นาง ส .ซื้อที่สวนตจว.จาก นาง จ. โดยไม่ได้รังวัดหาขอบเขตที่ดินก่อนซื้อ มาทราบภายหลังว่า
1. ที่ดินข้างหนึ่งซึ่งติดต่อกับที่ดิน นายข.นั้นเดิมนั้นมีลำประโดงแบ่งเขต แต่ไม่ปรากฎในแผนที่โฉนด ต่อมามีการตัดถนน
นายข.ไม่เซ็นยินยอมแบ่งที่ให้ทำถนน แต่นาง จ. เซ็นต์ยินยอมทำให้ถนนทั้งสายอยู่บนที่นางจ. และในการทำถนนนั้น
ได้ถมลำประโดงกลายเป็นถนนและยังคงไม่ปรากฎถนนอยู่ในแผนที่โฉนด
2. ต่อมานายข.ได้ขอรังวัดแบ่งโฉนดที่สวนของตนเป็น 2 ส่วน ที่ดินจึงแจ้งให้ นาง ส.(เจ้าของที่ดินคนใหม่)มาชี้แนวที่ดิน
ทำให้เกิดข้อพิพาท เนื่องจาก นายข.ได้ขอให้ปักหมุดลำเข้ามาในถนนโดยอ้างว่าตนเองเป็นเจ้าของที่ครึ่งหนึ่งของลำประโดง
ที่ปัจจุบันถูกถมเป็นถนนไปแล้ว
จึงใคร่ขอทราบความเห็นจากท่านสมาชิกดังนี้
1. หมุดเขตที่ดินของนาง จ. และ นายข. นั้นอยู่ที่ริมตลิ่งลำประโดงคนละฝั่ง ลำประโดงนั้นจะถือว่าเป็นที่สาธารณะหรือไม่ และ นาย ข. จะอ้างว่าเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่งของลำประโดงที่ติดกับที่ของตนได้หรือไม่
2. เมื่อถมลำประโดงกลายเป็นถนนสาธารณะแล้ว นาย ข.จะอ้างสิทธิที่ดินในถนน(เฉพาะฝั่งที่ติดกับที่ดินของตน)ที่เคยเป็นลำประโดงได้หรือไม่
3.นางส. ไม่ได้อยู่ในวันที่ จนท.มารังวัดและปักหมุด ต่อมาเมื่อได้มาดูการปักหมุดแล้วเห็นว่า จนท.รังวัดไม่ได้ใช้แนวหลักหมุดเดิมในการแบ่งโฉนด
แต่ได้ปักหมุดใหม่ล้ำเข้ามาในถนน จึงได้ยื่นเรื่องคัดค้านการรังวัด ซึ่งตาม กม.แล้ว ที่ดินจะแจ้งให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาตกลงกัน
ที่สนง.ที่ดิน ในการเจรจานั้นจะมีการจดบันทึกหรือไม่ เพราะ นาง ส. คิดว่าตนเป็นผู้มาใหม่อาจไม่ได้รับความยุติธรรม
ซึ่งถ้าเป็นเข่นนั้นจริงจะได้มีหลักฐานเอกสารไปร้องเรียนกับหน่วยงานต่างๆ ก่อนถึงขั้นต้องไปศาล
และนางส. จะสามารถบันทึกเสียงการเจรจาได้หรือไม่
4. นางจ.ไม่ได้ขอรังวัดแบ่งถนนสาธารณะออกจากโฉนดของตน นางส. ซึ่งซื้อที่ต่อจากนางจ. อยากทราบว่า
ถนนนั้นล้ำเข้ามาในที่ดินกว้างเท่าใด จะต้องไปสอบถามจากหน่วยงานใด
ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ให้ความเห็น
บันทึกการเจรจาคัดค้านการรังวัดแบ่งเขตที่ดิน
1. ที่ดินข้างหนึ่งซึ่งติดต่อกับที่ดิน นายข.นั้นเดิมนั้นมีลำประโดงแบ่งเขต แต่ไม่ปรากฎในแผนที่โฉนด ต่อมามีการตัดถนน
นายข.ไม่เซ็นยินยอมแบ่งที่ให้ทำถนน แต่นาง จ. เซ็นต์ยินยอมทำให้ถนนทั้งสายอยู่บนที่นางจ. และในการทำถนนนั้น
ได้ถมลำประโดงกลายเป็นถนนและยังคงไม่ปรากฎถนนอยู่ในแผนที่โฉนด
2. ต่อมานายข.ได้ขอรังวัดแบ่งโฉนดที่สวนของตนเป็น 2 ส่วน ที่ดินจึงแจ้งให้ นาง ส.(เจ้าของที่ดินคนใหม่)มาชี้แนวที่ดิน
ทำให้เกิดข้อพิพาท เนื่องจาก นายข.ได้ขอให้ปักหมุดลำเข้ามาในถนนโดยอ้างว่าตนเองเป็นเจ้าของที่ครึ่งหนึ่งของลำประโดง
ที่ปัจจุบันถูกถมเป็นถนนไปแล้ว
จึงใคร่ขอทราบความเห็นจากท่านสมาชิกดังนี้
1. หมุดเขตที่ดินของนาง จ. และ นายข. นั้นอยู่ที่ริมตลิ่งลำประโดงคนละฝั่ง ลำประโดงนั้นจะถือว่าเป็นที่สาธารณะหรือไม่ และ นาย ข. จะอ้างว่าเป็นเจ้าของครึ่งหนึ่งของลำประโดงที่ติดกับที่ของตนได้หรือไม่
2. เมื่อถมลำประโดงกลายเป็นถนนสาธารณะแล้ว นาย ข.จะอ้างสิทธิที่ดินในถนน(เฉพาะฝั่งที่ติดกับที่ดินของตน)ที่เคยเป็นลำประโดงได้หรือไม่
3.นางส. ไม่ได้อยู่ในวันที่ จนท.มารังวัดและปักหมุด ต่อมาเมื่อได้มาดูการปักหมุดแล้วเห็นว่า จนท.รังวัดไม่ได้ใช้แนวหลักหมุดเดิมในการแบ่งโฉนด
แต่ได้ปักหมุดใหม่ล้ำเข้ามาในถนน จึงได้ยื่นเรื่องคัดค้านการรังวัด ซึ่งตาม กม.แล้ว ที่ดินจะแจ้งให้ทั้งสองฝ่ายเจรจาตกลงกัน
ที่สนง.ที่ดิน ในการเจรจานั้นจะมีการจดบันทึกหรือไม่ เพราะ นาง ส. คิดว่าตนเป็นผู้มาใหม่อาจไม่ได้รับความยุติธรรม
ซึ่งถ้าเป็นเข่นนั้นจริงจะได้มีหลักฐานเอกสารไปร้องเรียนกับหน่วยงานต่างๆ ก่อนถึงขั้นต้องไปศาล
และนางส. จะสามารถบันทึกเสียงการเจรจาได้หรือไม่
4. นางจ.ไม่ได้ขอรังวัดแบ่งถนนสาธารณะออกจากโฉนดของตน นางส. ซึ่งซื้อที่ต่อจากนางจ. อยากทราบว่า
ถนนนั้นล้ำเข้ามาในที่ดินกว้างเท่าใด จะต้องไปสอบถามจากหน่วยงานใด
ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ให้ความเห็น