สวัสดีค่ะ เจน นะคะ วันนี้จะมาแนะนำยารักษาสิว Benzoyl Peroxide (เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์) หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ Benzac AC (เบนเซค เอซี) แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบวิธีการใช้ว่าควรใช้อย่างไรให้ได้ผลดีที่สุด
แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับยาตัวนี้กันก่อนค่ะ
Benzac AC มี อยู่2แบบ คือ แบบ 2.5% และ 5%
สรรพคุณ
Benzac AC มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะ Propionibacterium acnes (P.acnes) และทำให้หัวสิวแห้ง ตกสะเก็ดและหลุดออก
Benzac AC ไม่ก่อให้เกิดการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียเนื่องจากไม่ใช่ยาปฏิชีวนะ
Benzac AC มีสารให้ความชุ่มชื่น ได้แก่ GLYCERIN เพื่อ ลด อาการ ข้างเคียง โดย ใช้ เทคโนโลยี ที่ ทันสมัย
AC ย่อมาจาก ACRYLATES COPOLYMER เป็น copolymer ซึ่งมีคุณสมบัติปล่อย GLYCERIN เพื่อให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวและในขนาดเดียวกัน AC จะทำหน้าที่ดูดซับไขมันส่วนเกินจากผิว
ตัวเนื้อครีม
ค่อนข้างข้นระหว่างทาจะรู้สึกเนื้อครีมมันเหลวๆฉ่ำๆและจะรู้สึกเหมือนมีเม็ดเล็กๆผสมอยู่ในเนื้อครีม หลังจากทาไปสักพักผิวก็จะเริ่มแห้ง
วิธีการใช้
สำหรับคนที่เริ่มใช้ครั้งแรกเจนขอแนะนำให้เริ่มใช้ที่ 2.5% ก่อนนะคะ พอผิวหน้าเริ่มชินแล้วค่อยขยับไปใช้แบบ 5%
สำหรับวิธีใช้เพื่อให้ได้ผลที่สุดคือ ใช้ร่วมกับยารักษาสิวอีกตัวนึ่งชื่อ Diffarin (ดีฟฟารีน)
วิธีใช้คือ ทุกเย็น(หลังจากกลับเข้าบ้าน) ให้ล้างเครื่องสำอางออกก่อน(สำหรับคนที่แต่งหน้า)แต่สำหรับใครที่ไม่แต่งหน้าก็ให้ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพื่อเป็นการล้างความมันและสิ่งสกปรกออกจากใบหน้า แล้วทายา Benzac AC บางๆทั่วใบหน้า(ยกเว้นรอบดวงตา,รอบปาก,รองจมูก เพราะบริเวณนี้ผิวจะบอบบาง)
ถ้าทายาครั้งแรกให้ทาไว้แค่ 5 นาที และครั้งต่อไปให้เพิ่มเวลาไปเรื่อยๆ นานสุดไม่เกิน 20-30 นาที
จากนั้นไปล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าตามปกติค่ะ หลังจากล้างหน้าเสร็จให้ทายาที่ชื่อว่า Diffarin เป็นตัวแรกก่อนทาครีมบำรุง (ยา Diffarin ตัวนี้ใช้เฉพาะก่อนนอนเท่านั้นห้ามใช้ตอนเช้าเด็ดขาดนะคะ) จากนั้นก็ทาครีมบำรุงได้ตามปกติเลยค่ะ
ปล.การใช้ยา Benzac และ Diffarin จะทำให้ผิวแห้งมาก เจนแนะนำให้หาเจลว่านหางจระเข้หรือครีมที่ให้ความชุ่มชื้นมาใช้ควบคู่ด้วยนะคะ
ประวัติการรักษาสิว
ก่อนรักษา
เมื่อประมาณเดือนเมษายน 57 ผิวหน้าเจนมีอาการแพ้อย่างรุนแรงเนื่องจากใช้ครีมที่มีสารอันตราย และตอนนั้นก็ยังไม่รู้วิธีรักษาที่ถูกต้อง ทำให้อาการค่อนข้างหนัก มีทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด ขึ้นเต็มหน้า พยายามหาครีมต่างๆมาใช้ อะไรที่ว่าดีก็ใช้หมด เพื่ออยากจะให้สิวหาย แต่นี้เป็นวิธีที่ผิดค่ะ เพราะเมื่อเราเป็นสิวเราควรรักษาสิวด้วยยาไม่ใช่ครีมบำรุง
