[CR] [Review] Love Sick Season 2 Half Past 1 : Begin Again The Final Chapters

กระทู้รีวิว



ได้มีโอกาส (และเวลา) กลับมาเขียนรีวิวให้ซีรีส์ Love Sick อีกครั้งหลังจากที่ตัวซีรีส์พักครึ่งซีซั่นกันไปประมานเดือนกว่าๆ เพื่อให้ทีมงานรวมถึงน้องๆ กลับไปตั้งสติรวบรวมพลังลมปราณเพื่อเอามาปล่อยใส่กันในช่วงครึ่งหลังสุดท้ายของซีรีส์


กลับมาคราวนี้แน่นอนว่ากองอวย (รวมถึงกองแช่ง) ย่อมต้องคาดหวังอะไรใหม่ๆ ที่ดีกว่าเดิมรวมถึงพัฒนาการทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง ทีมนักแสดงและทีมดูแลคุณภาพ ผลลัพธ์ของการหายไปเดือนนิดๆ จะสัมฤทธิ์ผลเป็นอะไรออกมา ผมจะลองรีวิวออกมาตามที่ผมรู้สึกแล้วกันครับ




A Great Coming Back Ever

เชื่อว่าหลายคนคงมีภาพจำจาก 22 Episodes ก่อนหน้าที่กว่าทีมงานจะนำพาความสนุกของซีรีส์มาสู่คนดูได้ก็ปาเข้าไปจะค่อนเรื่องแล้ว มาคราวนี้ไม่ต้องคอยนาน ไม่ต้องคอยลุ้นว่าเรือโจรสลัด Love Sick จะออกทะเลไปไหนตั้งแต่ตอนแรกหรือไม่ เพราะ EP เปิดตัวของครึ่งหลังของ SS2 นี้ผมให้เป็นอะไรที่ลงตัวและดีที่สุดในบรรดา Opening Chapter ที่มีมาของ Love sick เลยทีเดียว ทั้งการกระจายบท การตัดสลับเรื่องราว การแสดง รวมถึงอารมณ์ของตัวละคร มันพัฒนาดีขึ้น ..... ดีจนเห็นได้ชัดถ้าเทียบแบบ Chapter 1 ของ SS1 และ SS2 (อาจมีบางคนที่มองว่าถ้าไปเทียบกับ EP8 หรือ EP12 ของครึ่งแรกแล้วจะดีไม่เท่าก็แล้วแต่วิจารณญาณครับ)  ถึงตรงนี้คงจะสังเกตได้ว่าแค่กล่าวเริ่มต้นมาผมก็อวยแล้ว ..... อันนี้บรรยายจากความรู้สึกจริงๆ ครับ



การให้ความสำคัญของบทของตัวละครต่างๆ

โดยส่วนตัวผมว่าจุดนี้แหล่ะเป็นจุดแรกที่น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่งของการกลับมาครั้งนี้ เกือบทุกตัวละครที่ปรากฎใน EP นี้ให้บทพูดและการแสดงที่น่าติดตามไปตลอด 40 นาทีด้วยความอยากรู้ว่าเรื่องจะเป็นอย่างไรต่อ ทำให้ผมรู้สึกสนุกไปกับการดูไม่เหมือนกับครึ่งแรก SS2 ที่ดูคู่หลักอยู่ดีๆ แล้วตัดสลับไปอีกกลุ่มตัวละครนึงที่ไม่ได้มีความน่าติดตามอะไรเลย

ปุณณ์-โน่ : ความรู้สึกที่ยากจะบอกใครของชายรักชาย

โน่



เอาจริงๆ นะ กัปตันตีบทแตกแล้วกับบทโฮโมฯ แบบนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่ได้รับบทเกย์หรือโฮโมฯ แล้วจะเล่นดีไปซะทั้งหมด แต่กัปตันแสดงให้เห็นว่าน้องเริ่มต้นงานแสดงด้วยบทยากและก็ทำได้ดีมากด้วย ความเป็นโน่ผู้อึดอัดลำบากใจ คนที่สับสนระหว่างความรู้สึกจริงๆ ของตัวเองกับที่ยืนในสังคม ทั้งคำพูดและแววตา EP ประเดิมนี้เริ่มเป็นงานหนักสำหับตัวละครโน่แล้ว แต่กัปตันก็ทำออกมาได้ดีทีเดียว จนพี่ชักจะหวั่นๆ แล้วว่าชีวิตจริงน้องอย่าเป็นแบบนี้นะ เหอๆๆๆ ไม่เอาาาาาา


