คนเราทุกคนรู้จักไตรลักษณ์
รู้จัก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
รู้จักว่าทุกเรื่องราว เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับไป
แต่เหตุใดเมื่อหลายๆเรื่องราวในชีวิตผ่านไป ดับไป ตามกฏไตรลักษณ์
คนเราจึงทำใจไม่ได้
เหตุหนึ่งคงเป็นเพราะคนเราไม่เคยรู้จักพิจารณาความสุข
จริงๆแล้วความทุกข์ ความสุข ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของโลกธรรมแปด
ผู้วนเวียนอยู่ในสุข ในทุกข์ จึงเป็นผู้วนเวียนอยู่ในโลก
การยึดติดในสุข หรือยึดติดในทุกข์
ต่างก็เป็นการยึดติดในโลกเฉกเช่นเดียวกัน
การปฏิบัติโดยพยายามพิจารณาความทุกข์ วางความทุกข์โดยเห็นว่า เกิดขึ้นแล้วดับไป
แต่ไม่เคยพิจารณาความสุข วางความสุข ว่าเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปเช่นกัน
จิตใจก็ยังคงยึดติดในอารมณ์
ไม่อาจปล่อยวางอารมณ์ลงได้
หากยังยึดติดในความสุข
เมื่อวินาทีที่ความสุขจางหาย ใจก็โหยหา สุดท้ายใจก็เป็นทุกข์อยู่ดี
ผู้ปฏิบัติหากต้องการวางอารมณ์
จึงต้องเพียรพิจารณาวางทั้งสุขทั้งทุกข์ออกจากใจอยู่เสมอ
วางสุขวางทุกข์ได้
สุดท้ายใจก็ว่างเปล่า ไม่มีอะไร
เท่านั้นเอง
พิจารณาสุข ทุกข์
รู้จัก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
รู้จักว่าทุกเรื่องราว เกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับไป
แต่เหตุใดเมื่อหลายๆเรื่องราวในชีวิตผ่านไป ดับไป ตามกฏไตรลักษณ์
คนเราจึงทำใจไม่ได้
เหตุหนึ่งคงเป็นเพราะคนเราไม่เคยรู้จักพิจารณาความสุข
จริงๆแล้วความทุกข์ ความสุข ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของโลกธรรมแปด
ผู้วนเวียนอยู่ในสุข ในทุกข์ จึงเป็นผู้วนเวียนอยู่ในโลก
การยึดติดในสุข หรือยึดติดในทุกข์
ต่างก็เป็นการยึดติดในโลกเฉกเช่นเดียวกัน
การปฏิบัติโดยพยายามพิจารณาความทุกข์ วางความทุกข์โดยเห็นว่า เกิดขึ้นแล้วดับไป
แต่ไม่เคยพิจารณาความสุข วางความสุข ว่าเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปเช่นกัน
จิตใจก็ยังคงยึดติดในอารมณ์
ไม่อาจปล่อยวางอารมณ์ลงได้
หากยังยึดติดในความสุข
เมื่อวินาทีที่ความสุขจางหาย ใจก็โหยหา สุดท้ายใจก็เป็นทุกข์อยู่ดี
ผู้ปฏิบัติหากต้องการวางอารมณ์
จึงต้องเพียรพิจารณาวางทั้งสุขทั้งทุกข์ออกจากใจอยู่เสมอ
วางสุขวางทุกข์ได้
สุดท้ายใจก็ว่างเปล่า ไม่มีอะไร
เท่านั้นเอง