
จากกรรณีที่ทางวัดพระธาตุดอยเวา ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาติดชายแดนไทย-เมียนมา ได้มีก่อสร้างสกายวอล์คขึ้น
เพื่อชมทัศนียภาพของชายแดนไทย-เมียนมาและเพื่อส่งเสิรมการท่องเที่ยวของพื้นที่ ล่าสุดได้มีการเปิด "สกายวอล์ค เหนือสุดในสยาม
วัดพระธาตุดอยเวา" อย่างเป้นทางการในช่วเงย็นวันที่ 9 พฤสจิกายนที่ผานมา เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชม
ได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งพิธีจัดขึ้นควบคู่กับพิธีถวายผ้ากฐินสมทบทุนบูรณะพระธาตุดอยเวา ที่มีอายุครบ 2,269 ปีด้วย โดยพระเดชพระคุณ
หลวงพ่อพระญาณเทพเวที ที่ปรึกษาเจ้าคระภาค 6 พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะ จ.เชียงราย
พระครูประยุตเจติยานุการ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยเวา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมครบครัน

ซึ่งในพิธีมีการทำบุญและปล่อยป้ายสกายวอล์ค รวมทั้งมีการเฉลิมฉลองด้วยการฟ้อนรำอย่างงดงาม ก่อนที่คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน
จะนำขึ้นสกายวอล์คเพื่อความเป็นสิริมงคล และจากนั้นเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ขึ้นชม ซึ่งทางวัดกำหนดให้เปิดสกายวอล์ค
ในวันแรกตั้งแต่เวลา 16.30-20.00 น.และวันถัดไปจะเปิดตามปกติตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น.โดยเปิดให้พระภิกษุและสามเณ
ผู้สูงอายุเกิน 70 ปี ผู้พิการและเด็กสูงไม่เกิน 120 ซ.ม.เข้าชมได้โดยไม่คิดมูลค่าหรือฟรี ส่วนบุคคลทั่วไปเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบำรุงสถานที่
คนละ 50 บาท และนักเรียนนักศึกษาคนละเพียง 25 บาท

สำหรับสกายวอล์ค เหนือสุดในสยาม วัดพระธาตุดอยเวา มีลักษณะพิเศษคือเป็นทางโค้งขนานไปกับขอบภูเขาดอยเวา มีความยาวประมาณ 150 เมตร และตั้งอยู่ตรงจุดเหนือสุดของประเทศไทยคือ อ.แม่สาย จ.เชียงราย สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแม่สาย
และ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ได้อย่างงดงาม ที่ผ่านมาถือเป็นสถานที่ที่ผู้คนไปกราบไหวัพระธาตุดอยเวา ซึ่งมีความเป็นมาที่ยาวนาน
และขึ้นไปชมทิวทัศน์ของ 2 ฝั่งประเทศอยู่แล้ว คาดว่าหลังจากนี้จะมีผู้ไปเยือนเป็นจำนวนมาก.
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.sanook.com/travel/1444067/
เปิดแล้ว "สกายวอล์ค" เหนือสุดในสยามเห็นทิวทัศน์ทั้ง ไทย-เมียนมา
จากกรรณีที่ทางวัดพระธาตุดอยเวา ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาติดชายแดนไทย-เมียนมา ได้มีก่อสร้างสกายวอล์คขึ้น
เพื่อชมทัศนียภาพของชายแดนไทย-เมียนมาและเพื่อส่งเสิรมการท่องเที่ยวของพื้นที่ ล่าสุดได้มีการเปิด "สกายวอล์ค เหนือสุดในสยาม
วัดพระธาตุดอยเวา" อย่างเป้นทางการในช่วเงย็นวันที่ 9 พฤสจิกายนที่ผานมา เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชม
ได้อย่างเป็นทางการ ซึ่งพิธีจัดขึ้นควบคู่กับพิธีถวายผ้ากฐินสมทบทุนบูรณะพระธาตุดอยเวา ที่มีอายุครบ 2,269 ปีด้วย โดยพระเดชพระคุณ
หลวงพ่อพระญาณเทพเวที ที่ปรึกษาเจ้าคระภาค 6 พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระพุทธิญาณมุนี เจ้าคณะ จ.เชียงราย
พระครูประยุตเจติยานุการ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยเวา พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมครบครัน
ซึ่งในพิธีมีการทำบุญและปล่อยป้ายสกายวอล์ค รวมทั้งมีการเฉลิมฉลองด้วยการฟ้อนรำอย่างงดงาม ก่อนที่คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน
จะนำขึ้นสกายวอล์คเพื่อความเป็นสิริมงคล และจากนั้นเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ขึ้นชม ซึ่งทางวัดกำหนดให้เปิดสกายวอล์ค
ในวันแรกตั้งแต่เวลา 16.30-20.00 น.และวันถัดไปจะเปิดตามปกติตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น.โดยเปิดให้พระภิกษุและสามเณ
ผู้สูงอายุเกิน 70 ปี ผู้พิการและเด็กสูงไม่เกิน 120 ซ.ม.เข้าชมได้โดยไม่คิดมูลค่าหรือฟรี ส่วนบุคคลทั่วไปเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบำรุงสถานที่
คนละ 50 บาท และนักเรียนนักศึกษาคนละเพียง 25 บาท
สำหรับสกายวอล์ค เหนือสุดในสยาม วัดพระธาตุดอยเวา มีลักษณะพิเศษคือเป็นทางโค้งขนานไปกับขอบภูเขาดอยเวา มีความยาวประมาณ 150 เมตร และตั้งอยู่ตรงจุดเหนือสุดของประเทศไทยคือ อ.แม่สาย จ.เชียงราย สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแม่สาย
และ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ได้อย่างงดงาม ที่ผ่านมาถือเป็นสถานที่ที่ผู้คนไปกราบไหวัพระธาตุดอยเวา ซึ่งมีความเป็นมาที่ยาวนาน
และขึ้นไปชมทิวทัศน์ของ 2 ฝั่งประเทศอยู่แล้ว คาดว่าหลังจากนี้จะมีผู้ไปเยือนเป็นจำนวนมาก.
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.sanook.com/travel/1444067/