“ท่อน้ำนมอุดตัน” รักษาได้ที่คลินิกกายภาพบำบัด

ยืมไอดีสามีมาค่ะ ของเราพึ่งสมัคร ยังไม่เรียบร้อยดี

สรุปสั้นๆสำหรับคุณแม่ที่ไม่สะดวกอ่าน อ่านย่อหน้าข้างล่างนี่ก็พอค่ะ

ท่อน้ำนมตัน นอกจากจะใช้วิธีประคบร้อนแล้ว นวดแผนไทยแล้ว การใช้ ultrasound - deep heat ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งค่ะ สามารถทำได้ที่คลินิกกายภาพบำบัดที่มีเครื่อง ultrasound โดยตั้งค่าที่ 2 watt/cm2 นาน 5 นาที ทำวันละ 1 ครั้ง โดยทำซ้ำได้ 2-3 วัน แล้วตามด้วยการบีบน้ำนมไล่ออกมาตามท่อ ร่วมกับการดูดจากลูกหรือใช้ปั้มนมค่ะ จะช่วยให้ก้อนที่อุดตันหลุดเร็วขึ้น สนับสนุนให้คลินิกกายภาพบำบัดมีบริการนี้กันทุกๆที่เลย แม่ๆอย่างเราจะได้หายทรมานจากท่อน้ำนมอุดตันค่ะ

เพี้ยนรอที่ท่าน้ำ

ส่วนคุณแม่ที่ลูกกำลังหลับ อยากอ่านแบบยาวๆก็มาทางนี้เลยค่ะ

เกริ่นก่อนว่าเป็นแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ล้วนค่ะ และลูกติดเต้ามาก เมื่อลูกกินนมแม่ ปัญหาหนึ่งที่มักจะพบเจอกันก็คือ ท่อน้ำนมตันค่ะ อาการของมันก็คือ จะรู้สึกว่ามีก้อนที่เต้านม (ครั้งแรกที่คลำเจอ ต๊กกะใจนึกว่ามีก้อนเนื้องอก 555) อาจจะไม่เป็นทั้งเต้า เป็นแค่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง บางทีคลำเจอเป็นก้อนกลมๆนิ่มๆ บางทีก็แข็งตะปุ่มตะป่ำ แต่ส่วนมากจะเจอที่ตำแหน่งเดิมๆ นอกจากนี้ก็อาจจะมีอาการอื่นด้วย เช่น กดแล้วเจ็บ บางทีมีอาการบวมแดง สีน้ำนมข้นกว่าปกติ บางทีอาจจะมีไข้ร่วมด้วย แล้วน้ำนมก็จะไหลไม่มากเหมือนเดิม พอนมไม่ไหล ท่อจะยิ่งตัน จากที่ตันเต้าเดียวก็จะกลายเป็นสองเต้า น่าเศร้ามาก ฮือๆๆๆ

ที่นี้ขอเล่าเรื่องจากประสบการณ์ตัวเองค่ะ พอคลำเจอก้อนครั้งแรกก็เข้าอินเตอร์เนทเลยค่ะ งมอ่านทั้งเพจคุณหมอสุธีรา เพจ breastfeedingthai และอื่นๆอีกมากมาย อ่านเสร็จก็นอยด์ค่ะ เพราะจะเจอประโยคที่ว่า ถ้ามีก้อนเกิน 48 ชั่วโมง อาจจะพัฒนาเป็นฝีได้ พอเป็นฝีก็จะให้นมลูกไม่ได้แล้วลูกจะกินอะไรล่ะ ก็งมต่อค่ะหาวิธีการรักษาซึ่งก็มีหลายระดับค่ะ เราขอเรียงจากประสบการณ์เรานะคะ เริ่มจาก

