สวัสดีค่ะ วันนี้มีปัญหาหนักใจมากจริงๆ เรื้อรังมาหลายวันแล้วค่ะ
ต้องขออนุญาตเล่าก่อนนะคะ เมื่อ 7 ปีที่แล้วค่ะ ตอนนั้นดิฉันอายุ 15 ปลายๆ ได้คบหากับผู้ชายคนนึงอายุมากว่าฉัน 1 ปี และเป็นแฟนคนแรกเลยค่ะ ซึ่งคุยกันผ่านโทรศัพท์ เห็นหน้ากันบ้างแต่ไม่เคยไปเดท ไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันค่ะ(บ้านฉันกับนาย C อยู่ไม่ไกลกันมาก) รู้จักกันเพราะเค้าเป็นเพื่อนกับน้องสาว ก่อนตกลงคบกันดิฉันได้มีการคุยกับนาย C ไว้ว่า จะไม่มี SEX ไม่คุยเรื่องอย่างว่าค่ะ เพราะเคยผ่านเรื่องราวไม่ดีมา (พ.ศ 2549 โดนลูกชายเจ้านายของแม่ที่ ตจว. ข่มขืน เป็นผู้ชายคนแรก*) เลยฝังใจกับเรื่องพวกนี้เป็นพิเศษ C เค้าก็รับปากค่ะ แต่ไปๆมา ๆ พอคบกันได้ สักพักค่ะ เกือบๆปี เค้าเริ่มมีการชวนคุยเรื่อง Sex เรื่องอย่างว่า และจบที่การขอมีอะไรด้วย แต่ฉันก็ปฏิเสธเค้าตลอดเวลาค่ะ จนกระทั่งวันนึง เพื่อนที่สนิทมากมาขอพักที่บ้านและพอตกดึก M เพื่อนสาวคนสนิทขอตัวออกมาข้างนอกค่ะ นางบอกจะไปซื้อของที่ 7-11 ด้วยความห่วงเพื่อนเลยขอไปเป็นเพื่อนแต่นางก็ปฏิเสธค่ะ แบบว่าไปคนเดียวได้ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรพอนางออกมา ก็เลยแอบเดินตามนางมาห่างๆค่ะ แต่ทางที่นางเดินไปไม่ใช่ทางไป 7-11 แต่เป็นบ้านนาย C เราก็เริ่มงงล่ะ พอมาถึงหน้าบ้านก็เห็นนาย C ยืนรอนาง M อยู่ แต่เค้าทั้งคู่ไม่เห็นฉัน และเค้าทั้ง 2 คนก็หายขึ้นไป ด้วยความร้อนใจอยากโทรไปถามคนทั้งคู่แต่ไม่ได้เอามือถือมาค่ะ ได้แต่ยืนรออยู่หน้าบ้าน ตอนนั้นช่วงต้นปีเลยค่ะ อากาศหนาวมาก ยืนรอประมาณชั่วโมงกว่าๆ นาง M กับ นาย C ก็ลงมา ฉันเลยแสดงตัวเลยค่ะ เข้าไปหาคนทั้งคู่ ตอนเค้า 2 คนเห็นฉันมีท่าทีตกใจสุดขีดนางเลยถามฉันว่า 'มาตอนใหนเนี่ย' ฉันเลยสวนเพื่อนไปว่า 'กูตามมาตั้งนานล่ะ ใหนบอกจะไปเซเว่น แล้วนี่อะไร ?? 2 ตัวมาทำอะไรกัน ?? หรือไอ้ *** เปิดเซเว่นที่นี่ ห่ะ !! ซื้อของกันนานเนอะ หึ' นางไม่ตอบค่ะ นางนิ่งเงียบ ฉันเลยหันไปถามคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนแทน 'ทำอะไรกัน !! ขึ้นไปทำอะไร ??' นาย C ตวาดฉันกลับว่า 'ผมมีอะไรกับ M เพราะคุณไม่ยอมให้ผมมีอะไรด้วย' ด้วยความโมโหตบหน้ามันทั้งคู่ค่ะ 'กุถามหน่อย C คบกับกูเพื่อหวังว่าจะเอาอย่างเดียวใช่ไหม ก็รู้ว่าก็เจออะไรมาบ้าง รอกูไม่ได้หรอ ถึงต้องมาเอาเพื่อนสนิทของกูอ่ะ ใหนสัญญากับกูว่ารอกูได้ไง แล้วนี่มันคืออะไร ...(ร้องไห้)' วินาทีนั้นมันระเบิดออกมาหมดเลย เจ็บมาก คนนึงก็เพื่อนรัก อีกคนก็แฟน สุดท้ายวันนั้นฉันตัดสินใจบอกเลิกฝ่ายชายค่ะ แต่ไม่ได้เลิกคบเพื่อน แต่มันไม่จบแค่นี้ค่ะ
หลังจากนั้นไม่นาน C ก็พยายามมาขอคืนดีค่ะ แต่ไม่ได้ใจอ่อนค่ะ แต่มันมาสุดขีด หน้ามือ โมโหเพราะเพื่อนนี่แหละค่ะ วันนั้นมีการนัดเพื่อนๆ มากินหมูกะทะค่ะ เพื่อนๆ ทุกคนดื่มเบียร์กันหมด มีฉันคนเดียวที่ไม่ได้ดื่มเพราะเป็นคนคออ่อน + มีโรคประจำตัว (ไทรอยด์เป็นพิษ) นาง M พอเมาได้ที่นางเลยแพล่มค่ะ เรื่องที่ไปมี SEX กับ ไอ้ C บรรยายถึงขนาดที่ว่า มีอะไรกันท่าใหน เข้าไปครั้งแรกทำยังไง แบบตอนนั้นฉันหน้าชามาก เพื่อนคนอื่นๆที่ไม่รู้ก็รู้เลยค่ะคืนนั้น