เมื่อเหล่าโปรแกรมเมอร์...หนีโค้ดไปโดดน้ำ จุดเริ่มต้นของสมาคมนักดำน้ำผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์

กระทู้แรกสำหรับพวกเราครับ เราคือสมาคมนักดำน้ำผู้ขาดแคลทุนทรัพย์ (555+ นี้เป็นชื่อที่เราเรียกตัวเองกันครับ) สิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ของพวกเราเอง เราเชื่อว่ามีอีกหลายๆคนที่อยากดำน้ำแบบ scuba เพราะหลายๆครั้งที่เราไปดำน้ำแล้วลงรูปมักจะมีเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ มาคอมเม้น หรือ แชท มาถามว่า อยากไปดำบ้าง เรียนที่ไหน ค่าใช้จ่ายอะไรยังไง วันนี้เราจะมาเล่าเรื่องราวการเดินทางของพวกเรากันครับ

** คือสมาคมเราตอนนี้ มี 4 คนนะครับ แต่เรื่องราวของพวกเรามันมีเส้นทางจุดเริ่มต้นของของการเข้าสู่วงการ scuba ที่ต่างกัน เรา 4 คนเรียนดำน้ำมาคนละโรงเรียนกัน ประสบการณ์ลงน้ำครั้งแรกที่แตกต่างกัน จึงขอเล่าแยกเป็น part ของแต่ละคนโดยให้แต่ละคนเขียนเองดีกว่า

*** ผมจะเริ่มเล่าที่ part ของผมเองก่อน หลังจากนี้ ถ้าแทนว่าเรา ให้แปลว่าผมคนเดียวนะครับ ผมติดแทนตัวเองว่าเรา เวลาเล่าเรื่อง ***
*** ก่อนอื่นเราขอแนะนำตัวเองก่อนละกันครับ เราคือ นายสีเขียว ***

EP.0 เพราะสิ่งนี้คือแรงบันดาลใจ
เราเชื่อว่าหลายๆสิ่งจะเกิดขึ้นได้เพราะมีแรงบันดาลใจ สำหรับสิ่งที่ทำให้เราอยากดำ scuba คือการได้มีโอกาสไปทริปนี้กับเพื่อนๆ สามารถข้ามได้ครับ EP.0 ไม่เกี่ยวกับการดำ scuba ใดๆทั้งสิ้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

EP.1 ก่อนจะดำ scuba ต้องไปเรียน ก่อนจะไปเรียน ต้องไปหาโรงเรียน
หลังจากเหตุการณ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านมา 2 ปีเราถึงจะได้เริ่มเรียน เนื่องด้วยปีแรกหลังจากเรียนจบ เราก็ทำงานเลย ชีวิตวัยทำงานสำหรับคนทำงานคงจะเข้าใจว่าปีแรกเรื่องเงินเดือนนี่ใช้ให้พอก็ลำบากแล้ว จนทำงานมาได้ในปีที่ 2 ที่เงินเดือนโอเคอยู่ตัวเหลือกินเหลือเก็บแล้วจึงได้เริ่มเรียนดำน้ำ คำถามถัดไปคือ เราควรจะเรียนดำน้ำที่ไหน และด้วยความที่เป็นนักดำน้ำขาดแคลนทุนทรัพย์ เราจึงคิดจะหาโรงเรียนที่ถูกที่สุด จากการหาในกูเกิ้ล โรงเรียนสอนดำน้ำในกรุงเทพจะราคาใกล้เคียงกันหมดเลย คืออยู่ในช่วง 10-12k  แต่โรงเรียนที่เราจะไปเรียนนั้น 7.5k(ปัจจุบัน 8.5k) ซึ่งถูกที่สุดเราจึงตัดสินใจว่าจะไปเรียนที่นี้ครับ ระหว่างการหาในกูเกิ้ลจะเจออีกสิ่งนึงที่เพิ่มมาคือ ใบอนุญาติดำน้ำนั้นมีหลายสถาบัน ซึ่งสถาบันใหญ่ๆจะเป็น padi กับ naui และยังมีสถาบันอีกหลายๆอัน ซึ่งเราไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกันว่ามันมีสถาบันหลายอันด้วย แต่เรียนว่าเรียนจบแบบไหนมา ดำน้ำด้วยกันได้ครับ พื้นฐานเหมือนกัน


และโรงเรียนที่เราเลือกก็คือ Recon Diver Club ชมรมศิษย์เก่านักดำน้ำกองพันลาดตระเวน กติกาการรับสมัครของโรงเรียนนี้ก็คือ
1.เปิดรับสมัครนักเรียนทุกวันที่ 10 ของทุกเดือนโดยจะเปิดเริ่มให้โทรเข้าเวลา 9.30 ถ้าเต็มแล้วคือเต็มเลย ต้องไปพยายามโทรใหม่เดือนหน้า
2.นักเรียนที่สมัครเรียนจะได้เรียนในอีก 3 เดือนข้างหน้า กล่าวคือ สมัครได้เดือนนี้ จะได้เรียนในอีก 3 เดือนข้างหน้า
จาการพยายามโทรในเดือนแรกของเราก็คือ ได้เป็นสำรองอันดับ 1 เดือนที่สองโทรไปได้สำรองอีก แต่โชคดีที่ในเดือนนั้นมีคนที่ไม่สามารถมาสอบภาคทะเลได้ และเราสมัครเรียนคนเดียว บวกกับมีน้องอีกคนนึงที่สมัครเรียนคนเดียวเหมือนกัน จึงโชคดีได้เรียนภายในเดือนที่โทรเดือนที่สองเลย

อันนี้เป็นวิดิโอที่มีคนไปสัมภาษณ์ครูโอ๊ตที่โรงเรียนครับ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

EP2. ไปโรงเรียนวันแรก
ไปถึงโรงเรียนวันแรก เนื่องจากเราเป็นเด็กหลักสูตรเร่งรัด ก็คือเรียนวันเดียวทั้งภาคในสระและในห้องเรียน ในวันเดียวเลย (คนปกติส่วนใหญ่จะได้เรียน2วัน) ก็เริ่มจากการเรียนภาษามือซึ่งใช้ในการสื่อสารกันใต้น้ำ เราจะรู้หลายๆคำมาก่อนอยู่แล้วเนื่องจากเพื่อนติวมาก่อน(คนอื่นๆได้ใบอนุญาติดำน้ำก่อน)  ต่อด้วยเรียนเกี่ยวกับอุปกรณ์ การประกอบอุปกรณ์ การใช้อุปกรณ์ จากนั้นแต่งตัวและลงสระพร้อมอุปกรณ์ ก่อนลงสระเราจะได้เรียนบัดดี้เช็คก็คือ การเช็คความพร้อมอุปกรณ์ของบัดดี้เราก่อนลงน้ำ ซึ่งเราจำเป็นต้องทำการบัดดี้เช็คก่อนลงน้ำทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย หลังจากลงสระแล้วเราจะได้เริ่มเรียนสกิลต่างๆ ซึ่งเป็นสกิลที่ใช้สอบในภาคทะเลด้วย จากนั้น พักทานข้าวแล้วลงสระเรียนสกิลต่อ จนถึงเย็นจึงเข้าห้องเรียนภาคทฤษฏี หลังจากวันนั้นพัก 1 วัน และออกสอบภาคทะเลเลย จริงๆที่ recon สอนรุ่นนึงจะเป็นรุ่นใหญ่คือ 20 กว่าคน แต่ว่าตอนผมไปเรียน มีนักเรียนที่มาเรียนวันนั้นแค่ 4 คน

** หลายๆคนอาจจะงงว่า สกิล ที่จะทำคืออะไร ยกตัวอย่างเช่น การฝึกการหายใจผ่านอุปกรณ์ (บางคนจะหายใจเข้าออกทางปากอย่างเดียวไม่ได้) การเคลียหน้ากากเมื่อมีน้ำเข้า การปรับสมดุลร่างกายในน้ำ เป็นต้น


EP3. ออกสอบภาคทะเล
ภาคทะเลจะแบ่งการสอบออกเป็นสองวัน วันละ 2 dive ซึ่งภาคทะเลเราจะลงไปนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นทรายที่ความลึกประมาณ 8 m สิ่งที่จะสอบก็คือ พวกสกิลต่างที่เราได้ร่ำเรียนมาในสระนั้นแหละ ซึ่งการสอบจะแบ่งเป็น dive ละ 3-4 skill แล้วก็ dive ที่ 4 สุดท้ายจะเป็น dive tour ก็คือแอบผจญภัยโลกกว้าง ที่ความลึกแค่ 8 m นั้นแหละ 5555+

