คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 56
ตอบในฐานะที่กินมาตั้งแต่ยังเรียนและทุกวันนี้ก็ยังกินอยู่
คือสมัยนั้นเงินพ่อแม่อะค่ะ ค่าเทอมพ่อแม่จ่าย รถพ่อแม่ออกให้ ค่าน้ำมันพ่อแม่ก็จ่ายให้
กินสตาร์บัคเกือบทุกวัน ชอบกินซูชิเข้าร้านซูชิเฉลี่ยอาทิตย์ละครั้งถึง 2 ครั้งได้
ช๊อปเก่งมากๆ เครื่องสำอางค์ต้องอย่างดี เสื้อผ้ากระเป๋านาฬิกาแบรนด์เนม รองเท้านี่ซื้อทุกสองอาทิตย์ได้มั้ง
สารภาพเลยว่าสมัยเรียนนี่ใช้เงินไม่ต่ำกว่าเดือนละ 30,000 ทั้งๆที่ค่าใช้จ่ายอะไรก็ไม่มีสักอย่าง
ตอนเเรียนโทก็ลดไปบ้างเรื่องชอป แต่กลายเป็นเที่ยวแทน ออกเที่ยวถึงต่างประเทศก็เงินพ่อแม่ทั้งนั้น เงินเก็บก็ไม่มีเพราะไม่เคยคำนึงถึง
พอเรียนจบมาทำงาน คราวนี้ถึงได้รู้ ฟังจำนวนเงินเดือนแล้วใจหายเล็กๆ แต่ก็ด้วยความที่ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรก็ทำได้ แต่พ่อแม่ยังต้องช่วยเงิน
สุดท้ายเจอสามีตอนไปทำงานต่างประเทศ ก็ต้องย้ายออกบ้าน แล้วต้องดูแลค่าใช่จ่ายทุกอย่างเอง คราวนี้ถึงได้รู้ว่าเราใช้เงินเกินตัวแบบบ้าบอ ฟุ้งเฟ้อขนาดไหน
ตอนเราแต่งงานพ่อแม่เราไม่เรียกสินสอดอะไรเลย
ทุกวันนี้ทำงานหนักเก็บเงิน ส่งให้พ่อแม่บ้าง เสื้อผ้าไม่มีแบรนด โทรสับราคาถูกๆ คิดย้อนไปถึงอดีตก็รู้สีกผิดกับพ่อแม่เสมอ เรามันตัวล้างผลาญชัดๆ
คือสมัยนั้นเงินพ่อแม่อะค่ะ ค่าเทอมพ่อแม่จ่าย รถพ่อแม่ออกให้ ค่าน้ำมันพ่อแม่ก็จ่ายให้
กินสตาร์บัคเกือบทุกวัน ชอบกินซูชิเข้าร้านซูชิเฉลี่ยอาทิตย์ละครั้งถึง 2 ครั้งได้
ช๊อปเก่งมากๆ เครื่องสำอางค์ต้องอย่างดี เสื้อผ้ากระเป๋านาฬิกาแบรนด์เนม รองเท้านี่ซื้อทุกสองอาทิตย์ได้มั้ง
สารภาพเลยว่าสมัยเรียนนี่ใช้เงินไม่ต่ำกว่าเดือนละ 30,000 ทั้งๆที่ค่าใช้จ่ายอะไรก็ไม่มีสักอย่าง
ตอนเเรียนโทก็ลดไปบ้างเรื่องชอป แต่กลายเป็นเที่ยวแทน ออกเที่ยวถึงต่างประเทศก็เงินพ่อแม่ทั้งนั้น เงินเก็บก็ไม่มีเพราะไม่เคยคำนึงถึง
พอเรียนจบมาทำงาน คราวนี้ถึงได้รู้ ฟังจำนวนเงินเดือนแล้วใจหายเล็กๆ แต่ก็ด้วยความที่ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรก็ทำได้ แต่พ่อแม่ยังต้องช่วยเงิน
สุดท้ายเจอสามีตอนไปทำงานต่างประเทศ ก็ต้องย้ายออกบ้าน แล้วต้องดูแลค่าใช่จ่ายทุกอย่างเอง คราวนี้ถึงได้รู้ว่าเราใช้เงินเกินตัวแบบบ้าบอ ฟุ้งเฟ้อขนาดไหน
