แหม่มแอนนา หัวนม มาคารอง โพนยางคำ และการศึกษาขั้นพื้นฐาน: HOW PRIMITIVE WE ARE?
30/08/14 – แหม่มแอนนา หัวนม มาคารอง โพนยางคำ และการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รัชฏ์ภูมิ บุญบัญชาโชค/ ไทย/ 2014)
10467067_10152317635463576_5225837553104736719_o
*** ออกตัวก่อนว่าเขียนด้วยความรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์, แนวคิดหรืออะไรก็ตามที่เป็นวิชาการน้อยมากๆ ดังนั้นจึงขอพูดเฉพาะสิ่งที่เราเห็นและคิดถึงมันตามพื้นความรู้ที่พอมี (ซึ่งแน่นอนบางเรื่องเราคิดคลาดเคลื่อนแน่ๆ) ***
How primitive we are?
เรารู้ว่ารัชฏ์ภูมิสนใจและศึกษาเรื่องราวในช่วงก่อนและหลังยุคอาณานิคมมานานแล้ว ทั้งประวัติความเป็นมาและโดยเฉพาะผลต่างๆที่มันถูกส่งต่อผ่านมาถึงปัจจุบันในหลายๆด้านจากใน FB ที่รัชฏ์ภูมิมักแชร์ความรู้มาให้อ่าน กอปรกับการส่งผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาในภาพยนตร์ ในไตรภาคแรกรัชฏ์ภูมิพูดถึงเรื่องของการสื่อสารทั้งระบบทั้งเรื่องของความต่างของเสียง, ภาษาหรือแม้กับตัวอักขระอักษรบนแนวความคิดแบบอาณานิคม ทั้งเรื่องของซับไตเติ้ลในรูปของเข้าครอบครองชาติใน เสียงออกไม่ได้ในราชอาณาจักรทางภาษาของคุณ (2011), วอยย์โอเวอร์ในรูปของเอกราชและความต่างใน มะนีจันเปล่งเสียงไม่ได้ในทวิภูมิทางภาษาของคุณ (2013) (ส่วน ออกเสียงไม่ได้ในจักรวรรดิทางภาษาของคุณ (2008) เรายังไม่ได้ดู) ซึ่งใน มะนีจันฯ ยังเป็นจุดเริ่มต้นของหนังชุดใหม่อันว่าด้วยอาณานิคมที่เคยมีบทบาทต่อสยาม/ไทย มะนีจันฯว่าถึงฝรั่งเศส ส่วนแหม่มแอนนาฯนั้นคือบริเตน อังกฤษ โดยจะมีอีกเรื่องคือ ม.อ.ฟ.ฮ.ค.ก.ร.ป.ต.ย.ท.น.ด.จ.ต. (ปีไหนไม่รู้) ที่จะว่าถึงอเมริกา (ข้อมูลนี้ขโมยมาจากหน้าวอลล์เจ้าตัว)
หนังมันพูดถึงว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากแหม่มแอนนา (ใช่ค่ะ! คนเดียวกับในเรื่อง Anna and the King of Siam, The King And I และ Anna and the King นั้นแหละ) ได้กลับมาศิวิไลซ์ประเทศไทยอีกครั้งหลังจากไปศิวิไลซ์มาหมดแล้วเกือบทั่วทั้งโลก โดยเป้าหมายของเธอคือการศิวิไลซ์ พรินซ์ ชายชั้นสูงป่าเถื่อน โดยมี ทับทิม สาวใช้ใจซื่อเป็นผู้ช่วยเหลือ แล้วไอ้การศิวิไลซ์นี้มันก็นำพาคนดูไปพบกับความย้อยแย้งและความแปลกประหลาดที่สังคมไทยมันเป็นอยู่ มันทั้งแสบสันต์และเจ็บแสบ!