หลังจากรักษา
เจนเริ่มมารักษาสิวอย่างจริงจังก็เมื่อเดือนกันยายน 57 เจนใช้ Benzac AC กับ Diffarin ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน (2อาทิตย์แรกเจนใช้แค่ยารักษาสิวเท่านั้นไม่ใช้ครีมบำรุง พออาทิตย์ที่3ค่อยใช้ครีมบำรุงควบคู่ค่ะ) ผ่านมา 3 เดือน สิวอุดตันลดลงอย่างเห็นได้ชัดเหลือสิวผดกับจุดด่างดำจากสิวที่ยังอาการหนักอยู่ เจนก็ยังใช้ Benzac AC กับ Diffarin มาเรื่อยๆ(แต่เจนไม่ได้ใช้ทุกวันเหมือน3เดือนแรกนะคะ เจนจะใช้เฉพาะก่อนมีประจำเดือนหรือเวลามีสิวขึ้น) จนตอนนี้ก็ สิงหาคม 58 แล้ว ในรูปคือสภาพผิวหน้าล่าสุดค่ะ ไม่มีสิวอุดตันแล้ว แต่อาจจะยังมีร่องรอยของสิวอยู่บ้างค่ะ
ข้อควรระวัง
1.ใช้เฉพาะภายนอก ระวังอย่าให้เข้าตาจมูกและปาก
2.การใช้ Benzac AC มากเกินไปอาจก่อให้เกิดอาการแดงแสบหรือบวมได้ จึงควรลดความถี่ในการใช้ลงในกรณีที่พบอาการข้างเคียงข้างต้น
3.Benzoyl Peroxide มีฤทธิ์ฟอกสีผมได้
4.ผู้ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรไม่ควรใช้ยานี้
สิวหายแล้วแต่เรายังต้องปกป้องผิว
ต้องยอมรับว่าหลังจากที่ใช้ Benzac แล้ว ผิวหน้าค่อนข้างที่จะไว้ต่อแสงแดด(หรือดำง่ายนั้นเอง) เจนจึงอยากจะแนะนำครีมกันแดดที่สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะกับผิวที่เป็นสิวอีกด้วย
Cetaphil Daylong SPF50+ PA++++ light gel fluid face & Body
สรรพคุณ
ผลิตภัณฑ์ กันแดดนำเข้า ที่มียอดขายอันดับหนึ่งจากประเทศ สวิตเซอร์แลนด์
กันแดด ประสิทธิภาพสูง ป้องกันรังสียูวี SPF50+ และยูวีเอ PA++++ และรังสี Infrared
ผลิตภัณฑ์เนื้อบางเบา ปราศจาก Oil
ไม่มีส่วนผสมของ พาราเบน และ สาร Emulsifier ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองและการอุดตัน
ผลิตภัณฑ์เป็นแบบเนื้อเจล
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการป้องกันแสงแดด สูง เช่น ผู้ที่เป็นฝ้า กระ ง่าย หรือผู้ที่ผ่านการทำเลเซอร์
ใช้ทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย
Dermatological test
Hypo allergenic
Very water resistance
เนื้อครีม
เนื้อครีมค่อนข้างเหลว ทาลงบนผิวจะรู้สึกฉ่ำๆแต่ไม่เนียวเหนอะหนะ
วิธีการใช้
เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันแสงแดด ควรทากันแดด ในปริมาณที่เพียงพอ และครอบคลุมบริเวณที่ต้องการ ก่อนสัมผัสโดนแสงแดด 20 นาที
การล้างทำความสะอาด
สามารถล้างทำความสะอาดได้ตามปกติ ของการล้างทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกาย
ข้อควรระวัง
หลีกเลี่ยงการทากันแดดใกล้บริเวณ ดวงตา เพราะอาจทำให้ระคายเคือง หรือแสบตาได้
สำหรับวันนี้เจนต้องขอลาไปก่อน หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกๆคนนะคะ
และใครที่มีความคิดเห็นอย่างไรก็แสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้และฝากกดไลค์เป็นกำลังใจให้เจนด้วยนะคะที่ -->
https://www.facebook.com/Jenniebeautyblog
[SR] ยารักษาสิว Benzac AC ( เบนเซค )
แต่ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับยาตัวนี้กันก่อนค่ะ
Benzac AC มี อยู่2แบบ คือ แบบ 2.5% และ 5%
สรรพคุณ
Benzac AC มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะ Propionibacterium acnes (P.acnes) และทำให้หัวสิวแห้ง ตกสะเก็ดและหลุดออก
Benzac AC ไม่ก่อให้เกิดการดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียเนื่องจากไม่ใช่ยาปฏิชีวนะ
Benzac AC มีสารให้ความชุ่มชื่น ได้แก่ GLYCERIN เพื่อ ลด อาการ ข้างเคียง โดย ใช้ เทคโนโลยี ที่ ทันสมัย
AC ย่อมาจาก ACRYLATES COPOLYMER เป็น copolymer ซึ่งมีคุณสมบัติปล่อย GLYCERIN เพื่อให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวและในขนาดเดียวกัน AC จะทำหน้าที่ดูดซับไขมันส่วนเกินจากผิว
ตัวเนื้อครีม
ค่อนข้างข้นระหว่างทาจะรู้สึกเนื้อครีมมันเหลวๆฉ่ำๆและจะรู้สึกเหมือนมีเม็ดเล็กๆผสมอยู่ในเนื้อครีม หลังจากทาไปสักพักผิวก็จะเริ่มแห้ง
วิธีการใช้
สำหรับคนที่เริ่มใช้ครั้งแรกเจนขอแนะนำให้เริ่มใช้ที่ 2.5% ก่อนนะคะ พอผิวหน้าเริ่มชินแล้วค่อยขยับไปใช้แบบ 5%
สำหรับวิธีใช้เพื่อให้ได้ผลที่สุดคือ ใช้ร่วมกับยารักษาสิวอีกตัวนึ่งชื่อ Diffarin (ดีฟฟารีน)
วิธีใช้คือ ทุกเย็น(หลังจากกลับเข้าบ้าน) ให้ล้างเครื่องสำอางออกก่อน(สำหรับคนที่แต่งหน้า)แต่สำหรับใครที่ไม่แต่งหน้าก็ให้ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเพื่อเป็นการล้างความมันและสิ่งสกปรกออกจากใบหน้า แล้วทายา Benzac AC บางๆทั่วใบหน้า(ยกเว้นรอบดวงตา,รอบปาก,รองจมูก เพราะบริเวณนี้ผิวจะบอบบาง)
ถ้าทายาครั้งแรกให้ทาไว้แค่ 5 นาที และครั้งต่อไปให้เพิ่มเวลาไปเรื่อยๆ นานสุดไม่เกิน 20-30 นาที
จากนั้นไปล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าตามปกติค่ะ หลังจากล้างหน้าเสร็จให้ทายาที่ชื่อว่า Diffarin เป็นตัวแรกก่อนทาครีมบำรุง (ยา Diffarin ตัวนี้ใช้เฉพาะก่อนนอนเท่านั้นห้ามใช้ตอนเช้าเด็ดขาดนะคะ) จากนั้นก็ทาครีมบำรุงได้ตามปกติเลยค่ะ
ปล.การใช้ยา Benzac และ Diffarin จะทำให้ผิวแห้งมาก เจนแนะนำให้หาเจลว่านหางจระเข้หรือครีมที่ให้ความชุ่มชื้นมาใช้ควบคู่ด้วยนะคะ
ประวัติการรักษาสิว
ก่อนรักษา
เมื่อประมาณเดือนเมษายน 57 ผิวหน้าเจนมีอาการแพ้อย่างรุนแรงเนื่องจากใช้ครีมที่มีสารอันตราย และตอนนั้นก็ยังไม่รู้วิธีรักษาที่ถูกต้อง ทำให้อาการค่อนข้างหนัก มีทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวผด ขึ้นเต็มหน้า พยายามหาครีมต่างๆมาใช้ อะไรที่ว่าดีก็ใช้หมด เพื่ออยากจะให้สิวหาย แต่นี้เป็นวิธีที่ผิดค่ะ เพราะเมื่อเราเป็นสิวเราควรรักษาสิวด้วยยาไม่ใช่ครีมบำรุง
หลังจากรักษา