ทุกคนต่าง งง และ เพื่อนบางคนก็ด่านาง M ว่าสมควรเอามาพูดไหม ?? ด้วยความแค้นและอะไรหลายๆอย่างทำให้คืนนั้นโทรหาไอ้ C เลยค่ะ บอกมันว่า อยากมีอะไรกับฉันใช่ไหม เดี๋ยวไปหาค่ะ และก็ไปจริงๆค่ะ พวกเพื่อนๆต่างพากันค้านแต่ตอนนั้นอารมณ์โกรธ โมโหมาเต็มค่ะ เลยไม่ได้ฟังใคร ไปหาไอ้ C ค่ะ และยอมให้มันมีอะไรด้วย เป็นการเดินในชีวิตที่พลาดมากค่ะ มีอะไรกับมันแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวแต่ไม่ได้ป้องกัน ผลที่ตามมาคือ ...ท้อง... ปกติไทรอยด์ที่ฉันเป็น ประจำเดือนมาบ้างไม่บ้างอยู่แล้วค่ะ เลยไม่ได้สงสัยอะไร จนมีช่วงนึงที่รู้สึกว่าเหม็นน้ำหอม เหม็นแป้งที่เคยใช้ประจำ กินอะไรก็อาเจียนมาหมด จากปกติเป็นคนเหนือยง่าย ใจสั่นอยู่แล้ว กลับมีอาการแปลกๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เลยปรึกษาพี่ที่รู้จักกันเค้าก็แซวมาขำๆว่าท้องหรือเปล่า ?? ตอนนั้นมึนค่ะเลยรีบไปซื้อที่ตรวจครรภ์มา อันแรก 2 ขีดค่ะ ไม่เชื่อ ซื้อมาเพิ่มอีกหลายๆอัน หลายๆยี่ห้อ ตรวจ ขึ้น 2 ขีดทุกอันค่ะ เลยติดต่อไปหานาย C และเอาที่ตรวจไปหาเค้าที่บ้าน เค้าก็รับไปดูและถามว่ามันคืออะไร ฉันเลยให้เค้าอ่านวิธีการใช้ค่ะ เค้ารับไปอ่านและถามมาอย่างตกใจ 'เห้ย คุณท้องหรอ ??' ฉันได้แต่พยักหน้ารับเศร้าๆ 'มาบอกผมทำไม?' คำๆนี้กรีดหัวใจเลยค่ะ เจ็บ จุก ชา อึ้ง แบบ เห้ย !! กูมีอะไรกับคนเดียว ทำไมพูดแบบนี้ว่ะ 'เห้ย พูดงี้คืออะไร วันนั้นมีอะไรไม่ได้ป้องกัน จำได้ไหมห่ะ อย่ามาพูดนะว่าไม่รู้อะไร อย่ามาบอกนะว่าจำไม่ได้' เค้านิ่งเงียบไป เรา 2 คนตกอยู่ในความเงียบกันทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครพูดอะไรเลย จนเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ เค้าเดินหายเข้าไปในห้องค่ะ และกลับออกมาหาฉันพร้อมกับเงินจำนวนนึง 'นี่คืออะไร C ??' ฉันถามด้วยความงุนงง 'ไปเอาเด็กออกเถอะ ผมไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อของใคร' โห่ !! ชีวิตบัดซบมาก ตอนนั้นร้องไห้จนพูดอะไรไม่ออก มันเจ็บมันช้ำไปหมด คือความคิดตอนนั้นคิดว่า ทำไมชีวิตเรามันแย่อย่างนี้ว่ะ แต่ฉันก็เลือกที่จะรับเงินเค้ามา และเดินออกมาจากชีวิตเค้าค่ะ พอหลังจากวันนั้นฉันได้ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำแท้งค่ะ พอไปดูในแต่ล่ะเว็ปแล้วรู้สึกหดหู่มากค่ะ คนทำแท้งเยอะมาก เลยตัดสินใจไม่ทำอะไรทั้งนั้นค่ะ เลือกที่จะเก็บลูกไว้ค่ะ และไม่ได้บอกใครในบ้านเลย ตอนที่ท้อง ท้องไม่ได้โตเหมือนคนอื่นๆค่ะ ลักษณะจะคล้ายๆ คนอ้วนแบบลงพุงหน่อยๆค่ะ คนอื่นเลยไม่สงสัย ฉันไม่กล้าแม้กระทั่งบอกกับพ่อด้วยซ้ำว่าฉันท้อง เก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียวค่ะ จนกระทั่งท้องได้ 5 เดือนกว่าๆ เลยไปหาหมอค่ะ ตอนคุณหมอตรวจเลือด + กับดูประวัติ คือเค้าตกใจมากค่ะ เพราะครรภ์เป็นพิษด้วย คุณหมอก็มีตำหนิและถามมาว่าจะเอายังไง คือมันอันตรายจริงๆค่ะ อาการของฉันในตอนนั้นคือ แขนขาไร้เรี่ยวแรงค่ะ ใจสั่น เหนื่อยตลอดเวลา หอบ เบื่ออาหาร (หยุดยาไทรอยด์ไปด้วยเพราะกลัวจะมีผลกับลูกค่ะ) คุณหมอเลยขอพบกับครอบครัวค่ะเพราะไม่ถึง 18 และไม่มีสามี (ไม่ได้ติดต่อพ่อเด็กเลยค่ะฉายเดี่ยว *C มันเข้าใจว่าฉันฆ่าลูกไปแล้ว*) แต่ด้วยความกลัวเลยตัดสินใจไม่บอกพ่ออยู่ดีค่ะ หลังจากนั้นก็เริ่มทำงานค่ะ เด็ก 17 ที่ตั้งท้อง 5 เดือน และไม่ได้บอกที่ทำงานว่าท้องด้วย งานที่แรกมหาโหดเลยค่ะ 7-11 นี่เอง ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยค่ะ เหนื่อยมาก แต่ต้องทนค่ะ ต้องหาเงินเพื่อมาดูแลลูก ซื้อของให้ลูกตอนคลอด คือวางแผนเอาไว้หมดเลยค่ะ จนเวลาล่วงเลยมาจนกระทั่ง 8 เดือน ท้องก็ไม่โตค่ะแต่ลูกก็ดิ้นแรงมาก ถีบตลอด แต่มีความสุขค่ะ คนรอบข้างก็ยังไม่มีใครรู้ ไม่ได้ฝากท้อง ไม่ได้ทำอะไรเลยทำแต่งาน จำได้ว่าวันนั้นยกลังเบียร์มาแช่ที่ตู้ค่ะ แล้วรู้สึกว่าเจ็บท้องมาก พอเข้าห้องน้ำตกใจมากค่ะมีเลือดออกมา กลัวว่าจะแท้ง ก็ลูกจะเป็นอะไรไปค่ะ เลยตัดสินใจ ออกจากงานเดี๋ยวนั้นเลยค่ะและไปหาหมอ ยิ่งพอไปถึงคุณหมอที่โรงพยาบาลบ่นหนักมากค่ะ ว่าทำไมไม่มาฝากท้อง ไม่มาฉีดยา แล้วเรามีโรคประจำตัวด้วยเด็กอาจจะพิการได้ ตอนนั้นเครียดเลยค่ะ กลัวมากๆ กลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไป พอกลับมาบ้านคนแรกที่เล่าให้ฟังคือน้องสาวค่ะ น้องสาวก็งงว่าไปท้องยังไง พอบอกมันว่าเนี่ยท้อง 8 เดือนแล้วนะ น้องมันนั่งหัวเราะแบบเป้นบ้าเป็นหลังว่า จะท้องได้ไงแค่อ้วนคิดมากไปหรือเปล่า วันนั้นเลยจำใจเอาสมุดฝากท้องที่หมอให้มากับภาพอัลตร้าซาวด์ให้น้องดูและให้น้องลองจับที่ท้องเบาๆเพื่อรับฟังเสียงลูกที่อยู่ในท้อง น้องพอเห็นแบบนั้นอึ้งค่ะ มันก็ถามว่าใครเป็นพ่อ เกิดอะไรขึ้น บลาฯ ๆ แต่ยังไม่กล้าบอกพ่ออยู่ดีกลัวพ่อเสียใจ จนเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์
วันที่23 ธันวาคม 2552 ไปหาหมอเพื่อทำการตรวจแต่ !! น้ำเดินค่า ตอนนั้นชุลมุนไปหมด คุณหมอบอกว่าตอนนี้ปากมดลูกเปิดแล้ว แต่เด็กยังไม่กลับหัว คุณหมอต้องให้นอนโรงพยาบาลคืนนั้นเลยและบังคับให้เรียกผู้ปกครองมา เพราะมันอยู่ในความเป้นความตายของฉันเอง ฉันตัดใจโทรตามพ่อมาที่โรงพยาบาล พอพ่อมาถึงก็งงๆ เพราะที่ให้มาคือหน้าห้องคลอด พ่อก็ถามว่ามาทำอะไร หนูเป็นอะไร ? ก็เลยร้องไห้และบอกพ่อว่า พ่อหนูท้อง พ่อตกใจมากค่ะ และตกใจคูณ 2 เข้าไปอีกเมื่อหมอบอกว่าจะทำการผ่าคลอดให้ในวันรุ่งขึ้น พ่องุนงงและถามฉันว่าใครเป็นพ่อเด็ก ฉันเลยตอบไปตามตรงว่านาย C ค่ะ หลังจากนั้นพ่อก็เข้าไปคุยกับหมอโดยมีฉันอยู่ด้วย ใจความสำคัญคือ ฉันมีโรคประจำตัว ไม่สามารถคลอดเองตามธรรมชาติได้ต้องผ่าคลอดแบบบล็อคหลัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ร่างกายฉันมันไม่แข็งแรงเป้นทุนเดิมอยู่แล้วหมอเลยให้พ่อเซ็นต์ว่า ถ้า เลือกได้ 1 คน จะเลือกให้หมอช่วยใคร พ่อตอบกับหมอว่า ช่วยฉันไว้ก่อน หลังจากนั้นพ่อก็เซนต์ชื่อ ในใบยินยอมและกลับไปดำเนินเรื่องชื่อของพ่อเด็กค่ะ ตอนนั้นตื่นเต้น กลัว ไปหมด นอนฟังเสียงหัวใจลูกและลูบท้องคุยกับลูกทั้งคืนค่ะ ปลอบเค้าว่าไม่ต้องกลัวน้า แม่อยู่ตรงนี้ เราจะได้เจอกันแล้ว และแล้วก็มาถึงวันที่คลอดค่ะ คุณหมอพาเข็นเข้าห้องผ่าตัดตอน 10 โมงค่ะ เนื่องจากเคสของฉันเป็นกรณีศึกษา มีนักศึกษาแพทย์เยอะแยะเต็มเตียงไปหมดเลย และคุณหมออายุรกรรม