เดี๋ยวนี้จะซื้อโน้ตบุ๊คทั้งที โน้ตบุ๊คปกติทั่วไปก็คงตอบสนองการใช้งานได้อยู่แล้ว แต่ถ้าไลฟ์สไตล์ของเราต้องการความแตกต่าง ในส่วนของไฮบริดโน้ตบุ๊คก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีไม่แพ้กัน ซึ่งล่าสุดทาง HP ก็ได้เปิดตัว HP Pavilion X2 รุ่นใหม่ โดยเป็นไฮบริดโน้ตบุ๊คราคาไม่แพงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีราคาอยู่ที่ 15,990 บาทเท่านั้น มาพร้อมกับ Windows 8.1 แท้ ที่สามารถอัพเกรดเป็น Windows 10 ได้ฟรีๆ
นอกเหนือจากนี้ทาง HP ยังมีทีเด็ดในเรื่องของบริการฟรี Wi-Fi ทั่วโลก กับ iPass Global Wi-Fi ซึ่ง iPass นี้เองจะสามารถใช้งานได้จริงๆ กว่าหลายร้อยประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย เพียงแค่เชื่อมต่ออินเตอร์ Wi-Fi และ Log-in ผ่านแอพพลิเคชั่น iPass ก็สามารถใช้งานได้แล้ว โดยในประเทศไทยเจ้าใหญ่ๆ อาทิ True, AIS และ 3BB ก็รองรับแน่นอน ซึ่งทาง HP มีบริการ iPass ให้ใช้กันได้ฟรีๆ เป็นระยะวะเวลา 1 ปีเต็ม
รวมไปถึงยังมีบริการอย่าง HP SmartFriend ที่มาพร้อมกับบริการ Onsite Service ซึ่งก็คือการให้บริการไปซ่อมเครื่องถึงบ้านนั่นเอง แต่ถ้ามีกรณีที่แก้ปัญหาได้ไม่สำเร็จหน้างาน ก็ยังมีบริการ Pick up and Return ที่รับเครื่องมาซ่อมยังศูนย์บริการและส่งคืนกลับไปหาผู้ใช้ที่ไหนก็ได้ในประเทศไทยเป็นต้น อีกทั้งยังมีบริการอื่นๆ อย่าง Call Center หรือกู้ข้อมูลให้ฟรีๆ ด้วย
กลับมาพูดถึง HP Pavilion X2 กันบ้าง ซึ่งดูภายนอกจะเป็นโน้ตบุ๊คสีสันสดใสที่มาพร้อมขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว รุ่นล่าสุดจากทาง HP ที่เป็นโน้ตบุ๊คแบบไฮบริดที่มีคุรสมบัติถอดหน้าจอออกมาได้เป็นแท็บเล็ต รวมไปถึงสามารถใช้งานได้หลายโหมด มีดีไซน์และออกแบบตอบรับกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ดูดีมีราคามากๆ เรียกได้ว่าคนอื่นๆ หากไม่รู้ราคามาก่อน คิดว่ามันจะราคาหลายหมื่นแน่ๆ โดยให้สีสันที่สดใสสวยงามอย่างตัวที่ได้รับมารีวิวจะเป็นสีแดง ส่วนอีกสีจะเป็นสีขาวที่สวยงามไม่แพ้กัน และที่เจ๋งมากๆ สำหรับการออกแบบก็คือ เมื่อเราเปิดหน้าจอ ตัวฐานจะมีดันตัวเครื่องขึ้นมาด้วย ทำให้คีย์บอร์ดเอียงรับการการพิมพ์ของเรามากยิ่งขึ้น
เรียกได้ว่า HP Pavilion X2 เหมาะกับนักศึกษาหรือคนทั่วไปที่ต้องการโน้ตบุ๊คที่แตกต่าง (หรือเป็นเครื่องที่สอง) เพราะมาด้วยฟีเจอร์ที่สามารถถอดจอได้ด้วยข้อพับแบบแม่เหล็ก และปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลายรูปแบบ ที่ปรับเปลี่ยนจากเดิมที่เป็นแบบคีย์บอร์ดอ่อน พร้อมด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 1.1 ก.ก. เท่านั้นเมื่อใช้เป็นโน้ตบุ๊ค และเบาเพียง 589 กรัมเมื่อถอดจอใช้เป็นแท็บเล็ต บนสเปคอย่าง Intel Atom รุ่นล่าสุด ที่ใช้งานได้สบายๆ ทั้งความบันเทิงอย่างการเล่นเน็ต รวมไปถึงเล่นไฟล์ความละเอียด 4K ได้ด้วย แน่นอนว่าการทำงานก็ทำได้เป็นอย่างดี ด้วยคีย์บอร์ดแบบแข็งที่ออกแบบมาใหม่