กัปตันเอ้ยยยยย น้องเกิดมาเพื่อบทโน่จริงๆ




ปุณณ์



จากพารากราฟด้านบน ถ้ากัปตันเข้าถึงความเป็นโน่ชนิดที่ว่าถอดแบบมาจากนิยาย ไวท์ก็เป็นด้านตรงข้ามเลยแหล่ะ ไวท์ไม่ได้เล่นเป็นปุณณ์ ปุณณ์ต่างหากที่เล่นเป็นไวท์ (เหอๆๆๆๆ งงไหม) ใน EP นี้เราอาจไม่เห็นพลังการแสดงของไวท์เยอะเท่ากัปตัน แต่ในด้านพัฒนาการก็ยอมรับว่าดีเรื่อยๆ มีหลุดบ้างตามสไตล์แต่เคมีกับกัปตันยังมีเหมือนเดิม คงต้องติดตามกันต่อไปครับว่าหลังจากนี้ ไวท์ ณวัช จะพิสูจน์ตัวเองในโค้งสุดท้ายกับบทปุณณ์ได้มากขนาดไหน เท่าที่ดูๆ มาไวท์ยังเก็บรายละเอียดซีนที่ใช้สายตาได้ดี (แม้จะวอกแวกบ้าง)


เอาใจช่วยกันไป




ตัวละครอื่นๆ



คู่โอมมิก

จากที่ผมเคยบอกไว้ว่าน่าจะเป็นคู่ที่ประสบความสำเร็จกันก่อนใครเพื่อน มาคราวนี้กลายเป็นว่ามาพ่อแง่ยิ้มอนใส่กันอีกแล้วด้วยตัวละครที่ถูกใส่เข้ามา (อย่างไม่สมเหตุสมผล) เพื่อเป็นมือที่สาม โอเคเส้นเรื่องของคู่นี้ตามนิยายก็ไม่มีอะไรมาก แต่สำหรับผมไอ้ประเด็นมือที่สามของคู่นี้มันเป็นประเด็นที่อ่อนปวกเปียกมากๆ ดูไม่น่าติดตามเหมือนกับที่ใส่มือที่สามไว้ในคู่เป้อมาวินเลย (อันนั้นดีงามกว่ามาก) ซีนที่โอมดุมิก นั่นก็ดี ผมก็ชอบในการแสดงของนะนู๊บ เพียงแต่รู้สึกว่า บทแค่นี้ต้องดุด้วย? ถึงขนาดไปเดตกันแล้วสองต่อสอง นี่จะมาแยกเขี้ยวใส่อีก มันแปลกๆ อยู่ อย่างไรก็ตามก็คงเอาใจช่วยให้ลงเอยกันนะ (แม้คุณครูฟีฟ่าจะน่าสนใจกว่าก็ตาม เหอๆ)






กลุ่มตัวละคร แป้ง ป๊อป เช และเพื่อนๆ
จากที่แรกๆ กลุ่มนี้เป็นตัวละครที่หลักลอยมากๆ เส้นเรื่องดูไม่มีสาระใดๆ เหมือนใส่มาเพื่อเพิ่มมิติให้ตัวละครน้องแป้งมีอะไรทำ มาวันนี้ผมกลับพบว่าตัวละครกลุ่มนี้แหล่ะเป็นตัวละครที่ซีรีส์ใช้เป็น symbol บางอย่างสื่อกับคนดู ทั้งบทพูดและการกระทำ มันล้อและเสียดสีตัวซีรีส์เองอย่างที่ผมรู้สึกได้ว่า "เอออออ กล้าดีเนอะ" คำพูดที่ผมประทับใจที่สุดตกเป็นของป๊อปตอนที่เดินมาช่วยแป้งจากการฉุดกระชากโดยเพื่อนของเธอ สิ่งที่เกิดขึ้นและการกระทำจากเพื่อนของแป้งเป็นสิ่งที่ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องโอเวอร์เกินจริงเลย เพียงแต่ต่างกันตรงที่ในชีวิตจริงเราคงไม่มาพาลแฟนสาวของคู่จิ้นเราโดยตรงแบบนั้น (แต่ไปพาลด้วยช่องทางอื่นแทน เช่น IG เป็นต้น)