ตอนเราแต่งงานพ่อแม่เราไม่เรียกสินสอดอะไรเลย
ทุกวันนี้ทำงานหนักเก็บเงิน ส่งให้พ่อแม่บ้าง เสื้อผ้าไม่มีแบรนด โทรสับราคาถูกๆ คิดย้อนไปถึงอดีตก็รู้สีกผิดกับพ่อแม่เสมอ เรามันตัวล้างผลาญชัดๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
อ่านกระทู้นี้แล้วปรี๊ดยังไงบอกไม่ถูก
เริ่มเลยละกัน
1. ถ้า จขกท รู้ว่าเด็กคนไหนดื่มกาแฟบ่อย ๆ ทานขนมบ่อย ๆ แปลว่าต้องรู้จักเค้าประมาณนึงรึเปล่าคะ ถึงทราบได้ว่าเค้าไปบ่อย ๆ
แล้วถ้ารู้จัก ก็ต้องแปลว่า จขกท ต้องทราบพื้นฐานการเงินของเค้าบ้าง
ดังนั้น ถ้าเค้าพอมีเงินที่บ้านออกให้ได้ จขกท จะสงสัยทำไม เงินของใครก็เป็นสิทธิของคนนั้นว่าจะใช้อย่างไร
มากะเกณฑ์แทนว่าควรจะใช้อย่างโน้นอย่างนี้นี่ยุ่งเรื่องของคนอื่นไปหน่อยหรือเปล่า
แล้วเรื่องกาแฟ ราคาแก้วละ 100 กว่า ถ้าเป็นคนดื่มกาแฟจะทราบนะคะ ว่ามันต่างจากแก้วละ 20-35 ตรงไหน แล้วทำไมเราถึงเลือกที่จะจ่ายแพง
แต่ถ้าน้อง นศ ไม่ใช่คนดื่มกาแฟ สิ่งที่เค้าเลือกจ่าย อาจเป็นรูปลักษณ์ภายนอก ความโก้หรู หรืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องความพึงพอใจ
ซึ่งเราไปตัดสินไม่ได้ คนเรามีความชอบต่างกัน คุณอาจจะเห็นว่ามันไม่คุ้มค่า แต่เค้าอาจจะเห็นว่าคุ้มค่าก็ได้
2.ถ้า จขกท ไม่รู้จักน้องนักเรียน นศ แต่อาศัยเดินผ่าน ๆ ตามห้าง เห็นมีน้อง ๆ นั่งเต็มร้านกาแฟ ร้านขนม
แล้ว จขกท ไปตัดสินว่าเค้ามาดื่มบ่อยๆ ทานบ่อย ๆ เราว่าค่อนข้างแย่นะ เห็นแว้บเดียวก็ตัดสินเลย
เด็ก ๆ อาจจะมาเดือนละครั้งก็ได้ แต่ด้วยความที่เด็กมีเยอะ ก็เลยอาจจะเต็มร้านตลอดเวลา
3. วิธีการใช้จ่ายของคนเราต่างกัน
คุณอาจให้ความสำคัญสิ่งหนึ่ง แต่อีกสิ่งหนึ่งไม่ให้ความสำคัญเลยก็ได้
บางคนอาจให้ความสำคัญเรื่องกาแฟ เค้ก อาหารการกิน แต่เรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เค้าอาจสนใจน้อยมากก็ได้
ซึ่งเวลาใช้เงินพวกนี้ มันก็จะไปถัวเฉลี่ยกัน
จะคิดว่าเงินเดือน 15,000 ทานแต่ของแพง ๆ ไม่พอใช้อยู่ไม่ได้ มันก็ไม่ถูก เค้าอาจไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นเลยก็ได้ หรือที่บ้านยังซัพพอร์ตเค้าอยู่