พร้อมด้วยซอฟแวร์ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 ที่อัพเกรดเป็น Windows 10 ได้ฟรี, มี Office 365 ฟรี รวมไปถึงยังรองรับพอร์ตเชื่อมต่อสุดล้ำอย่าง USB 3.1 แบบมาตรฐาน USB Type-C ที่เราเห็นกันครั้งแรกจาก MacBook ที่มีข้อดีในเรื่องของการส่งข้อมูลที่ไวขึ้น สามารถชาร์จไฟได้ในตัว รวมไปถึงการถอดเข้าถอดออกก็ทำได้อย่างง่ายดายด้วยขนาดที่เล็ก และไม่จำเป็นต้องกลับด้านไปมาเพื่อเสียบอย่าง USB รุ่นก่อนๆ แต่อย่างใด เรียกได้ว่าล้ำสมัยมากกว่าไฮบริดโน้ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่เคยมีมา ที่สำคัญติดตั้งระบบเสียงอย่าง B&O Play ที่ให้คุณภาพเสียงที่ค่อนข้างดี และจอแบบ 16:10 ที่ให้การใช้งานได้มากกว่า บนความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล โดยใช้พาเนลคุณภาพสูง IPS ดูหนังดูคลิปแจ่มแน่นอน
พร้อมมีแบตเตอรี่และการจัดการพลังงานที่ดีทำให้ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมงทีเดียว เรียกได้ว่านำไปใช้งานนอกสถานทีทั้งวันได้อย่างสบายๆ ไม่จะเป็นการไปนั่งชิลๆ ร้านกาแฟ หรือไปทำงานที่มหาวิทยาลัย หรือไปพรีเซ็นงานลูกค้าตามที่ต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องพกอแดปเตอร์ไปเลย หรือถ้าจะพกไปก็ต้องบอกว่าอแดปเตอร์ของ HP Pavilion X2 มีขนาดที่เล็กมากๆ แน่นอนว่ามาพร้อมกับพอร์ต USB Type-C ด้วย
สำหรับการใช้งานจริงแม้ว่าจะมีแรมขนาด 2GB และมีที่เก็บข้อมูลที่ 64GB ก็เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงการดูหนังฟังเพลง อย่างที่บอกไปแล้วว่าเล่นไฟล์วีดีโอ 4K ผ่านทาง Youtube ได้อย่างสบายๆ หรือกรณีถ้าคิดว่าความจุ 64GB ไม่พอก็สามารถเพิ่มด้วย micro SD Card ได้เลย รองรับความจุสูงสุดที่ 128GB ทีเดียว หรือถ้าเราจะเชื่อมต่อ External Harddisk ผ่านทาง USB และ USB Type-C ก็สามารถทำได้ ซึ่งลองดูแล้วก็ขึ้นอยู่กับความจุของ External Harddisk เลย ที่ 3-4TB ก็ยังสามารถทำได้งานได้อยู่ แต่ดูสายจะพะรุงพะรังไปซักหน่อย
คราวนี้มาดูโหมดการใช้งานต่างๆ ของ HP Pavilion X2 กันบ้าง
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน้ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดในการควบคุม โดยคีย์บอร์ดของเครื่องนี้จะเป็น Chiclet Keyboard ที่ออกแบบมาให้มีรูปทรงพอดีนิ้ว เพื่อลดโอกาสพิมพ์ผิดพลาดได้ ซึ่งเมื่อใช้งานจริงแล้วก็ถือว่าทำได้ดีอย่างน่าประทับใจ ตามมาตรฐานที่มีในโน้ตบุ๊ค HP รุ่นอื่นๆ ทีเดียว
Tablet Mode ด้วยการถอดหน้าจอออกมาจาก Docking Keyboard เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้ พร้อมแอพพลิเคชั่นมากมายที่รองรับการใช้งานแท็บเล็ต ซึ่งด้วยตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว ถือว่ามีขนาดที่เหมาะสม อยู่ในเกณฑ์ที่ถือได้ โดยเมื่อเข้าสู่โหมดการทำงานแบบแท็บเล็ตก็ไม่มีน้ำหนักจนเกินไป พอถือใช้งานด้วยมือเดียวได้อย่างสบายๆ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียว ซึ่งจะเป็นการถอดหน้าจอแล้วกลับไปอีกด้าน โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก ซึ่งหน้าจอของ HP Pavilion X2 เครื่องนี้เป็นจอแบบพาเนล IPS ทำให้การแสดงผลภาพออกมาคมชัดสวยงาม พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้ แน่นอนว่าเป็นประสบการณ์ใช้งานที่หาได้ยากในราคาโน้ตบุ๊คราคาหมื่นกลางๆ