สอบวันแรกเราก็เจอการรับน้องจากท้องทะเลเลย เนื่องจากเราเป็นคนที่เมาเรือ แล้วก็ดื้อครับไม่กินยาเพราะหาในกูเกิ้ลดู ว่ายาแก้เมาเรือ มันมีฤทธิกดประสาท เลยไม่กล้ากิน กลัวลงไปในน้ำแล้วหลอนๆทำอะไรไม่ถูก (หลังจากมีประสบการ์ณดำน้ำเพิ่มขึ้นก็กินยาแก้เมาเรือครับ กินได้ไม่ได้หลอนประสาทอะไร ) ลงน้ำครั้งแรกมันจะรู้สึกว่า 8 m นี้ก็ลึกแล้ว พอลงไปนั่งคุกเข่าได้สักแปปนึง เพื่อนก็มาหาเลยครับ หอยแม่น แต่เล็กจนโตเคยเห็นหอยแม่นในทะเลมาก็บ่อย แต่เราไม่เคยรู้ว่ามันเดินได้ แล้วคือ มันเดินมาหาเรา เดินมาชนขาเราเลย คงเป็นการทักทายจากเพื่อนแห่งท้องทะเลครั้งแรก เราก็เลยสะกิดสตาฟแล้วชี้ไปที่หอยแม่น สตาฟก็ชักไม้กายสิทธิออกมาเลย มันคือพ้อยเตอร์ (พ้อยเตอร์คือแท่งเหล็ก อารมณ์ไม้กายสิทธิของแฮรี่นั้นแหละแต่เป็นเหล็ก เอาไว้เคาะแท้ง แป๊งๆ เรียกคนอื่นหรือเอาไว้ใช้ดีดตัวออกจากแนวหินได้) พอชักไม้กายสิทธิก็เอามาเขี่ยหอยเม่นตัวนั้นแหละ หอยเม่นที่โดนเขี่ยมันจะลอยๆเหมือนเดาะลูกบอลในน้ำ พอเขี่ยไปไกลๆมันก็เดินกลับมาใหม่ สงสัยมันคงจะรักเรามาก ก็แอบคันๆตรงรอยที่โดนชนนิดนึง

จากการสอบภาคทะเลสองวัน สิ่งที่เราได้เรียนรู้มากกว่าคนอื่นก็คือ การอ้วกในน้ำ งงอะดิ อ้วกในน้ำยังไง กฏของการอยู่น้ำอย่างนึง จะไอ จะจาม จะอ้วก ขอให้ปากยังคาบเร็คกูเรเตอร์ไว้ตลอด (เร็คกูเรเตอร์คือท่อที่เราใช้หายใจนั้นแหละ) อ้วกมันจะออกมาพร้อมกับฟองอากาศเลย แล้วเราก็ได้โชว์เห็นคนอื่นเห็นว่าเราทำฟองอากาศสีแดงได้ด้วยนะ นั้นคือแตงโมที่เรากินเข้าไปตอนมื้อเที่ยงนั้นเอง ฮ่าๆ
แล้วมีอีกอันนึงก็คือ อันนี้เพื่อนสอนมาถ้าหนาวให้ฉี่ใส่ wetsuit เลยแล้วแอบเปิดเสื้อตรงคอนิดนึงแล้วน้ำมันก็จะไหลเข้าไปในเสื้อแล้วมันก็จะไปผสมกับฉี่ของเราแล้วก็กระจายไปทั่วร่างง อ้าาา อุ่นจัง !!!

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หลังจากผ่านการอ้วกผ่านเร็ค จามผ่านเร็ค ฉี่ใส่ wetsuit เราก็มาถึงวินาทีนี้จนได้
(แนะนำว่าให้ฟังเสียงด้วย นี่คือเสียงที่นักดำน้ำทุกคนคุ้นเคย)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
"จบแล้วครับ...ยินดีด้วยครับ นักดำน้ำใหม่" คือสิ่งที่ถูกเขียนอยู่ในป้ายแสดงความยินดีที่สตาฟเขียนให้อ่านใต้น้ำมันเป็นความประทับใจของเรามากจริงๆ

จากสิ่งที่เราเล่ามาทั้งหมด จากจุดเริ่มต้นถึงตรงนี้ เราบอกได้เพียงว่า ถ้าโลกแห่งการดำน้ำทั้งหมดในโลกนี้ใหญ่เท่าการ์ตูน one piece ตอนนี้เราก็แค่ได้ลอยแพเล็กๆออกจากเกาะแรกที่ลูฟี่ลอยออกมาเท่านั้นเอง

ปล. ขอภัยสำหรับ part นี้ที่รูปภาพประกอบน้อยไปหน่อยเนื่องจาก ตอนเรียนและสอบ เราจำเป็นต้องตั้งใจเรียนและสอบ จึงไม่สามารถติดกล้องใดๆลงไปเพราะจะทำให้เป็นปฏิปักษ์ต่อการเรียนรู้ในpart ถัดๆไปรูปจะมีเยอะกว่านี้ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่