*เป็นครั้งแรกที่ได้มาบอกเล่าความรู้สึกและประสบการ์ณของตัวหนู ถ้าตรงไหนไม่ดีหรือทำผิดต้องขอโทดไว้ด้วยนะคะ ^^*
**มาบอกไม่ได้ต้องการอะไรทั้งนั้น แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์และความรู้ที่ได้รับจากการทำศัลยกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะคะ**
***ถ้ามาตอบช้า หรือ อัพช้า ยังไงหนูต้องขอโทดด้วยนะ สามารถพิมพ์ได้เฉพาะตอนเลิกงาน หรือพักเที่ยงเท่านั้นอ่ะ แต่จะพยายามให้จบเร็วคะ***
--เราชื่อหลินคะ เป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ ได้มาหางานทำในกทม.แต่อยู่กทม.ได้ไม่นานแล้วก็ได้ย้ายมาทำงานชลบุรี เพราะว่ากทม.คนเยอะมว๊ากกกกก T__T ความจริงก็พอรู้อยู่แล้วว่าเยอะ แต่พอมาเจอจริงๆ เยอะกว่าที่คิดไว้มาก หนูเลยเปลี่ยนมาอยู่ชลบุรี โดยทุนเดิมแล้วเราเป็นคนที่ตัวเล็ก ไม่สูงมาก เป็นคนเนื้อน้อยเพราะฉะนั้นไม่ต้องบอกเลยว่า บูมๆ ของหนูจะเล็กขนาดไหน T___T คือว่ามันเล็กมากจนเพื่อนๆชอบล้อว่า "อีไม้กระดาน" "นังไข่ดาว" "อีจอแบน" "อีลูกเกด" "นิหันหน้าคุยกันหรือหันหลังคุยหรอ" แล้วยิ่งเรามีเพื่อนที่เป็นสาวประเภท 2 เยอะด้วย เพราะฉะนั้นจะเจอคำใหม่ๆประจำจนชินค่ะ แต่ก็เอาตัวรอดมาได้โดยการพยายามหาข้อดีของคนอกเล็กมาให้เป็นประโยชน์ เช่น คนอกเล็กคาดเข็มขัดได้ง่ายนะ,หนุ่มๆเดินผ่านจะสบตากะเรา(เพราะไม่มีนมให้มองT__T),ไม่มีอาการปวดหลัง,เสื้อในที่ใส่ก็ลายน่ารักๆ ก็พยายามตลกกลบเกลื่อนไปเนอะ แต่ความจริงแล้วในใจอ่ะเส้านะคะ เก็บไปคิดตลอดเลยว่าทำไมไม่มีเหมือนคนอื่นเค้า คนอื่นตัวเล็กนมใหย่ ทำไมเราไม่เป็นบ้างงง อยากมีอาการแบบว่า "ปวดหลังจังเลยหนักนม" "เห้ยแกๆผช.คนนั้นแอบส่องนมแกอ่ะ" "ผช.เดินผ่านแขนโดนนมเรา หันมาขอโทดแบบเขินๆ แต่นิเดินผ่านเราอย่างกะเราเป็นวิญญาณแนะ นิถึงเป็นเหตุผลที่หนูหันมาทำศัลยกรรมกับคลินิกศัลยกรรมความงามแห่งหนึ่งแถวบางแสนคะ ผลที่ได้รับเกิ้นกว่าที่คิดไว้มากเลย
---ก่อนที่เราจะตัดสินใจทำศัลยกรรม เราก็ต้องมีการหาข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ เพราะมันคือการเอามีดมากรีดเนื้อของเราและนำสิ่งแปลกปลอมใส่ไว้ในร่างกาย เพราะฉะนั้นเป็นธรรมดาที่เราต้องกลัวและหาข้อมูล+ให้มากที่สุด แล้วพอดีมีเพื่อนแนะนำให้ไปที่คลินิกนี้ เพราะเพื่อนเคยมาทำจมูกกับคุณหมอท่านนี้มาแล้ว เราเลยตัดสินใจลองเข้าไปปรึกษากับคุณหมอที่คลินิกดังกล่าว ในวันรุ่งขึ้นก็ได้เข้าไปตามที่ได้นัดไว้ บรรยากาศในคลินิคพนักงานเป็นกันเองมากๆ ดูแลเอาใจใส่เราถึงแม้วันนั้นเราจะใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นไปก็เถอะ พอได้เข้าไปคุยกับคุณหมอ คุณหมอก็ได้มีการอธิบายว่าต้องการแบบไหน รูปทรงแบบไหน ซิลิโคนอะไร ผิวซิลิโคนแบบไหน คือเรางงมากไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้ เราเลยให้คุณหมออธิบายใหม่ทั้งหมด ซึ่งคุณหมอก็ใจดีมากๆอธิบายทุกอย่างด้วยความเต็มใจและเข้าใจง่าย เด๋วเราจะอธิบายเป็นแต่ละอันนะว่ามีอะไรบ้าง เอาเท่าที่เราจำได้ ถ้าตรงไหนผิดยังไงก็เข้ามาบอกมาคุยกันได้นะคะ
---ซิลิโคนมี 2 ประเภทคือ ทรงกลมและทรงหยดน้ำ มีวิธีแยกง่ายคือ ถ้าอยากได้ใหญ่อึ๋มๆกลมๆเอาทรงกลมเลย แต่ถ้าอยากได้ใหญ่แบบธรรมชาติต้องหยดน้ำ แต่ถ้าเป็นคนหน้าอกเล็กมาก ต้องใส่ทรงกลมไปเลย เพราะถ้าใส่หยดน้ำจะไม่สวยเพราะเนื้อข้างบนจะน้อย
---ผิวซิลิโคน ก็มีให้เราเลือกนะจะเอาแบบไหนมีแบบผิวเรียบกะผิวทราย แต่ส่วนใหญ่จะใช้ผิวทรายกันนะเพราะเปรียบเทียบกะผิวเรียบแล้ว ผิวเรียบจะมีการหดรั้งและแข็งตัวมากกว่าต้องหมั่นนวด เพราะฉะนั้นจึงไม่เป็นที่นิยม
ซึ่งเราอยากใส่ CC เยอะๆไปเลยไหนๆก็ทำแล้ว แต่คุณหมอก็แนะนำอีกว่า จะใส่ได้เยอะไม่เยอะนั้นขึ้นอยู่กับฐานนมของแต่ละคน และผิวหนังเพราะถ้าผิวบางมากไม่แนะนำให้ใส่จำนวน CC มาก เพราะจะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งเราถามคุณหมอเยอะมากซึ่งตอนแรกก็เกรงใจคุณหมอเหมือนกันเพราะถามเยอะ แต่คุณหมอกลับบอกดีแล้วที่ถามเพราะเราจะได้เข้าใจด้วย และคุณหมอก็เต็มใจที่จะให้ความรู้กับเรา คุณหมอใจดีม๊าก มากก เราเลยถามว่าแล้วคุณหมอจะลงแผลที่ไหน ซึ่งคุณหมอมีมา 2 ตัวเลือก คือ รักแร้ กับ ฐานนม(ใต้ราวนม) เราเลยถามคุณหมอว่า แบบไหนเจ็บกว่ากัน 55555 คุณหมอก็ตอบแบบตรงๆเลยนะว่า ถ้าลงแผลแบบรักแร้นิจะเจ็บมากกว่าแบบฐานนม ( - - เห็นภาพเลยคะ)ข้อดีคือจะไม่เห็นรอยแผลแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนเสมอไปนะ แต่ถ้าแบบฐานนมจะดีตรงที่ฟื้นตัวเร็วกว่ามากและจัดทรงเต้านมได้สวยกว่าแต่มีแผลแดงจางๆในช่วงแรกหลังจากนั้นจะค่อยๆหายไป คุณหมอแนะนำให้ทำแบบฐานนม เราเลยเลือกแบบฐานนมไป แน่ละคะใครจะไปยอมเจ็บละคะ ขั้นตอนต่อไปคือการผ่าตัดคะ
