ทุจริต แอบบอกข้อสอบศิษย์ ข้อสอบรั่วนักธรรม
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกรณีที่พระอาจารย์บอกโจทย์ข้อสอบ พร้อมเฉลยคำตอบให้แก่ผู้เข้าสอบก่อนถึงเวลาสอบจริง สะท้อนให้เห็นว่า พระผู้เป็นครูสอนธรรมะรูปนั้น ไม่มีธรรมะในใจ กลับมีความโลภที่อยากให้ลูกศิษย์ของตนสอบผ่านเป็นจำนวนมากๆ จึงบอกข้อสอบกับนักเรียนก่อนเข้าสอบ ท้ายที่สุดผู้เรียนสอบผ่าน ได้ใบประกาศนียบัตร แต่ไร้ซึ่งความภูมิใจอย่างสิ้นเชิง
“เคยมีกรณีการสอบของฆราวาส คือ พระอาจารย์แจ้งเด็กว่า ไม่ต้องมาเรียนก็ได้ แค่ไปสอบก็พอ เพราะถึงเวลาสอบอาจารย์จะบอกคำตอบเอง ซึ่งวิชาที่ฆราวาสสอบจะเป็นข้อสอบแบบปรนัย แตกต่างกับพระภิกษุที่จะเป็นข้อสอบแบบอัตนัย จึงทำให้อาจารย์ผู้สอนบอกคำตอบให้แก่ผู้สอบได้ง่าย แต่วิชากระทู้ธรรม จะแนะได้ยาก เพราะโจทย์จะให้หัวข้อธรรมะมา 1 หัวข้อ และให้เขียนบรรยายให้ได้ 2 หน้ากระดาษฟุลสแก๊ป เพราะฉะนั้นเรื่องการทุจริตบอกข้อสอบ จะเป็นเครื่องสะท้อนว่าตัวตนของภิกษุที่ครองไตรจีวรอันเป็นธงชัยของพระอรหันต์นั้น มีธรรมะอยู่ในใจจริงหรือไม่” พระมหาวงศ์ไทย สุภวังโส กล่าวเป็นคำถามชวนคิด
ส่วนบทลงโทษที่จะใช้ลงโทษผู้เข้าสอบและพระอาจารย์ที่ทุจริต คือ 1. ผู้สอบหมดสิทธิ์สอบ และปรับตกทันที 2. แจ้งไปที่สำนักงานที่ผู้เข้าสอบ และพระภิกษุนั้นๆ สังกัดอยู่ และพิจารณาลงโทษต่อไป
พระสุทธิสารเมธี กล่าวถึงประโยชน์ที่พระอาจารย์ผู้ทุจริตจะได้จากการทำให้เด็กสอบผ่านจำนวนมาก ว่า “สิ่งที่พระอาจารย์จะได้ หลังเด็กสอบผ่านเป็นจำนวนมากๆ หรือเด็กสอบได้ยกชั้น จะให้เรียกเป็นภาษาชาวบ้านก็คือ พระท่านนั้นได้หน้า เพราะเด็กสอบผ่านเป็นผลงานตัวเอง แต่สิ่งที่พระรูปนั้นได้อีกอย่าง นั่นก็คือ ความโลภ”
ทางแก้ปิดรูรั่วทุจริตสอบนักธรรม
เดิมที ก่อนที่จะถึงกำหนดการสอบ สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวงใช้วิธีการแจกจ่ายข้อสอบ โดยสั่งพิมพ์ข้อสอบ พร้อมใส่ซองสีน้ำตาลและส่งไปทั่วทุกสนามสอบนักธรรม แต่สนามสอบบางแห่งกลับลักลอบเปิดดูข้อสอบก่อน และนำไปบอกลูกศิษย์ว่า ข้อสอบในปีดังกล่าว จะมีเนื้อหาใดๆ บ้าง มิหนำซ้ำ บางแห่งยังนำข้อสอบมาให้ลูกศิษย์ได้ทดลองสอบก่อนถึงวันสอบจริง จนกลายเป็นทุจริตข้อสอบรั่วเรื่อยมาหลายปี
ปัจจุบัน ทางสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวงได้แก้ปัญหาการทุจริตสอบนักธรรม โดยยกเลิกการส่งข้อสอบไปตามสนามสอบทั่วประเทศ แต่ปรับเปลี่ยนมาใช้วิธีใส่ข้อสอบลงไปในระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถลิงก์กันได้ทั่วประเทศ พร้อมกำหนดวันเวลาที่จะสามารถปริ้นท์ข้อสอบแจกจ่ายให้ผู้เข้าสอบ ซึ่งถือว่าแก้ปัญหาข้อสอบรั่วได้เป็นอย่างดี
“ทางสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง ได้ปรับแก้วิธีการส่งข้อสอบมาได้ประมาณ 3-4 ปีแล้ว ซึ่งวิธีนี้เห็นผลชะงัด เพราะผู้ที่ไม่ได้เรียนหลักศาสนา เพื่อเตรียมตัวสอบนักธรรมมาก่อน คนเหล่านี้จะไม่สามารถทำข้อสอบได้” พระมหาวงศ์ไทย กล่าว
อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ใน
http://www.thairath.co.th/content/521408
จากที่เคยไปสอบธรรมศึกษาทั้ง ๓ ชั้น โดยสอบร่วมกับเด็กนักเรียน โรงเรียนแถวบ้านเพราะสะดวก ไม่ต้องไปไกลถึงที่สอบสำหรับผู้ใหญ่ ทำข้อสอบแต่ละวิชาผ่านไป ๑ ชม. พระคุมสอบก็มาเฉลยให้ ๓๐ ข้อจาก ๕๐ ข้อ แต่ ๓๐ ข้อถือว่าคะแนนผ่านแล้ว ที่เหลือให้กาเอาเองจะได้ไม่เหมือนกัน ครูใน รร. ร่วมคุมสอบก็พูดไม่ออก สำหรับผมได้แต่คิดในใจว่าพระไม่มากาข้อสอบแทนเด็กไปเลยได้ไม่ต้องเสียเวลา
จากการสอบถามสาเหตุที่พระมาเฉลยข้อสอบให้ เพราะเห็นว่าทาง รร. ไม่ได้จัดการสอนให้ นร. และถ้าให้ นร. ทำเองหมด คาดว่าจะตกกันเกือบหมดของนร. ผู้เข้าสอบ พระกลัวยอดจะตก เด็กเสียกำลังใจ
เคยมีเด็กนร. รร. อื่นมาพูดให้ฟังว่า ทำข้อสอบกาไปส่งๆ ไม่รู้ผ่านชั้นเอกมาได้ยังไง
ประเด็นที่กลัวว่ายอดผู้สอบได้จะน้อยเกิน พระที่สอนจะเสียหน้า แสดงถึงความยังมีอัตตา แทนที่จะปล่อยไปตามความเป็นจริง นร.สอบได้แค่ไหนก็แค่นั้น ถ้าได้น้อยจะได้มีผู้หลักผู้ใหญ่ลงมาดูหาสาเหตุกัน อย่าง รร.ที่ผมไปสอบ ทางครูไม่ได้จัดการสอนให้เพราะกิจกรรมต่างที่ รร. มากจนไม่รู้จะหาเวลาที่ไหนให้นร. เรียนธรรมศึกษา ควรเปลี่ยนระบบการเรียนและการสอบธรรมศึกษาของนักเรียนใหม่ให้สอดคล้องกัน แต่ รร. เอกชนใกล้ๆ กัน เน้นเรื่องนี้มาก ก่อนสอบ หยุดเรียน ๑ สัปดาห์ ให้พระมาสอนนร. ทุกชั้นเพื่อเข้าสอบเลย ส่วนภาคประชาชนผู้ใหญ่ทั่วไปไม่ค่อยมีปัญหาเพราะจะเป็นผู้สนใจอยากรู้ธรรมจริงๆ หาศูนย์เรียนหรือหนังสือข้อสอบมาศึกษาเองตั้งใจสอบจริงๆ
พระจะกลายเป็นเหมือนครูบาง รร. ที่เวลามีการประเมินต่างๆ ต้องจัดฉาก เอาตัวรอดหรือเอาหน้า ไม่ได้สะท้อนผลการเรียนการสอนจริงๆ
ส่วนการสอบนักธรรมของพระเองที่ได้ยิน เช่น ให้พระอื่นมาสอบแทน ขอเข้าห้องน้ำแล้วไปบอกข้อสอบกัน จดโพยเข้าห้องสอบ ไม่รู้พระทีทำแบบนี้ไปสอบ ปธ. จนมีตำแหน่งทางสงฆ์บ้างไหม
ทุกวันนี้การศึกษาของนร. มีปัญหาเรื่องนร.อ่อนกว่ามาตราฐาน เรื่องทุจริตต่างๆ มากพออยู่แล้ว มาเจอการศึกษาทางธรรมแบบนี้ก็จบกันการศึกษาไทย
