มีเพื่อนๆ หลายคนเชียร์ให้เขียนหนังสือแชร์ประสบการณ์ค่ะ
แชร์ในฐานะที่เป็นคุณแม่ของลูกสาว 1 คนและลูกชาย 2 คน
ที่ได้รับทุนการศึกษาเรียนฟรีในระดับอุดมศึกษาในประเทศอเมริกาทั้ง 3 คน
ขณะตั้งกระทู้นี้ได้เดินทางมาถึงประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว
เพื่อมาส่งลูกชายคนเล็กที่เพิ่งได้รับทุนศึกษาต่อ
จากมหาวิทยาลัยในรัฐแห่งหนึ่งค่ะ
จากการที่มีโอกาสได้มาส่งลูกๆ ทั้ง 3 คนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในอเมริกาถึง 3 ครั้ง
ได้เรียนรู้เรื่องราวการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ
โดยได้เจอทั้งปัญหาที่เกิดความขลุกขลักล่าช้าในตอนต้นและราบรื่นในเวลาต่อมา
มีการเตรียมการและจำนวนเงินค่าใช้จ่ายนอกเหนือทุนการศึกษาที่ได้รับ
มีประสบการณ์การเข้าร่วมปฐมนิเทศน์ทั้งของนักเรียนและผู้ปกครอง
มีการใช้ชีวิตในช่วงเดินทางมาถึงอเมริกาใหม่ๆ
เพื่อเตรียมตัวลูกให้พร้อมก่อนย้ายเข้าห้องพักในรั้วมหาวิทยาลัย เป็นต้น
เนื้อหาเรื่องราวที่สำคัญอีกหนึ่งเรื่องที่จะพลาดไม่ได้
คือการเตรียมความพร้อมให้ลูกๆ และเคล็ดลับในการปลูกฝังลูกๆ ตั้งแต่ยังเยาว์วัย
ให้มีความสนใจในการรักการอ่านการเขียนและความตั้งใจศึกษาเล่าเรียน
ทำให้สามารถนำทักษะที่เกิดขึ้นมาใช้ในการสมัครสอบขอทุนการศึกษา
จนประสบความสำเร็จได้ทุนเรียนต่อระดับอุดมศึกษาในอเมริกาได้ทั้ง 3 คน
และเมื่อเข้าไปในรั้วมหาวิทยาลัยแล้วก็จะได้เล่าถึงการทำงานหารายได้พิเศษ
ลักษณะงานและรายได้ที่จะได้รับรวมทั้งการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
ในหลากหลายแง่มุมอีกด้วย
นอกจากนี้ก็จะมีการกล่าวถึงค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาของลูกตั้งแต่อนุบาล
มีการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียในการส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนอินเตอร์
หรือการเรียนภาคสองภาษาที่เป็นที่นิยมของผู้ปกครองมากขึ้น
ว่าแท้ที่จริงนั้นให้ประโยชน์หรือโทษกับลูกๆ หรือไม่อย่างไร
ข้างต้นเป็นเนื้อหาเบื้องต้นคร่าวๆ ที่ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆ
และญาติพี่น้องฝ่ายสนับสนุนและเชียร์ให้เขียนหนังสือดังกล่าวข้างต้น
แต่เหรียญมักมีสองด้านเสมอเพราะมีเพื่อนๆ บางคนแสดงความเห็นว่า
เรื่องราวข้างต้นเป็นเพียงความรู้พื้นฐานทั่วไปที่ใครๆ ก็รู้กันอยู่แล้ว
หรือไม่ก็สามารถรับรู้และหาอ่านกันได้ง่ายบนโลกออนไลน์ในปัจจุบัน
ทั้งสำหรับพ่อแม่และเด็กที่มีความสนใจจะเรียนต่อในต่างประเทศ
จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปหาซื้อหนังสือมาอ่านอีกแต่อย่างใด
และบ้างก็ว่าคนไทยไม่ชอบการอ่านหนังสือเขียนไปก็ไม่มีคนอ่าน 555
เจอความคิดเห็นที่แตกต่างจากเพื่อนฝูงญาติพี่น้องทั้ง 2 ฝ่ายแบบนี้
จขกท เริ่มเงิบ ลังเล และไม่มั่นใจว่าควรที่จะเดินหน้ารวบรวมเขียนเรื่องราวตามแรงเชียร์ของฝ่ายหนึ่ง
หรือเก็บประสบการณ์นี้ไว้เองคนเดียวเงียบๆ ตามความเห็นของอีกฝ่ายหนึ่งดี????
จึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อขอความคิดเห็นและคำแนะนำจากทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่าน
ไม่ว่าท่านจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่มีความตั้งใจส่งลูกไปศึกษาต่อต่างประเทศ
หรือเป็นลูกๆ ที่กำลังมีความใฝ่ฝันอยากไปศึกษาต่อต่างประเทศ
ทั้งกลุ่มที่มีทุนส่วนตัวจากทางบ้านสนับสนุนเรื่องการศึกษาและค่าใช้จ่ายทั้งหมด
หรือกลุ่มที่ครอบครัวมีฐานะไม่เอื้ออำนวยแต่อยากศึกษาเคล็ดลับแนวทาง
ในการเตรียมตัวเพื่อขอทุนเรียนต่อด้วยตนเอง
หรือเป็นผู้ที่เคยมีประสบการณ์ได้รับทุนการศึกษาต่างประเทศด้วยตนเองมาก่อน
หรือเป็นผู้ที่เคยเรียนต่างประเทศด้วยทุนของผู้ปกครอง
หรือเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตในต่างประเทศ
โดยเฉพาะในรั้วมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกามาก่อนก็ตาม
ขอความกรุณาทุกท่านแสดงความคิดเห็นพร้อมให้คำแนะนำ
และแชร์ประสบการณ์ของท่านเองในทุกๆแง่มุมที่เกี่ยวข้อง
ทั้งในเรื่องการทำข้อสอบเพื่อทดสอบความรู้ทางด้านภาษา
ทางด้านคณิตศาสตร์ เคมี ชีวะ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งตัวเลขค่าใช้จ่ายต่างๆ ตลอดจนถึงขั้นตอนการสมัครขอวีซ่า
และวิธีการสมัครขอทุนในแต่ละมหาวิทยาลัยที่อาจมีขั้นตอนที่แตกต่างกัน
ท้ายที่สุดนี้หากข้อมูลต่างๆ ตลอดจนความคิดเห็นและคำแนะนำที่ได้รับจากท่าน
ซึ่งหากส่วนใหญ่สนับสนุนก็จะนำไปเป็นแนวทางสร้างแรงบันดาลใจ
เพื่อเดินหน้าเขียนเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ให้สามารถนำไปเป็นแนวทางในการเขียนต่อได้อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของคุณพ่อคุณแม่และลูกๆ ที่ต้องการข้อมูล
ในการเตรียมตัวสำหรับการสมัครขอทุนการศึกษาในต่างประเทศ
โดยจะเน้นเฉพาะการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก
โดยหนังสือที่จะเขียนนี้จะไม่เขียนในเชิงวิชาการ
แต่จะเขียนเล่าไปเรื่อยๆ สอดแทรกเรื่องราวต่างๆ ให้อ่านง่ายน่าติดตาม
ทั้งนี้เผื่อมีคนสนใจนำไปสร้างเป็นละครให้ดูสนุกและให้ความรู้ด้วยก็จะดีไม่น้อย อิอิ
สำหรับท่านใดที่สนับสนุนก็ใคร่ขอความกรุณาช่วยตั้งชื่อหนังสือให้ด้วยนะคะ ^^
โดยชื่อหนังสือขอให้มีความหมายครอบคลุมเนื้อหาข้างต้น
เป็นชื่อที่สะดุดตาทั้งของผู้ปกครองที่ต้องการหาข้อมูล
สำหรับเป็นแนวทางในการเตรียมความพร้อมให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก
และของลูกๆ ที่มีความใฝ่ฝันอยากศึกษาต่อต่างประเทศ เป็นต้น
ประมาณว่าเห็นชื่อหนังสือปุ๊บก็รู้ว่าใช่ปั๊บเบยค่ะ อิอิ ^^
ขอขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้าสำหรับทุกความคิดเห็นและคำแนะนำค่ะ
หลังจากโพสกระทู้นี้แล้วก็จะเตรียมตัวเข้านอนเพื่อเดินทางและปฏิบัติภาระกิจแต่เช้า
โดยอาจจะไม่สะดวกใช้อินเตอร์เน็ตเข้ามาอ่านกระทู้จนกว่าจะกลับถึงเมืองไทยสุดสัปดาห์นี้
และจะเข้ามาขอบคุณทุกท่านอีกครั่งหนึ่งค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ ^^