หมอประจำที่รักษาไทรอยด์คอยดูอาการอยู่ไม่ห่างค่ะ หลังจากนั้นคุณหมอก็ฉีดยาที่หลังให้ค่ะ 2 เข็ม เจ็บมากค่ะ สักพักรู้สึกว่าตัวลอยได้ค่ะ ตรงหัวจะมีพี่พยาบาลคอยเรียกอยู่ตลอดเวลาค่ะ จนเวลาผ่านไปสักระยะรู้สึกเหนื่อยมาก คือคิดว่าไม่ไหวล่ะ กำลังหลับตาได้ยินเสียงเด็กร้องค่ะ ตอนนั้นน้ำตาไหลมาเป็นทางเลย 'ทารกเพศหญิงเกิด 11.23 น. วันที่ 24 ธันวาคม 2552 หนัก 2,370 กรัม' และคุณพยาบาลก็อุ้มมาให้ดู ตอนนั้นฉันดีใจมากที่ได้เจอลูกสักที และที่สำคัญเค้าแข็งแรงดีค่ะ ไม่ป่วยแต่น้ำหนักเบามาก หลังจากผ่าเสร็จก็มาพักที่ห้องพักฟื้นค่ะ ตอนนั้นได้แต่มองที่เตียงคนอื่นๆ เค้ามีลูกน้อยมาเลี้ยงที่เตียงค่ะ แต่ฉันไม่มีเพราะลูกอยู่กับพยาบาล วันรุ่งขึ้น 25 ธันวาคม วันเกิดฉันครบรอบ 18 ปีเต็ม พอได้มาเยี่ยมฉันพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของนาย C พ่อเล่าให้ฟังว่าไปหานาย C ที่บ้านพร้อมสปาต้าค่ะ นาย C ยอมรับว่าลูกค้าจริงๆ เลยยินยอมใช้ชื่อพ่อเด็กในใบเกิดแต่กำชับมาว่าห้ามใช้นามสกุลเค้า พ่อฉันเลยบอกนาย C ไปว่า หลานกู กูไม่ให้ใช้นามสกุลโคตรหรอก อันนี้พ่อเล่าให้ฟังอีกทีนะคะ พ่อบอกว่าไม่เป็นไรแล้วปลอดภัยทั้งคู่เค้าก็ดีใจมากแล้ว แล้วพ่อก็เอาของขวัญมาให้ค่ะ พอเปิดดูในกล่องของขวัญเป็นเสื้อผ้าเด็กอ่อนค่ะ ตอนนั้นร้องไห้โฮเลย พ่อฉันก็บอกกับฉันว่า ดีจัง ลูกเกิด 25 ธันวาคม หลานเกิด 24 ธันวาคม ตอนนั้นรู้สึกมีความสุขมากที่พ่อเข้าใจและผ่านเรื่องราวร้ายๆมาได้เสียที จนพาลูกออกจากโรงพยาบาล กลับมาบ้านก็มาเลี้ยงลูกค่ะ แต่ทางครอบครัวนาย C ไม่จบค่ะ มาขอตรวจดีเอ็นเอค่ะ พ่อก็ยินยอมให้ตรวจค่ะ สุดท้ายผลออกมาคือลูกของเค้า 99.99 % ค่ะ นาย C ก็กลับไปอยู่ต่างจังหวัดค่ะ จนกระทั่งผ่านไปเกือบ 6 ปีค่ะ ลูกสาวก็เข้าเรียนอนุบาล 2 ค่ะ เป็นเด็กที่ฉลาดค่ะ คุยเก่ง ช่างถาม และที่สำคัญ คุณตาหวงน้องมากค่ะ ตอนนี้ฉันได้มีครอบครัวใหม่ค่ะแต่ไม่มีลูกด้วยกันแฟนคนนี้เป็นหมันค่ะมีลูกไม่ได้ อยู่กินกันมา 4 ปีแล้วค่ะ เป็นคนดีมากค่ะ ถึงเมื่อก่อนเค้าอาจจะเคยเจ้าชู้มาก่อน แต่ปัจจุบันเค้าโอเคค่ะ ทำงานเอาเงินให้ฉันเก็บตลอด ไปใหนมาใหนบอกตลอด ตัวติดกัน ที่สำคัญคือเค้ารักเรามากค่ะ อาจจะมีทะเลาะกันบ้างแต่ไม่เคยเลิกกันค่ะ เวลาฉันร้อนเค้าจะเย็น เค้าจะไม่เถียงไม่อะไรค่ะคือเค้าเป็นคนดีมากๆค่ะ และเป็นคนที่ทำให้ฉันกลับมารักใครได้อีกครั้งนึงและรับเรื่องแย่ๆ ของฉันได้
ปัญหาอยู่ตรงนี้ค่ะ นาย C หายไปนานมาก จนเมื่อเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา ฉันเล่น facebook มีนาย C ขอเพิ่มเพื่อนมา ตอนนั้นไม่ทราบเลยว่าเป็นนาย C เลยกดรับเพื่อนไป หลังจากนั้นก็มีข้อความเด้งมาที่แชท ถามว่าสบายดีไหม ลูกเป็นยังไงบ้าง ฉันเลยพิมพ์ตอบกลับไปว่าโอเค ดี สบายดีมาก และเค้าก็พยายามถามถึงลูกตลอดเวลา ฉันก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง จนกระทั่งเมื่อ 3 วันที่แล้ว เค้าทักแชทมาว่า ขอคุยกับลูกได้ไหม เค้าสำนึกผิดแล้วทำนองนี้อ่ะค่ะ และฉันก้ใจอ่อนเลยพิมไปว่า ทิ้งเบอร์คุณไว้นะ เดี๋ยวถ้าลูกมาหาจะโทรไปและให้คุยกับลูก (น้องอยู่ในความดูแลของพ่อค่ะ)
แฟนไล่ให้กลับไปอยู่กับแฟนเก่าทำไงดีคะ ??