10612910_10154578593865220_7357274569542735528_n
เพื่อให้ง่ายต่อการเรียบเรียงของตัวเอง เราจึงขอเขียนโดยแยกแต่ละตัวละครแทน
แหม่มแอนนา: แหม่มชาวตะวันตกผู้ศิวิไลซ์มาแล้วทั่วโลก แต่เธอมีอดีตตามหลอกหลอนอยู่นั้นคือเหล่าผู้เสียหายจากการศิวิไลซ์ของเธอ การมาศิวิไลซ์ไทยของเธอจึงคือความย้อนแย้งอย่างร้ายกาจ การทำให้เป็นสมัยใหม่โดยโดนความเป็นสมัยเก่าตามหลอกหลอน เป็นผลให้เมื่อเธอศิวิไลซ์ได้แล้วความหวาดกลัวก็บังเกิดอันเป็นความกลัวเดียวกับการเสียการครอบครอง ดังนั้นแล้วเมื่อถึงจุดนั้นเธอจึงต้องทำการกดทับ(ด้วยความเป็นไทยนั้นแล) เพื่อกดความภาพของอดีตเหล่านั้นลงและผลของการเป็นผู้ครอบครองต่อไปกอปรกับจิตใต้สำนึกของการถวิลหาความเถื่อนถ้ำ(ในฉากความสุขของการเยี่ยวรดหน้า) โดยหารู้ไปว่าการศิวิไลซ์ของเธอในรูปของการกดทับนั้นมันได้ก่อร่างสร้างตัวไปไกลแล้ว ด้วยความย้อนแย้งของเธอจึงทำให้ท้ายที่สุดเธอก็พ่ายแพ้หมดรูปไป
พรินซ์: ชายไทยชั้นสูงผู้เถื่อนถ้ำ ยืนตัวไม่ตรง ไม่เป็นที่และต่อมกระตุ้นความรู้สึกทางเพศอยู่ตื้นเพียงหัวนม เขาผู้ได้รับการศิวิไลซ์ขึ้นมา(ในรูปของการกดทับของแหม่ม)จนหูตากว้างไกล ฉลาดขึ้นและรู้ว่าจะปกครองและหาประโยชน์จากผู้คนอย่างไร เขาคือผู้เป็นใหญ่ที่สุดในหนังเรื่องนี้
ทับทิม: ไพร่สาวไทยผู้อ้อนน้อม อ่านภาษาอังกฤษได้ฉะฉานผู้สมยอมกับการเป็นข้ารับใช้ จนการมาศิวิไลซ์(และให้ท้าย)ของแหม่มแอนนา เธอจึงเริ่มแต่งตัวอย่างตะวันตก กินมาคารอง เริ่มร้องไห้กับหนังอย่าง 12 Years a Slave และซะใจกับ Django Unchained แต่เธอยังคงเป็นผู้โดนกดทับอยู่ตลอดเวลาอยู่ร่ำไป
กล่าวโดยสรุป นี่คือภาพจำลองของสังคมไทยในช่วงเวลาจากศตวรรษที่ 19 มาสู่ศตวรรษที่ 21 ที่แม้เวลาจะเดินหน้าแต่สภาพสังคมกลับเป็นการเดินย้อนกลับจากศตวรรษที่ 21 สู่ศตวรรษที่ 19 อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มันคือการดึงรากผ่าต้นแล้วนำเอาวงปีของสังคมไทยเหล่านั้นมาชำแหละ ผ่าซาก หาจุดร่วม จุดบิด จุดบอดของมันพร้อมๆกับการตวาดเสียงดังๆๆว่า ดูซิพวกทั้งหลาย ไอ้สิ่งที่พวกคิดว่าศิวิไลซ์นักหนานั้น แท้จริง
พริมิทีฟแค่ไหน!!!
