ดราม่าถูกทาง? สื่อนอกวิจารณ์"โฆษณาดราม่า"ไทย สะท้อนทำร้ายอารมณ์คนดู-ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา!


"เว็บไซต์ Rocket news" ได้แสดงทัศนะวิจารณ์ โฆษณาชิ้นหนึ่งของไทย ที่เรียกกระแสดราม่าจากผู้ชมให้สะเทือนอารมณ์อย่างมาก ก่อนจบลงด้วยการขายสินค้า แต่ไม่ได้ให้แง่มุมคิดหรือการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด

โดยเว็บไซต์นี้ได้พูดถึงโฆษณาดราม่าล่าสุดของเมืองไทย ซึ่งเป็นโฆษณาเกี่ยวกับการแทงคนจรจัด ที่จบด้วยการขายสินค้ากล้องวงจรปิด โดยรายงานระบุว่า โดยปกติแล้ว การทำให้ผู้ชมรู้สึกดีถือเป็นกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพด้านการค้า โดยเฉพาะการสร้างโฆษณาที่ต้องดึงดูดผู้คนที่มีเวลาจำกัด หรือราว 30 วินาที ก่อนจะตบท้ายด้วยการโยงเข้ากับสินค้าของโฆษณานั้น ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภครู้สึกดีกับสินค้าแบรนด์นั้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับนักโฆษณาของเมืองไทย เป็นอะไรที่แตกต่างจากสิ่งนี้ โดยเฉพาะการเล่นกับอารมณ์ปวดเจ็บสะเทือนอารมณ์ เพื่อพยายามทำให้ผู้ชมต้องเสียน้ำตา และรู้สึกเห็นอกเห็นใจ โดยเคสนี้เป็นโฆษณาชิ้นใหม่ตัวหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องความไร้มนุษยธรรมต่อคนเรา ที่เริ่มด้วยประโยคคำพูดด่าทอรุนแรง ก่อนจะจบลง "อย่างไม่คาดฝัน"

โฆษณาดังกล่าวเป็นโฆษณา "เจ้าของแผงหนังสือกับคนจรจัด" ซึ่งเป็นเรื่องของเจ้าของแผงหนังสือรายนี้ที่มีพฤติกรรมไร้น้ำใจต่อ "คนจรจัด" คนหนึ่งด้วยการไล่คนจรจัดฝ่ายหลังที่ชอบมานอนหน้าร้านเป็นประจำ ด้วยพฤติกรรมด่าทอและกระทำรุนแรงหลายอย่างและสร้างความเอือมระอาให้แก่คนอื่น

ก่อนที่คนจรจัดผู้นี้จะหายไปจนเจ้าของแผงหนังสือสงสัยและได้ไปเปิดกล้องวงจรปิด พบว่า ที่แท้แล้ว คนจรจัดรายนี้ กลับเป็นคนมีน้ำใจได้ช่วยปกป้องร้านของเขา จากคนเมาที่ชอบมาปัสสาวะหน้าร้าน รวมทั้งมิจฉาชีพ ที่สุดท้ายกลายเป็นว่า เขาต้องตายเพราะถูกมิจฉาชีพแทงตายหน้าร้านของเขาเอง โดยเจ้าของร้านรายนี้ได้แต่รู้สึกผิดกับสิ่งที่เขาทำลงไป ก่อนที่โฆษณาชิ้นนี้จะจบลงด้วยประโยค มีความจริงอีกมากมายที่เราไม่เคยรู้ และจบท้ายด้วยการขาย"กล้องวงจรปิด"!

โดยรายงานนี้ชี้ว่า เหตุการณ์นี้จริงๆ แล้ว น่าจะทำให้คนดูเกิดคำถามต่อข้อเท็จจริงว่า เหตุการณ์นี้ทำให้เราควรจะหา "แหล่งบริจาคเงิน" เช่น มูลนิธิ หรือแหล่งช่วยเหลือคนพักพิง เพื่อช่วยเหลือ "คนเหล่านี้" หรือไม่ แต่กลับกลายว่า ผู้ชมต้องมานั่งดูเหตุการณ์รุนแรงสะเทือนอารมณ์ที่เราช่วยเหลืออะไรไม่ได้เลย แต่เราหรือผู้ชมควรจะหวังหรือไม่ว่า เจ้าของแผงหนังสือน่าจะนำวิดีโอเทปวงจรปิดไปให้ตำรวจ เพื่อติดตามจับกุมคนร้าย หรือไม่

โดยรายงานได้สรุปว่า จากโฆษณานี้ นี่ควรจะเป็นบทเรียนสำหรับเจ้าของร้านที่ไม่ใช่แค่ทำได้เพียงแสดงออกความเห็นอกเห็นใจ "เล็กๆ น้อยๆ" ต่อคนอื่น แต่ก็ควรจะ "หมั่นตรวจ" เช็คกล้องวงจรปิดของเขาให้บ่อยมากกว่าทุกๆ 3 ครั้งต่อวันหรือไม่

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เครดิตคลิปจาก  Vizer

ข่าวจาก  :  มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1441180537
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่