1.นวดเปิดท่อน้ำนม

ครั้งแรกเลยเราเริ่มที่นวดเปิดท่อน้ำนมค่ะ ทำตั้งแต่คลอดลูกได้ 3 วัน เต้าเราแข็งมาก และลูกเราถูกป้อนนมจนอิ่มก่อนมาถึงเรา พยาบาลที่โรงพยาบาลจับป้อนค่ะ พอมาอยู่กับเราลูกก็ไม่ดูดค่ะ ยิ่งเต้าแข็งลูกยิ่งไม่ดูด พอลูกไม่ดูด เต้าก็ยิ่งแข็ง (step คุ้นๆมั้ยคะ) พอเราจะประคบอุ่น คุณพยาบาลก็สั่งห้ามเด็ดขาด ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำไม่ได้ (ใครพอทราบ ช่วยอธิบายเราที) สิ่งที่คุณพยาบาลทำให้คือ บีบเต้าเราสดๆค่ะ เจ็บมาก น้ำตาเราไหลเป็นทาง พร้อมกับบอกเราว่าเป็นแม่ต้องอดทน (มันใช่ม้ายยยยย) เราเจ็บมากขนาดที่ว่าพอเห็นหน้าพยาบาลปุ๊บน้ำตาเราไหลเองเลย แผลผ่าคลอดนี่เรื่องเล็กไปเลย เราเคยนิ้วหักและกระดูกเกยกัน หมอขอดึงกระดูกเราให้เข้าที่แบบไม่วางยาชาก่อนจะใส่เฝือก คือเราว่ายังไม่เจ็บเท่าโดนบีบเต้านมเลยอะค่ะ แล้วประโยคที่ว่า “เป็นแม่ต้องอดทน” เราว่ากรณีมันไม่ใช่นะ เราก็กลัวว่าถ้าเจ็บแบบนี้ เราจะท้อซะก่อนแล้วจะให้นมลูกไม่สำเร็จ ฟากคุณสามีก็เริ่มสงสารที่ภรรยาร้องไห้ไม่เลิก (เอ๊ะ... หรือรำคาญ 555) ก็ปลอบว่านมผงก็ได้นะ เท่านั้นแหละสติมา ไม่ได้นะเราจะเป็นแม่นมแม่ แม่ แม่ แม่ แม่ เราก็นั่งหาในเนทต่อ จนมาเจอเรื่องนวดเต้านม ด้วยคำว่า “ไม่เจ็บ” ก็เลยตัดสินใจลองดู

เราก็โทรไปนัดค่ะ พี่ที่มานวดให้ ใจดีมาก มานวดให้วันนั้นเลยที่โรงพยาบาล เวลานวดก็จะมีประคบร้อน จากนั้นก็จะนวดเพื่อไล่ก้อนที่ตันออก ตอนที่ก้อนหลุดน้ำนมจะพุ่งแบบน้ำพุเลยทีเดียว พุ่งเข้าหน้าเข้าตาทั้งคนนวดและคนโดนนวด ระหว่างที่นวดพี่เค้าก็จะช่วยอธิบายวิธีดูแลลูก วิธีปั้มนม อาหารที่ควรกิน ไม่ควรกิน และแนะนำให้กินเลซิตินด้วย (แต่สุดท้ายต้องงดค่ะ เพราะลูกแพ้ถั่วเหลือง)
   
ข้อดีคือ ไม่เจ็บเลยค่ะ ถ้าต้องให้คะแนนความเจ็บเต็มสิบ คุณพยาบาลเอาไปเลย 11 คุณพี่ที่มานวดให้เอาไป 1 หลังนวดจะรู้สึกว่าเต้านิ่ม น้ำนมไหลดีขึ้น ลูกดูดง่ายขึ้น และเป็นบริการถึงบ้าน ก็จะสะดวกเรา ไม่ต้องเดินทางค่ะ สนนราคาอยู่ที่ 1,500 บาทค่ะ ขอนับเป็นข้อเสียได้ม้าย คือพอเป็นบ่อยๆ นวดบ่อยๆก็เริ่มรู้สึกว่าราคานี้ไม่ไหวแล้วล่ะ อีกข้อเลยคือคิวยาวมาก เคยต้องรอเป็นอาทิตย์ ถ้าเป็นหนักๆนี่ไม่ทันการจริงๆค่ะ

ถ้าเพื่อนๆสนใจวิธีนี้ ลองหาในอากู๋ดูนะคะ พิมพ์คำว่า “นวดเปิดท่อน้ำนม” มีหลายท่านเลยค่ะ ราคาก็วิ่งอยู่ที่ประมาณ 1,200-1,500 บาทค่ะ


