การเดินทานครั้งนี้เป็น  การเดินทาง ไปแสวงบุญ เมืองหน้าด่านสุดชายแดนเมียนม่าร์ คือ เมืองเมียวดี ประเทศพม่า


ซึ่ง เมืองเมียวดี   เป็นเมืองหนึ่ง ในรัฐกระเหรี่ยงของประเทศพม่า  ติดกับ อำเภอแม่สอด  จ.ตาก ไกล้มาก ซึ่งมีแม่น้ำเมยไหลผ่าน กั้นเขตเเดนระหว่างแม่สอดกับเมียวดี

การเดินทาง เริ่มต้นจาก อ.แม่สอด  จ.ตาก (จขกท อยู่ที่นี่ อิอิ)
**หากใครมาจาก กทม หรือ มาจาก ตจว  ที่ อ.แม่สอด  ก้อมีทั้งสายการบินที่มาลง นกแอร์ และ กานต์แอร์  จาก กทม. หรือ ขบส ก็มีนะคับ
    หากใครนั่งเครื่องมา สามารถมองเห็น วิว ประเทศพม่าได้ชัดเจน หากอากาศวันนั้นปลอดโปร่ง

การเตรียมการล่วงหน้า >> ในวันที่เดิน ฝนตกหนักมาก  ทำให้เราต้องเตรียมร่มไปด้วย
                                    passport ไม่ต้อง เพราะใช้ สำนักงานออกหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ไปกลับได้แค่ วันเดียว ก่อนด่านปิด
                                    ขนมไปด้วย  เผื่อหิว อาหารที่โน้นไม่ค่อยสะอาด  หรือ อาจไปชิม อาหารที่โน้นก็ได้นะคับ


การเดินทางเริ่มต้นจาก >>ทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวที่  สำนักงานออกหนังสือผ่านแดนชั่วคราว  ไกล้ๆ ปั้ม ปตท ริมเมย  ค่าทำบัตร 30  บาท การเดินทางครั้งนี้ เดินทานโดยรถตู้ นำเที่ยว (ติดต่อได้ที่ ไกล้ๆ สำนักงานออกหนังสือผ่านแดนชั่วคราวนั้นหละคับ)



                       การเดินทางใช้เวลาในการเดินทาง จาก สำนักงานออกหนังสือผ่านแดนชั่วคราว ที่ทำบัตรผ่านแดน และขึ้นรถตู้ ข้ามฝั่งมายังเมืองเมียวดี ประเทศพม่า เพียงแค่ 15 นาที เพราะไกล้มาก เราไม่ต้องลงจากรถตู้ เพราะ ทางพี่ไกด์ ดำเนินการให้ทุกอย่าง  


เย้ถึงแล้ว เห็นจากรถตู้ และป้ายต่างๆ

พอถึงพม่าปุ๊ป รถต้องมาฝั่งขวาเลย  เนื่องจากที่ประเทศพม่า รถจะวิ่งฝั่งขวา ซึ่งตรงข้ามกับบ้านเรา  

เริ่มที่วัดแรกกันเลย  วัดส่วยมินวุ่น (วัดเจดีย์ทอง) "เจดีย์ชเวเมียนโหว่นเซตี้" พระมหามุนี พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ไกด์ได้บอกว่า องนี้ คล้ายกับองค์ที่ประดิษฐ์สถานที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า

แต่จุดเด่นของวัดนี้ คือ เจดีย์สีทอง ลักษณะคล้ายกับ เจดีย์ชเวดากอง ในเมืองย่างกุ้งๆ คล้ายๆกับจำลองมาสร้าง  เสียดาย ท้องฟ้าไม่เปิด ไม่เห็นเมฆเลย  ไม่งั้นรุปสวยกว่านี้ คิคิ

สถาปัตยกรรม ก้อจะออกแนวพม่า มีแอบปน อังกฤษด้วยนิดหน่อย

รูปนี้เจดีย์ทอง สวยมาก ศิลปะการออกแบบจะคล้ายๆกับทางมัณฑะเลย์  เมืองทางตอนเหนือของพม่า


หลังจากออกจากวัดแรกมา  พี่ไกด์ก้อได้พามาเที่ยวที่ตลาดบุเรงนอง เป็นตลาดที่ขายสินค้า พื้นเมืองของพม่า มีทั้งผ้าโสร่ง ผ้าซิ่นของพม่า รวมไปถึงอาหารสด  แต่อารมณ์ ก็คล้ายๆกับมาเดินตลาด พาเจริญ ในตัวเมืองแม่สอด  ทั้งกลิ่น ทั้งสินค้า  แต่ที่ตลาดพาเจริญดูดีกว่านิดหนึ่ง ในเรื่องทางเดินและความเป็นระเบียบ  