นี่คือหนังสนุกมาก กวนตีนมาก ตลกมาก ซะใจมาก รุนแรงมากและตบหน้าได้เจ็บ
เลย
เอ๊า! รอ
อะไรกันอยู่ค่ะ กราบแหม่มซิค่ะพวก กราบบบบบบบบบ
10384807_10154368597825220_447924762069704665_n
ปล1. นักแสดงเริดทุกตัว แสดงกันแบบไม่ยั้งมือ มีร้อยใส่พัน รวมถึงเทคนิคที่หนังใช้อัน
ห่าบัดซบ (มันคือคำชมที่ยกย่องที่สุด) แค่เปิดเรื่องมาแนะนำตัวแหม่มก็
แล้ว แถมมันยังมีซีนตบกันที่ยิ่งกว่าละครหลังข่าวหรือกับซีนถ่ายมุมกดการกราบตอนท้าย แต่ที่คือที่สุดของที่สุดคือการใช้เพลงประกอบ ใคระไปคิดว่ามันมีคนเอาเพลง ไกลแค่ไหนคือใกล้ มาประกอบฉากฆ่าไม่เลี้ยงใน Django Unchained!!!
ปล2. สองซีนที่ดิฉันสบถ เหยดดดด ขึ้นมายาวๆและจิกหน้าอย่างแรงคือซีนแหม่มแอนนาพ่ายแพ้ต่อหน้าอนุสาวรีย์ ร.5 และหมุดคณะราชฏร และซีนก้มกราบตอนท้ายที่ใช้ภาพมุมกด รุนแรงหาสิ่งใดเปรียบจริงๆ
ปล3. เป็นเกียรติ์เหลือแสนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ร่วมกับเหล่ามิตรสหายในโรงใหญ่ที่พร้อมใจกันกรี๊ดกร๊าดโห่ร้อง จิกเบาะตบเข่ากันแบบไม่ยั้ง มันช่วยทำให้การดูหนังเรื่องนี้มันพีคขึ้นไปขั้นจริงๆ
10612900_868555023156929_8125831336993310327_ncr. Theeraphat Ngathong’ FB
อยากดูหนังสั้นเรื่อง แหม่มแอนนา หัวนม มาคารอง โพนยางคำ และการศึกษาขั้นพื้นฐาน จะหาดูได้ที่ไหน ขอลิงค์หน่อย
30/08/14 – แหม่มแอนนา หัวนม มาคารอง โพนยางคำ และการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รัชฏ์ภูมิ บุญบัญชาโชค/ ไทย/ 2014)
10467067_10152317635463576_5225837553104736719_o
*** ออกตัวก่อนว่าเขียนด้วยความรู้เรื่องราวทางประวัติศาสตร์, แนวคิดหรืออะไรก็ตามที่เป็นวิชาการน้อยมากๆ ดังนั้นจึงขอพูดเฉพาะสิ่งที่เราเห็นและคิดถึงมันตามพื้นความรู้ที่พอมี (ซึ่งแน่นอนบางเรื่องเราคิดคลาดเคลื่อนแน่ๆ) ***
How primitive we are?