หนังสือแชร์ประสบการณ์เตรียมความพร้อมให้ลูกอย่างไรจนได้ทุนเรียนต่อในอเมริกาทั้ง 3 คน ^^
แชร์ในฐานะที่เป็นคุณแม่ของลูกสาว 1 คนและลูกชาย 2 คน
ที่ได้รับทุนการศึกษาเรียนฟรีในระดับอุดมศึกษาในประเทศอเมริกาทั้ง 3 คน
ขณะตั้งกระทู้นี้ได้เดินทางมาถึงประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว
เพื่อมาส่งลูกชายคนเล็กที่เพิ่งได้รับทุนศึกษาต่อ
จากมหาวิทยาลัยในรัฐแห่งหนึ่งค่ะ
จากการที่มีโอกาสได้มาส่งลูกๆ ทั้ง 3 คนเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในอเมริกาถึง 3 ครั้ง
ได้เรียนรู้เรื่องราวการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ
โดยได้เจอทั้งปัญหาที่เกิดความขลุกขลักล่าช้าในตอนต้นและราบรื่นในเวลาต่อมา
มีการเตรียมการและจำนวนเงินค่าใช้จ่ายนอกเหนือทุนการศึกษาที่ได้รับ
มีประสบการณ์การเข้าร่วมปฐมนิเทศน์ทั้งของนักเรียนและผู้ปกครอง
มีการใช้ชีวิตในช่วงเดินทางมาถึงอเมริกาใหม่ๆ
เพื่อเตรียมตัวลูกให้พร้อมก่อนย้ายเข้าห้องพักในรั้วมหาวิทยาลัย เป็นต้น
เนื้อหาเรื่องราวที่สำคัญอีกหนึ่งเรื่องที่จะพลาดไม่ได้
คือการเตรียมความพร้อมให้ลูกๆ และเคล็ดลับในการปลูกฝังลูกๆ ตั้งแต่ยังเยาว์วัย
ให้มีความสนใจในการรักการอ่านการเขียนและความตั้งใจศึกษาเล่าเรียน
ทำให้สามารถนำทักษะที่เกิดขึ้นมาใช้ในการสมัครสอบขอทุนการศึกษา
จนประสบความสำเร็จได้ทุนเรียนต่อระดับอุดมศึกษาในอเมริกาได้ทั้ง 3 คน
และเมื่อเข้าไปในรั้วมหาวิทยาลัยแล้วก็จะได้เล่าถึงการทำงานหารายได้พิเศษ
ลักษณะงานและรายได้ที่จะได้รับรวมทั้งการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย
ในหลากหลายแง่มุมอีกด้วย
นอกจากนี้ก็จะมีการกล่าวถึงค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษาของลูกตั้งแต่อนุบาล
มีการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียในการส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนอินเตอร์
หรือการเรียนภาคสองภาษาที่เป็นที่นิยมของผู้ปกครองมากขึ้น
ว่าแท้ที่จริงนั้นให้ประโยชน์หรือโทษกับลูกๆ หรือไม่อย่างไร
ข้างต้นเป็นเนื้อหาเบื้องต้นคร่าวๆ ที่ได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆ
และญาติพี่น้องฝ่ายสนับสนุนและเชียร์ให้เขียนหนังสือดังกล่าวข้างต้น
แต่เหรียญมักมีสองด้านเสมอเพราะมีเพื่อนๆ บางคนแสดงความเห็นว่า
เรื่องราวข้างต้นเป็นเพียงความรู้พื้นฐานทั่วไปที่ใครๆ ก็รู้กันอยู่แล้ว
หรือไม่ก็สามารถรับรู้และหาอ่านกันได้ง่ายบนโลกออนไลน์ในปัจจุบัน
ทั้งสำหรับพ่อแม่และเด็กที่มีความสนใจจะเรียนต่อในต่างประเทศ
จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปหาซื้อหนังสือมาอ่านอีกแต่อย่างใด
และบ้างก็ว่าคนไทยไม่ชอบการอ่านหนังสือเขียนไปก็ไม่มีคนอ่าน 555
เจอความคิดเห็นที่แตกต่างจากเพื่อนฝูงญาติพี่น้องทั้ง 2 ฝ่ายแบบนี้
จขกท เริ่มเงิบ ลังเล และไม่มั่นใจว่าควรที่จะเดินหน้ารวบรวมเขียนเรื่องราวตามแรงเชียร์ของฝ่ายหนึ่ง
หรือเก็บประสบการณ์นี้ไว้เองคนเดียวเงียบๆ ตามความเห็นของอีกฝ่ายหนึ่งดี????
จึงตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อขอความคิดเห็นและคำแนะนำจากทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่าน
ไม่ว่าท่านจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่มีความตั้งใจส่งลูกไปศึกษาต่อต่างประเทศ
หรือเป็นลูกๆ ที่กำลังมีความใฝ่ฝันอยากไปศึกษาต่อต่างประเทศ
ทั้งกลุ่มที่มีทุนส่วนตัวจากทางบ้านสนับสนุนเรื่องการศึกษาและค่าใช้จ่ายทั้งหมด
หรือกลุ่มที่ครอบครัวมีฐานะไม่เอื้ออำนวยแต่อยากศึกษาเคล็ดลับแนวทาง
ในการเตรียมตัวเพื่อขอทุนเรียนต่อด้วยตนเอง
หรือเป็นผู้ที่เคยมีประสบการณ์ได้รับทุนการศึกษาต่างประเทศด้วยตนเองมาก่อน
หรือเป็นผู้ที่เคยเรียนต่างประเทศด้วยทุนของผู้ปกครอง
หรือเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในการใช้ชีวิตในต่างประเทศ
โดยเฉพาะในรั้วมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกามาก่อนก็ตาม
ขอความกรุณาทุกท่านแสดงความคิดเห็นพร้อมให้คำแนะนำ
และแชร์ประสบการณ์ของท่านเองในทุกๆแง่มุมที่เกี่ยวข้อง
ทั้งในเรื่องการทำข้อสอบเพื่อทดสอบความรู้ทางด้านภาษา
ทางด้านคณิตศาสตร์ เคมี ชีวะ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งตัวเลขค่าใช้จ่ายต่างๆ ตลอดจนถึงขั้นตอนการสมัครขอวีซ่า
และวิธีการสมัครขอทุนในแต่ละมหาวิทยาลัยที่อาจมีขั้นตอนที่แตกต่างกัน
ท้ายที่สุดนี้หากข้อมูลต่างๆ ตลอดจนความคิดเห็นและคำแนะนำที่ได้รับจากท่าน
ซึ่งหากส่วนใหญ่สนับสนุนก็จะนำไปเป็นแนวทางสร้างแรงบันดาลใจ
เพื่อเดินหน้าเขียนเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ให้สามารถนำไปเป็นแนวทางในการเขียนต่อได้อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดของคุณพ่อคุณแม่และลูกๆ ที่ต้องการข้อมูล
ในการเตรียมตัวสำหรับการสมัครขอทุนการศึกษาในต่างประเทศ
โดยจะเน้นเฉพาะการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก
โดยหนังสือที่จะเขียนนี้จะไม่เขียนในเชิงวิชาการ
แต่จะเขียนเล่าไปเรื่อยๆ สอดแทรกเรื่องราวต่างๆ ให้อ่านง่ายน่าติดตาม
ทั้งนี้เผื่อมีคนสนใจนำไปสร้างเป็นละครให้ดูสนุกและให้ความรู้ด้วยก็จะดีไม่น้อย อิอิ
สำหรับท่านใดที่สนับสนุนก็ใคร่ขอความกรุณาช่วยตั้งชื่อหนังสือให้ด้วยนะคะ ^^
โดยชื่อหนังสือขอให้มีความหมายครอบคลุมเนื้อหาข้างต้น
เป็นชื่อที่สะดุดตาทั้งของผู้ปกครองที่ต้องการหาข้อมูล
สำหรับเป็นแนวทางในการเตรียมความพร้อมให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก
และของลูกๆ ที่มีความใฝ่ฝันอยากศึกษาต่อต่างประเทศ เป็นต้น
ประมาณว่าเห็นชื่อหนังสือปุ๊บก็รู้ว่าใช่ปั๊บเบยค่ะ อิอิ ^^
ขอขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้าสำหรับทุกความคิดเห็นและคำแนะนำค่ะ
หลังจากโพสกระทู้นี้แล้วก็จะเตรียมตัวเข้านอนเพื่อเดินทางและปฏิบัติภาระกิจแต่เช้า
โดยอาจจะไม่สะดวกใช้อินเตอร์เน็ตเข้ามาอ่านกระทู้จนกว่าจะกลับถึงเมืองไทยสุดสัปดาห์นี้
และจะเข้ามาขอบคุณทุกท่านอีกครั่งหนึ่งค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ ^^