2.ใช้ลูกหรือสามี

พอเราใช้บริการนวดเต้านมไปสัก 2-3 ครั้ง เราก็เริ่มรู้แล้วค่ะว่าต้องนวดยังไง (ครูพักลักจำนั่นเอง) ประกอบกับหาข้อมูลมากขึ้น ก็เริ่มลองแก้เองค่ะ โดยเริ่มจากประคบร้อน ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นมาวางตรงตำแหน่งที่เป็นก้อน อาจจะใช้ถุงผ้าใส่ข้าวสารนำไปเข้าไมโครเวฟให้พออุ่นๆ ซึ่งจะร้อนนานกว่าผ้าชุบน้ำอุ่น หรือคุณแม่บางท่านแนะนำให้ใช้ขวดนมลูกใส่น้ำร้อนแล้วมาคลึงที่ก้อน ประคบประมาณ 15 นาทีค่ะ จากนั้นก็นวดโดยไล่จากก้อนลงไปที่หัวนม ถ้าก้อนอยู่ด้านล่างก็นวดไล่ขึ้นมาที่หัวนมเช่นกัน แล้วก็พยายามบีบหรือปั้มออกค่ะ แล้วให้ลูกช่วยดูด โดยให้ดูดข้างที่ตันเป็นข้างแรกเสมอ ดูดให้บ่อยขึ้น จัดท่าให้คางลูกอยู่ตรงตำแหน่งที่เป็นก้อน อาจต้องตีลังกาดูด ถ้าก้อนอยู่ด้านบน วิธีนี้ได้ผลดีค่ะ แต่ แต่ แต่ ต้องอาศัยความร่วมมือของลูก ซึ่งตอนเล็กๆที่ลูกสาวว่านอนสอนง่าย จับวางท่าไหนยังไงลูกก็ดูด แต่แรงในการดูดจะไม่ค่อยมีค่ะ พอลูกได้สักขวบหนึ่ง แรงดูดลูกจะดีมาก แต่ลูกจะเริ่มติสท์ล่ะ บางทีลูกก็ไม่อยากจะดูดท่าที่เราจัดให้ บางทีก็ไม่อยากดูดเต้าที่ตันคงเพราะต้องใช้แรงมาก ลูกก็จะไต่ๆๆไปดูดอีกท่า หรืออีกเต้าที่ลูกสบายใจกว่าแทน ต้องรอตอนกลางคืนที่ลูกหลับเพราะลูกจะไม่รู้ว่าดูดเต้าไหนอยู่ก็ให้เค้าดูดเต้าที่ตันค่ะ แต่จะมีแบบลูกดูดๆอยู่ เรากำลังสบาย ลูกเกิดอิ่มซะดื้อๆ หยุดดูด พลิกตัวหนีแล้วหลับต่ออย่างสบายใจ อยากจะเอานิ้วไปจิ้มๆปลุกลูกมาดูดก็ทำไม่ได้เนาะ ก็ต้องมานั่งบีบต่อเองค่ะ ก็ใช้วิธีนี้มาตลอด

คุณแม่บางท่านอาจให้สามีช่วยดูดให้ได้ค่ะ ซึ่งถ้าสามีทำได้จะดีมาก เผอิญว่าของเราสามีดูดไม่เป็น และเราก็ไม่รู้จะอธิบายเค้าว่าต้องดูดยังไง (ตามทฤษฏีบอกว่าให้ดูดเหมือนดูดชานมไข่มุกเวลาที่ไข่มุกติดอยู่ในหลอด) แถมลูกสาวก็มาหวงแม่อีก พอพ่อดูดปั๊บ คลานมาเลยตุ๊บๆๆๆ ผลักหัวพ่อออกซะนี่ แล้วก็มาดูดแทน วิธีนี้ของเราก็เลยตกไป


3.ใช้ ultrasound ค่ะ

พึ่งไปลองมาสดๆร้อนๆเลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ค่ะ

เราใช้การประคบร้อนมาตลอดค่ะ แต่พอมาเดือนนี้ (ลูกอายุ1.2 เดือน) เราเริ่มเป็นถี่ขึ้น 2-3 วันเป็นที แล้วทีนี้เป็นก้อนแข็งๆ จับแล้วเจ็บ ประคบร้อนและก็ให้ลูกดูดก็ดีขึ้นหน่อย แต่เดี๋ยวก็เป็นอีก เราก็เลยอยากลอง ultrasound ค่ะ การประคบร้อนเป็นการให้ความร้อนแบบ superficial heat ส่วนการทำ ultrasound เป็นการให้ความร้อนแบบ deep heat ซึ่งเมื่อก่อนทำได้ที่เดียวที่โรงพยาบาล BNH ตรงสาธรค่ะ สนนราคารวมค่าหมอแล้วอยู่ที่ประมาณ 2,xxx บาทต่อครั้ง เนื่องจากต้องเดินทาง และราคานี้เราไม่สามารถค่ะ เราก็หาข้อมูลต่อจนเจอ คือในเพจคุณหมอสุธีรา ท่านได้กรุณาลงข้อมูลไว้ให้ว่า ต้องตั้งค่าเครื่อง ultrasound ที่ 2 watt/cm2 นาน 5 นาที วันละ 1 ครั้ง โดยทำซ้ำได้ 2-3 วัน แล้วตามด้วยการบีบน้ำนมไล่ออกมาตามท่อ ร่วมกับการดูดจากลูก จะช่วยให้ที่อุดตันหลุดเร็วขึ้น

https://www.facebook.com/SuthiRaXeuxPhirocnKic/posts/863988910293924

พอเราเจอข้อมูลนี้ เราก็เลยว่าจะลองไปถามที่คลินิกกายภาพบำบัดแถวบ้านดูว่าทำได้มั้ย แต่เผอิญว่าคลินิกนี้เค้ามีบริการตรงนี้อยู่แล้ว เพราะคุณเจ้าของเป็นแม่ลูกอ่อนเหมือนกันค่ะ โชคดีเสียนี่กระไร เราก็เลยนัดเลยค่ะ โทรไปเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาได้คิววันศุกร์ตอนบ่ายโมง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้พาลูกไปด้วย หรือเอาที่ปั้มนมไปด้วย เราเลือกอย่างหลังเพราะลูกคงไม่ยอมนั่งรอแม่ทำเป็นแน่แท้ สอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายอยู่ที่สนนราคาอยู่ที่ 450 บาทต่อ 1 ข้าง น้ำตาไหลด้วยความปลื้มปริ่ม