เรารู้ว่ารัชฏ์ภูมิสนใจและศึกษาเรื่องราวในช่วงก่อนและหลังยุคอาณานิคมมานานแล้ว ทั้งประวัติความเป็นมาและโดยเฉพาะผลต่างๆที่มันถูกส่งต่อผ่านมาถึงปัจจุบันในหลายๆด้านจากใน FB ที่รัชฏ์ภูมิมักแชร์ความรู้มาให้อ่าน กอปรกับการส่งผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาในภาพยนตร์ ในไตรภาคแรกรัชฏ์ภูมิพูดถึงเรื่องของการสื่อสารทั้งระบบทั้งเรื่องของความต่างของเสียง, ภาษาหรือแม้กับตัวอักขระอักษรบนแนวความคิดแบบอาณานิคม ทั้งเรื่องของซับไตเติ้ลในรูปของเข้าครอบครองชาติใน เสียงออกไม่ได้ในราชอาณาจักรทางภาษาของคุณ (2011), วอยย์โอเวอร์ในรูปของเอกราชและความต่างใน มะนีจันเปล่งเสียงไม่ได้ในทวิภูมิทางภาษาของคุณ (2013) (ส่วน ออกเสียงไม่ได้ในจักรวรรดิทางภาษาของคุณ (2008) เรายังไม่ได้ดู) ซึ่งใน มะนีจันฯ ยังเป็นจุดเริ่มต้นของหนังชุดใหม่อันว่าด้วยอาณานิคมที่เคยมีบทบาทต่อสยาม/ไทย มะนีจันฯว่าถึงฝรั่งเศส ส่วนแหม่มแอนนาฯนั้นคือบริเตน อังกฤษ โดยจะมีอีกเรื่องคือ ม.อ.ฟ.ฮ.ค.ก.ร.ป.ต.ย.ท.น.ด.จ.ต. (ปีไหนไม่รู้) ที่จะว่าถึงอเมริกา (ข้อมูลนี้ขโมยมาจากหน้าวอลล์เจ้าตัว)
หนังมันพูดถึงว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากแหม่มแอนนา (ใช่ค่ะ! คนเดียวกับในเรื่อง Anna and the King of Siam, The King And I และ Anna and the King นั้นแหละ) ได้กลับมาศิวิไลซ์ประเทศไทยอีกครั้งหลังจากไปศิวิไลซ์มาหมดแล้วเกือบทั่วทั้งโลก โดยเป้าหมายของเธอคือการศิวิไลซ์ พรินซ์ ชายชั้นสูงป่าเถื่อน โดยมี ทับทิม สาวใช้ใจซื่อเป็นผู้ช่วยเหลือ แล้วไอ้การศิวิไลซ์นี้มันก็นำพาคนดูไปพบกับความย้อยแย้งและความแปลกประหลาดที่สังคมไทยมันเป็นอยู่ มันทั้งแสบสันต์และเจ็บแสบ!
10612910_10154578593865220_7357274569542735528_n
เพื่อให้ง่ายต่อการเรียบเรียงของตัวเอง เราจึงขอเขียนโดยแยกแต่ละตัวละครแทน
แหม่มแอนนา: แหม่มชาวตะวันตกผู้ศิวิไลซ์มาแล้วทั่วโลก แต่เธอมีอดีตตามหลอกหลอนอยู่นั้นคือเหล่าผู้เสียหายจากการศิวิไลซ์ของเธอ การมาศิวิไลซ์ไทยของเธอจึงคือความย้อนแย้งอย่างร้ายกาจ การทำให้เป็นสมัยใหม่โดยโดนความเป็นสมัยเก่าตามหลอกหลอน เป็นผลให้เมื่อเธอศิวิไลซ์ได้แล้วความหวาดกลัวก็บังเกิดอันเป็นความกลัวเดียวกับการเสียการครอบครอง ดังนั้นแล้วเมื่อถึงจุดนั้นเธอจึงต้องทำการกดทับ(ด้วยความเป็นไทยนั้นแล) เพื่อกดความภาพของอดีตเหล่านั้นลงและผลของการเป็นผู้ครอบครองต่อไปกอปรกับจิตใต้สำนึกของการถวิลหาความเถื่อนถ้ำ(ในฉากความสุขของการเยี่ยวรดหน้า) โดยหารู้ไปว่าการศิวิไลซ์ของเธอในรูปของการกดทับนั้นมันได้ก่อร่างสร้างตัวไปไกลแล้ว ด้วยความย้อนแย้งของเธอจึงทำให้ท้ายที่สุดเธอก็พ่ายแพ้หมดรูปไป
