เรื่องราวเกิดขึ้นจากวันนึง ขณะเล่นเฟสบุคอยู่ ได้เจอโพสนึง คือโพสนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรื่องนี้ถ้าชอบช่วยแชร์เนอะ
"เห็นพี่คนนึงก็ดูปกติดีหนิ..ไม่เห็นพิการตรงไหน"
ผู้ชายที่ดูจะแสนปกติ พูดจาเสียงค่อยท่าทางสุภาพ แต่งตัวดูดีใส่เสื้อเชิ้ตผูกไทด์กางเกงแสลกดำ ยืนตากแดดทั้งวันและทุกวัน ขายคุกกี้พระพรราคา 99 บาทตรงสถาณีรถไฟใต้ดินศูนย์วัฒนธรรมฯฝั่งเอสพลานาด
..................................................
ผมเพิ่มรู้ว่าพี่เขาพิการที่แขนขวาขยับไม่ได้ก็ตอนจ่ายเงิน ที่พี่เขาพยายามเอามือข้างที่ดีเปิดกระเป๋าทอนเงินและขยี้ถุงก๊อปแก๊ปเพื่อใส่คุกกี้อย่างทุลักทุเล..ตลอดหลายเดือนผมเห็นพี่เขามายืนขายไม่เคยขาด ยืนตั้งแต่ 11โมง ยันสองทุ่ม แต่งตัวสุภาพยืนกลางแดดร้อนๆทุกวัน
ในครั้งแรกพี่เขาพยายามปิดการขายด้วยคุกกี้สองกล่องเพราะมีสองรสชาต หลังจากซื้อเสร็จก็เอานิ้วชี้ไปที่ป้ายแล้วบอกว่า นี่คือเว็ปไซต์นะครับ www.pantakij.com (หรือที่จริงแล้วพี่เป็นนักการตลาด กำลังพยายามโปรโมท website อยู่หรือเปล่า)
ในตอนแรกผมคิดว่าคุกกี้ข้าวโอ๊ตราคาตั้ง 99 บาทที่ซื้อด้วยความสงสาร มันจะอร่อยจริงเหรอ ถ้าไม่อร่อย ถึงแม้จะสงสารยังไงก็ไม่มีเงินมาจ่ายให้ตลอดนะตั้ง 99 บาทแหนะ..กลับกลายเป็นว่า ผมเอาไปให้ใครกิน ใครๆก็ว่าอร่อย ถึงแม้ตอนแรกจะซื้อเพราะความสงสารก็ตาม กลับกลายเป็นคุกกี้ที่อร่อยฝุดๆเหมาะกับกินแกล้มกาแฟยามเช้าหรือบ่ายเลยทีเดียว ถามว่าคุ้มไหม 99 บาทได้ของอร่อยมากินแถมได้ช่วยเหลือพี่เขาด้วย
พี่เขาขยันมากจนถ้าขี้เกียจทำงานคงต้องดูพี่เขาเป็นตัวอย่าง อยากช่วยพี่เขา แต่ไม่รู้จะทำยังไง คงทำได้แค่เอาเรื่องพี่เขามาเล่าให้ฟัง ถ้าชอบช่วยกันแชร์นะครับ จะได้มีคนมาอุดหนุนพี่เขาเยอะๆ
วันนี้ชวนพี่เขาคุย ขายดีไหมพี่...
"ยังขายไม่ได้เลยครับ" T-T
พอได้อ่านแล้ว รู้สึกสะดุด กับคำประโยคสุดท้ายมากเลยคือ
" ยังขายไม่ได้เลยครับ "
ทุกๆครั้งที่มา เอสพลานาดรัชดา มากิน มาดูหนัง เดินตลาดรถไฟ
ก็จะเห็นผู้ชายคนนึง ใส่เสื้อเชิต เรียบร้อย เหมือนหนุ่มออฟฟิตธรรมดา หน้าตาซื่อๆ ดูแล้วน่าสงสาร เพราะไม่เคยเห็นใครซื้อเลย
ยืนขายคุ๊กกี้อยู่ แล้วเราก็ไม่ได้สนใจ เดินผ่านไป ทุกครั้ง
พอได้อ่าน ที่เค้าโพสไว้เลยคิดขึ้นมาทันที
เออ...ทำไมเราไม่เคยคิดจะหยุดดูเลย หรือแม้แต่สนใจว่าพิการ เราน่าจะช่วยเค้าซื้อ ลองเอามาชิมสักอันก็ยังดี
คราวนี้ตอนไป ก็ตั้งใจเลย ว่าจะช่วยเค้าซื้อมากินดู อย่างที่เจ้าของโพสเฟสบุคบอก ถ้าไม่อร่อย ซื้อเพราะความสงสาร ก็คงได้แค่ ครั้งเดียว
แต่พอได้ซื้อละเอามาชิม รสชาติดีไม่แพ้คุ๊กกี้แพงๆเลย อร่อยเลยหล่ะ เอามากินกับกาแฟ กินเล่นก็ได้ ไม่หวาน มีธัญพืช
