ตอนที่ 6 (ตอนสุดท้าย) คอตกที่ HITSUJIYAMA PARK : ดอกฟ้า ที่ HITACHI SEASIDE PARK : ตะลุย TOKYO
ตอนที่ 1 ว่าด้วยเรื่องการเดินทาง และค่าใช้จ่าย ==>
http://ppantip.com/topic/34083958
ตอนที่ 2 HIMEJI -> MOUNT SHOSHA ENGYOJI TEMPLE, HIMEJI CASTLE: เสน่ห์แห่งวัดกลางป่า และปราสาทขาว ==>
http://ppantip.com/topic/34084003
ตอนที่ 3 KANAZAWA: สวนงามคู่เมืองเก่า ==>
http://ppantip.com/topic/34094207
ตอนที่ 4 JAPAN ALPEN ROUTE: มนุษย์ตัวเล็กๆ กับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ==>
http://ppantip.com/topic/34107107
ตอนที่ 5 MATSUMOTO, NAGANO ปราสาทดำที่น่าเกรงขาม และเทศกาลที่ 6 ปี จะจัด 1 ครั้ง ==>
http://ppantip.com/topic/34108470
หลังจากที่เมื่อวานเดินทางมาถึง Tokyo ไม่ดึกมาก วันนี้เราเลยออกเดินทางแต่เช้าเพื่อจะไปดู Shibazakura หรือ Pink Moss ซึ่งจริงๆ แล้วสถานที่จัดงานเทศกาลชมดอก Shibazakura จะมีอยู่หลายที่ และที่ทีมีชื่อเสียงมากที่สุดคือเทศกาล Fuji Shibazakura (ที่ว่ากันว่ามีถึง 800,000 ต้น) ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Lake Kawaguchiko และภูเขาไฟฟูจิ แต่ด้วยความปอดแหกจากการได้ยินข่าวว่ามีการเตือนภัยภูเขาไฟระเบิดบริเวณ Hakone ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่จัดงาน จึงเลือกที่จะไปชม Shibazakura ที่อื่น ซึ่งสานที่ที่จัดเทศกาลชม Shibazakura ใกล้ๆ กับ Tokyo ยังมีที่ Hitsujiyama Park เมือง Chichibu (ว่ากันว่ามี 400,000 ต้น)
การเดินทางไป Hitsujiyama Park โดยไปขึ้นรถไปของ Seibu ซึ่งเป็นคนละ Operator กับ JR จึงไม่รวมอยู่ใน JR Rail Pass เรามีขึ้นรถไฟ Seibu ที่สถานี Ikebukuro ซึ่งเป็นสถานีที่มีทั้ง JR และ Seibu แต่การซื้อตั๋วของ Seibu นั้น เราหา Ticket Office ไม่เจอ เราจึงเดินไปกดตั๋วที่เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ จาก Ikebukuro ไป Chichibu ประมาณ 700++ เยน แล้วก็เดินไปขึ้นรถซึ่งจอดรอที่ชานชาลาอยู๋แล้ว
แต่เดี๋ยวก่อน ทำไมราคาตั๋วมันไม่เท่ากับที่หาข้อมูลมาว่าราคาตั๋วมันจะราคาประมาณ 1,400++ เยน จึงถามผู้โดยสารคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ คุณลุงบอกว่าตั๋วที่เราได้มานั้นเป็นตั๋วแบบ Non-reserve seat และเค้าแนะนำว่าให้ซื้อแบบ Reserve seat ดีกว่า (จริงๆ ถ้าเป็นแบบแรกคงไปได้เหมือนกันโดยไปนั่งในโบกี้สำหรับ Non Reserve seat แต่เค้าคงกลัวว่าเราจะหาที่นั่งที่ติดกันไม่ได้) เมื่อคุณลุงดูนาฬิกาก็ทำท่ารีบร้อนกวักมือให้พวกเรารีบวิ่งตามเค้าไปกดตั๋วจองที่นั่ง เพราะรถไฟกำลังจะอกกในไม่กี่นาทีนี้แล้ว โดยที่ตั๋วจองที่นั่งนี้สามารถแยกซื้อต่างหากจากตั๋วโดยสารหลัก และซื้อได้ที่ตู้ออกตั๋วอัตโนมัติใกล้ๆ กับชานชลาด้านในสถานี (หลังจากผ่านประตูหลักของสถานีมาแล้ว) วิ่งกลับมาขึ้นรถทันทั้งพวกเราและคุณลุง แหะ แหะ ตื่นเต้นดี คิดว่านี่คือสีสันของวันแล้ว โดยยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองในอนาคต T T
นอกเรื่องสักครู่ สำหรับการเดินทางเป็นหมู่คณะ แนะนำว่าควรมีการรวบรวมเงินกองกลางไว้ที่คนใดคนหนึ่ง เนื่องจากหากสถานการณ์เร่งรีบเช่นนี้ ตู้ออกตั๋วโดยสารจะมีให้เราเลือกว่าจำนวนผู้โดยสารกี่คน และเครื่องจะออกตั๋วพร้อมกันได้เลย ปล. สำหรับคนที่ใช้กลยุทธนี้อยู่แล้ว โปรดอ่านข้ามไป (ทันไหม?)
