เห็นคนปั่นจักรยานหลายคน กล้าๆกลัวๆที่จะออกถนน หรือการ ใช้ถนนร่วมกับพาหนะอื่น
ก็เลยมาแชร์วิธีการปั่นจักรยานบนถนนแบบพึ่งพาอาศัยกัน รวมถึงบอกเหตุผลที่รถยนต์มักไม่เข้าใจว่าทำไมจักรยานถึงขวางทาง
เริ่มกันเลยดีกว่า
สถานการณ์ 1 ปั่นบนถนนปกติ
จักรยาน: ปั่นด้วยความเร็วที่พอเหมาะ 20-40km/h หรือตามสภาพการจราจรเอื้ออำนวย
สามารถปั่นห่างจากฟุตบาท 1-1.5 เมตร (ตามเส้นแดง)
รถยนต์: สามารถแซงจักรยานได้ด้วยการเบี่ยงออกขวา
สถานการณ์ 2 มีท่อระบายน้ำขวาง
จักรยาน: ปั่นด้วยความเร็วที่พอเหมาะ 20-40km/h หรือตามสภาพการจราจรเอื้ออำนวย
ปั่นห่างจากฝาท่อระบายน้ำ ไม่ปั่นทับฝาท่อ เพราะอาจจะเกิดการล้ม และรถหลังตามอาจจะทับได้
ในกรณีที่มีท่อเรียงกันตลอดแนวถนน ให้ออกขวา หรือซ้าย (ขึ้นอยู่กับว่ามีที่ด้านไหนพอปั่นได้)
แล้วปั่นตรงยาวไปเลย (ในภาพจะปั่นตามเส้นแดง)
รถยนต์ : ทำความเข้าใจกับสภาพถนน ไม่บีบแตรไล่เพราะอาจจะทำให้คนปั่นจักรยานเกิดการตกใจหักหลบ ทับฝาท่อ ล้อติดฝาท่อ ล้ม และคนขับรถทับซ้ำได้ ให้ใช้การกระพิพไฟเตือนแทน (ในกรณีต้องการบอกตำแหน่ง)
รถยนต์ : ควร เบี่ยงออกขวา แล้วแซงไปเบาๆ
สถานการณ์ที่ 3 รถจอดซ้ายมือ
จักรยาน ควรปั่นห่างจากรถที่จอดซ้ายมือ 1.5 -2 เมตร(ในภาพคือตามเส้นสีแดง) หรือปั่นชิดเส้นประ (แต่ไม่เลยไปเลนสอง) เพื่อป้องกันการเปิดประตูรถแบบไม่มองรถหลัง
และระวังรอยต่อถนน
รถยนต์ รถเลนสองสามารถวิ่งได้สดวก ช่วงที่แซงจักรยาน ควรผ่อนคันเร่งหรือลดความเร็ว เพื่อป้องกันลมดูดที่อาจจะดูดจักรยานเป๋ไปชนรถเลนสองได้
สถานการณ์ที่ 4 รถจอดเว้นระยะสั้นๆ (ไม่ถึง 100 เมตร)
จักรยาน ปั่นเหมือน สถานการณ์ที่ 3 ปั่นไปตรงๆห่างจากรถที่จอด 1.5-2 เมตร โดยไม่เกินไปเลนสอง
จักรยาน ไม่ต้องพยายามปั่นเข้าไปชิดขอบทาง
จักรยาน ถ้าเจอรถสวน (เวลาเจอรถจอดแบบนี้มักมีรถมอไซค์สวนมา) ให้ชลอ ไม่ต้องเข้าซ้าย รถสวนมาจะเข้าซ้ายหลบเราเอง เราปั่นไปตรงๆ
รถยนต์ รถเลนสองสามารถวิ่งได้สดวก ช่วงที่แซงจักรยาน ควรผ่อนคันเร่งหรือลดความเร็ว เพื่อป้องกันลมดูดที่อาจจะดูดจักรยานเป๋ไปชนรถเลนสองได้
รถยนต์ ถ้าจะเข้าซ้ายเพื่อจอด กรุณาตามหลังจักรยานไม่ปาดหน้า
กรณีที่ 5 ข้างหน้าเป็นทางแยก จักรยานจะตรงไป และมีรถจะเลี้ยวซ้าย
จักรยานปั่นชิดไหล่ทางตามปกติ เมื่อใกล้ถึงแยก ประมาณ 60 เมตรก่อนถึงแยก(ุ60 เมตรคือระยะที่รถยนต์ต้องเปิดไฟเลี้ยวเมื่อจะทำการเลี้ยว)
ให้พยายามเบี่ยงขวา และวิ่งชิดเส้นประ แต่ไม่เลยไปเลนสอง
กรณีที่มีรถตามหลังให้
รถแซงไปก่อนจึงทำการเบี่ยงขวาตามไป (ในรูปตามเส้นประแดง เมื่อรถแซงไปแล้ว)
เลี้ยวขวาทำลักษณะเดียวกัน ค่อยๆเบี่ยงและยกมือขอทางไปทีละเลนหรืออาสัยจังหวะติดไฟแดงออกขวา
รถยนต์ ชลอ เปิดไฟเลี้ยวขอทาง เบี่ยงขวาเล็กน้อย แซงไปเบาๆ
รถยนต์ รถเลนสองสามารถวิ่งได้สดวก ช่วงที่แซงจักรยาน ควรผ่อนคันเร่งหรือลดความเร็ว เพื่อป้องกันลมดูดที่อาจจะดูดจักรยานเป๋ไปชนรถเลนสองได้
รถยนต์เมื่อจักรยานอยู่ทางด้านขวาของเลนแล้ว ไม่ปาดหน้าเพื่อเข้าซ้าย ให้ตามหลังและแซงซ้าย เบาๆ
หวังว่าคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ
เทคนิคการปั่นจักรยานออกถนนใหญ่ share the road
ก็เลยมาแชร์วิธีการปั่นจักรยานบนถนนแบบพึ่งพาอาศัยกัน รวมถึงบอกเหตุผลที่รถยนต์มักไม่เข้าใจว่าทำไมจักรยานถึงขวางทาง
เริ่มกันเลยดีกว่า
สถานการณ์ 1 ปั่นบนถนนปกติ
จักรยาน: ปั่นด้วยความเร็วที่พอเหมาะ 20-40km/h หรือตามสภาพการจราจรเอื้ออำนวย
สามารถปั่นห่างจากฟุตบาท 1-1.5 เมตร (ตามเส้นแดง)
รถยนต์: สามารถแซงจักรยานได้ด้วยการเบี่ยงออกขวา
สถานการณ์ 2 มีท่อระบายน้ำขวาง
จักรยาน: ปั่นด้วยความเร็วที่พอเหมาะ 20-40km/h หรือตามสภาพการจราจรเอื้ออำนวย
ปั่นห่างจากฝาท่อระบายน้ำ ไม่ปั่นทับฝาท่อ เพราะอาจจะเกิดการล้ม และรถหลังตามอาจจะทับได้
ในกรณีที่มีท่อเรียงกันตลอดแนวถนน ให้ออกขวา หรือซ้าย (ขึ้นอยู่กับว่ามีที่ด้านไหนพอปั่นได้)
แล้วปั่นตรงยาวไปเลย (ในภาพจะปั่นตามเส้นแดง)
รถยนต์ : ทำความเข้าใจกับสภาพถนน ไม่บีบแตรไล่เพราะอาจจะทำให้คนปั่นจักรยานเกิดการตกใจหักหลบ ทับฝาท่อ ล้อติดฝาท่อ ล้ม และคนขับรถทับซ้ำได้ ให้ใช้การกระพิพไฟเตือนแทน (ในกรณีต้องการบอกตำแหน่ง)
รถยนต์ : ควร เบี่ยงออกขวา แล้วแซงไปเบาๆ
สถานการณ์ที่ 3 รถจอดซ้ายมือ
จักรยาน ควรปั่นห่างจากรถที่จอดซ้ายมือ 1.5 -2 เมตร(ในภาพคือตามเส้นสีแดง) หรือปั่นชิดเส้นประ (แต่ไม่เลยไปเลนสอง) เพื่อป้องกันการเปิดประตูรถแบบไม่มองรถหลัง
และระวังรอยต่อถนน
รถยนต์ รถเลนสองสามารถวิ่งได้สดวก ช่วงที่แซงจักรยาน ควรผ่อนคันเร่งหรือลดความเร็ว เพื่อป้องกันลมดูดที่อาจจะดูดจักรยานเป๋ไปชนรถเลนสองได้
สถานการณ์ที่ 4 รถจอดเว้นระยะสั้นๆ (ไม่ถึง 100 เมตร)
จักรยาน ปั่นเหมือน สถานการณ์ที่ 3 ปั่นไปตรงๆห่างจากรถที่จอด 1.5-2 เมตร โดยไม่เกินไปเลนสอง
จักรยาน ไม่ต้องพยายามปั่นเข้าไปชิดขอบทาง
จักรยาน ถ้าเจอรถสวน (เวลาเจอรถจอดแบบนี้มักมีรถมอไซค์สวนมา) ให้ชลอ ไม่ต้องเข้าซ้าย รถสวนมาจะเข้าซ้ายหลบเราเอง เราปั่นไปตรงๆ
รถยนต์ รถเลนสองสามารถวิ่งได้สดวก ช่วงที่แซงจักรยาน ควรผ่อนคันเร่งหรือลดความเร็ว เพื่อป้องกันลมดูดที่อาจจะดูดจักรยานเป๋ไปชนรถเลนสองได้
รถยนต์ ถ้าจะเข้าซ้ายเพื่อจอด กรุณาตามหลังจักรยานไม่ปาดหน้า
กรณีที่ 5 ข้างหน้าเป็นทางแยก จักรยานจะตรงไป และมีรถจะเลี้ยวซ้าย
จักรยานปั่นชิดไหล่ทางตามปกติ เมื่อใกล้ถึงแยก ประมาณ 60 เมตรก่อนถึงแยก(ุ60 เมตรคือระยะที่รถยนต์ต้องเปิดไฟเลี้ยวเมื่อจะทำการเลี้ยว)
ให้พยายามเบี่ยงขวา และวิ่งชิดเส้นประ แต่ไม่เลยไปเลนสอง
กรณีที่มีรถตามหลังให้รถแซงไปก่อนจึงทำการเบี่ยงขวาตามไป (ในรูปตามเส้นประแดง เมื่อรถแซงไปแล้ว)
เลี้ยวขวาทำลักษณะเดียวกัน ค่อยๆเบี่ยงและยกมือขอทางไปทีละเลนหรืออาสัยจังหวะติดไฟแดงออกขวา
รถยนต์ ชลอ เปิดไฟเลี้ยวขอทาง เบี่ยงขวาเล็กน้อย แซงไปเบาๆ
รถยนต์ รถเลนสองสามารถวิ่งได้สดวก ช่วงที่แซงจักรยาน ควรผ่อนคันเร่งหรือลดความเร็ว เพื่อป้องกันลมดูดที่อาจจะดูดจักรยานเป๋ไปชนรถเลนสองได้
รถยนต์เมื่อจักรยานอยู่ทางด้านขวาของเลนแล้ว ไม่ปาดหน้าเพื่อเข้าซ้าย ให้ตามหลังและแซงซ้าย เบาๆ
หวังว่าคงเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