และแล้วก็มาถึงวันที่ผ่าตัด คุณหมอให้งดน้ำ งดอาหารเป็นเวลา 6 ชม. เพื่อความปลอดภัยของเราในระหว่างการผ่าตัด คุณหมอจึงได้นัดไปผ่าตัดที่สาขา พัทยา ซึ่งตอนแรกเราไม่รู้ว่ามีสาขาที่พัทยาด้วย ที่คุณหมอให้ไปที่สาขาพัทยานั้น เพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่จึงต้องใช้ห้องผ่าตัดที่ได้รับการรับรองมาตราฐานเดียวกับโรงพยาบาล เราก็เลยเดินทางมาผ่าตัดที่พัทยา ก่อนจะผ่าตัดก็มีการคุยกับคุณหมออีกรอบหนึ่ง ตื่นเต้นสุดๆค่ะ เพราะเป็นการผ่าตัดครั้งแรกและเป็นการผ่าตัดครั้งใหญ่ด้วย หัวใจแทบจะกระเด็นออกมาข้างนอกเลย ก็มีการเตรียมตัวก่อนเข้าผ่าตัด เปลี่ยนชุดคลุมเข้าไป พอเปิดประตูห้องผ่าตัดเข้าไป คือพูดไม่ออกเลยค่ะ จะบอกว่าช๊อคก็ว่าได้นะ เคยดูแต่ในหนังนะแต่ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้ ทุกอย่างดู professional จริงๆ คือตื่นเต้นจนก้าวขาไม่ออกจนเจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดต้องมาพาไปนอนบนเตียง ไม่ได้เวอร์นะ หรือใครจะว่าเราเวอร์ก็ได้ ถ้าไม่ได้ไปยืนจุดจุดนั้นจะไม่มีทางรู้เลยว่ารู้สึกอย่างไร เราก็แค่จะบอกความรู้สึกของเราในตอนนั้นแค่นั้นเอง คุณหมอก็เดินเข้ามาบอกว่าไม่ต้องตื่นเต้นนะ (ไม่ทันแล้วค่ะ หนูตื่นเต้นจนจะช็อคแล้วค่ะ) เจอกันอีกทีตอนทำเสร็จนะ
----เราตื่นขึ้นมาด้วยอาการสลึมสะลือจากฤทธ์ของยาสลบ แต่ความรู้สึกแรกที่จำได้คือ ทำไมที่หน้าอกมันหนักๆแบบไม่เคยเป็นมาก่อน 5555 แอบดีใจอยู่ประมาณ 30 วินาที แล้วอาการบาดเจ็บก็เข้ามา T___T มันเป็นธรรมดาเนอะที่ต้องเจ็บเพราะมีการผ่าตัด ไม่อยากจะนึกภาพเลยว่าถ้าทำตรงรักแร้จะเจ็บขนาดไหน พอตื่นมาทางคุณหมอก็ได้ให้เราพักฟื้นดูอาการที่คลินิกเป็นเวลา 1 คืน ทางคลินิกได้มีห้องไว้สำหรับคนไข้หลังจากการผ่าตัด คุณหมอได้นัดมาดูอาการทุกอาทิตย์ เพื่อติดตามอาการต่างๆ สุดท้ายอย่างก็ราบรื่นไม่พบปัญหาอะไร ต้องขอขอบคุณทางคลินิกและคุณหมอเป็นอย่างมากที่ดูแลเราเป็นอย่างดีตลอดการรักษา ขอบคุณมากคะ
*****อยากจะบอกกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนว่า การทำศัลยกรรมมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่เราต้องศึกษาหาข้อมูลในสิ่งมี่เราจะทำให้มากที่สุดก่อนที่จะลงมือทำ เพราะมันจะอยู่กับเราไปตลอด ส่วนตัวเรานั้นการได้ทำศัลยกรรมหน้าอกในครั้งนี้ทำให้ชีวิตของตัวเรานั้นเปลี่ยนไปมาก ทั้งเรื่องการงาน ทั้งเรื่องของความรัก ไปที่ไหนทำให้ตัวเรานั้นมีความมั่นใจมากขึ้น คุณหมอได้สอนก่อนกลับว่า ตอนนี้เราสวยแล้วแต่ยังสวยแบบไม่สมบูรณ์แบบ การสวยที่สมบูรณ์แบบนั้นต้องสวยจากภายในและภายนอก ต้องเป็นคนดี และเราจะมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตตลอดไป
*****เราไม่ได้โลกสวยแต่แค่อยากแบ่งปันประสบการณ์ที่เราได้พบมา เพื่อเพื่อนๆคนไหนกำลังคิดหรือสนใจในการทำศัลยกรรม หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆคน****
ประสบการณ์จากคนคัพ A อัพไซร์ เป็น คัพ C