ต้องขออนุญาตเล่าก่อนนะคะ เมื่อ 7 ปีที่แล้วค่ะ ตอนนั้นดิฉันอายุ 15 ปลายๆ ได้คบหากับผู้ชายคนนึงอายุมากว่าฉัน 1 ปี และเป็นแฟนคนแรกเลยค่ะ ซึ่งคุยกันผ่านโทรศัพท์ เห็นหน้ากันบ้างแต่ไม่เคยไปเดท ไม่เคยไปเที่ยวด้วยกันค่ะ(บ้านฉันกับนาย C อยู่ไม่ไกลกันมาก) รู้จักกันเพราะเค้าเป็นเพื่อนกับน้องสาว ก่อนตกลงคบกันดิฉันได้มีการคุยกับนาย C ไว้ว่า จะไม่มี SEX ไม่คุยเรื่องอย่างว่าค่ะ เพราะเคยผ่านเรื่องราวไม่ดีมา (พ.ศ 2549 โดนลูกชายเจ้านายของแม่ที่ ตจว. ข่มขืน เป็นผู้ชายคนแรก*) เลยฝังใจกับเรื่องพวกนี้เป็นพิเศษ C เค้าก็รับปากค่ะ แต่ไปๆมา ๆ พอคบกันได้ สักพักค่ะ เกือบๆปี เค้าเริ่มมีการชวนคุยเรื่อง Sex เรื่องอย่างว่า และจบที่การขอมีอะไรด้วย แต่ฉันก็ปฏิเสธเค้าตลอดเวลาค่ะ จนกระทั่งวันนึง เพื่อนที่สนิทมากมาขอพักที่บ้านและพอตกดึก M เพื่อนสาวคนสนิทขอตัวออกมาข้างนอกค่ะ นางบอกจะไปซื้อของที่ 7-11 ด้วยความห่วงเพื่อนเลยขอไปเป็นเพื่อนแต่นางก็ปฏิเสธค่ะ แบบว่าไปคนเดียวได้ ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรพอนางออกมา ก็เลยแอบเดินตามนางมาห่างๆค่ะ แต่ทางที่นางเดินไปไม่ใช่ทางไป 7-11 แต่เป็นบ้านนาย C เราก็เริ่มงงล่ะ พอมาถึงหน้าบ้านก็เห็นนาย C ยืนรอนาง M อยู่ แต่เค้าทั้งคู่ไม่เห็นฉัน และเค้าทั้ง 2 คนก็หายขึ้นไป ด้วยความร้อนใจอยากโทรไปถามคนทั้งคู่แต่ไม่ได้เอามือถือมาค่ะ ได้แต่ยืนรออยู่หน้าบ้าน ตอนนั้นช่วงต้นปีเลยค่ะ อากาศหนาวมาก ยืนรอประมาณชั่วโมงกว่าๆ นาง M กับ นาย C ก็ลงมา ฉันเลยแสดงตัวเลยค่ะ เข้าไปหาคนทั้งคู่ ตอนเค้า 2 คนเห็นฉันมีท่าทีตกใจสุดขีดนางเลยถามฉันว่า 'มาตอนใหนเนี่ย' ฉันเลยสวนเพื่อนไปว่า 'กูตามมาตั้งนานล่ะ ใหนบอกจะไปเซเว่น แล้วนี่อะไร ?? 2 ตัวมาทำอะไรกัน ?? หรือไอ้ *** เปิดเซเว่นที่นี่ ห่ะ !! ซื้อของกันนานเนอะ หึ' นางไม่ตอบค่ะ นางนิ่งเงียบ ฉันเลยหันไปถามคนที่ขึ้นชื่อว่าแฟนแทน 'ทำอะไรกัน !! ขึ้นไปทำอะไร ??' นาย C ตวาดฉันกลับว่า 'ผมมีอะไรกับ M เพราะคุณไม่ยอมให้ผมมีอะไรด้วย' ด้วยความโมโหตบหน้ามันทั้งคู่ค่ะ 'กุถามหน่อย C คบกับกูเพื่อหวังว่าจะเอาอย่างเดียวใช่ไหม ก็รู้ว่าก็เจออะไรมาบ้าง รอกูไม่ได้หรอ ถึงต้องมาเอาเพื่อนสนิทของกูอ่ะ ใหนสัญญากับกูว่ารอกูได้ไง แล้วนี่มันคืออะไร ...(ร้องไห้)' วินาทีนั้นมันระเบิดออกมาหมดเลย เจ็บมาก คนนึงก็เพื่อนรัก อีกคนก็แฟน สุดท้ายวันนั้นฉันตัดสินใจบอกเลิกฝ่ายชายค่ะ แต่ไม่ได้เลิกคบเพื่อน แต่มันไม่จบแค่นี้ค่ะ
หลังจากนั้นไม่นาน C ก็พยายามมาขอคืนดีค่ะ แต่ไม่ได้ใจอ่อนค่ะ แต่มันมาสุดขีด หน้ามือ โมโหเพราะเพื่อนนี่แหละค่ะ วันนั้นมีการนัดเพื่อนๆ มากินหมูกะทะค่ะ เพื่อนๆ ทุกคนดื่มเบียร์กันหมด มีฉันคนเดียวที่ไม่ได้ดื่มเพราะเป็นคนคออ่อน + มีโรคประจำตัว (ไทรอยด์เป็นพิษ) นาง M พอเมาได้ที่นางเลยแพล่มค่ะ เรื่องที่ไปมี SEX กับ ไอ้ C บรรยายถึงขนาดที่ว่า มีอะไรกันท่าใหน เข้าไปครั้งแรกทำยังไง แบบตอนนั้นฉันหน้าชามาก เพื่อนคนอื่นๆที่ไม่รู้ก็รู้เลยค่ะคืนนั้น ทุกคนต่าง งง และ เพื่อนบางคนก็ด่านาง M ว่าสมควรเอามาพูดไหม ?? ด้วยความแค้นและอะไรหลายๆอย่างทำให้คืนนั้นโทรหาไอ้ C เลยค่ะ บอกมันว่า อยากมีอะไรกับฉันใช่ไหม เดี๋ยวไปหาค่ะ และก็ไปจริงๆค่ะ พวกเพื่อนๆต่างพากันค้านแต่ตอนนั้นอารมณ์โกรธ โมโหมาเต็มค่ะ เลยไม่ได้ฟังใคร ไปหาไอ้ C ค่ะ และยอมให้มันมีอะไรด้วย เป็นการเดินในชีวิตที่พลาดมากค่ะ มีอะไรกับมันแค่ครั้งนั้นครั้งเดียวแต่ไม่ได้ป้องกัน ผลที่ตามมาคือ ...