สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
การรู้ = รับรู้
อุปมาเหมือนการรับ Data ผ่าน input port ของ cpu
ขณะที่ cpu ทำงาน จึงมีเพียง
1.status รับ input
2.status การประมวลผล data
3. Status การปล่อย output ออกมา
ปกติมนุษย์จะรับรู้ ได้จำกัด ผ่าน 6 ports คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
Input (สิ่งที่ถูกรู้) จึงมีแค่ รูป. เสียง. กลิ่น. รส. สัมผัส. ความคิด(ประมวลผล+ data เก่าใน RAM และโปรแกรมเก่าใน ROM).
มนุษย์ จึงไม่สามารถรับ input อะไรๆได้มากเกินกว่าขอบเขตของ inputs ทั้ง 6 ชนิดข้างต้น..
ที่พระท่านตรัสรู้คือ มนุษย์ มี ทุกข์. เหตุแห่งทุกข์ statusที่พ้นจากทุกข์(เรียกว่า status X = นิพพาน) และวิธีที่จะเข้าถึงstatus นั้น
ทุกๆ status ไม่เที่ยง ทนอยู่นานๆไม่ได้. เกิดแล้วต้องดับไป เรียกว่า อนันต์ลักษณะ (ยกเว้น status X)
วิธีเข้าถึง statusX คือ ปฏิบัติตามมรรคแปด (ย่อๆ คือ ทาน ศีล ภาวนา) เป็นการปรับ modify ตัว cpu ให้พร้อมเข้าสู่โหมด status X
......
ทุกข์ = ภาวะไม่สบายกาย ไม่สบายใจ คงทนอยู่ไม่ได้
"เราควรรู้ ว่าสิ่งนี้คือทุกข์" อุปมา อาการคันแล้วเกาคล้ายๆจะสุขแปลว่าเราเห็นผิด..ที่ถูกคือคันแล้วเกาคือทุกข์... พระท่านสอนว่า == ทุกข์ มีไว้ให้รู้ว่านี่คือทุกข์ ==
สมุทัย = เหตุแห่งทุกข์ คือ ตัณหา กิเลส (มันคือ การปรุงแต่ง คือฐานโปรแกรมเก่าใน ROM ที่เราเอามาใช้ประมวลผล data ที่รับผ่าน inputs ทั้ง 6 นั้น) พระท่านสอนว่า == สมุทัยให้เราละทิ้ง==
นิโรธ คือ Status X
มรรคแปด = process วิธีการที่จะปรับ cpu ให้เข้าถึงสภาวะ Status X พระท่านสอนให้ปฏิบัติ ทาน ศีล ภาวนา (คือ reset โปรแกรมเก่า ลบทิ้ง กิเลส ตัณหา ขยะๆใน ROM ออก )
...
ตราบใดที่เราไม่สามารถ reset ROM (คือ เราไม่ละทิ้ง กิเลส ตัณหา ความทะยานอยาก) ตัวโปรแกรม ใน ROM นี้จะทำหน้าที่ เกิดดับๆ เสาะหา input data ใหม่ๆตลอดเวลา และ พร้อมที่จะทำสำเนา ROM พร้อม copy residue data ไปสู่ hardware เครื่องใหม่ ในยามที่เครื่องเก่าใกล้พัง(ใกล้ตาย)
อุปมาเหมือนการรับ Data ผ่าน input port ของ cpu
ขณะที่ cpu ทำงาน จึงมีเพียง
1.status รับ input
2.status การประมวลผล data
3. Status การปล่อย output ออกมา
ปกติมนุษย์จะรับรู้ ได้จำกัด ผ่าน 6 ports คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
Input (สิ่งที่ถูกรู้) จึงมีแค่ รูป. เสียง. กลิ่น. รส. สัมผัส. ความคิด(ประมวลผล+ data เก่าใน RAM และโปรแกรมเก่าใน ROM).
มนุษย์ จึงไม่สามารถรับ input อะไรๆได้มากเกินกว่าขอบเขตของ inputs ทั้ง 6 ชนิดข้างต้น..
ที่พระท่านตรัสรู้คือ มนุษย์ มี ทุกข์. เหตุแห่งทุกข์ statusที่พ้นจากทุกข์(เรียกว่า status X = นิพพาน) และวิธีที่จะเข้าถึงstatus นั้น
ทุกๆ status ไม่เที่ยง ทนอยู่นานๆไม่ได้. เกิดแล้วต้องดับไป เรียกว่า อนันต์ลักษณะ (ยกเว้น status X)
วิธีเข้าถึง statusX คือ ปฏิบัติตามมรรคแปด (ย่อๆ คือ ทาน ศีล ภาวนา) เป็นการปรับ modify ตัว cpu ให้พร้อมเข้าสู่โหมด status X
......
ทุกข์ = ภาวะไม่สบายกาย ไม่สบายใจ คงทนอยู่ไม่ได้
"เราควรรู้ ว่าสิ่งนี้คือทุกข์" อุปมา อาการคันแล้วเกาคล้ายๆจะสุขแปลว่าเราเห็นผิด..ที่ถูกคือคันแล้วเกาคือทุกข์... พระท่านสอนว่า == ทุกข์ มีไว้ให้รู้ว่านี่คือทุกข์ ==
สมุทัย = เหตุแห่งทุกข์ คือ ตัณหา กิเลส (มันคือ การปรุงแต่ง คือฐานโปรแกรมเก่าใน ROM ที่เราเอามาใช้ประมวลผล data ที่รับผ่าน inputs ทั้ง 6 นั้น) พระท่านสอนว่า == สมุทัยให้เราละทิ้ง==
นิโรธ คือ Status X
มรรคแปด = process วิธีการที่จะปรับ cpu ให้เข้าถึงสภาวะ Status X พระท่านสอนให้ปฏิบัติ ทาน ศีล ภาวนา (คือ reset โปรแกรมเก่า ลบทิ้ง กิเลส ตัณหา ขยะๆใน ROM ออก )
...
ตราบใดที่เราไม่สามารถ reset ROM (คือ เราไม่ละทิ้ง กิเลส ตัณหา ความทะยานอยาก) ตัวโปรแกรม ใน ROM นี้จะทำหน้าที่ เกิดดับๆ เสาะหา input data ใหม่ๆตลอดเวลา และ พร้อมที่จะทำสำเนา ROM พร้อม copy residue data ไปสู่ hardware เครื่องใหม่ ในยามที่เครื่องเก่าใกล้พัง(ใกล้ตาย)
แสดงความคิดเห็น
การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ถ้าคิดแบบมนุษย์ธรรมดาคนนึง การตรัสรู้คืออะไรในมุมของวิทยาศาสตร์ครับ.