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้ ด้วยบานพับที่แข็งแรง โดยออกแบบให้มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับถอดหน้าจอไปมาโดยไม่ก่อปัญหาการหลวมหรือเสียหายขึ้นมาก่อนเวลาอันควร ซึ่งจากการทดลองใช้งานแล้ว ถือว่าทนทานระดับหนึ่งทีเดียว
สรุปเลยแล้วกัน สำหรับท่านไหนกำลังมองหาโน้ตบุ๊คทางเลือกใหม่แบบไฮบริด ที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไปในราคาเท่ากันที่หมื่นบาทกลางๆ แม้ว่าในเรื่องของประสิทธิภาพอาจจะไม่แรงเท่าพวก Core i แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปนั้นรองรับได้อย่างสบายๆ แน่นอน เชื่อได้ว่า HP Pavilion X2 ต้องให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีอย่างแน่นอน
ปิดท้ายด้วยสเปคของ HP Pavilion X2 รุ่นนี้เลย
- จอแสดงผล 10.1 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล พาเนล IPS
- ชิปประมวลผล Intel Atom Z3736F with Intel HD Graphics (1.33 GHz)
- แรม 2 GB DDR3L-1600 SDRAM (onboard)
- ที่เก็บข้อมูลแบบ SSD 64 GB eMMC
- 1 USB 2.0 / 1 USB Type-C
- 1 micro HDMI
- 1 micro SD Card Reader
- 1 headphone/microphone combo
- รองรับ 802.11b/g/n
- Bluetooth 4.0 combo
- Windows 8.1 พร้อม Office 365 และพร้อมอัพเกรดเป็น Windows 10
- แบตเตอรี่ใช้ได้ต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมง
- มิติตัวเครื่อง 26.4 x 17.3 x 1.98 เซนติเมตร
- น้ำหนัก 1.12 กิโลกรัมโดยรวม และหนัก 589 กรัมเมื่อถอดจอใช้เป็นแท็บเล็ต
- รับประกัน 1 ปี และได้รับบริการ HP SmartFriend
- ราคา 15,990 บาท
[SR] [SR] รีวิว HP Pavilion X2 ไฮบริดโน้ตบุ๊ครุ่นล่าสุด Windows แท้ Wi-Fi Free ทั่วโลก ประกัน Onsite ราคา 15,990 บาท
นอกเหนือจากนี้ทาง HP ยังมีทีเด็ดในเรื่องของบริการฟรี Wi-Fi ทั่วโลก กับ iPass Global Wi-Fi ซึ่ง iPass นี้เองจะสามารถใช้งานได้จริงๆ กว่าหลายร้อยประเทศทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย เพียงแค่เชื่อมต่ออินเตอร์ Wi-Fi และ Log-in ผ่านแอพพลิเคชั่น iPass ก็สามารถใช้งานได้แล้ว โดยในประเทศไทยเจ้าใหญ่ๆ อาทิ True, AIS และ 3BB ก็รองรับแน่นอน ซึ่งทาง HP มีบริการ iPass ให้ใช้กันได้ฟรีๆ เป็นระยะวะเวลา 1 ปีเต็ม
รวมไปถึงยังมีบริการอย่าง HP SmartFriend ที่มาพร้อมกับบริการ Onsite Service ซึ่งก็คือการให้บริการไปซ่อมเครื่องถึงบ้านนั่นเอง แต่ถ้ามีกรณีที่แก้ปัญหาได้ไม่สำเร็จหน้างาน ก็ยังมีบริการ Pick up and Return ที่รับเครื่องมาซ่อมยังศูนย์บริการและส่งคืนกลับไปหาผู้ใช้ที่ไหนก็ได้ในประเทศไทยเป็นต้น อีกทั้งยังมีบริการอื่นๆ อย่าง Call Center หรือกู้ข้อมูลให้ฟรีๆ ด้วย