ท้อง... ปกติไทรอยด์ที่ฉันเป็น ประจำเดือนมาบ้างไม่บ้างอยู่แล้วค่ะ เลยไม่ได้สงสัยอะไร จนมีช่วงนึงที่รู้สึกว่าเหม็นน้ำหอม เหม็นแป้งที่เคยใช้ประจำ กินอะไรก็อาเจียนมาหมด จากปกติเป็นคนเหนือยง่าย ใจสั่นอยู่แล้ว กลับมีอาการแปลกๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เลยปรึกษาพี่ที่รู้จักกันเค้าก็แซวมาขำๆว่าท้องหรือเปล่า ?? ตอนนั้นมึนค่ะเลยรีบไปซื้อที่ตรวจครรภ์มา อันแรก 2 ขีดค่ะ ไม่เชื่อ ซื้อมาเพิ่มอีกหลายๆอัน หลายๆยี่ห้อ ตรวจ ขึ้น 2 ขีดทุกอันค่ะ เลยติดต่อไปหานาย C และเอาที่ตรวจไปหาเค้าที่บ้าน เค้าก็รับไปดูและถามว่ามันคืออะไร ฉันเลยให้เค้าอ่านวิธีการใช้ค่ะ เค้ารับไปอ่านและถามมาอย่างตกใจ 'เห้ย คุณท้องหรอ ??' ฉันได้แต่พยักหน้ารับเศร้าๆ 'มาบอกผมทำไม?' คำๆนี้กรีดหัวใจเลยค่ะ เจ็บ จุก ชา อึ้ง แบบ เห้ย !! กูมีอะไรกับคนเดียว ทำไมพูดแบบนี้ว่ะ 'เห้ย พูดงี้คืออะไร วันนั้นมีอะไรไม่ได้ป้องกัน จำได้ไหมห่ะ อย่ามาพูดนะว่าไม่รู้อะไร อย่ามาบอกนะว่าจำไม่ได้' เค้านิ่งเงียบไป เรา 2 คนตกอยู่ในความเงียบกันทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครพูดอะไรเลย จนเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ เค้าเดินหายเข้าไปในห้องค่ะ และกลับออกมาหาฉันพร้อมกับเงินจำนวนนึง 'นี่คืออะไร C ??' ฉันถามด้วยความงุนงง 'ไปเอาเด็กออกเถอะ ผมไม่พร้อมที่จะเป็นพ่อของใคร' โห่ !! ชีวิตบัดซบมาก ตอนนั้นร้องไห้จนพูดอะไรไม่ออก มันเจ็บมันช้ำไปหมด คือความคิดตอนนั้นคิดว่า ทำไมชีวิตเรามันแย่อย่างนี้ว่ะ แต่ฉันก็เลือกที่จะรับเงินเค้ามา และเดินออกมาจากชีวิตเค้าค่ะ พอหลังจากวันนั้นฉันได้ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำแท้งค่ะ พอไปดูในแต่ล่ะเว็ปแล้วรู้สึกหดหู่มากค่ะ คนทำแท้งเยอะมาก เลยตัดสินใจไม่ทำอะไรทั้งนั้นค่ะ เลือกที่จะเก็บลูกไว้ค่ะ และไม่ได้บอกใครในบ้านเลย ตอนที่ท้อง ท้องไม่ได้โตเหมือนคนอื่นๆค่ะ ลักษณะจะคล้ายๆ คนอ้วนแบบลงพุงหน่อยๆค่ะ คนอื่นเลยไม่สงสัย ฉันไม่กล้าแม้กระทั่งบอกกับพ่อด้วยซ้ำว่าฉันท้อง เก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียวค่ะ จนกระทั่งท้องได้ 5 เดือนกว่าๆ เลยไปหาหมอค่ะ ตอนคุณหมอตรวจเลือด + กับดูประวัติ คือเค้าตกใจมากค่ะ เพราะครรภ์เป็นพิษด้วย คุณหมอก็มีตำหนิและถามมาว่าจะเอายังไง คือมันอันตรายจริงๆค่ะ อาการของฉันในตอนนั้นคือ แขนขาไร้เรี่ยวแรงค่ะ ใจสั่น เหนื่อยตลอดเวลา หอบ เบื่ออาหาร (หยุดยาไทรอยด์ไปด้วยเพราะกลัวจะมีผลกับลูกค่ะ) คุณหมอเลยขอพบกับครอบครัวค่ะเพราะไม่ถึง 18 และไม่มีสามี (ไม่ได้ติดต่อพ่อเด็กเลยค่ะฉายเดี่ยว *C มันเข้าใจว่าฉันฆ่าลูกไปแล้ว*) แต่ด้วยความกลัวเลยตัดสินใจไม่บอกพ่ออยู่ดีค่ะ หลังจากนั้นก็เริ่มทำงานค่ะ เด็ก 17 ที่ตั้งท้อง 5 เดือน และไม่ได้บอกที่ทำงานว่าท้องด้วย งานที่แรกมหาโหดเลยค่ะ 7-11 นี่เอง ถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อยค่ะ เหนื่อยมาก แต่ต้องทนค่ะ ต้องหาเงินเพื่อมาดูแลลูก ซื้อของให้ลูกตอนคลอด คือวางแผนเอาไว้หมดเลยค่ะ จนเวลาล่วงเลยมาจนกระทั่ง 8 เดือน ท้องก็ไม่โตค่ะแต่ลูกก็ดิ้นแรงมาก ถีบตลอด แต่มีความสุขค่ะ คนรอบข้างก็ยังไม่มีใครรู้ ไม่ได้ฝากท้อง ไม่ได้ทำอะไรเลยทำแต่งาน จำได้ว่าวันนั้นยกลังเบียร์มาแช่ที่ตู้ค่ะ แล้วรู้สึกว่าเจ็บท้องมาก พอเข้าห้องน้ำตกใจมากค่ะมีเลือดออกมา กลัวว่าจะแท้ง ก็ลูกจะเป็นอะไรไปค่ะ เลยตัดสินใจ ออกจากงานเดี๋ยวนั้นเลยค่ะและไปหาหมอ ยิ่งพอไปถึงคุณหมอที่โรงพยาบาลบ่นหนักมากค่ะ ว่าทำไมไม่มาฝากท้อง ไม่มาฉีดยา แล้วเรามีโรคประจำตัวด้วยเด็กอาจจะพิการได้ ตอนนั้นเครียดเลยค่ะ กลัวมากๆ กลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไป พอกลับมาบ้านคนแรกที่เล่าให้ฟังคือน้องสาวค่ะ น้องสาวก็งงว่าไปท้องยังไง พอบอกมันว่าเนี่ยท้อง 8 เดือนแล้วนะ น้องมันนั่งหัวเราะแบบเป้นบ้าเป็นหลังว่า จะท้องได้ไงแค่อ้วนคิดมากไปหรือเปล่า วันนั้นเลยจำใจเอาสมุดฝากท้องที่หมอให้มากับภาพอัลตร้าซาวด์ให้น้องดูและให้น้องลองจับที่ท้องเบาๆเพื่อรับฟังเสียงลูกที่อยู่ในท้อง น้องพอเห็นแบบนั้นอึ้งค่ะ มันก็ถามว่าใครเป็นพ่อ เกิดอะไรขึ้น บลาฯ ๆ แต่ยังไม่กล้าบอกพ่ออยู่ดีกลัวพ่อเสียใจ จนเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์
วันที่23 ธันวาคม 2552 ไปหาหมอเพื่อทำการตรวจแต่ !! น้ำเดินค่า ตอนนั้นชุลมุนไปหมด คุณหมอบอกว่าตอนนี้ปากมดลูกเปิดแล้ว แต่เด็กยังไม่กลับหัว คุณหมอต้องให้นอนโรงพยาบาลคืนนั้นเลยและบังคับให้เรียกผู้ปกครองมา เพราะมันอยู่ในความเป้นความตายของฉันเอง ฉันตัดใจโทรตามพ่อมาที่โรงพยาบาล พอพ่อมาถึงก็งงๆ เพราะที่ให้มาคือหน้าห้องคลอด พ่อก็ถามว่ามาทำอะไร หนูเป็นอะไร ? ก็เลยร้องไห้และบอกพ่อว่า พ่อหนูท้อง พ่อตกใจมากค่ะ และตกใจคูณ 2 เข้าไปอีกเมื่อหมอบอกว่าจะทำการผ่าคลอดให้ในวันรุ่งขึ้น พ่องุนงงและถามฉันว่าใครเป็นพ่อเด็ก ฉันเลยตอบไปตามตรงว่านาย C ค่ะ หลังจากนั้นพ่อก็เข้าไปคุยกับหมอโดยมีฉันอยู่ด้วย ใจความสำคัญคือ ฉันมีโรคประจำตัว ไม่สามารถคลอดเองตามธรรมชาติได้ต้องผ่าคลอดแบบบล็อคหลัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ร่างกายฉันมันไม่แข็งแรงเป้นทุนเดิมอยู่แล้วหมอเลยให้พ่อเซ็นต์ว่า ถ้า เลือกได้ 1 คน จะเลือกให้หมอช่วยใคร พ่อตอบกับหมอว่า ช่วยฉันไว้ก่อน หลังจากนั้นพ่อก็เซนต์ชื่อ ในใบยินยอมและกลับไปดำเนินเรื่องชื่อของพ่อเด็กค่ะ ตอนนั้นตื่นเต้น กลัว ไปหมด นอนฟังเสียงหัวใจลูกและลูบท้องคุยกับลูกทั้งคืนค่ะ ปลอบเค้าว่าไม่ต้องกลัวน้า แม่อยู่ตรงนี้ เราจะได้เจอกันแล้ว และแล้วก็มาถึงวันที่คลอดค่ะ คุณหมอพาเข็นเข้าห้องผ่าตัดตอน 10 โมงค่ะ เนื่องจากเคสของฉันเป็นกรณีศึกษา มีนักศึกษาแพทย์เยอะแยะเต็มเตียงไปหมดเลย และคุณหมออายุรกรรม