(warning)ระวัง!! วิกฤติเศรษฐกิจโลกครั้งใหญ่กำลังจะมาเยือนอีกแล้วในอีก 4-5 เดือนข้างหน้านี้
Martin Armstrong ทำนายออกมาอีกแล้ว
บางคนอาจจะเคยรู้จัก แต่หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้จักชื่อ Martin Armstrong อดีตประธานบริหารของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินการลงทุน ( Investment-advisory firm )ที่ชื่อว่า Princeton Economics International Ltd. ซึ่งเขาได้พัฒนาโมเดลต่างๆขึ้นมาในการวิเคราะห์ทำนายทุกๆอย่างในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งโมเดลที่สำคัญคือ Economic Confidence Model ซึ่งทางการของอเมริกาต้องการ source code ของโมเดลนี้อย่างมาก แต่เขาปิดปากเงียบไม่ยอมบอก จึงโดนทางการหาเรื่องเล่นงาน จับขังคุกหลายปี เพิ่งหลุดออกมาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว
(red arrow right)ชื่อเสียงที่สำคัญที่สุดของเขาคือ เขาทำนายเหตุการณ์และวิกฤติต่างๆในระบบเศรษฐกิจได้ตรงเผง ไม่เคยผิดในรอบ 30 ปีมานี้ ตั้งแต่ตลาดหุ้นอเมริกาแตกถล่มทะลายในปี 1987 , และฟองสบู่ของเศรษฐกิจญี่ปุ่นแตกในปี 1989 , ฟองสบู่ของเศรษฐกิจรัสเซียแตกในปี1998 และเหตุการณ์อื่นๆทุกๆเรื่องที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน ของอเมริกา และของโลก ถูกต้องตรงหมด ...จนกูรูทางเศรษฐกิจหลายๆคน ยกย่องเขาว่าเป็นนักทำนายเศรษฐกิจมืออันดับ 1 ของโลกในยุคนี้
เช่นเขาได้รับการยกย่องว่าเป็น ... “Americas Top Economist” in 1990 by Equity Magazine.
(red arrow right)เรื่องสำคัญที่เขาทำนายในอนาคตอันใกล้นี้คือ ถึงรอบที่จะเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่พอควรอีกครั้งในรอบ 8.6 ปี จะเกิดในราวๆเดือน กันยายน หรือตุลาคมของปีนี้ อาจจะหนักกว่าสมัยวิกฤติ sub-prime เมื่อปลายปี 2007 ที่ผ่านมา... รอบนี้ ตลาดหุ้นของอเมริกาและทั่วโลก จะตกถล่มทลายอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง และราคาทองคำจะพุ่งไปถึง $ 5,000 ต่อเอาน์ซ์ แต่ก่อนจะพุ่งไปถึงจุดนั้น ราคาอาจจะตกลงมาต่ำกว่า$ 1,000 ต่อเอาน์ซ์ ก่อน ...
ในรอบ 30 ปีมานี้ เขาไม่เคยทำนายผิดเลย..รอดูว่าครั้งนี้จะผิดไหม (??)
หลักสำคัญๆ ใน Economic Confidence Model ของเขา เช่น...
-ในรอบ 8.6 ปี จะเกิดวิกฤติในระบบเศรษฐกิจ (ซึ่งรอบนี้กำลังจะมาถึงในเดือนกันยายนหรือตุลาคมนั่นแหละ)
-ในรอบ 51.6 ปี จะเกิดวิกฤติในระบบเศรษฐกิจที่ใหญามากๆ (เช่นที่เกิดในปี 1929 แล้วมาปี1981ต่อไปก็ปี 2033)
-ในรอบ 309.6 ปี จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุด ระดับสุดๆของโลกเลยละ คือจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบสังคมโลกในทุกๆมิติ
ขอบคุณที่มาจาก :
https://www.facebook.com/set.biznews 
ระวัง!! วิกฤติเศรษฐกิจโลกครั้งใหญ่กำลังจะมาเยือนอีกแล้วในอีก 4-5 เดือนข้างหน้านี้ !!!