(ตารางเดินรถตรวจสอบได้ที่
http://www.hyperdia.com/en/)
[CR] JAPAN 2015 OSAKA++KANAZAWA++JAPAN ALPEN++MATSUMOTO++HITACHI SEASIDE PARK++TOYKO (ตอนที่ สุดท้าย)
ตอนที่ 1 ว่าด้วยเรื่องการเดินทาง และค่าใช้จ่าย ==> http://ppantip.com/topic/34083958
ตอนที่ 2 HIMEJI -> MOUNT SHOSHA ENGYOJI TEMPLE, HIMEJI CASTLE: เสน่ห์แห่งวัดกลางป่า และปราสาทขาว ==> http://ppantip.com/topic/34084003
ตอนที่ 3 KANAZAWA: สวนงามคู่เมืองเก่า ==> http://ppantip.com/topic/34094207
ตอนที่ 4 JAPAN ALPEN ROUTE: มนุษย์ตัวเล็กๆ กับความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ==> http://ppantip.com/topic/34107107
ตอนที่ 5 MATSUMOTO, NAGANO ปราสาทดำที่น่าเกรงขาม และเทศกาลที่ 6 ปี จะจัด 1 ครั้ง ==> http://ppantip.com/topic/34108470
หลังจากที่เมื่อวานเดินทางมาถึง Tokyo ไม่ดึกมาก วันนี้เราเลยออกเดินทางแต่เช้าเพื่อจะไปดู Shibazakura หรือ Pink Moss ซึ่งจริงๆ แล้วสถานที่จัดงานเทศกาลชมดอก Shibazakura จะมีอยู่หลายที่ และที่ทีมีชื่อเสียงมากที่สุดคือเทศกาล Fuji Shibazakura (ที่ว่ากันว่ามีถึง 800,000 ต้น) ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Lake Kawaguchiko และภูเขาไฟฟูจิ แต่ด้วยความปอดแหกจากการได้ยินข่าวว่ามีการเตือนภัยภูเขาไฟระเบิดบริเวณ Hakone ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่จัดงาน จึงเลือกที่จะไปชม Shibazakura ที่อื่น ซึ่งสานที่ที่จัดเทศกาลชม Shibazakura ใกล้ๆ กับ Tokyo ยังมีที่ Hitsujiyama Park เมือง Chichibu (ว่ากันว่ามี 400,000 ต้น)
การเดินทางไป Hitsujiyama Park โดยไปขึ้นรถไปของ Seibu ซึ่งเป็นคนละ Operator กับ JR จึงไม่รวมอยู่ใน JR Rail Pass เรามีขึ้นรถไฟ Seibu ที่สถานี Ikebukuro ซึ่งเป็นสถานีที่มีทั้ง JR และ Seibu แต่การซื้อตั๋วของ Seibu นั้น เราหา Ticket Office ไม่เจอ เราจึงเดินไปกดตั๋วที่เครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ จาก Ikebukuro ไป Chichibu ประมาณ 700++ เยน แล้วก็เดินไปขึ้นรถซึ่งจอดรอที่ชานชาลาอยู๋แล้ว
แต่เดี๋ยวก่อน ทำไมราคาตั๋วมันไม่เท่ากับที่หาข้อมูลมาว่าราคาตั๋วมันจะราคาประมาณ 1,400++ เยน จึงถามผู้โดยสารคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ คุณลุงบอกว่าตั๋วที่เราได้มานั้นเป็นตั๋วแบบ Non-reserve seat และเค้าแนะนำว่าให้ซื้อแบบ Reserve seat ดีกว่า (จริงๆ ถ้าเป็นแบบแรกคงไปได้เหมือนกันโดยไปนั่งในโบกี้สำหรับ Non Reserve seat แต่เค้าคงกลัวว่าเราจะหาที่นั่งที่ติดกันไม่ได้) เมื่อคุณลุงดูนาฬิกาก็ทำท่ารีบร้อนกวักมือให้พวกเรารีบวิ่งตามเค้าไปกดตั๋วจองที่นั่ง เพราะรถไฟกำลังจะอกกในไม่กี่นาทีนี้แล้ว โดยที่ตั๋วจองที่นั่งนี้สามารถแยกซื้อต่างหากจากตั๋วโดยสารหลัก และซื้อได้ที่ตู้ออกตั๋วอัตโนมัติใกล้ๆ กับชานชลาด้านในสถานี (หลังจากผ่านประตูหลักของสถานีมาแล้ว) วิ่งกลับมาขึ้นรถทันทั้งพวกเราและคุณลุง แหะ แหะ ตื่นเต้นดี คิดว่านี่คือสีสันของวันแล้ว โดยยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองในอนาคต T T
นอกเรื่องสักครู่ สำหรับการเดินทางเป็นหมู่คณะ แนะนำว่าควรมีการรวบรวมเงินกองกลางไว้ที่คนใดคนหนึ่ง เนื่องจากหากสถานการณ์เร่งรีบเช่นนี้ ตู้ออกตั๋วโดยสารจะมีให้เราเลือกว่าจำนวนผู้โดยสารกี่คน และเครื่องจะออกตั๋วพร้อมกันได้เลย ปล. สำหรับคนที่ใช้กลยุทธนี้อยู่แล้ว โปรดอ่านข้ามไป (ทันไหม?)
(ตารางเดินรถตรวจสอบได้ที่ http://www.hyperdia.com/en/)