พระสุทธิสารเมธี ให้สัมภาษณ์เรื่องการทุจริตสอบนักธรรม-ธรรมศึกษา
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นกรณีที่พระอาจารย์บอกโจทย์ข้อสอบ พร้อมเฉลยคำตอบให้แก่ผู้เข้าสอบก่อนถึงเวลาสอบจริง สะท้อนให้เห็นว่า พระผู้เป็นครูสอนธรรมะรูปนั้น ไม่มีธรรมะในใจ กลับมีความโลภที่อยากให้ลูกศิษย์ของตนสอบผ่านเป็นจำนวนมากๆ จึงบอกข้อสอบกับนักเรียนก่อนเข้าสอบ ท้ายที่สุดผู้เรียนสอบผ่าน ได้ใบประกาศนียบัตร แต่ไร้ซึ่งความภูมิใจอย่างสิ้นเชิง
“เคยมีกรณีการสอบของฆราวาส คือ พระอาจารย์แจ้งเด็กว่า ไม่ต้องมาเรียนก็ได้ แค่ไปสอบก็พอ เพราะถึงเวลาสอบอาจารย์จะบอกคำตอบเอง ซึ่งวิชาที่ฆราวาสสอบจะเป็นข้อสอบแบบปรนัย แตกต่างกับพระภิกษุที่จะเป็นข้อสอบแบบอัตนัย จึงทำให้อาจารย์ผู้สอนบอกคำตอบให้แก่ผู้สอบได้ง่าย แต่วิชากระทู้ธรรม จะแนะได้ยาก เพราะโจทย์จะให้หัวข้อธรรมะมา 1 หัวข้อ และให้เขียนบรรยายให้ได้ 2 หน้ากระดาษฟุลสแก๊ป เพราะฉะนั้นเรื่องการทุจริตบอกข้อสอบ จะเป็นเครื่องสะท้อนว่าตัวตนของภิกษุที่ครองไตรจีวรอันเป็นธงชัยของพระอรหันต์นั้น มีธรรมะอยู่ในใจจริงหรือไม่” พระมหาวงศ์ไทย สุภวังโส กล่าวเป็นคำถามชวนคิด
ส่วนบทลงโทษที่จะใช้ลงโทษผู้เข้าสอบและพระอาจารย์ที่ทุจริต คือ 1. ผู้สอบหมดสิทธิ์สอบ และปรับตกทันที 2. แจ้งไปที่สำนักงานที่ผู้เข้าสอบ และพระภิกษุนั้นๆ สังกัดอยู่ และพิจารณาลงโทษต่อไป
พระสุทธิสารเมธี กล่าวถึงประโยชน์ที่พระอาจารย์ผู้ทุจริตจะได้จากการทำให้เด็กสอบผ่านจำนวนมาก ว่า “สิ่งที่พระอาจารย์จะได้ หลังเด็กสอบผ่านเป็นจำนวนมากๆ หรือเด็กสอบได้ยกชั้น จะให้เรียกเป็นภาษาชาวบ้านก็คือ พระท่านนั้นได้หน้า เพราะเด็กสอบผ่านเป็นผลงานตัวเอง แต่สิ่งที่พระรูปนั้นได้อีกอย่าง นั่นก็คือ ความโลภ”
ทางแก้ปิดรูรั่วทุจริตสอบนักธรรม
เดิมที ก่อนที่จะถึงกำหนดการสอบ สำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวงใช้วิธีการแจกจ่ายข้อสอบ โดยสั่งพิมพ์ข้อสอบ พร้อมใส่ซองสีน้ำตาลและส่งไปทั่วทุกสนามสอบนักธรรม แต่สนามสอบบางแห่งกลับลักลอบเปิดดูข้อสอบก่อน และนำไปบอกลูกศิษย์ว่า ข้อสอบในปีดังกล่าว จะมีเนื้อหาใดๆ บ้าง มิหนำซ้ำ บางแห่งยังนำข้อสอบมาให้ลูกศิษย์ได้ทดลองสอบก่อนถึงวันสอบจริง จนกลายเป็นทุจริตข้อสอบรั่วเรื่อยมาหลายปี
ปัจจุบัน ทางสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวงได้แก้ปัญหาการทุจริตสอบนักธรรม โดยยกเลิกการส่งข้อสอบไปตามสนามสอบทั่วประเทศ แต่ปรับเปลี่ยนมาใช้วิธีใส่ข้อสอบลงไปในระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถลิงก์กันได้ทั่วประเทศ พร้อมกำหนดวันเวลาที่จะสามารถปริ้นท์ข้อสอบแจกจ่ายให้ผู้เข้าสอบ ซึ่งถือว่าแก้ปัญหาข้อสอบรั่วได้เป็นอย่างดี