พอถึงวันก็ไปตามนัดค่ะ ไปถึงที่คลินิก กรอกเอกสารเสร็จ น้องนักกายภาพบำบัด (ผู้หญิงค่ะ) ก็บอกให้เราปั้มนมออกให้หมด (เราเตรียมเครื่องปั้มนมไปเอง) จากนั้นก็จะมาคลำเพื่อดูว่าเรามีก้อนไตอยู่ตรงไหนบ้าง เสร็จแล้วก็ประคบร้อน 15 นาทีค่ะ ต่อด้วยการทำ ultrasound ซึ่งเราว่าก็นานอยู่นะคะ สัก 15-20 นาทีได้ต่อข้าง พอเสร็จก็นวดไล่ก้อนตามท่อ และให้เราปั้มนมอีกรอบค่ะ ตอนที่ปั้มนมรู้สึกเหมือนก้อนที่อุดอยู่มันหลุดออกมา แล้วก็หายเจ็บค่ะ ก้อนที่เป็นก็นิ่มลงแบบรู้สึกได้ แต่ถ้าจะให้ก้อนหายไปเลยอาจจะต้องมาทำซ้ำอีกค่ะ วิธีนี้ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับการแก้ท่อนมอุดตันที่น่าสนใจค่ะ น้องที่ทำ ultrasound ให้บอกว่าถ้าเป็นมากๆตอนที่ทำน้ำนมจะไหลออกมาเลย แต่ของเราไม่ถึงขนาดนั้นค่ะ ก็ไม่ได้มีน้ำนมไหลออกมา

ข้อดีสำหรับเราคือรอคิวไม่นานค่ะ พอเป็นก็รีบทำได้ทันที ราคาประมาณนี้ก็ยังสูงสำหรับเรา (900 บาทต่อครั้ง) แต่ก็ประหยัดลงมานิดนึง

ข้อเสียที่พบก็คือนักกายภาพบำบัดอาจไม่เชี่ยวชาญเท่าพี่ๆที่นวดเต้านม เพราะพี่ๆเค้าเน้นมาทางนี้โดยตรง ตอนนวดไล่ก้อนก็จะทำได้ดีกว่าค่ะ
  
หวังว่ากระทู้นี้คงจะมีประโยชน์กับคุณแม่ๆไม่มากก็น้อยนะคะ จุดประสงค์ของเราเลยคืออยากให้คลินิกกายภาพบำบัดทั้งในและนอกโรงพยาบาล มีบริการนี้กันทุกๆที่อะคะ (เผื่อราคาจะถูกลง ไม่ใช่ล่ะ 555) จะได้เป็นอีกทางเลือกให้คุณแม่ให้นมลูก เราไม่ได้ใส่ชื่อคลินิกเพราะกลัวจะผิดกฎพันทิพ แต่ถ้าคุณแม่ท่านไหนสนใจก็หลังไมล์มาถามนะคะ บ้านเราอยู่แถวพุทธมณฑลสาย 1ค่ะ

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเติมชื่อคลีนิคกายภาพบำบัด Healthy First
14/16-17 ถ.พุทธมลฑลสาย1(เพชรเกษม60) Bangkok, Thailand 10160
อยู่ข้างๆ รร.ผดุงกิจวิทยา ก่อนออก ถ.เพชรเกษม (ถึง รร. ก่อน)

เบอร์โทรศัพท์ 02 024 8438 เปิด 9:00 AM - 6:00 PM

http://www.healthyfirstth.com/

ส่วนชื่อนักกายภาพไม่ได้ถามชื่อมาครับ คุณภรรยาบอกว่ามัวแต่คุยกับเจ้าของร้านผู้หญิงอยู่ครับ

ลองสอบถามดูนะครับ

https://www.facebook.com/Healthyfirstclinic/

https://www.facebook.com/Healthyfirstclinic/photos/a.1418642198382104/2248254325420883/?type=3&theater

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สุดท้ายละ ฝากกระทู้ท่องเที่ยวที่คุณสามีทำไว้ให้อ่านกันนะคะ เข้าไปอ่านก็จะได้เห็นลูกสาวสุดแสบกับตัวเราแบบแว่บๆ 555

ไปปราณบุรีค่ะ http://ppantip.com/topic/33717943
ไปเที่ยวสิงคโปร์มาค่ะ http://ppantip.com/topic/34055097

ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ

พาพันขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่