อย่างเราเวลาไปทำงาน เราก็เดินไป ไม่เคยเสียค่าเดินทางซักบาท แล้วเราก็เอาเงินส่วนค่าเดินทางไปใช้เป็นค่าอาหารแทน
คือบางทีบางอย่าง เวลามอง มันก็ต้องมองให้รอบด้านนะ
มองแต่มุมตัวเองมันก็ตันอยู่แค่นั้นแหละ คนอื่นเค้าไม่ได้ทำเหมือนคุณอะ
โอเคว่าคุณจะมองว่าเด็กยังไม่มีรายได้ แต่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่จริงๆแล้ว เด็กเค้าฟุ่มเฟือยหรือเปล่า
ถ้าเราเป็นคนหาเงินให้เค้าใช้ เราก็ต้องรู้ว่ารายได้เราไม่พอให้เค้าไปจ่ายแบบนั้น
แต่ถ้าไม่ใช่ เรามีสิทธิอะไรไปบ่นว่าการใช้จ่ายของคนอื่น เค้าอาจจะมีเหลือเฟือก็ได้
บอกตามตรงเลยนะ จริง ๆ เราก็ไม่ได้มองรอบด้านหรอก แต่เรามักจะปรี๊ดเวลามีคนถามเรื่องแบบนี้ มีอคติกับคนตั้งกระทู้แบบนี้
เคยมีกระทู้ถามเรื่องเด็กซื้อบัตรคอนเกาหลี ใบละ 6,500 คล้าย ๆ แบบนี้แหละ มองแต่มุมของตัวเอง
สถานะทางการเงินแต่ละคนไม่เหมือนกัน การใช้จ่ายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ถ้าเค้าใช้จ่ายเกินตัว ปัญหาก็ตกที่เค้าเองนั่นแหละ แล้วจะคิดแทนเค้าไปทำไม
เริ่มเลยละกัน
1. ถ้า จขกท รู้ว่าเด็กคนไหนดื่มกาแฟบ่อย ๆ ทานขนมบ่อย ๆ แปลว่าต้องรู้จักเค้าประมาณนึงรึเปล่าคะ ถึงทราบได้ว่าเค้าไปบ่อย ๆ
แล้วถ้ารู้จัก ก็ต้องแปลว่า จขกท ต้องทราบพื้นฐานการเงินของเค้าบ้าง
ดังนั้น ถ้าเค้าพอมีเงินที่บ้านออกให้ได้ จขกท จะสงสัยทำไม เงินของใครก็เป็นสิทธิของคนนั้นว่าจะใช้อย่างไร
มากะเกณฑ์แทนว่าควรจะใช้อย่างโน้นอย่างนี้นี่ยุ่งเรื่องของคนอื่นไปหน่อยหรือเปล่า
แล้วเรื่องกาแฟ ราคาแก้วละ 100 กว่า ถ้าเป็นคนดื่มกาแฟจะทราบนะคะ ว่ามันต่างจากแก้วละ 20-35 ตรงไหน แล้วทำไมเราถึงเลือกที่จะจ่ายแพง
แต่ถ้าน้อง นศ ไม่ใช่คนดื่มกาแฟ สิ่งที่เค้าเลือกจ่าย อาจเป็นรูปลักษณ์ภายนอก ความโก้หรู หรืออะไรก็แล้วแต่ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องความพึงพอใจ
ซึ่งเราไปตัดสินไม่ได้ คนเรามีความชอบต่างกัน คุณอาจจะเห็นว่ามันไม่คุ้มค่า แต่เค้าอาจจะเห็นว่าคุ้มค่าก็ได้
2.ถ้า จขกท ไม่รู้จักน้องนักเรียน นศ แต่อาศัยเดินผ่าน ๆ ตามห้าง เห็นมีน้อง ๆ นั่งเต็มร้านกาแฟ ร้านขนม
แล้ว จขกท ไปตัดสินว่าเค้ามาดื่มบ่อยๆ ทานบ่อย ๆ เราว่าค่อนข้างแย่นะ เห็นแว้บเดียวก็ตัดสินเลย
