่มเก็บร้านกันไปหลายร้านแล้ว ได้เวลาไปเที่ยวที่สุดท้ายก่อนจะมืด เรียกพี่วินมา 1 คัน ไปสวนศรีค่ะพี่ ไปกันเลยยย !!!
| สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ |
▼△ ค่าวินจากตลาดน้ำมาถึงสวนศรี 2 คน 60 บาทค่ะ หากขับรถมาเองต้องจอดไว้ข้างนอก หากจะปั่นจักรยานภายในสวนศรีต้องเช่ารถด้านหน้านะคะ ราคาเช่าเท่าไรไม่แน่ใจ เพราะเราไม่ได้เช่า รีบกลับมาก่อนเหมือนฝนจะตก เดินรอบๆ แค่แปปเดียว
แผนผังภายในสวนศรีฯ พูดได้เลยค่ะ ว่า...ใหญ่มากกกกก ! วันหลังต้องมาเช้ากว่านี้จะได้ปั่นจักรยานรอบสวนศรีฯ ให้ครบทุกจุดเลย
▼△ เดินกลับจากสวนศรีฯ มุ่งหน้าสู่ท่าเรือบางกระเจ้า พอมาถึงท่าเรือ ฝั่งนี้จะไม่มีจุดจ่ายเงินค้าโดยสารเรือเหมือนฝั่งนู้นนะคะ ให้จ่ายกับคนขับเรือเลย คนละ 10 บาทเช่นเคย
▼△ ยืนรอเรือกันเป็นคู่ๆ เลยเนาะ เราก็มาเป็นคู่ คู่พี่น้อง : )
▼△ เรือมารับแล้ว เย้ !!! ได้ลุ้นอีกแล้วตอนนั่งเรือกลับ ท่องนะโม นะโม ไว้ในใจ
▼△ ภาพวิวฝั่งกรุงเทพฯ ช่างแตกต่างจากฝั่งบางกระเจ้าเหลือเกิน ต้นไม้สีเขียวไม่เห็นเลย อยากให้รักษาฝั่งบางกระเจ้าไว้เป็นปอดของคนกรุงเทพฯ ไปนานๆ เนาะ
▼△ ใกล้ถึงท่าเรือแล้ว มองเห็นวัดคลองเตยนอก ตั้งเด่นเป็นสง่าเลย ><'
▼△ แบ่งปันแผนที่ของบางกระเจ้าเอาไว้ เผื่อใครไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนในวันหยุดแนะนำให้ไปปั่นจักรยานเล่นที่บางกระเจ้านะคะ หรือใครที่กำลังจะไปก็วางแผนดีๆ นะว่าจะไปที่ไหนบ้าง ไปอย่างไร ไปกี่โมงดี จะได้เที่ยวให้ได้เยอะๆ ให้คุ้มเนาะ
จบไปอีกแล้วกับ One Day Trip ของเรา รอบหน้าจะไปเที่ยวที่ไหนจะมารีวิวให้อ่าน ติชมกันได้นะคะ หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วย ขอบคุณค่ะ : )
[CR] นั่งเรือข้ามฝั่ง ไปเดินเล่น สูดโอโซน ที่ " บางกระเจ้า "
▼△ เริ่มออกเดินทางจากที่พักมุ่งสู่ท่าเรือวัดคลองเตยนอกด้วยรถจักรยานยนต์ ลุยยยยย : ) แต่ถ้าใครไม่สะดวกก็มีรถเมล์มาลงที่ตลาดคลองเตย นั่งวินหรือแท็กซี่ต่อไปที่ท่าเรือวัดคลองเตยนอกก็ได้นะคะ หรือนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงสถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ออกทางออกหมายเลข 1 แล้วก็ต่อรถไปท่าเรือวัดคลองเตยนอกได้เช่นกัน เลือกตามแต่สะดวกเนาะ เดินเข้ามาในซอยวัด จะเห็นท่าเรือเลยค่ะ ค่าเรือข้ามฟากคนละ 10 บาท ดี๊ดี ! !! 10 บาทก็ข้ามไปเที่ยวได้แล้ว ><'
▼△ ท่าเรือ นิคือท่าเรือนะนิ 555 น่ากลัวนิดหน่อย กลัวตกน้ำ แต่ก็มันส์ๆ ดี ไม่สนอ่ะใจไปถึงบางกระเจ้าแล้ว ยิ้ม <'
▼△ เรือมาแล้วววววว ! เรือมาแล้ว TT คือเรือไม่มีร่มชูชีพให้หนูเลยง่ะ หนูมองรอบเรือมีแต่คนขับเรือกับผู้โดยสาร แล่นอย่างเร็วข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไป แง่ๆๆ กลัว กลัวในที่นี่คือว่ายน้ำไม่เป็นนิดิ แต่เอาว่ะมีตั้ง 7 คน ที่นั่งไปด้วยกันรวมคนขับเรือ มาถึงนี่แล้วข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแค่นี้กลัวอะไร สั่นนิดหน่อย 5555
▼△ ถึงใจจะกลัว แต่มือก็รัวชัตเตอร์ เก็บภาพบรรยากาศท่าเรือคลองเตยมาฝาก เรือเยอะมากกกกก : )
▼△ ถึงท่าเรือบางกระเจ้า รู้สึกท้องโล่งงงงงง ! นั่งเรือไม่เกิน 5 นาทีก็ถึงแล้วนะคะไม่ไกลมาก เลยรู้สึกกลัวแค่แปปเดียวไม่ต้องลุ้นนาน 555 ท่าเรือบางกระเจ้าพอน้ำลดลงไป ดูไม่ดีนิดหน่อยเนาะด้านล่างดูรกๆ ไป
▼△ พอมาถึงท่าเรือก็มาต่อคิวเช่ารถจักรยานปั่นกันค่ะ รายละเอียดการเช่ารถจักรยาน 1 ชม. 50 บาท แต่ถ้าเช่าทั้งวัน 100 บาท มัดจำด้วยเงิน 1,000 บาท หรือไม่ก็บัตรประชาชนนะคะ จำได้คราวๆ ประมาณนี้ วันนี้คนเยอะมากจักรยานไม่พอเช่า เรากับน้องยืนคุยกันซักพักแล้วเดินไปหยิบแผนที่ที่โต๊ะ ตรงเช่าจักรยานแล้วเลือกที่จะ "เดิน" ค่ะ
" แผนที่ก็ประมาณนี้นะคะ "
▼△ เริ่มต้นการเดินทางจากท่าเรือบางกระเจ้า มุ่งหน้าสู่พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย เพราะใกล้สุดละตามแผนที่ 555 ถนนที่เดินก็จะเป็นลักษณะแบบนี้ ข้างทางเป็นป่าไม้ มีเสาไฟฟ้า มีบ้านพักของชาวบ้าน ปะปนกันไปค่ะ ไม่น่ากลัวเดินเล่นได้ชิวๆ **ที่วันนี้เลือกเดินเที่ยวได้เพราะไม่มีแดด เดินเล่นสบาย แต่วันที่แดดร้อนๆ พูดได้เลยค่ะไม่ไหวๆ รอจักรยานดีกว่า หรือถ้าขี้เกียจรอก็ให้พี่วินไปส่งแต่ละจุดได้เลยค่ะ : )
▼△ ระหว่างทางเดินจะมีดอกไม้ ต้นไม้ หลากหลายสายพันธุ์ให้ดูให้ชม ถ้าไม่เดินก็ไม่รู้ ไม่เห็นมัน ข้อดีของการเดินเที่ยว คือ ได้เห็นในส่วนที่คนอื่นไม่เห็น ข้อเสียคือ เหนื่อย ก็แค่นั่น
| พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย |
▼△ เดินเข้ามาภายในพิพิธภัณฑ์ โหยยยยย ! !! ร่มรื่นมากเลยค่ะ ลืมเหนื่อยเลย อย่าลืมแวะลงทะเบียนว่ามาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์นะคะ มีตู้รับบริจาคค่าอาหารปลาด้วย ถ้าไม่ลำบากก็ช่วยกันบริจาคด้วยเนาะ ทางพิพิธภัณฑ์จะได้นำเงินไปดูแลน้องปลาทั้งหลาย และนำไปพัฒนาพิพิธภัณฑ์ให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ต่อไปนานแสนนาน : )
▼△ มองไปจะสะดุดตาเลยค่ะ นี่คือ สถาปัตยกรรมเรือนไทยประยุกต์ซึ่งประดิษฐานบูรพกษัตริย์ไทย ๒ พระองค์
▼△ ก่อนไปเที่ยวก็ศึกษาข้อมูลพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทยกันได้ก่อน ตามลิ้งค์...http://www.fightingfishgallery.com/ ที่พิพิธภัณฑ์จะมีร้านขายกาแฟ ขนมด้วยนะคะ ถ้าเหนื่อยก็แวะพักนั่งจิบชา กาแฟ ดูปลากัดชิลๆ ได้เลย อารมณ์แบบว่า สบายตา สบายใจ สบายกาย : )
▼△ ออกจากพิพิธภัณฑ์เดินไปเรื่อยๆ ก็เจอป้ายบอกทางเป็นระยะ ว่ากี่กิโลถึงที่ไหน ก็เลือกเลยค่ะจะไปที่ไหนก่อน ปั่นไหวหรือเปล่า ถ้าไม่ไหวก็เที่ยวใกล้ๆ ก่อนละกัน แต่เราต้องถามว่าเดินไหวหรือเปล่าเพราะนี่ก็บ่ายโมงแล้ว หิวแล้ว ไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งก่อนละกัน ของกินต้องเยอะ แต่ แต่ ไกลไปนะ เดินไม่ไหวแน่เลย โบกรถซิค่ะรออะไร แท็กซี่ขับผ่านมาพอดี พี่ค่ะ...ไปตลาดน้ำบางน้ำผึ้งโลดดดดด ! !!
▼△ พี่แท็กซี่ถามว่าจะให้ส่งด้านหน้า หรือเข้าไปในตลาดเลย เราซึ่งไม่รู้และไม่ถาม ตอบไปโดยเร็วว่า..ด้านหน้าก็ได้ค่ะเดี๋ยวเดินเข้าไปเอง ลงหน้าซอย เพชรหึงษ์ 26 นึกว่าเดินไม่ไกล ที่ไหนได้ก็ไกลใช่ย่อย : (
▼△ เส้นทางที่เดิน เดิน และเดินเข้าไปในซอย ท้องก็หิว งกก็งก ถ้าจะโบกรถอีกก็เปลืองตังส์ อีกนิดเดียวก็จะถึง คิดซะว่ามาเดินเล่นออกกำลังกาย หร๊าาาาา..
▼△ ระหว่างทางเดินผ่าน เจออะไรก็ถ่ายไปเรื่อยแหละค่ะ : )
| ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง |
▼△ เดินมาถึงจนได้ เจอป้ายตลาดน้ำบางน้ำผึ้งแล้ว หายเหนื่อยเลย ท้องก็ร้องเต็มที่เหมือนรู้ 555
▼△ เดินข้ามคลองมาฝั่งขวาจะมีร้านอาหาร กาแฟ เก๋ๆ ชิคๆ ให้เรานั่งชิลได้เหมือนกันนะคะ
▼△ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ยินดีตอนรับทุกคนค่ะ พร้อมเดินตะลุยตลาดกันแล้วค่ะ ไป !!!!!!
▼△ เป็นไงกันบ้างคะ ของกินเยอะมาก เน้นๆ ว่าเยอะมากกกกกกก ! !! มาที่นี่ต้องทำท้องให้ว่างนะคะ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน เดินผ่านร้านนี้ก็น่ากิน ร้านนี้ก็น่าลอง โอ๊ยยยยย ! ละลานตากันเลยทีเดียวเชียว จุดหนึ่งที่สะดุดตามาก คือพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่จะใส่เสื้อสีม่วง มากันเป็นธีมเลยค่ะ ^^
ที่ตลาดน้ำมีบ่อปลาคาร์ฟให้ดู ให้ชม เยอะมากค่ะ เด็กๆ เล็กๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะเราสามารถซื้อนมป้อนใส่ปากให้ปลาคาร์ฟได้ด้วย
▼△ พักเหนื่อยกันที่ร้านส้มตำ จำชื่อร้านไม่ได้ รู้แต่ว่าร้านข้างๆ เป็นร้านขายกาละแม รสชาติส้มตำกลิ่นปลาร้านิอิสานแท้ๆ เด้อ แซ่บหลาย ขนมจีนน้ำยาผสมก็แซ่บค่ะ ราคาก็ไม่แพง
▼△ อิ่มแล้วก็เดินมานั่งเล่นแถวลานดนตรีบางน้ำผึ้ง นั่งฟังเพลงเก่าๆ นักร้องก็คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย และป้าๆ น้า อา ในชุมชนขึ้นมาผลัดกันร้อง อิ่มท้องนั่งฟังเพลงแทบจะหลับได้เลยค่ะ บรรยากาศดีมากเลย เพลงก็เก่าดี ฟังแล้วเห็นถึงความแตกต่างของเพลงในปัจจุบัน
▼△ ที่นี่จะมีลานศิลปะในสวนด้วยนะคะ มีปูนปั้นให้ระบายสี วาดภาพระบายสี จุดนี้จะมีเด็กๆ อยู่กันเยอะเลย และยังมีการขายสินค้าที่เกี่ยวกับศิลปะไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืด ถุงผ้า ต่างๆ มากมาย
▼△ เรือนนมสด ซึ่งเป็นเรือนไม้เก่าๆ ที่ไว้ค่อยตอนรับคนที่ผ่านไปผ่านมา มีกาแฟโบราณ เมี่ยงคำให้ชิมฟรี ติดอกติดใจก็สั่งเป็นชุดได้ราคาไม่แพง และของสะสมเก่าแก่มากมาย เดินตลาดจนเมื่อยก็แวะมานั่งเล่นนอนเล่นที่นี่ได้ค่ะ
▼△ เดินเล่นที่ตลาดน้ำ จนพ่อค้าแม่ค้าเริ่มเก็บร้านกันไปหลายร้านแล้ว ได้เวลาไปเที่ยวที่สุดท้ายก่อนจะมืด เรียกพี่วินมา 1 คัน ไปสวนศรีค่ะพี่ ไปกันเลยยย !!!
| สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ |
▼△ ค่าวินจากตลาดน้ำมาถึงสวนศรี 2 คน 60 บาทค่ะ หากขับรถมาเองต้องจอดไว้ข้างนอก หากจะปั่นจักรยานภายในสวนศรีต้องเช่ารถด้านหน้านะคะ ราคาเช่าเท่าไรไม่แน่ใจ เพราะเราไม่ได้เช่า รีบกลับมาก่อนเหมือนฝนจะตก เดินรอบๆ แค่แปปเดียว
แผนผังภายในสวนศรีฯ พูดได้เลยค่ะ ว่า...ใหญ่มากกกกก ! วันหลังต้องมาเช้ากว่านี้จะได้ปั่นจักรยานรอบสวนศรีฯ ให้ครบทุกจุดเลย
▼△ เดินกลับจากสวนศรีฯ มุ่งหน้าสู่ท่าเรือบางกระเจ้า พอมาถึงท่าเรือ ฝั่งนี้จะไม่มีจุดจ่ายเงินค้าโดยสารเรือเหมือนฝั่งนู้นนะคะ ให้จ่ายกับคนขับเรือเลย คนละ 10 บาทเช่นเคย
▼△ ยืนรอเรือกันเป็นคู่ๆ เลยเนาะ เราก็มาเป็นคู่ คู่พี่น้อง : )
▼△ เรือมารับแล้ว เย้ !!! ได้ลุ้นอีกแล้วตอนนั่งเรือกลับ ท่องนะโม นะโม ไว้ในใจ
▼△ ภาพวิวฝั่งกรุงเทพฯ ช่างแตกต่างจากฝั่งบางกระเจ้าเหลือเกิน ต้นไม้สีเขียวไม่เห็นเลย อยากให้รักษาฝั่งบางกระเจ้าไว้เป็นปอดของคนกรุงเทพฯ ไปนานๆ เนาะ
▼△ ใกล้ถึงท่าเรือแล้ว มองเห็นวัดคลองเตยนอก ตั้งเด่นเป็นสง่าเลย ><'
▼△ แบ่งปันแผนที่ของบางกระเจ้าเอาไว้ เผื่อใครไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนในวันหยุดแนะนำให้ไปปั่นจักรยานเล่นที่บางกระเจ้านะคะ หรือใครที่กำลังจะไปก็วางแผนดีๆ นะว่าจะไปที่ไหนบ้าง ไปอย่างไร ไปกี่โมงดี จะได้เที่ยวให้ได้เยอะๆ ให้คุ้มเนาะ
จบไปอีกแล้วกับ One Day Trip ของเรา รอบหน้าจะไปเที่ยวที่ไหนจะมารีวิวให้อ่าน ติชมกันได้นะคะ หากผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วย ขอบคุณค่ะ : )