พรินซ์: ชายไทยชั้นสูงผู้เถื่อนถ้ำ ยืนตัวไม่ตรง ไม่เป็นที่และต่อมกระตุ้นความรู้สึกทางเพศอยู่ตื้นเพียงหัวนม เขาผู้ได้รับการศิวิไลซ์ขึ้นมา(ในรูปของการกดทับของแหม่ม)จนหูตากว้างไกล ฉลาดขึ้นและรู้ว่าจะปกครองและหาประโยชน์จากผู้คนอย่างไร เขาคือผู้เป็นใหญ่ที่สุดในหนังเรื่องนี้
ทับทิม: ไพร่สาวไทยผู้อ้อนน้อม อ่านภาษาอังกฤษได้ฉะฉานผู้สมยอมกับการเป็นข้ารับใช้ จนการมาศิวิไลซ์(และให้ท้าย)ของแหม่มแอนนา เธอจึงเริ่มแต่งตัวอย่างตะวันตก กินมาคารอง เริ่มร้องไห้กับหนังอย่าง 12 Years a Slave และซะใจกับ Django Unchained แต่เธอยังคงเป็นผู้โดนกดทับอยู่ตลอดเวลาอยู่ร่ำไป
กล่าวโดยสรุป นี่คือภาพจำลองของสังคมไทยในช่วงเวลาจากศตวรรษที่ 19 มาสู่ศตวรรษที่ 21 ที่แม้เวลาจะเดินหน้าแต่สภาพสังคมกลับเป็นการเดินย้อนกลับจากศตวรรษที่ 21 สู่ศตวรรษที่ 19 อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มันคือการดึงรากผ่าต้นแล้วนำเอาวงปีของสังคมไทยเหล่านั้นมาชำแหละ ผ่าซาก หาจุดร่วม จุดบิด จุดบอดของมันพร้อมๆกับการตวาดเสียงดังๆๆว่า ดูซิพวกทั้งหลาย ไอ้สิ่งที่พวกคิดว่าศิวิไลซ์นักหนานั้น แท้จริงพริมิทีฟแค่ไหน!!!
นี่คือหนังสนุกมาก กวนตีนมาก ตลกมาก ซะใจมาก รุนแรงมากและตบหน้าได้เจ็บเลย
เอ๊า! รอ อะไรกันอยู่ค่ะ กราบแหม่มซิค่ะพวก กราบบบบบบบบบ
10384807_10154368597825220_447924762069704665_n
ปล1. นักแสดงเริดทุกตัว แสดงกันแบบไม่ยั้งมือ มีร้อยใส่พัน รวมถึงเทคนิคที่หนังใช้อัน ห่าบัดซบ (มันคือคำชมที่ยกย่องที่สุด) แค่เปิดเรื่องมาแนะนำตัวแหม่มก็ แล้ว แถมมันยังมีซีนตบกันที่ยิ่งกว่าละครหลังข่าวหรือกับซีนถ่ายมุมกดการกราบตอนท้าย แต่ที่คือที่สุดของที่สุดคือการใช้เพลงประกอบ ใคระไปคิดว่ามันมีคนเอาเพลง ไกลแค่ไหนคือใกล้ มาประกอบฉากฆ่าไม่เลี้ยงใน Django Unchained!!!
ปล2. สองซีนที่ดิฉันสบถ เหยดดดด ขึ้นมายาวๆและจิกหน้าอย่างแรงคือซีนแหม่มแอนนาพ่ายแพ้ต่อหน้าอนุสาวรีย์ ร.5 และหมุดคณะราชฏร และซีนก้มกราบตอนท้ายที่ใช้ภาพมุมกด รุนแรงหาสิ่งใดเปรียบจริงๆ
ปล3. เป็นเกียรติ์เหลือแสนที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ร่วมกับเหล่ามิตรสหายในโรงใหญ่ที่พร้อมใจกันกรี๊ดกร๊าดโห่ร้อง จิกเบาะตบเข่ากันแบบไม่ยั้ง มันช่วยทำให้การดูหนังเรื่องนี้มันพีคขึ้นไปขั้นจริงๆ
10612900_868555023156929_8125831336993310327_ncr. Theeraphat Ngathong’ FB