เด็ก ๆ อาจจะมาเดือนละครั้งก็ได้ แต่ด้วยความที่เด็กมีเยอะ ก็เลยอาจจะเต็มร้านตลอดเวลา
3. วิธีการใช้จ่ายของคนเราต่างกัน
คุณอาจให้ความสำคัญสิ่งหนึ่ง แต่อีกสิ่งหนึ่งไม่ให้ความสำคัญเลยก็ได้
บางคนอาจให้ความสำคัญเรื่องกาแฟ เค้ก อาหารการกิน แต่เรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย เค้าอาจสนใจน้อยมากก็ได้
ซึ่งเวลาใช้เงินพวกนี้ มันก็จะไปถัวเฉลี่ยกัน
จะคิดว่าเงินเดือน 15,000 ทานแต่ของแพง ๆ ไม่พอใช้อยู่ไม่ได้ มันก็ไม่ถูก เค้าอาจไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นเลยก็ได้ หรือที่บ้านยังซัพพอร์ตเค้าอยู่
อย่างเราเวลาไปทำงาน เราก็เดินไป ไม่เคยเสียค่าเดินทางซักบาท แล้วเราก็เอาเงินส่วนค่าเดินทางไปใช้เป็นค่าอาหารแทน
คือบางทีบางอย่าง เวลามอง มันก็ต้องมองให้รอบด้านนะ
มองแต่มุมตัวเองมันก็ตันอยู่แค่นั้นแหละ คนอื่นเค้าไม่ได้ทำเหมือนคุณอะ
โอเคว่าคุณจะมองว่าเด็กยังไม่มีรายได้ แต่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย แต่จริงๆแล้ว เด็กเค้าฟุ่มเฟือยหรือเปล่า
ถ้าเราเป็นคนหาเงินให้เค้าใช้ เราก็ต้องรู้ว่ารายได้เราไม่พอให้เค้าไปจ่ายแบบนั้น
แต่ถ้าไม่ใช่ เรามีสิทธิอะไรไปบ่นว่าการใช้จ่ายของคนอื่น เค้าอาจจะมีเหลือเฟือก็ได้
บอกตามตรงเลยนะ จริง ๆ เราก็ไม่ได้มองรอบด้านหรอก แต่เรามักจะปรี๊ดเวลามีคนถามเรื่องแบบนี้ มีอคติกับคนตั้งกระทู้แบบนี้
เคยมีกระทู้ถามเรื่องเด็กซื้อบัตรคอนเกาหลี ใบละ 6,500 คล้าย ๆ แบบนี้แหละ มองแต่มุมของตัวเอง
สถานะทางการเงินแต่ละคนไม่เหมือนกัน การใช้จ่ายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ถ้าเค้าใช้จ่ายเกินตัว ปัญหาก็ตกที่เค้าเองนั่นแหละ แล้วจะคิดแทนเค้าไปทำไม
ความคิดเห็นที่ 10
ตอบแบบไม่อคตินะครับ นักศึกษา ที่สามารถเข้าใช้บริการร้านกาแฟแพงๆแบบนี้ได้ ผมแบ่งได้ตามนี้นะครับ
1. รายได้สูง เพราะครอบครัวฐานะดี ให้เงินใช้สบายมือ มีความมั่นคงที่พ่อแม่สร้างไว้ให้แล้ว กินอยู่สบายมาแต่เล็ก
หรือพูดง่ายๆ "วิถีชีวิตของคนรวยเค้า" พวกนี้ไม่แค่กินกาแฟ ขนมแพงๆหรอกครับ ใช้จ่ายหนักกว่านี้เยอะ แต่เค้ามีกำลัง
2. รายได้ปานกลาง บ้านฐานะปานกลาง แต่ติดหรู ติดสังคมเพื่อน ก็ต้องอดอย่างอื่น มากินของแพงๆ และไม่ได้บ่อยมากนัก