หมอประจำที่รักษาไทรอยด์คอยดูอาการอยู่ไม่ห่างค่ะ หลังจากนั้นคุณหมอก็ฉีดยาที่หลังให้ค่ะ 2 เข็ม เจ็บมากค่ะ สักพักรู้สึกว่าตัวลอยได้ค่ะ ตรงหัวจะมีพี่พยาบาลคอยเรียกอยู่ตลอดเวลาค่ะ จนเวลาผ่านไปสักระยะรู้สึกเหนื่อยมาก คือคิดว่าไม่ไหวล่ะ กำลังหลับตาได้ยินเสียงเด็กร้องค่ะ ตอนนั้นน้ำตาไหลมาเป็นทางเลย 'ทารกเพศหญิงเกิด 11.23 น. วันที่ 24 ธันวาคม 2552 หนัก 2,370 กรัม' และคุณพยาบาลก็อุ้มมาให้ดู ตอนนั้นฉันดีใจมากที่ได้เจอลูกสักที และที่สำคัญเค้าแข็งแรงดีค่ะ ไม่ป่วยแต่น้ำหนักเบามาก หลังจากผ่าเสร็จก็มาพักที่ห้องพักฟื้นค่ะ ตอนนั้นได้แต่มองที่เตียงคนอื่นๆ เค้ามีลูกน้อยมาเลี้ยงที่เตียงค่ะ แต่ฉันไม่มีเพราะลูกอยู่กับพยาบาล วันรุ่งขึ้น 25 ธันวาคม วันเกิดฉันครบรอบ 18 ปีเต็ม พอได้มาเยี่ยมฉันพร้อมสำเนาบัตรประชาชนของนาย C พ่อเล่าให้ฟังว่าไปหานาย C ที่บ้านพร้อมสปาต้าค่ะ นาย C ยอมรับว่าลูกค้าจริงๆ เลยยินยอมใช้ชื่อพ่อเด็กในใบเกิดแต่กำชับมาว่าห้ามใช้นามสกุลเค้า พ่อฉันเลยบอกนาย C ไปว่า หลานกู กูไม่ให้ใช้นามสกุลโคตรหรอก อันนี้พ่อเล่าให้ฟังอีกทีนะคะ พ่อบอกว่าไม่เป็นไรแล้วปลอดภัยทั้งคู่เค้าก็ดีใจมากแล้ว แล้วพ่อก็เอาของขวัญมาให้ค่ะ พอเปิดดูในกล่องของขวัญเป็นเสื้อผ้าเด็กอ่อนค่ะ ตอนนั้นร้องไห้โฮเลย พ่อฉันก็บอกกับฉันว่า ดีจัง ลูกเกิด 25 ธันวาคม หลานเกิด 24 ธันวาคม ตอนนั้นรู้สึกมีความสุขมากที่พ่อเข้าใจและผ่านเรื่องราวร้ายๆมาได้เสียที จนพาลูกออกจากโรงพยาบาล กลับมาบ้านก็มาเลี้ยงลูกค่ะ แต่ทางครอบครัวนาย C ไม่จบค่ะ มาขอตรวจดีเอ็นเอค่ะ พ่อก็ยินยอมให้ตรวจค่ะ สุดท้ายผลออกมาคือลูกของเค้า 99.99 % ค่ะ นาย C ก็กลับไปอยู่ต่างจังหวัดค่ะ จนกระทั่งผ่านไปเกือบ 6 ปีค่ะ ลูกสาวก็เข้าเรียนอนุบาล 2 ค่ะ เป็นเด็กที่ฉลาดค่ะ คุยเก่ง ช่างถาม และที่สำคัญ คุณตาหวงน้องมากค่ะ ตอนนี้ฉันได้มีครอบครัวใหม่ค่ะแต่ไม่มีลูกด้วยกันแฟนคนนี้เป็นหมันค่ะมีลูกไม่ได้ อยู่กินกันมา 4 ปีแล้วค่ะ เป็นคนดีมากค่ะ ถึงเมื่อก่อนเค้าอาจจะเคยเจ้าชู้มาก่อน แต่ปัจจุบันเค้าโอเคค่ะ ทำงานเอาเงินให้ฉันเก็บตลอด ไปใหนมาใหนบอกตลอด ตัวติดกัน ที่สำคัญคือเค้ารักเรามากค่ะ อาจจะมีทะเลาะกันบ้างแต่ไม่เคยเลิกกันค่ะ เวลาฉันร้อนเค้าจะเย็น เค้าจะไม่เถียงไม่อะไรค่ะคือเค้าเป็นคนดีมากๆค่ะ และเป็นคนที่ทำให้ฉันกลับมารักใครได้อีกครั้งนึงและรับเรื่องแย่ๆ ของฉันได้
ปัญหาอยู่ตรงนี้ค่ะ นาย C หายไปนานมาก จนเมื่อเดือน มิถุนายน ที่ผ่านมา ฉันเล่น facebook มีนาย C ขอเพิ่มเพื่อนมา ตอนนั้นไม่ทราบเลยว่าเป็นนาย C เลยกดรับเพื่อนไป หลังจากนั้นก็มีข้อความเด้งมาที่แชท ถามว่าสบายดีไหม ลูกเป็นยังไงบ้าง ฉันเลยพิมพ์ตอบกลับไปว่าโอเค ดี สบายดีมาก และเค้าก็พยายามถามถึงลูกตลอดเวลา ฉันก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง จนกระทั่งเมื่อ 3 วันที่แล้ว เค้าทักแชทมาว่า ขอคุยกับลูกได้ไหม เค้าสำนึกผิดแล้วทำนองนี้อ่ะค่ะ และฉันก้ใจอ่อนเลยพิมไปว่า ทิ้งเบอร์คุณไว้นะ เดี๋ยวถ้าลูกมาหาจะโทรไปและให้คุยกับลูก (น้องอยู่ในความดูแลของพ่อค่ะ)