กล่องละ 99 บาท เราซื้อ 2 กล่อง เค้าก็ยื่นถุงให้เรากาง แขนอีกข้างนึงเค้า ใช้ไม่ได้
ให้ไป 200 บอกไม่ต้องทอนก็ได้ 2 บาทเอง แต่เค้าก็หยิบเงินทอนให้เราอยู่ดี
เวลามาที่ห้าง มาทำไรแล้วแต่ อย่างน้อยกินข้าว กินติมถ้วยนึงก็ 100 ขึ้นอยู่แล้ว ดูหนังเรื่องนึงก็ตั้งเท่าไหร่ ทำไมแค่นี้จะให้ไม่ได้
ถ้าเรามีมากกว่าเค้า แล้วเราสามารถแบ่งปันเล็กๆน้อยๆให้กันได้
เค้าบอกว่า
ช่วยคนพิการให้ถูกวิธี .. คือการช่วยสร้างอาชีพให้กับเค้า
เค้าเป็นคนพิการ ที่ไม่ได้ทำตัวพิการ งอมืองอเท้าขอทาน หรือ เป็นภาระของสังคม
เค้าพยายามทำงาน ด้วยอาชีพสุจริต
ลองเข้าไปดูในเว็บข้างกล่องคุ๊กกี้มา
http://www.pantakij.com/
ใครที่ได้เจอ คนพิการ ทำงานสุจริต ก็ช่วยสนับสนุนกันนะคะ ^_^
อยากให้ทุกคนช่วยแชร์ เป็นแรงผลักดันให้คนทำดี
พิการแต่ตัว หัวใจไม่พิการ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พอได้อ่านแล้ว รู้สึกสะดุด กับคำประโยคสุดท้ายมากเลยคือ " ยังขายไม่ได้เลยครับ "
ทุกๆครั้งที่มา เอสพลานาดรัชดา มากิน มาดูหนัง เดินตลาดรถไฟ
ก็จะเห็นผู้ชายคนนึง ใส่เสื้อเชิต เรียบร้อย เหมือนหนุ่มออฟฟิตธรรมดา หน้าตาซื่อๆ ดูแล้วน่าสงสาร เพราะไม่เคยเห็นใครซื้อเลย
ยืนขายคุ๊กกี้อยู่ แล้วเราก็ไม่ได้สนใจ เดินผ่านไป ทุกครั้ง
พอได้อ่าน ที่เค้าโพสไว้เลยคิดขึ้นมาทันที
เออ...ทำไมเราไม่เคยคิดจะหยุดดูเลย หรือแม้แต่สนใจว่าพิการ เราน่าจะช่วยเค้าซื้อ ลองเอามาชิมสักอันก็ยังดี
คราวนี้ตอนไป ก็ตั้งใจเลย ว่าจะช่วยเค้าซื้อมากินดู อย่างที่เจ้าของโพสเฟสบุคบอก ถ้าไม่อร่อย ซื้อเพราะความสงสาร ก็คงได้แค่ ครั้งเดียว
แต่พอได้ซื้อละเอามาชิม รสชาติดีไม่แพ้คุ๊กกี้แพงๆเลย อร่อยเลยหล่ะ เอามากินกับกาแฟ กินเล่นก็ได้ ไม่หวาน มีธัญพืช
กล่องละ 99 บาท เราซื้อ 2 กล่อง เค้าก็ยื่นถุงให้เรากาง แขนอีกข้างนึงเค้า ใช้ไม่ได้
ให้ไป 200 บอกไม่ต้องทอนก็ได้ 2 บาทเอง แต่เค้าก็หยิบเงินทอนให้เราอยู่ดี
เวลามาที่ห้าง มาทำไรแล้วแต่ อย่างน้อยกินข้าว กินติมถ้วยนึงก็ 100 ขึ้นอยู่แล้ว ดูหนังเรื่องนึงก็ตั้งเท่าไหร่ ทำไมแค่นี้จะให้ไม่ได้
ถ้าเรามีมากกว่าเค้า แล้วเราสามารถแบ่งปันเล็กๆน้อยๆให้กันได้
เค้าบอกว่า ช่วยคนพิการให้ถูกวิธี .. คือการช่วยสร้างอาชีพให้กับเค้า
เค้าเป็นคนพิการ ที่ไม่ได้ทำตัวพิการ งอมืองอเท้าขอทาน หรือ เป็นภาระของสังคม
เค้าพยายามทำงาน ด้วยอาชีพสุจริต
ลองเข้าไปดูในเว็บข้างกล่องคุ๊กกี้มา http://www.pantakij.com/
ใครที่ได้เจอ คนพิการ ทำงานสุจริต ก็ช่วยสนับสนุนกันนะคะ ^_^
อยากให้ทุกคนช่วยแชร์ เป็นแรงผลักดันให้คนทำดี