หากใครพูดภาษาพม่าได้ ก็สามารถต่อราคาสินค้าได้ลงอีกเยอะเลย แม่ค้าที่นี่พูดภาษาพม่า ส่วนใหญ่เป็นหลัก  มีภาษาอังกฤษบ้างประปราย  
ส่วน จขกท  ก้อพูดได้แต่ บะหลาเหล่ แปลไทยว่า เท่าไรคับ  จากนั้นแม่ค้าก็มาเป็นช็อต เลยหงายเงิบไปตามกัน  ต่อเป็นภาษาอังกฤษอีกที 555

นี่มีร้านขายยาด้วย เป็นไง เราใช้เวลาเดินตลาดบุเรงนองเป็นเวลา ครึ่ง ชั่วโมงด้วยกัน แต่ ส่วนใหญ่ไม่มีใครซื้อรัย เพราะหาซื้อได้ที่แม่สอด 555
หากเป็นพวกผลไม้สด  พี่ไกด์ บอกว่า ส่วนใหญ่ก้อนำมาจากบ้านเรา มาขาย  เอ้ะ ลืมบอกไปว่า ที่นี่ใช้สกุลเงินบาท  ได้นะคับ

วัดต่อมา  จำชื่อไม่ได้
  เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปปางยืน(ไม่แน่ใจว่ามีศัพท์เฉพาะว่าอะไร) ใต้ฐานพระบาทของพระพุทธรุปองค์นี้ มีพระพุทธรุป หินอ่อนอยู่ด้วย ทางมัคทายก  บอกว่า ให้ขอพรเรื่องเงินทอง  หากขอจะได้ตามที่ขอ คราวนี้หละ เสียงร้อยล้านพันล้านมาเต็ม


จากนั้นเราก็เข้าไปไหว้พระในศาลาเปรียญ ซึ่งใหญ่มาก น่าจะทำจากไม้สักทั้งหมด พื้นสะอาดเนียนตามาก



มีพระแก้วมรกตด้วยนะคับ


เอาไหว้ขอพรกันจ้ะ  


วัดต่อไป แอบไกล ทางรุกรัง เจ็บตูดมาก ระบมเลยของทำมาหากิน  อิอิ

ใช้เวลาจากวัดพระยืนใหญ่ ประมาณ 10 กว่านาที  ก็ถึงวัด วัดเจ้าโหล่งจี (วัดก้อนหินใหญ่)

วัดที่ตั้งอยู่บนหินขนาดใหญ่บนเนินเขา ทำให้มองเห็นยอดเจดีย์สีทองเหลือง



ซึ่งวัดนี้ หากท้องฟ้าเปิด สามารถเห็นวิวเมืองแม่สอด ได้อย่างชัดเจน เพราะ ตั้งอยู่บนเนินเขา
เนื่องจาก พอมาถึงวัดนี้ปุ๊ป ฝนตกหนักมาก เลยได้ภาพมานิดเดียว

วัดสุดท้าย เป็นวัดที่ พวกเราอยากไปมาก เพราะมีรูปแบบ ที่ไม่เหมือนใคร  หากใครมาเที่ยวเมืองเมียวดี ต้องมาวัดนี้ อิอิ
คือ วัดมิเจากง (วัดจระเข้)
ไปดูกัน

ลำตัวยามากถึง 65 เมตร กลางตัวจระเข้ จะมีหอไตรกลางน้ำ  หอไตรนี้ ห้ามให้ผู้หญิงเข้าไป


จากนั้น เราก็ขึ้นรถกลับแม่สอด  ใช้เวลาในการเที่ยววัดในครั้งนี้ รวม  4 ชั่วโมง  เสียดายไม่ได้ลองชิมอาหารในเมียวดี  กลับไปกินที่แม่สอดน่าจะโอเคกว่า

สรุป ค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ ค่ารถตู้ 1000 บาท/คัน (นั่งได้ 10-12คน)  ค่าหนังสือผ่านแดนชั่วคราว 30 บาท/คน  นอกจากนั้น ส่วนใหญ่เป็นเงินทำบุญ ซึ่งแล้วแต่จิตศรัทธาของแต่ละคนนะคับ  หากใครว่างๆ ไม่รู้จะไปไหน อยากไปทำบุญ  เชิญมาเที่ยวเมียวดี ได้นะคับ  ชาวแม่สอดยินดีต้อนรับเสมอ

ปิดท้ายด้วยรูปเพื่อน จขกท อามะ ขอลาไปก่อน เจซูติ่นบาเด่