Martin Armstrong ทำนายออกมาอีกแล้ว
บางคนอาจจะเคยรู้จัก แต่หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้จักชื่อ Martin Armstrong อดีตประธานบริหารของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินการลงทุน ( Investment-advisory firm )ที่ชื่อว่า Princeton Economics International Ltd. ซึ่งเขาได้พัฒนาโมเดลต่างๆขึ้นมาในการวิเคราะห์ทำนายทุกๆอย่างในระบบเศรษฐกิจ ซึ่งโมเดลที่สำคัญคือ Economic Confidence Model ซึ่งทางการของอเมริกาต้องการ source code ของโมเดลนี้อย่างมาก แต่เขาปิดปากเงียบไม่ยอมบอก จึงโดนทางการหาเรื่องเล่นงาน จับขังคุกหลายปี เพิ่งหลุดออกมาได้ประมาณ 4 ปีแล้ว
(red arrow right)ชื่อเสียงที่สำคัญที่สุดของเขาคือ เขาทำนายเหตุการณ์และวิกฤติต่างๆในระบบเศรษฐกิจได้ตรงเผง ไม่เคยผิดในรอบ 30 ปีมานี้ ตั้งแต่ตลาดหุ้นอเมริกาแตกถล่มทะลายในปี 1987 , และฟองสบู่ของเศรษฐกิจญี่ปุ่นแตกในปี 1989 , ฟองสบู่ของเศรษฐกิจรัสเซียแตกในปี1998 และเหตุการณ์อื่นๆทุกๆเรื่องที่เกิดขึ้นในระบบเศรษฐกิจ การเงิน การลงทุน ของอเมริกา และของโลก ถูกต้องตรงหมด ...จนกูรูทางเศรษฐกิจหลายๆคน ยกย่องเขาว่าเป็นนักทำนายเศรษฐกิจมืออันดับ 1 ของโลกในยุคนี้
เช่นเขาได้รับการยกย่องว่าเป็น ... “Americas Top Economist” in 1990 by Equity Magazine.
(red arrow right)เรื่องสำคัญที่เขาทำนายในอนาคตอันใกล้นี้คือ ถึงรอบที่จะเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่พอควรอีกครั้งในรอบ 8.6 ปี จะเกิดในราวๆเดือน กันยายน หรือตุลาคมของปีนี้ อาจจะหนักกว่าสมัยวิกฤติ sub-prime เมื่อปลายปี 2007 ที่ผ่านมา... รอบนี้ ตลาดหุ้นของอเมริกาและทั่วโลก จะตกถล่มทลายอย่างหนักหน่วงอีกครั้ง และราคาทองคำจะพุ่งไปถึง $ 5,000 ต่อเอาน์ซ์ แต่ก่อนจะพุ่งไปถึงจุดนั้น ราคาอาจจะตกลงมาต่ำกว่า$ 1,000 ต่อเอาน์ซ์ ก่อน ...
ในรอบ 30 ปีมานี้ เขาไม่เคยทำนายผิดเลย..รอดูว่าครั้งนี้จะผิดไหม (??)
หลักสำคัญๆ ใน Economic Confidence Model ของเขา เช่น...
-ในรอบ 8.6 ปี จะเกิดวิกฤติในระบบเศรษฐกิจ (ซึ่งรอบนี้กำลังจะมาถึงในเดือนกันยายนหรือตุลาคมนั่นแหละ)
-ในรอบ 51.6 ปี จะเกิดวิกฤติในระบบเศรษฐกิจที่ใหญามากๆ (เช่นที่เกิดในปี 1929 แล้วมาปี1981ต่อไปก็ปี 2033)
-ในรอบ 309.6 ปี จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุด ระดับสุดๆของโลกเลยละ คือจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบสังคมโลกในทุกๆมิติ
ขอบคุณที่มาจาก : https://www.facebook.com/set.biznews