**มาบอกไม่ได้ต้องการอะไรทั้งนั้น แค่อยากจะแชร์ประสบการณ์และความรู้ที่ได้รับจากการทำศัลยกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะคะ**
***ถ้ามาตอบช้า หรือ อัพช้า ยังไงหนูต้องขอโทดด้วยนะ สามารถพิมพ์ได้เฉพาะตอนเลิกงาน หรือพักเที่ยงเท่านั้นอ่ะ แต่จะพยายามให้จบเร็วคะ***
--เราชื่อหลินคะ เป็นเด็กต่างจังหวัดค่ะ ได้มาหางานทำในกทม.แต่อยู่กทม.ได้ไม่นานแล้วก็ได้ย้ายมาทำงานชลบุรี เพราะว่ากทม.คนเยอะมว๊ากกกกก T__T ความจริงก็พอรู้อยู่แล้วว่าเยอะ แต่พอมาเจอจริงๆ เยอะกว่าที่คิดไว้มาก หนูเลยเปลี่ยนมาอยู่ชลบุรี โดยทุนเดิมแล้วเราเป็นคนที่ตัวเล็ก ไม่สูงมาก เป็นคนเนื้อน้อยเพราะฉะนั้นไม่ต้องบอกเลยว่า บูมๆ ของหนูจะเล็กขนาดไหน T___T คือว่ามันเล็กมากจนเพื่อนๆชอบล้อว่า "อีไม้กระดาน" "นังไข่ดาว" "อีจอแบน" "อีลูกเกด" "นิหันหน้าคุยกันหรือหันหลังคุยหรอ" แล้วยิ่งเรามีเพื่อนที่เป็นสาวประเภท 2 เยอะด้วย เพราะฉะนั้นจะเจอคำใหม่ๆประจำจนชินค่ะ แต่ก็เอาตัวรอดมาได้โดยการพยายามหาข้อดีของคนอกเล็กมาให้เป็นประโยชน์ เช่น คนอกเล็กคาดเข็มขัดได้ง่ายนะ,หนุ่มๆเดินผ่านจะสบตากะเรา(เพราะไม่มีนมให้มองT__T),ไม่มีอาการปวดหลัง,เสื้อในที่ใส่ก็ลายน่ารักๆ ก็พยายามตลกกลบเกลื่อนไปเนอะ แต่ความจริงแล้วในใจอ่ะเส้านะคะ เก็บไปคิดตลอดเลยว่าทำไมไม่มีเหมือนคนอื่นเค้า คนอื่นตัวเล็กนมใหย่ ทำไมเราไม่เป็นบ้างงง อยากมีอาการแบบว่า "ปวดหลังจังเลยหนักนม" "เห้ยแกๆผช.คนนั้นแอบส่องนมแกอ่ะ" "ผช.เดินผ่านแขนโดนนมเรา หันมาขอโทดแบบเขินๆ แต่นิเดินผ่านเราอย่างกะเราเป็นวิญญาณแนะ นิถึงเป็นเหตุผลที่หนูหันมาทำศัลยกรรมกับคลินิกศัลยกรรมความงามแห่งหนึ่งแถวบางแสนคะ ผลที่ได้รับเกิ้นกว่าที่คิดไว้มากเลย
---ก่อนที่เราจะตัดสินใจทำศัลยกรรม เราก็ต้องมีการหาข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะหาได้ เพราะมันคือการเอามีดมากรีดเนื้อของเราและนำสิ่งแปลกปลอมใส่ไว้ในร่างกาย เพราะฉะนั้นเป็นธรรมดาที่เราต้องกลัวและหาข้อมูล+ให้มากที่สุด แล้วพอดีมีเพื่อนแนะนำให้ไปที่คลินิกนี้ เพราะเพื่อนเคยมาทำจมูกกับคุณหมอท่านนี้มาแล้ว เราเลยตัดสินใจลองเข้าไปปรึกษากับคุณหมอที่คลินิกดังกล่าว ในวันรุ่งขึ้นก็ได้เข้าไปตามที่ได้นัดไว้ บรรยากาศในคลินิคพนักงานเป็นกันเองมากๆ ดูแลเอาใจใส่เราถึงแม้วันนั้นเราจะใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นไปก็เถอะ พอได้เข้าไปคุยกับคุณหมอ คุณหมอก็ได้มีการอธิบายว่าต้องการแบบไหน รูปทรงแบบไหน ซิลิโคนอะไร ผิวซิลิโคนแบบไหน คือเรางงมากไม่คิดว่ามันจะเยอะขนาดนี้ เราเลยให้คุณหมออธิบายใหม่ทั้งหมด ซึ่งคุณหมอก็ใจดีมากๆอธิบายทุกอย่างด้วยความเต็มใจและเข้าใจง่าย เด๋วเราจะอธิบายเป็นแต่ละอันนะว่ามีอะไรบ้าง เอาเท่าที่เราจำได้ ถ้าตรงไหนผิดยังไงก็เข้ามาบอกมาคุยกันได้นะคะ
---ซิลิโคนมี 2 ประเภทคือ ทรงกลมและทรงหยดน้ำ มีวิธีแยกง่ายคือ ถ้าอยากได้ใหญ่อึ๋มๆกลมๆเอาทรงกลมเลย แต่ถ้าอยากได้ใหญ่แบบธรรมชาติต้องหยดน้ำ แต่ถ้าเป็นคนหน้าอกเล็กมาก ต้องใส่ทรงกลมไปเลย เพราะถ้าใส่หยดน้ำจะไม่สวยเพราะเนื้อข้างบนจะน้อย
---ผิวซิลิโคน ก็มีให้เราเลือกนะจะเอาแบบไหนมีแบบผิวเรียบกะผิวทราย แต่ส่วนใหญ่จะใช้ผิวทรายกันนะเพราะเปรียบเทียบกะผิวเรียบแล้ว ผิวเรียบจะมีการหดรั้งและแข็งตัวมากกว่าต้องหมั่นนวด เพราะฉะนั้นจึงไม่เป็นที่นิยม
ซึ่งเราอยากใส่ CC เยอะๆไปเลยไหนๆก็ทำแล้ว แต่คุณหมอก็แนะนำอีกว่า จะใส่ได้เยอะไม่เยอะนั้นขึ้นอยู่กับฐานนมของแต่ละคน และผิวหนังเพราะถ้าผิวบางมากไม่แนะนำให้ใส่จำนวน CC มาก เพราะจะทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งเราถามคุณหมอเยอะมากซึ่งตอนแรกก็เกรงใจคุณหมอเหมือนกันเพราะถามเยอะ แต่คุณหมอกลับบอกดีแล้วที่ถามเพราะเราจะได้เข้าใจด้วย และคุณหมอก็เต็มใจที่จะให้ความรู้กับเรา คุณหมอใจดีม๊าก มากก เราเลยถามว่าแล้วคุณหมอจะลงแผลที่ไหน ซึ่งคุณหมอมีมา 2 ตัวเลือก คือ รักแร้ กับ ฐานนม(ใต้ราวนม) เราเลยถามคุณหมอว่า แบบไหนเจ็บกว่ากัน 55555 คุณหมอก็ตอบแบบตรงๆเลยนะว่า ถ้าลงแผลแบบรักแร้นิจะเจ็บมากกว่าแบบฐานนม ( - - เห็นภาพเลยคะ)ข้อดีคือจะไม่เห็นรอยแผลแต่ก็ไม่ใช่ทุกคนเสมอไปนะ แต่ถ้าแบบฐานนมจะดีตรงที่ฟื้นตัวเร็วกว่ามากและจัดทรงเต้านมได้สวยกว่าแต่มีแผลแดงจางๆในช่วงแรกหลังจากนั้นจะค่อยๆหายไป คุณหมอแนะนำให้ทำแบบฐานนม เราเลยเลือกแบบฐานนมไป แน่ละคะใครจะไปยอมเจ็บละคะ ขั้นตอนต่อไปคือการผ่าตัดคะ
และแล้วก็มาถึงวันที่ผ่าตัด คุณหมอให้งดน้ำ งดอาหารเป็นเวลา 6 ชม. เพื่อความปลอดภัยของเราในระหว่างการผ่าตัด คุณหมอจึงได้นัดไปผ่าตัดที่สาขา พัทยา ซึ่งตอนแรกเราไม่รู้ว่ามีสาขาที่พัทยาด้วย ที่คุณหมอให้ไปที่สาขาพัทยานั้น เพราะเป็นการผ่าตัดใหญ่จึงต้องใช้ห้องผ่าตัดที่ได้รับการรับรองมาตราฐานเดียวกับโรงพยาบาล เราก็เลยเดินทางมาผ่าตัดที่พัทยา