คือช่วงที่เราสมัครงาน เราได้สมัครหลายๆ ที่
ที่นี้เราได้เข้าทำงานในที่แรกประมาณ 1 เดือน ..เดือนที่ 2 ทางบ.ใหม่ก็ได้เรียกไปสัมภาษณ์
ตอนแรกเราก็ปฎิเสธเขาไปแล้ว แต่พี่พนง. HR ก็บอกว่าอยากให้ไปลองสัมภาษณ์และทำข้อเขียนดู
เพราะบ.เขาค่อนข้างให้เงินเดือนดีและสวัสดิการดี เราไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
เพราะเราค่อนข้างพอใจในที่แรก เงินเดือนพอประมาณ ชีวิตเรื่อยๆ นายใจดี เพื่อนร่วมงานดี
แต่พอเราไปสัมภาษณ์ที่ 2 เราโชคดีเราสอบได้ เงินเดือนเขาให้ก็ดีจริง
ตอนนี้เราทำเรื่องลาออกแล้ว..
ที่ออฟฟิตแรกตกใจมาก...เพราะแบบเหมือนคนรักกันยุดีๆ เมิงก็มาบอกเลิกสะงั้น... ออฟฟิตที่ 1 เราเป็นเล็กๆ ในฝ่ายมี 5 คนรวมเราคะ ชิลมาก
ที่นี้เรื่องมียุว่า
1. เราอ่ะ ต้องไปตรวจสุขภาพกาย จิต ประวัติอาชญกรรม ใช้เวลา 2 วันได้
เราไม่กล้าลา..TT เพราะบ.ที่ 1 เราให้ลาได้อย่างเดียวคือป่วย...
แต่นายเราใจดีสะงั้น... เราก็เลยกะขอหน้าด้านๆ เลยเพราะตรวจสุขภาพจิต จะขอนายตรง ๆแวบไปช่วงทำงาน 2 ชม.
แล้วจะกลับมาทำงานต่อ เพราะบ.ไม่ไกลจากที่ตรวจรถไฟฟ้าสถานีเดียว..
และ HR ที่ 2 นัดวันค่อนข้างฟิค.. เราคิดถูกแล้วไหมนะคะ
ส่วนอีกตรวจกายกับอาญากรรมก็จะลาป่วยไปครึ่งวันจัดการสะ...
คือตรวจสุขภาพจิตกับกายนี่ต้องคนละวันนะ...
เราจัดการอย่างนี้ถูกแล้วไหม???
2. นายได้ส่งเราไปอบรมคะ เดือนนี้ คือคิดไว้ก่อนเราลาออก ...แต่พอเราจะลาออก..
นายมาถามอีกครั้งว่าอยากไปไหม...ซึ่งตรงๆ คะว่าอยากไป...
นายก็ให้เราไปคะ..แต่ไม่รู้ว่าน่าเกลียดไหม..เพราะมันมีค่าใช้จ่ายคะ..ซึ่งก็ทำเรื่องเบิกไปเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว
ที่เราอยากไปเพราะมันก็เชื่อมโยงกับงานใหม่..และเป็นประสบการณ์ที่ดีคะ
คือเราควรทำอย่างไรกับเคสนี้..คือเราอยากไปคะ แม้เราจะลาออก ..นายก็ให้ไป..
เราควรขอบพระคุณนาย.. ออกค่าใช้จ่ายเอง หรืออยู่เฉยๆ คะ
ช่วยตอบขอซักถาม 2 ข้อด้วยคะ จะเป็นพระคุณมาก ๆเลย
ทำงานได้ 1 เดือนลาออก ได้งานที่ใหม่แล้ว ขอถามอะไรสักนิด...
ที่นี้เราได้เข้าทำงานในที่แรกประมาณ 1 เดือน ..เดือนที่ 2 ทางบ.ใหม่ก็ได้เรียกไปสัมภาษณ์
ตอนแรกเราก็ปฎิเสธเขาไปแล้ว แต่พี่พนง. HR ก็บอกว่าอยากให้ไปลองสัมภาษณ์และทำข้อเขียนดู
เพราะบ.เขาค่อนข้างให้เงินเดือนดีและสวัสดิการดี เราไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
เพราะเราค่อนข้างพอใจในที่แรก เงินเดือนพอประมาณ ชีวิตเรื่อยๆ นายใจดี เพื่อนร่วมงานดี
แต่พอเราไปสัมภาษณ์ที่ 2 เราโชคดีเราสอบได้ เงินเดือนเขาให้ก็ดีจริง
ตอนนี้เราทำเรื่องลาออกแล้ว..
ที่ออฟฟิตแรกตกใจมาก...เพราะแบบเหมือนคนรักกันยุดีๆ เมิงก็มาบอกเลิกสะงั้น... ออฟฟิตที่ 1 เราเป็นเล็กๆ ในฝ่ายมี 5 คนรวมเราคะ ชิลมาก
ที่นี้เรื่องมียุว่า
1. เราอ่ะ ต้องไปตรวจสุขภาพกาย จิต ประวัติอาชญกรรม ใช้เวลา 2 วันได้
เราไม่กล้าลา..TT เพราะบ.ที่ 1 เราให้ลาได้อย่างเดียวคือป่วย...
แต่นายเราใจดีสะงั้น... เราก็เลยกะขอหน้าด้านๆ เลยเพราะตรวจสุขภาพจิต จะขอนายตรง ๆแวบไปช่วงทำงาน 2 ชม.
แล้วจะกลับมาทำงานต่อ เพราะบ.ไม่ไกลจากที่ตรวจรถไฟฟ้าสถานีเดียว..
และ HR ที่ 2 นัดวันค่อนข้างฟิค.. เราคิดถูกแล้วไหมนะคะ
ส่วนอีกตรวจกายกับอาญากรรมก็จะลาป่วยไปครึ่งวันจัดการสะ...
คือตรวจสุขภาพจิตกับกายนี่ต้องคนละวันนะ...
เราจัดการอย่างนี้ถูกแล้วไหม???
2. นายได้ส่งเราไปอบรมคะ เดือนนี้ คือคิดไว้ก่อนเราลาออก ...แต่พอเราจะลาออก..
นายมาถามอีกครั้งว่าอยากไปไหม...ซึ่งตรงๆ คะว่าอยากไป...
นายก็ให้เราไปคะ..แต่ไม่รู้ว่าน่าเกลียดไหม..เพราะมันมีค่าใช้จ่ายคะ..ซึ่งก็ทำเรื่องเบิกไปเป็นเรื่องเป็นราวแล้ว
ที่เราอยากไปเพราะมันก็เชื่อมโยงกับงานใหม่..และเป็นประสบการณ์ที่ดีคะ
คือเราควรทำอย่างไรกับเคสนี้..คือเราอยากไปคะ แม้เราจะลาออก ..นายก็ให้ไป..
เราควรขอบพระคุณนาย.. ออกค่าใช้จ่ายเอง หรืออยู่เฉยๆ คะ
ช่วยตอบขอซักถาม 2 ข้อด้วยคะ จะเป็นพระคุณมาก ๆเลย