กลับมาพูดถึง HP Pavilion X2 กันบ้าง ซึ่งดูภายนอกจะเป็นโน้ตบุ๊คสีสันสดใสที่มาพร้อมขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว รุ่นล่าสุดจากทาง HP ที่เป็นโน้ตบุ๊คแบบไฮบริดที่มีคุรสมบัติถอดหน้าจอออกมาได้เป็นแท็บเล็ต รวมไปถึงสามารถใช้งานได้หลายโหมด มีดีไซน์และออกแบบตอบรับกับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ดูดีมีราคามากๆ เรียกได้ว่าคนอื่นๆ หากไม่รู้ราคามาก่อน คิดว่ามันจะราคาหลายหมื่นแน่ๆ โดยให้สีสันที่สดใสสวยงามอย่างตัวที่ได้รับมารีวิวจะเป็นสีแดง ส่วนอีกสีจะเป็นสีขาวที่สวยงามไม่แพ้กัน และที่เจ๋งมากๆ สำหรับการออกแบบก็คือ เมื่อเราเปิดหน้าจอ ตัวฐานจะมีดันตัวเครื่องขึ้นมาด้วย ทำให้คีย์บอร์ดเอียงรับการการพิมพ์ของเรามากยิ่งขึ้น
เรียกได้ว่า HP Pavilion X2 เหมาะกับนักศึกษาหรือคนทั่วไปที่ต้องการโน้ตบุ๊คที่แตกต่าง (หรือเป็นเครื่องที่สอง) เพราะมาด้วยฟีเจอร์ที่สามารถถอดจอได้ด้วยข้อพับแบบแม่เหล็ก และปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลายรูปแบบ ที่ปรับเปลี่ยนจากเดิมที่เป็นแบบคีย์บอร์ดอ่อน พร้อมด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 1.1 ก.ก. เท่านั้นเมื่อใช้เป็นโน้ตบุ๊ค และเบาเพียง 589 กรัมเมื่อถอดจอใช้เป็นแท็บเล็ต บนสเปคอย่าง Intel Atom รุ่นล่าสุด ที่ใช้งานได้สบายๆ ทั้งความบันเทิงอย่างการเล่นเน็ต รวมไปถึงเล่นไฟล์ความละเอียด 4K ได้ด้วย แน่นอนว่าการทำงานก็ทำได้เป็นอย่างดี ด้วยคีย์บอร์ดแบบแข็งที่ออกแบบมาใหม่
พร้อมด้วยซอฟแวร์ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 ที่อัพเกรดเป็น Windows 10 ได้ฟรี, มี Office 365 ฟรี รวมไปถึงยังรองรับพอร์ตเชื่อมต่อสุดล้ำอย่าง USB 3.1 แบบมาตรฐาน USB Type-C ที่เราเห็นกันครั้งแรกจาก MacBook ที่มีข้อดีในเรื่องของการส่งข้อมูลที่ไวขึ้น สามารถชาร์จไฟได้ในตัว รวมไปถึงการถอดเข้าถอดออกก็ทำได้อย่างง่ายดายด้วยขนาดที่เล็ก และไม่จำเป็นต้องกลับด้านไปมาเพื่อเสียบอย่าง USB รุ่นก่อนๆ แต่อย่างใด เรียกได้ว่าล้ำสมัยมากกว่าไฮบริดโน้ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ที่เคยมีมา ที่สำคัญติดตั้งระบบเสียงอย่าง B&O Play ที่ให้คุณภาพเสียงที่ค่อนข้างดี และจอแบบ 16:10 ที่ให้การใช้งานได้มากกว่า บนความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล โดยใช้พาเนลคุณภาพสูง IPS ดูหนังดูคลิปแจ่มแน่นอน
พร้อมมีแบตเตอรี่และการจัดการพลังงานที่ดีทำให้ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมงทีเดียว เรียกได้ว่านำไปใช้งานนอกสถานทีทั้งวันได้อย่างสบายๆ ไม่จะเป็นการไปนั่งชิลๆ ร้านกาแฟ หรือไปทำงานที่มหาวิทยาลัย หรือไปพรีเซ็นงานลูกค้าตามที่ต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องพกอแดปเตอร์ไปเลย หรือถ้าจะพกไปก็ต้องบอกว่าอแดปเตอร์ของ HP Pavilion X2 มีขนาดที่เล็กมากๆ แน่นอนว่ามาพร้อมกับพอร์ต USB Type-C ด้วย
สำหรับการใช้งานจริงแม้ว่าจะมีแรมขนาด 2GB และมีที่เก็บข้อมูลที่ 64GB ก็เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป รวมไปถึงการดูหนังฟังเพลง อย่างที่บอกไปแล้วว่าเล่นไฟล์วีดีโอ 4K ผ่านทาง Youtube ได้อย่างสบายๆ หรือกรณีถ้าคิดว่าความจุ 64GB ไม่พอก็สามารถเพิ่มด้วย micro SD Card ได้เลย รองรับความจุสูงสุดที่ 128GB ทีเดียว หรือถ้าเราจะเชื่อมต่อ External Harddisk ผ่านทาง USB และ USB Type-C ก็สามารถทำได้ ซึ่งลองดูแล้วก็ขึ้นอยู่กับความจุของ External Harddisk เลย ที่ 3-4TB ก็ยังสามารถทำได้งานได้อยู่ แต่ดูสายจะพะรุงพะรังไปซักหน่อย