3. ทำงานพิเศษ มีรายได้บ้าง แต่ส่วนมากน้องๆที่ต้องทำงาน มักจะมีความจำเป็นอย่างอื่นมากกว่า และรายได้ก็น้อย จะกินคงนานๆที
4. ทำงานพิเศษ รายได้ค่อนข้างดี พริตตี้ หรือคนที่รับงานฟรีแลนซ์ฝีมือดีๆ มีรายได้พอๆกับมนุษย์เงินเดือนช่วงต้นๆ ก็ใช้จ่ายได้ครับ
สรุป ผมเองก็โตมาจากครอบครัวที่ลำบาก ไม่เคยเห็นชอบกับการใช้จ่ายอย่างฟุ้งเฟ้อของวัยรุ่นหรอกครับ แต่พื้นฐานครอบครัวต่างกัน
บางคนเกิดมาสบายจริง เราคงไม่ต้องไปบอกให้คนที่รวยกว่าเราเป็นสิบๆเท่า ประหยัดเหมือนเราหรอกครับ ส่วนคนที่ฝืนกินใช้เกินฐานะ
วันนึงเค้าก็ลำบากเองแหละครับ อย่าไปสนใจเรื่องของคนอื่นเลย เก็บเรื่องนี้ไว้สอนลูกหลานเราดีกว่าครับ
1. รายได้สูง เพราะครอบครัวฐานะดี ให้เงินใช้สบายมือ มีความมั่นคงที่พ่อแม่สร้างไว้ให้แล้ว กินอยู่สบายมาแต่เล็ก
หรือพูดง่ายๆ "วิถีชีวิตของคนรวยเค้า" พวกนี้ไม่แค่กินกาแฟ ขนมแพงๆหรอกครับ ใช้จ่ายหนักกว่านี้เยอะ แต่เค้ามีกำลัง
2. รายได้ปานกลาง บ้านฐานะปานกลาง แต่ติดหรู ติดสังคมเพื่อน ก็ต้องอดอย่างอื่น มากินของแพงๆ และไม่ได้บ่อยมากนัก
3. ทำงานพิเศษ มีรายได้บ้าง แต่ส่วนมากน้องๆที่ต้องทำงาน มักจะมีความจำเป็นอย่างอื่นมากกว่า และรายได้ก็น้อย จะกินคงนานๆที
4. ทำงานพิเศษ รายได้ค่อนข้างดี พริตตี้ หรือคนที่รับงานฟรีแลนซ์ฝีมือดีๆ มีรายได้พอๆกับมนุษย์เงินเดือนช่วงต้นๆ ก็ใช้จ่ายได้ครับ
สรุป ผมเองก็โตมาจากครอบครัวที่ลำบาก ไม่เคยเห็นชอบกับการใช้จ่ายอย่างฟุ้งเฟ้อของวัยรุ่นหรอกครับ แต่พื้นฐานครอบครัวต่างกัน
บางคนเกิดมาสบายจริง เราคงไม่ต้องไปบอกให้คนที่รวยกว่าเราเป็นสิบๆเท่า ประหยัดเหมือนเราหรอกครับ ส่วนคนที่ฝืนกินใช้เกินฐานะ
วันนึงเค้าก็ลำบากเองแหละครับ อย่าไปสนใจเรื่องของคนอื่นเลย เก็บเรื่องนี้ไว้สอนลูกหลานเราดีกว่าครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำไมเด็กนักเรียน-นักศึกษา ถึงกินกาแฟแก้ว 100 กว่าบาทได้ (บ่อยๆ)
ขนาดคนทำงานกินเงินเดือนทั่วไปบางคนยังไม่กล้ากินเลย คือราคานี้คิดว่าเค้าคงมีปัญญาจ่ายทุกคน แต่อาจจะเสียดายตัง ประหยัด หรือมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ หรือกินนานๆ ทีได้
เลยสงสัยว่าถ้าเด็กจบใหม่ ทำงาน Start 15,000 จะพอใช้เหรอ?