ก่อนจะผ่าตัดก็มีการคุยกับคุณหมออีกรอบหนึ่ง ตื่นเต้นสุดๆค่ะ เพราะเป็นการผ่าตัดครั้งแรกและเป็นการผ่าตัดครั้งใหญ่ด้วย หัวใจแทบจะกระเด็นออกมาข้างนอกเลย ก็มีการเตรียมตัวก่อนเข้าผ่าตัด เปลี่ยนชุดคลุมเข้าไป พอเปิดประตูห้องผ่าตัดเข้าไป คือพูดไม่ออกเลยค่ะ จะบอกว่าช๊อคก็ว่าได้นะ เคยดูแต่ในหนังนะแต่ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้ ทุกอย่างดู professional จริงๆ คือตื่นเต้นจนก้าวขาไม่ออกจนเจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัดต้องมาพาไปนอนบนเตียง ไม่ได้เวอร์นะ หรือใครจะว่าเราเวอร์ก็ได้ ถ้าไม่ได้ไปยืนจุดจุดนั้นจะไม่มีทางรู้เลยว่ารู้สึกอย่างไร เราก็แค่จะบอกความรู้สึกของเราในตอนนั้นแค่นั้นเอง คุณหมอก็เดินเข้ามาบอกว่าไม่ต้องตื่นเต้นนะ (ไม่ทันแล้วค่ะ หนูตื่นเต้นจนจะช็อคแล้วค่ะ) เจอกันอีกทีตอนทำเสร็จนะ
----เราตื่นขึ้นมาด้วยอาการสลึมสะลือจากฤทธ์ของยาสลบ แต่ความรู้สึกแรกที่จำได้คือ ทำไมที่หน้าอกมันหนักๆแบบไม่เคยเป็นมาก่อน 5555 แอบดีใจอยู่ประมาณ 30 วินาที แล้วอาการบาดเจ็บก็เข้ามา T___T มันเป็นธรรมดาเนอะที่ต้องเจ็บเพราะมีการผ่าตัด ไม่อยากจะนึกภาพเลยว่าถ้าทำตรงรักแร้จะเจ็บขนาดไหน พอตื่นมาทางคุณหมอก็ได้ให้เราพักฟื้นดูอาการที่คลินิกเป็นเวลา 1 คืน ทางคลินิกได้มีห้องไว้สำหรับคนไข้หลังจากการผ่าตัด คุณหมอได้นัดมาดูอาการทุกอาทิตย์ เพื่อติดตามอาการต่างๆ สุดท้ายอย่างก็ราบรื่นไม่พบปัญหาอะไร ต้องขอขอบคุณทางคลินิกและคุณหมอเป็นอย่างมากที่ดูแลเราเป็นอย่างดีตลอดการรักษา ขอบคุณมากคะ
*****อยากจะบอกกับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนว่า การทำศัลยกรรมมันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่เราต้องศึกษาหาข้อมูลในสิ่งมี่เราจะทำให้มากที่สุดก่อนที่จะลงมือทำ เพราะมันจะอยู่กับเราไปตลอด ส่วนตัวเรานั้นการได้ทำศัลยกรรมหน้าอกในครั้งนี้ทำให้ชีวิตของตัวเรานั้นเปลี่ยนไปมาก ทั้งเรื่องการงาน ทั้งเรื่องของความรัก ไปที่ไหนทำให้ตัวเรานั้นมีความมั่นใจมากขึ้น คุณหมอได้สอนก่อนกลับว่า ตอนนี้เราสวยแล้วแต่ยังสวยแบบไม่สมบูรณ์แบบ การสวยที่สมบูรณ์แบบนั้นต้องสวยจากภายในและภายนอก ต้องเป็นคนดี และเราจะมีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตตลอดไป
*****เราไม่ได้โลกสวยแต่แค่อยากแบ่งปันประสบการณ์ที่เราได้พบมา เพื่อเพื่อนๆคนไหนกำลังคิดหรือสนใจในการทำศัลยกรรม หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆคน****