สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 24
เรื่องฝัน
เคยไหมฝันว่า รู้สึกว่ากึ่งหลับกึ่งตื่น......เล่าเรื่องสยองขวัญให้ฟังล่ะกัน
-----------------------------------------------------------------------------
ก่อนบรรพชาเป็นสามเณร ผมเป็นนาคอยู่นาน(บ้านผมเรียกว่าเข้านาค)เพราะรอครอบครัวมีเงินครบค่าใช้จ่ายก่อน เป็นวัดบ้านนอกแห่งหนึ่งไม่ใช่ในหมู่บ้านผม หมู่บ้านผมว่าสุดๆ แล้ว...วัดในหมู่บ้านที่ผมไปเข้านาคนั้นอยู่ตีนภูพาน ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงต้องใช้ตะเกียงน้ำมันเอา เป็นวัดขนาดเล็ก...มีกุฏิไม้สองหลัง และศาลาการเปรียญไม้อีกหนึ่งหลัง ส่วนห้องน้ำ...ต้องถือจอบถือเสียมเข้าป่าจะหนักจะเบาก็แล้วแต่สะดวก...??
มีพระสามรูปและสามเณรหนึ่งรูป พระหนุ่มสองรูปและสามเณรเป็นคนในหมู่บ้าน ส่วนผมและหลวงตาเจ้าอาวาสเป็นคนจากหมู่บ้านอื่น กุฏิสองหลังนั้น กุฏิหลังแรกใหญ่กว่าหลังที่สองเกือบเท่าตัว....ผมไม่ได้เอะใจอะไรว่าทำไมกุฏิหลังแรกถึงถูกปล่อยให้ว่าง?? พระสองหนุ่มสองรูปและสามเณรนอนบนกุฏิหลังเล็กรวมกัน หลวงตาเจ้าอาวาสกั้นห้องนอนบนศาลา
ตอนเข้านาค ท่านเจ้าอาวาสบอกให้ผมไปนอนบนกุฏิใหญ่คนเดียว ผมก็ไม่นอนได้หลายสัปดาห์ (ตอนนั้นผมอายุ๑๒) ผมเป็นคนไม่กลัวผีเลย เพราะธรรมดาก็นอนที่นาเกือบทุกวัน ที่นาก็ติดป่าช้า...เวลาเขาเผาศพตกกลางคืนผมก็เห็นไฟที่เชิงตะกอนลุกโชนอยู่เลย เสียบม้ามเสียงตับไตไส้พุงของคนตายโดนความร้อนเผาแตกส่งเสียงข้ามทุ่งได้ยินเสมอๆ ชาวบ้านมักจะล้อผมว่าผมเป็นเพื่อนกับผี
คงจะด้วยดีใจและตื่นเต้นด้วยแหละที่ได้มีโอกาสนอนในห้องเป็นส่วนตัวครั้งแรกในชีวิต...ผมจึงไม่ได้เอะใจอะไรว่าทำไมกุฏินี้ถึงถูกปล่อยให้ว่าง?? วันหนึ่งสามเณรมาถามผมว่า "นี่นาค...เห็นอะไรไหม? ตอนกลางคืน?" ผมก็ตอบว่าปรกติดีนี่ครับ...ลมพัดจากยอดเขาภูพานโชยเข้ากุฏิเย็นสบาย พี่เณรถามต่ออีกว่า "นาค ไม่รู้จริงๆ เหรอว่ามีคนเคยผูกคอตายใต้กุฏินี้"!! จากนั้นเรื่องราวของผัวเมียยากจนคู่หนึ่งที่ร่อนเรจรจัดมาขอข้าวที่วัดแห่งนี้กิน สองผัวเมียขายแรงงานรับจ้างปลูกข้าว ดำนา ขอค่าจ้างสองคนวันละห้าบาทพร้อมข้าวปลาอาหาร ชาวบ้านแถวนั้นก็ยากจนไม่มีเงินค่าจ้างอะไร ช่วยได้ก็แค่ให้อาหาร ผัวเมียทั้งสองปักหลักอยู่ที่วัดสัปดาห์กว่า โดยบอกชาวบ้านว่าจะลองเร่ร่อนไปขายแรงงานหมู่บ้านถัดไป...
เช้าวันรุ่งขึ้น...ร่างสองผัวเมียห้อยโตงเตงใต้กุฏิที่ผมนอนเข้านาคอยู่!! กลายเป็นศพไม่มีญาติ ชาวบ้านก็ลงขันช่วยกันเผาศพ...ตั้งแต่นั้นมากุฏิหลังนั้นถูกปล่อยให้ว่าง พระที่เคยอยู่ทะยอยย้ายไปกุฏิเล็กหรือย้ายไปอีกหมู่บ้านเพราะความเฮี้ยน ผมฟังตอนแรกก็ไม่ได้นึกกลัวอะไรเลย ตั้งใจฟังอย่างสนอกสนใจซะด้วย ถามนู่นซักนี่
ตกกลางคืน...ทำวัตรเย็นเสร็จ ฝึกท่องบทสวดมนต์เจ็ดตำนานเสร็จก็กางมุ้งเข้านอน กำลังจะเคลิ้มหลับ ลมก็พัดวูบเข้ามาพัดชายมุ้งเปิด...นึกขึ้นได้ว่าลืมปิดหน้าต่าง ลุกขึ้นไปปิดหน้าต่าง......เคลิ้มครึ่งหลับครึ่งตื่น ก็รู้สึกว่าลมพัดวูบยาวๆ เข้ามาในห้องอีก....ตอนนี้ชักจะเริ่มใจเสียแล้ว หน้าต่างก็ปิดแล้ว ประตูก็ลงกลอนอย่างดี?? ลมจะพัดแรงอะไรขนาดนี้?? หรือว่า?? เรื่องราวที่พี่เณรเล่าให้ฟังเมื่อตอนกลางวันผุดขึ้นมาในสมองทันที.....คราวนี้ไม่ได้หลับอะไร....ลมพัดวูบเข้ามาอีก สายมุ้งสายหนึ่งขาด! ผมรีบลุกขึ้นไปมัดสายมุ้ง...ใจเต้นตุ๊บๆ ความกลัวเริ่มคลานขึ้นสมองเลย ข่มตาให้กลับก็ไม่หลับ....สุดท้ายตัดสินใจว่านั่นเป็นผีแน่ๆ....ลองสู้กับมันสักตั้งก็ดีเหมือนกัน คิดว่ายังไงๆ เสีย....คนที่กำลังจะเข้าบวชเป็นสามเณรผีคงไม่กล้ายุ่ง......
ผมฉีกหนังสือเจ็ดตำนานเป็นสี่แผ่น วางไว้ชายมุ้งทั้งสี่ด้านเป็นยันต์ป้องกัน นอนสมาธิพุทโธๆ.....แล้วก็ไม่มีเหตุการณ์ลมพัดอีกเลย แต่....ผมฝัน เห็นผู้หญิงใส่ชุดขาวกวักมือเรียกผมอยู่ไกลๆ แต่สักพักเธอก็ขยับมาใกล้ ใกล้เข้า ใกล้เข้าจนมายืนอยุ่ต่อหน้า(ในฝัน) เล่นเอาผมรีบสะดุ้งตื่น...แต่ก็อุ่นใจที่คลำหากระดาษที่ฉีกจากหนังสือสวยมนต์เจ็ดตำนานยังอยู่ที่ชายมุ้งเจออยู่ คิดว่ายังไงๆ ก็เอาตัวให้รอดคืนนี้ก่อนก็แล้วว่ะ.....แต่ ผมได้ยินเสียงเหมือนคนเดินที่ชานกุฏิข้างนอก!...ดึกๆ อย่างนี้รับรองหูไม่ฝาดแน่ๆ.....ตอนนี้ความกลัววิ่งไปชนเพดานสมองแล้ว คลำไม้ขีดไฟมาจุดตะเกียงก็หาไม่เจอ......ตัดสินใจวินาทีสุดท้าย รื้อมุ้ง...เปิดประตูห้องได้รีบกระโจนลงกุฏิวิ่งแปร้นไปยังกุฏิเล็กเคาะประตูปลุกพระ ตะโดนลั่นผมโดนผีหลอกๆๆๆๆ
ในที่สุดกุฏินั้นก็ถูกรื้อ ไม้ถูกขายไปแล้วนำเงินส่วนหนึ่งไปทำบุญอุทิศส่วนบุญสวนกุศลให้สองผัวเมีย อีกส่วนหนึ่งก็สร้างเป็นกุฏิหลังเล็กได้อีกหลังหนึ่งให้ท่านเจ้าอาวาส
เคยไหมฝันว่า รู้สึกว่ากึ่งหลับกึ่งตื่น......เล่าเรื่องสยองขวัญให้ฟังล่ะกัน
-----------------------------------------------------------------------------
ก่อนบรรพชาเป็นสามเณร ผมเป็นนาคอยู่นาน(บ้านผมเรียกว่าเข้านาค)เพราะรอครอบครัวมีเงินครบค่าใช้จ่ายก่อน เป็นวัดบ้านนอกแห่งหนึ่งไม่ใช่ในหมู่บ้านผม หมู่บ้านผมว่าสุดๆ แล้ว...วัดในหมู่บ้านที่ผมไปเข้านาคนั้นอยู่ตีนภูพาน ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึงต้องใช้ตะเกียงน้ำมันเอา เป็นวัดขนาดเล็ก...มีกุฏิไม้สองหลัง และศาลาการเปรียญไม้อีกหนึ่งหลัง ส่วนห้องน้ำ...ต้องถือจอบถือเสียมเข้าป่าจะหนักจะเบาก็แล้วแต่สะดวก...??
มีพระสามรูปและสามเณรหนึ่งรูป พระหนุ่มสองรูปและสามเณรเป็นคนในหมู่บ้าน ส่วนผมและหลวงตาเจ้าอาวาสเป็นคนจากหมู่บ้านอื่น กุฏิสองหลังนั้น กุฏิหลังแรกใหญ่กว่าหลังที่สองเกือบเท่าตัว....ผมไม่ได้เอะใจอะไรว่าทำไมกุฏิหลังแรกถึงถูกปล่อยให้ว่าง?? พระสองหนุ่มสองรูปและสามเณรนอนบนกุฏิหลังเล็กรวมกัน หลวงตาเจ้าอาวาสกั้นห้องนอนบนศาลา
ตอนเข้านาค ท่านเจ้าอาวาสบอกให้ผมไปนอนบนกุฏิใหญ่คนเดียว ผมก็ไม่นอนได้หลายสัปดาห์ (ตอนนั้นผมอายุ๑๒) ผมเป็นคนไม่กลัวผีเลย เพราะธรรมดาก็นอนที่นาเกือบทุกวัน ที่นาก็ติดป่าช้า...เวลาเขาเผาศพตกกลางคืนผมก็เห็นไฟที่เชิงตะกอนลุกโชนอยู่เลย เสียบม้ามเสียงตับไตไส้พุงของคนตายโดนความร้อนเผาแตกส่งเสียงข้ามทุ่งได้ยินเสมอๆ ชาวบ้านมักจะล้อผมว่าผมเป็นเพื่อนกับผี
คงจะด้วยดีใจและตื่นเต้นด้วยแหละที่ได้มีโอกาสนอนในห้องเป็นส่วนตัวครั้งแรกในชีวิต...ผมจึงไม่ได้เอะใจอะไรว่าทำไมกุฏินี้ถึงถูกปล่อยให้ว่าง?? วันหนึ่งสามเณรมาถามผมว่า "นี่นาค...เห็นอะไรไหม? ตอนกลางคืน?" ผมก็ตอบว่าปรกติดีนี่ครับ...ลมพัดจากยอดเขาภูพานโชยเข้ากุฏิเย็นสบาย พี่เณรถามต่ออีกว่า "นาค ไม่รู้จริงๆ เหรอว่ามีคนเคยผูกคอตายใต้กุฏินี้"!! จากนั้นเรื่องราวของผัวเมียยากจนคู่หนึ่งที่ร่อนเรจรจัดมาขอข้าวที่วัดแห่งนี้กิน สองผัวเมียขายแรงงานรับจ้างปลูกข้าว ดำนา ขอค่าจ้างสองคนวันละห้าบาทพร้อมข้าวปลาอาหาร ชาวบ้านแถวนั้นก็ยากจนไม่มีเงินค่าจ้างอะไร ช่วยได้ก็แค่ให้อาหาร ผัวเมียทั้งสองปักหลักอยู่ที่วัดสัปดาห์กว่า โดยบอกชาวบ้านว่าจะลองเร่ร่อนไปขายแรงงานหมู่บ้านถัดไป...
เช้าวันรุ่งขึ้น...ร่างสองผัวเมียห้อยโตงเตงใต้กุฏิที่ผมนอนเข้านาคอยู่!! กลายเป็นศพไม่มีญาติ ชาวบ้านก็ลงขันช่วยกันเผาศพ...ตั้งแต่นั้นมากุฏิหลังนั้นถูกปล่อยให้ว่าง พระที่เคยอยู่ทะยอยย้ายไปกุฏิเล็กหรือย้ายไปอีกหมู่บ้านเพราะความเฮี้ยน ผมฟังตอนแรกก็ไม่ได้นึกกลัวอะไรเลย ตั้งใจฟังอย่างสนอกสนใจซะด้วย ถามนู่นซักนี่
ตกกลางคืน...ทำวัตรเย็นเสร็จ ฝึกท่องบทสวดมนต์เจ็ดตำนานเสร็จก็กางมุ้งเข้านอน กำลังจะเคลิ้มหลับ ลมก็พัดวูบเข้ามาพัดชายมุ้งเปิด...นึกขึ้นได้ว่าลืมปิดหน้าต่าง ลุกขึ้นไปปิดหน้าต่าง......เคลิ้มครึ่งหลับครึ่งตื่น ก็รู้สึกว่าลมพัดวูบยาวๆ เข้ามาในห้องอีก....ตอนนี้ชักจะเริ่มใจเสียแล้ว หน้าต่างก็ปิดแล้ว ประตูก็ลงกลอนอย่างดี?? ลมจะพัดแรงอะไรขนาดนี้?? หรือว่า?? เรื่องราวที่พี่เณรเล่าให้ฟังเมื่อตอนกลางวันผุดขึ้นมาในสมองทันที.....คราวนี้ไม่ได้หลับอะไร....ลมพัดวูบเข้ามาอีก สายมุ้งสายหนึ่งขาด! ผมรีบลุกขึ้นไปมัดสายมุ้ง...ใจเต้นตุ๊บๆ ความกลัวเริ่มคลานขึ้นสมองเลย ข่มตาให้กลับก็ไม่หลับ....สุดท้ายตัดสินใจว่านั่นเป็นผีแน่ๆ....ลองสู้กับมันสักตั้งก็ดีเหมือนกัน คิดว่ายังไงๆ เสีย....คนที่กำลังจะเข้าบวชเป็นสามเณรผีคงไม่กล้ายุ่ง......
ผมฉีกหนังสือเจ็ดตำนานเป็นสี่แผ่น วางไว้ชายมุ้งทั้งสี่ด้านเป็นยันต์ป้องกัน นอนสมาธิพุทโธๆ.....แล้วก็ไม่มีเหตุการณ์ลมพัดอีกเลย แต่....ผมฝัน เห็นผู้หญิงใส่ชุดขาวกวักมือเรียกผมอยู่ไกลๆ แต่สักพักเธอก็ขยับมาใกล้ ใกล้เข้า ใกล้เข้าจนมายืนอยุ่ต่อหน้า(ในฝัน) เล่นเอาผมรีบสะดุ้งตื่น...แต่ก็อุ่นใจที่คลำหากระดาษที่ฉีกจากหนังสือสวยมนต์เจ็ดตำนานยังอยู่ที่ชายมุ้งเจออยู่ คิดว่ายังไงๆ ก็เอาตัวให้รอดคืนนี้ก่อนก็แล้วว่ะ.....แต่ ผมได้ยินเสียงเหมือนคนเดินที่ชานกุฏิข้างนอก!...ดึกๆ อย่างนี้รับรองหูไม่ฝาดแน่ๆ.....ตอนนี้ความกลัววิ่งไปชนเพดานสมองแล้ว คลำไม้ขีดไฟมาจุดตะเกียงก็หาไม่เจอ......ตัดสินใจวินาทีสุดท้าย รื้อมุ้ง...เปิดประตูห้องได้รีบกระโจนลงกุฏิวิ่งแปร้นไปยังกุฏิเล็กเคาะประตูปลุกพระ ตะโดนลั่นผมโดนผีหลอกๆๆๆๆ
ในที่สุดกุฏินั้นก็ถูกรื้อ ไม้ถูกขายไปแล้วนำเงินส่วนหนึ่งไปทำบุญอุทิศส่วนบุญสวนกุศลให้สองผัวเมีย อีกส่วนหนึ่งก็สร้างเป็นกุฏิหลังเล็กได้อีกหลังหนึ่งให้ท่านเจ้าอาวาส
แสดงความคิดเห็น
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม............มีแต่เสียง 27/8/2015
***สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องราชดำเนินทุกคน***
กระทู้นี้ เป็นมุมพักผ่อน มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม.........แต่มีเสียง...................
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
ก่อนนอนเรามักอวยพรกันให้หลับฝันดี แล้วความฝันคืออะไร
ความฝัน คือการแสดงออกของความนึกคิด ความรู้สึก และเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในสมองในขณะที่เรากำลังนอนหลับอยู่
คนเรามักจะฝันกันคืนละ 2-3 ครั้ง หรือมากกว่านั้น ทุกคนต่างก็นอนหลับฝัน แต่มีเพียงบางคนเท่านั้นที่จำความฝันของตัวเองได้
คำว่า "ฝัน" มาจากคำเก่าในภาษาอังกฤษ หมายถึง ความยินดี และเสียงดนตรี ความฝันของคนเรามักจะรวมถึงรูป รส กลิ่น เสียง
และสิ่งที่เราสัมผัสได้ บางครั้งเราอาจฝันเรื่องเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งมักไม่ใช่เรื่องที่น่าประทับใจนัก หรืออาจจะเป็นฝันร้าย
หรือแม้แต่เรื่ององที่น่ากลัวก็เป็นได้
ชาวกรีกและโรมันโบราณ เชื่อกันว่าความฝันคือสารจากพระเจ้า ในบางครั้งคนที่เข้าใจความฝัน อาจสามารถช่วยกองทัพในสมรภูมิได้
ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่าผู้ที่เข้าใจความฝันคือบุคคลพิเศษ ชาวจีนเชื่อว่าความฝันคือหนทางไปเยือนสมาชิกในครอบครัวผู้ล่วงลับไปแล้ว
ชนเผ่าพื้นเมืองอเมริกันบางชนเผ่าและชาวเม็กซิกันที่เจริญแล้ว เชื่อว่าความฝันคืออีกโลกหนึ่ง ที่เราไปเยือนในยามหลับ
ในยุโรป ผู้คนเชื่อกันว่า ความฝันคือสิ่งชั่วร้าย และอาจชักนำให้คนหันไปทำสิ่งเลวร้ายได้
ในบางครั้งบรรดาศิลปินและนักเขียนได้แนวคิดต่างๆ จากความฝัน เช่นนักร้องที่ชื่อ Paul McCartney แห่งวง The Beatles เล่าว่า
ในวันหนึ่งเขาตื่นขึ้นมา พร้อมกับเสียงดนตรีของเพลง "Yesterday" อยู่ในหัวของเขา
ส่วนนักเขียน Mary Shelley บอกว่า เธอมีความฝันที่รุนแรง เกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ ที่ใช้เครื่องจักรทำให้สัตว์โลกชนิดหนึ่งคืนชีพได้
เมื่อเธอตื่นขึ้นมา จึงเริ่มเขียนหนังสือเกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อ "Frankenstein" ที่สร้างให้สัตว์ประหลาดมาต่อสู้กัน
ความฝันยอดฮิต 10 อันดับ (มักจะเป็นฝันร้ายนะ แปลก) มาดูว่าใครเคยฝันแบบไหนกันบ้างมั้ย
10. หลงทาง/ ถูกขัง - ผู้ฝันอาจจะกำลังอยู่ในภาวะสับสน กำลังมีปัญหากับหน้าที่การงาน
9. ตกจากที่สูง/ จมน้ำ - มักเกี่ยวกับความกังวลเรื่องความรับผิดชอบในมือว่าไม่สามารถทำได้ หรือจะหลุดลอยไป
8. โทรศัพท์หรือเครื่องใช้อื่นๆ ทำงานผิดปกติ - บอกถึงปัญหาที่มีต่อสังคมรอบตัว เช่น ขาดการติดต่อจากคนรักหรือเพื่อนสนิท
7. เปลือยกายหรือแต่งกายไม่เหมาะสม - เป็นกันบ่อยนะ นั่นคือกังวลเกี่ยวกับความเคารพเชื่อถือในตนเอง ความลับที่ไม่อยากให้ผู้อื่นเห็น
6. ภัยพิบัติ - กำลังถูกรุมเร้าด้วยปัญหา รู้สึกพ่ายแพ้
5. สอบตก - กังวลเรื่องความสำเร็จกับสิ่งที่กำลังทำอยู่
4. บ้านหรือสิ่งของถูกทำลาย - กำลังรู้สึกสูญเสียอะไรไปบางอย่าง ขาดความมั่นใจ
3. รถพัง รถเสีย - ลึกๆ แล้วตัวเองไม่ได้มีความสุขดังที่แสดงออกมากนัก
2. บาดเจ็บหรือตาย - กังวลอย่างสุดซึ้ง (คงขั้นโคม่าแหละ) เหมือนไม่สามารถรับมือกับปัญหาได้
1. ถูกไล่ล่าหรือทำลาย - กำลังกังวลกับปัญหาว่าจะต้องเผชิญ หรือจนมุมเข้าสักวัน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
.......................................
จะเห็นว่าฝันร้ายมักเกิดจากความกังวล ความเครียด ทั้งนั้น ดังนั้นก่อนนอนควรฟังเพลงเพราะๆ คิดเรื่องดีๆ หรือทำสมาธิ จะได้ฝันดีกัน
เคยอ่านเจอว่า การจัดระเบียบความคิดก่อนนอนก็เหมือนกันจัดลิ้นชัก เพราะทั้งวันเรามีเรื่องราวยุ่งเหยิงเต็มไปหมด ควรทำให้ลิ้นชักโล่ง
ตื่นมาจะได้สดชื่น และมีสุขภาพจิตที่ดี บางทีนะสิ่งที่เราคิดไม่ออก นอนไปอาจคิดออกที่เรียกว่า "ปิ๊งแว้บ" ก็ได้นะ
ใครมีเพลงเกี่ยวกับฝันมาลองแบ่งกันฟัง น่าจะมีเยอะเนอะ ขอให้คืนนี้ฝันดีกันทุกคนนะคะ
All I Have To Do Is Dream - The Everly Brothers
https://www.youtube.com/watch?v=lX0ws6y7p5g