คราวนี้มาดูโหมดการใช้งานต่างๆ ของ HP Pavilion X2 กันบ้าง
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน้ตบุ๊คปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดในการควบคุม โดยคีย์บอร์ดของเครื่องนี้จะเป็น Chiclet Keyboard ที่ออกแบบมาให้มีรูปทรงพอดีนิ้ว เพื่อลดโอกาสพิมพ์ผิดพลาดได้ ซึ่งเมื่อใช้งานจริงแล้วก็ถือว่าทำได้ดีอย่างน่าประทับใจ ตามมาตรฐานที่มีในโน้ตบุ๊ค HP รุ่นอื่นๆ ทีเดียว
Tablet Mode ด้วยการถอดหน้าจอออกมาจาก Docking Keyboard เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้ พร้อมแอพพลิเคชั่นมากมายที่รองรับการใช้งานแท็บเล็ต ซึ่งด้วยตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว ถือว่ามีขนาดที่เหมาะสม อยู่ในเกณฑ์ที่ถือได้ โดยเมื่อเข้าสู่โหมดการทำงานแบบแท็บเล็ตก็ไม่มีน้ำหนักจนเกินไป พอถือใช้งานด้วยมือเดียวได้อย่างสบายๆ
Stand Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียว ซึ่งจะเป็นการถอดหน้าจอแล้วกลับไปอีกด้าน โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก ซึ่งหน้าจอของ HP Pavilion X2 เครื่องนี้เป็นจอแบบพาเนล IPS ทำให้การแสดงผลภาพออกมาคมชัดสวยงาม พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้ แน่นอนว่าเป็นประสบการณ์ใช้งานที่หาได้ยากในราคาโน้ตบุ๊คราคาหมื่นกลางๆ
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Stand Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้ ด้วยบานพับที่แข็งแรง โดยออกแบบให้มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับถอดหน้าจอไปมาโดยไม่ก่อปัญหาการหลวมหรือเสียหายขึ้นมาก่อนเวลาอันควร ซึ่งจากการทดลองใช้งานแล้ว ถือว่าทนทานระดับหนึ่งทีเดียว
สรุปเลยแล้วกัน สำหรับท่านไหนกำลังมองหาโน้ตบุ๊คทางเลือกใหม่แบบไฮบริด ที่มีคุณสมบัติเหนือกว่าโน้ตบุ๊คทั่วไปในราคาเท่ากันที่หมื่นบาทกลางๆ แม้ว่าในเรื่องของประสิทธิภาพอาจจะไม่แรงเท่าพวก Core i แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปนั้นรองรับได้อย่างสบายๆ แน่นอน เชื่อได้ว่า HP Pavilion X2 ต้องให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีอย่างแน่นอน
ปิดท้ายด้วยสเปคของ HP Pavilion X2 รุ่นนี้เลย
- จอแสดงผล 10.1 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล พาเนล IPS
- ชิปประมวลผล Intel Atom Z3736F with Intel HD Graphics (1.33 GHz)
- แรม 2 GB DDR3L-1600 SDRAM (onboard)
- ที่เก็บข้อมูลแบบ SSD 64 GB eMMC
- 1 USB 2.0 / 1 USB Type-C
- 1 micro HDMI
- 1 micro SD Card Reader
- 1 headphone/microphone combo
- รองรับ 802.11b/g/n
- Bluetooth 4.0 combo
- Windows 8.1 พร้อม Office 365 และพร้อมอัพเกรดเป็น Windows 10
- แบตเตอรี่ใช้ได้ต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมง
- มิติตัวเครื่อง 26.4 x 17.3 x 1.98 เซนติเมตร
- น้ำหนัก 1.12 กิโลกรัมโดยรวม และหนัก 589 กรัมเมื่อถอดจอใช้เป็นแท็บเล็ต
- รับประกัน 1 ปี และได้รับบริการ HP SmartFriend
- ราคา 15,990 บาท