เจนเริ่มมารักษาสิวอย่างจริงจังก็เมื่อเดือนกันยายน 57 เจนใช้ Benzac AC กับ Diffarin ติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน (2อาทิตย์แรกเจนใช้แค่ยารักษาสิวเท่านั้นไม่ใช้ครีมบำรุง พออาทิตย์ที่3ค่อยใช้ครีมบำรุงควบคู่ค่ะ) ผ่านมา 3 เดือน สิวอุดตันลดลงอย่างเห็นได้ชัดเหลือสิวผดกับจุดด่างดำจากสิวที่ยังอาการหนักอยู่ เจนก็ยังใช้ Benzac AC กับ Diffarin มาเรื่อยๆ(แต่เจนไม่ได้ใช้ทุกวันเหมือน3เดือนแรกนะคะ เจนจะใช้เฉพาะก่อนมีประจำเดือนหรือเวลามีสิวขึ้น) จนตอนนี้ก็ สิงหาคม 58 แล้ว ในรูปคือสภาพผิวหน้าล่าสุดค่ะ ไม่มีสิวอุดตันแล้ว แต่อาจจะยังมีร่องรอยของสิวอยู่บ้างค่ะ
ข้อควรระวัง
1.ใช้เฉพาะภายนอก ระวังอย่าให้เข้าตาจมูกและปาก
2.การใช้ Benzac AC มากเกินไปอาจก่อให้เกิดอาการแดงแสบหรือบวมได้ จึงควรลดความถี่ในการใช้ลงในกรณีที่พบอาการข้างเคียงข้างต้น
3.Benzoyl Peroxide มีฤทธิ์ฟอกสีผมได้
4.ผู้ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรไม่ควรใช้ยานี้
สิวหายแล้วแต่เรายังต้องปกป้องผิว
ต้องยอมรับว่าหลังจากที่ใช้ Benzac แล้ว ผิวหน้าค่อนข้างที่จะไว้ต่อแสงแดด(หรือดำง่ายนั้นเอง) เจนจึงอยากจะแนะนำครีมกันแดดที่สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะกับผิวที่เป็นสิวอีกด้วย
Cetaphil Daylong SPF50+ PA++++ light gel fluid face & Body
สรรพคุณ
ผลิตภัณฑ์ กันแดดนำเข้า ที่มียอดขายอันดับหนึ่งจากประเทศ สวิตเซอร์แลนด์
กันแดด ประสิทธิภาพสูง ป้องกันรังสียูวี SPF50+ และยูวีเอ PA++++ และรังสี Infrared
ผลิตภัณฑ์เนื้อบางเบา ปราศจาก Oil
ไม่มีส่วนผสมของ พาราเบน และ สาร Emulsifier ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองและการอุดตัน
ผลิตภัณฑ์เป็นแบบเนื้อเจล
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการป้องกันแสงแดด สูง เช่น ผู้ที่เป็นฝ้า กระ ง่าย หรือผู้ที่ผ่านการทำเลเซอร์
ใช้ทาได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย
Dermatological test
Hypo allergenic
Very water resistance
เนื้อครีม
เนื้อครีมค่อนข้างเหลว ทาลงบนผิวจะรู้สึกฉ่ำๆแต่ไม่เนียวเหนอะหนะ
วิธีการใช้
เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันแสงแดด ควรทากันแดด ในปริมาณที่เพียงพอ และครอบคลุมบริเวณที่ต้องการ ก่อนสัมผัสโดนแสงแดด 20 นาที
การล้างทำความสะอาด
สามารถล้างทำความสะอาดได้ตามปกติ ของการล้างทำความสะอาดผิวหน้าและผิวกาย
ข้อควรระวัง
หลีกเลี่ยงการทากันแดดใกล้บริเวณ ดวงตา เพราะอาจทำให้ระคายเคือง หรือแสบตาได้
สำหรับวันนี้เจนต้องขอลาไปก่อน หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทุกๆคนนะคะ
และใครที่มีความคิดเห็นอย่างไรก็แสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้และฝากกดไลค์เป็นกำลังใจให้เจนด้วยนะคะที่ --> https://www.facebook.com/Jenniebeautyblog