อ่านถึงตรงนี้ผมไม่มีเจตนาจะว่าหรือตำหนิแฟนๆ ขาจิ้นทั่วไปนะครับ ผมเชื่อว่าทุกคนแยกแยะเรื่องจิ้นกับเรื่องส่วนตัวของดาราที่เราตามออก ..... เพียงแต่บทพูดนี้ของป๊อปและแป้งมันดีจริง ดูแล้วย้อนดูอะไรได้หลายอย่างเลย

ส่วนพี่เช ตัวละครนี้แหล่ะที่น่าตามดูว่าสุดท้ายแล้วเป็นหรือไม่เป็นเกย์ หรือว่าสุดท้ายจะเป็นแค่หนุ่มหล่อหลงตัวเองหวังยอดไลค์ในโลกโซเชียลไปวันๆ ยิ่งมีตัวละครใหม่เข้ามา (มาทำไม?) ยิ่งต้องตามดูว่าสุดท้ายพี่เชของเราจะลงเอยแบบไหนกัน






ยูริ

สุดท้ายกับยูริที่ผมเชื่อว่าในท้ายที่สุดแล้วเธอจะเรียกคะแนนสงสารได้อย่างแน่นอนในฉากที่โน่มาบอกเลิก เป็นตัวละครผู้หญิงคนเดียวที่ผมรักและคิดเสมอว่าเป็นตัวละครผู้หญิงที่แบ๊วหลุดโลกเกินไปแต่กลับมีคนแบบนี้อยู่จริงในชีวิตประจำวัน ความสดใสและน่ารักของยูริยิ่งมีมากเท่าไรก็ยิ่งส่งผลกระทบมากในพาร์ทดราม่าต่อจากนี้ เชื่อเถอะว่าผมเอาใจช่วยมากๆ ให้ตัวละครนี้คู่กับพีท จากที่ตอนแรกผมก็ไม่โอเคเท่าไรกับกระแสพีทยูริ แต่นานๆ ไปผมว่าก็ไม่เลวร้ายนะถ้าจะให้คู่กันจริง


ส่วนเอิ้น ..... ปล่อยๆ ไปเถอะ




ด้านโปรดั๊กชั่น

เอาตรงๆ ผมก็ไม่ได้จบด้านภาพยนตร์หรือกำกับเวทีมานะ แต่ในความรู้สึกผม ผมว่าเรื่องแสงสีมันดีกว่าครึ่งแรกของ SS2 นะ นับได้ว่าเพิ่มคะแนนตัวเองตรงจุดนี้ขึ้นมานิดหน่อยจากเดิมที่โดนสวดยับเรื่องฟิลเตอร์ของภาพที่ซีดราวกับนักแสดงเป็นลูคีเมียกันทั้งกอง



อย่างไรก็ตามจุดที่โป๊ะจริงๆ (เอาเท่าที่เห็น) ก็เรื่องการไทม์ไลน์ของฉาก + พร๊อบ + อื่นๆ นี่แหล่ะ ชัดๆ เลยก็เหล็กจัดฟันกัปตัน เดี๋ยวใส่ เดี๋ยวถอด แหมมมมมม คลินิกทำฟันอยู่ข้างบ้านเหรอลูก ถอดใส่กันสนุกเลยทีเดียว ตอนแรกไม่ใส่ แปปมามีเหล็กในปาก ..... สนุกดี

เรื่องความยาวทรงผมก็เหมือนกัน กัปตันอีกแล้ว ..... บางทีก็อยากให้ทีมงานระวังการกระโดดไปมาของไทม์ไลน์ด้วย เข้าใจว่าเวลาถ่ายทำไม่ได้ถ่ายเรียงฉากกัน แต่อย่างน้อยถ้าควบคุมจุดเล็กจุดน้อยแบบนี้ได้นี่จะดีมากๆ เลยนะ




สรุป

เป็นการเปิดฉาก Final Chapter ที่ดีงามมาก เอาใจช่วยและขอให้ทำดีๆ แบบนี้ไปจนกระทั่งปิดฉาก Love Sick EP สุดท้ายเลยนะครับ

ปล. รีวิวครั้งนี้เกิดจากความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผิดพลาดอะไรไปขออภัยจริงๆ
ปล2. ภาวนาให้ทีมงานปล่อย OST. เพลงต่างๆ ที่นักแสดงร้องเหมือนของซีซั่น 1 ด้วยเถอะ ขอแหล่ะ ผมอยากได้เพลงรักเธอเวอร์ชั่น ไวท์-กัปตันมาก เหอๆๆๆๆ
ชื่อสินค้า:   Love Sick The Series Season 2
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่