“ทางสำนักงานแม่กองธรรมสนามหลวง ได้ปรับแก้วิธีการส่งข้อสอบมาได้ประมาณ 3-4 ปีแล้ว ซึ่งวิธีนี้เห็นผลชะงัด เพราะผู้ที่ไม่ได้เรียนหลักศาสนา เพื่อเตรียมตัวสอบนักธรรมมาก่อน คนเหล่านี้จะไม่สามารถทำข้อสอบได้” พระมหาวงศ์ไทย กล่าว
อ่านรายละเอียดทั้งหมดได้ใน
http://www.thairath.co.th/content/521408
จากที่เคยไปสอบธรรมศึกษาทั้ง ๓ ชั้น โดยสอบร่วมกับเด็กนักเรียน โรงเรียนแถวบ้านเพราะสะดวก ไม่ต้องไปไกลถึงที่สอบสำหรับผู้ใหญ่ ทำข้อสอบแต่ละวิชาผ่านไป ๑ ชม. พระคุมสอบก็มาเฉลยให้ ๓๐ ข้อจาก ๕๐ ข้อ แต่ ๓๐ ข้อถือว่าคะแนนผ่านแล้ว ที่เหลือให้กาเอาเองจะได้ไม่เหมือนกัน ครูใน รร. ร่วมคุมสอบก็พูดไม่ออก สำหรับผมได้แต่คิดในใจว่าพระไม่มากาข้อสอบแทนเด็กไปเลยได้ไม่ต้องเสียเวลา
จากการสอบถามสาเหตุที่พระมาเฉลยข้อสอบให้ เพราะเห็นว่าทาง รร. ไม่ได้จัดการสอนให้ นร. และถ้าให้ นร. ทำเองหมด คาดว่าจะตกกันเกือบหมดของนร. ผู้เข้าสอบ พระกลัวยอดจะตก เด็กเสียกำลังใจ
เคยมีเด็กนร. รร. อื่นมาพูดให้ฟังว่า ทำข้อสอบกาไปส่งๆ ไม่รู้ผ่านชั้นเอกมาได้ยังไง
ประเด็นที่กลัวว่ายอดผู้สอบได้จะน้อยเกิน พระที่สอนจะเสียหน้า แสดงถึงความยังมีอัตตา แทนที่จะปล่อยไปตามความเป็นจริง นร.สอบได้แค่ไหนก็แค่นั้น ถ้าได้น้อยจะได้มีผู้หลักผู้ใหญ่ลงมาดูหาสาเหตุกัน อย่าง รร.ที่ผมไปสอบ ทางครูไม่ได้จัดการสอนให้เพราะกิจกรรมต่างที่ รร. มากจนไม่รู้จะหาเวลาที่ไหนให้นร. เรียนธรรมศึกษา ควรเปลี่ยนระบบการเรียนและการสอบธรรมศึกษาของนักเรียนใหม่ให้สอดคล้องกัน แต่ รร. เอกชนใกล้ๆ กัน เน้นเรื่องนี้มาก ก่อนสอบ หยุดเรียน ๑ สัปดาห์ ให้พระมาสอนนร. ทุกชั้นเพื่อเข้าสอบเลย ส่วนภาคประชาชนผู้ใหญ่ทั่วไปไม่ค่อยมีปัญหาเพราะจะเป็นผู้สนใจอยากรู้ธรรมจริงๆ หาศูนย์เรียนหรือหนังสือข้อสอบมาศึกษาเองตั้งใจสอบจริงๆ
พระจะกลายเป็นเหมือนครูบาง รร. ที่เวลามีการประเมินต่างๆ ต้องจัดฉาก เอาตัวรอดหรือเอาหน้า ไม่ได้สะท้อนผลการเรียนการสอนจริงๆ
ส่วนการสอบนักธรรมของพระเองที่ได้ยิน เช่น ให้พระอื่นมาสอบแทน ขอเข้าห้องน้ำแล้วไปบอกข้อสอบกัน จดโพยเข้าห้องสอบ ไม่รู้พระทีทำแบบนี้ไปสอบ ปธ. จนมีตำแหน่งทางสงฆ์บ้างไหม
ทุกวันนี้การศึกษาของนร. มีปัญหาเรื่องนร.อ่อนกว่ามาตราฐาน เรื่องทุจริตต่างๆ มากพออยู่แล้ว มาเจอการศึกษาทางธรรมแบบนี้ก็จบกันการศึกษาไทย