วันนี้ (2ก.ย.) เวลา 09.20 น. พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวเปิดงานครบรอบ 60 ปี คณะรัฐประศาสนศาสตร์ ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

โดยพลเอกเปรม กล่าวช่วงหนึ่งว่า เมื่อ 60 ปีก่อนคนไทยมี 17 ล้านคนแต่ปัจจุบันคนไทยมีจำนวน 67 ล้านคน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปรับการบริหารภาครัฐให้มีประสิทธิภาพสอดรับกับปัญหาประชากรที่เพิ่มขึ้นมา โดยแต่ก่อนนี้ไทยเป็นประเทศผู้นำในภูมิภาค แต่ประเทศของเรามีปัญหาเยอะมาก ทำให้การพัฒนาชะงักงัน กระทั่งถอยหลังอย่างมาก ข้าราชการของรัฐจึงต้องช่วยกันนำพาประเทศไทย กลับมาอยู่แนวหน้าให้ได้


ทั้งนี้ไทยมีปัญหาด้านการศึกษาโดยเฉพาะภาษาไทย มีการเอาภาษาอังกฤษมาใช้ในภาษาไทย คนที่เกี่ยวข้องจึงต้องไปดูว่าความผิดเพี้ยนของภาษาไทยมันต้องปรับอย่างไรบ้าง หรือควรมีคนกำหนดการใช้งานให้ถูกต้อง เช่นเดียวกับระบบประชานิยมที่มีปัญหาทำให้ประชาชนบางส่วนไม่คิดทำอะไรเอง คอยแต่จะรับ ระบอบประชานิยมทำให้ประเทศไทยและคนไทยอ่อนแอ ปัญหาคุณธรรมในสังคมก็เปลี่ยนไปมาก เด็กรุ่นใหม่และผู้ใหญ่บางส่วนมักพูดว่าการโกงไม่ใช่เรื่องเสียหายถ้าเราได้ประโยชน์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูด เป็นการพูดที่ทำให้คนเข้าใจผิดว่าโกง ก็ไม่เป็นไร เพราะที่จริงเเล้ว คนที่พูดอย่างนั้น ถือเป็นคนเห็นแก่ตัวมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม คนไทยต้องไม่ยอมรับ



สุดท้าย คือเรื่องคอร์รัปชัน ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศชาติ และนำพาความอับอายมาสู่ชาติบ้านเมือง คนไทยทุกคนจึงต้องช่วยกันปราบปราม เเม้เราจะมีป.ป.ช. แต่ก็ไม่มีอำนาจมากในการแก้ปัญหา จึงต้องสอนคนไทยว่า การคอร์รัปชั่นคือปัญหาที่ร้ายแรงที่สุด จะปล่อยปละละเลยไม่ได้ เป็นปัญหาที่เลวร้ายที่สุด จะยอมให้มีต่อไปไม่ได้ คนไทยต้องถูกสอนให้รู้จักคุณธรรมจริยธรรม ว่าการคอร์รัปชั่นคือโรคร้าย รักษาไม่หาย ซึ่งตนเองก็พูดหลายครั้งว่าต้องเลิกนับถือเเละเลิกกราบไหว้คนคอร์รัปชั่น คนไทยต้องเลิกคบค้าสมาคมกับคนพวกนี้ แต่มีคนไทยบางกลุ่มแบ่งการคอร์รัปชั่นเป็นหลายแบบเช่น การคอร์รัปชันเชิงผลประโยชน์ และการคอร์รัปชั่นเชิงอำนาจ แต่ไม่ว่าอย่างไร คนคอร์รัปชั่นคือคนโกงชาติ ทำให้คนไทยขายหน้า ไปไหนก็มีคนด่าว่าคนไทยคอร์รัปชั่นเก่ง ทั้งนี้ บางคนได้รับการเลื่อนยศสูงขึ้นไม่ใช่ว่าเก่ง แต่เป็นการคอร์รัปชั่น เอาประโยชน์ดังกล่าวไปเป็นของตนเอง จึงต้องเลิกนับถือคนพวกนี้ ให้เขาได้รู้ว่าคนไทยรังเกียจ


ทั้งนี้ รัฐบาลเป็นผู้นำในการบริหารประเทศ จึงขอร้องว่า ข้าราชการทุกคนต้องซื่อสัตย์สุจริต ทำงานเพื่อประโยชน์ชาติ ให้คนเขารู้สึกว่าสามารถหวังพึ่งข้าราชการได้ ให้คนไทยหายจน ซึ่งสิ่งที่ตนเคยทำและได้ผลคือการทำตนเป็นคนดี เห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว มากที่สุด จึงขอให้กำลังใจอาจารย์ทุกท่าน ให้สอนโดยเน้นคุณธรรมควบคู่ไปกับ เรื่องทางวิชาการ ซึ่งถือเป็นการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินเช่นกัน
http://m.matichon.co.th/readnews.php?newsid=1441163779