Hulk Hogan ชายที่คนในวงการมวยปล้ำ เกลียดขี้หน้ามากที่สุด?

กระทู้ข่าว
จากคอลัมน์โลกมวยปล้ำ มวยปล้ำโลก โดยบุญตระกูล ชีวะตระกูลกิจ มติชนสุดสัปดาห์ 14-20 สิงหาคม 2558

ขึ้นด้วยหัวข้อแบบนี้ ดูจะเป็นอะไรที่ฉาวหรือแรงพอสมควร

แต่จริงๆ แล้ว ชื่อตอนที่ผมตั้งในวันนี้ อาจไม่เกินเลยจากความเป็นจริงของชายผู้นี้เลยก็เป็นได้

เรามาดูกันดีกว่า ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้นกัน

Hulk Hogan คือนักมวยปล้ำที่ไม่มีแฟนมวยปล้ำคนไหนไม่รู้จัก เขาเป็นเหมือน "พระเอก" ของวงการมวยปล้ำยุคแรก ที่ยังคงมีอิทธิพลส่งมาถึงวงการมวยปล้ำในยุคปัจจุบัน

เขาคือชายที่ทำให้กีฬามวยปล้ำ กลายเป็นกีฬาที่มีชื่อเสียงไปทั่วเป็นคนแรก ด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว ลีลาบนเวทีที่จับใจคนดูได้อยู่หมัด บวกกับแคแร็กเตอร์อเมริกันจ๋าอันทำให้เขากลายเป็นนักมวยปล้ำที่แฟนๆ รักมากที่สุดคนหนึ่งของวงการในช่วงปี 80

ซึ่งแน่นอนว่าความดังของโฮแกนนั้นไม่หยุดอยู่เฉพาะในวงการมวยปล้ำเท่านั้น แต่ขจรขจายไปไกลถึงฮอลลีวู้ด

เรียกได้ว่าต่อให้ไม่ใช่แฟนมวยปล้ำ ก็ต้องรู้จักหรือเคยผ่านหน้าผ่านตาเขาคนนี้อย่างแน่นอน

แต่นั่นเป็นแค่เปลือกนอกของชายผู้นี้เท่านั้น

ในความเป็นจริงแล้ว โฮแกนก็เหมือนกับมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งที่มีรักโลภโกรธหลง และบ่อยครั้งที่ผม ซึ่งติดตามวงการมวยปล้ำมานาน มักจะได้ยินข่าวเสียๆ หายๆ ของเขาอยู่เสมอ

หลักๆ เลยก็คงไม่พ้นเรื่อง ความเห็นแก่ได้ และข่าวชู้สาวมากมาย

ซึ่งผมจะไม่ขอโฟกัสไปที่เรื่องชู้สาว เพราะข่าว "คาว" ของเขาก็คงไม่ต่างจากดาราฮอลลีวู้ดที่ทำตัวเสื่อมเสียคนอื่นๆ สักเท่าไหร่

แต่เรามาดูถึงวีรกรรมแสบๆ ของโฮแกน ในเรื่องเงินๆ ทองๆ กันดีกว่า


ในยุคแรกๆ โฮแกนได้ชื่อว่าเป็นนักมวยปล้ำที่มีค่าตัวสูงที่สุดในวงการคนหนึ่ง เขาเคยออกจาก WWF ไป WCW เพราะทาง WCW ให้ค่าเหนื่อยสูงกว่า

แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในเชิงธุรกิจ (แม้ว่าหลายคนจะคิดว่า WCW จ่ายให้เขามากเกินจำเป็นก็ตาม) แต่ที่โฮแกนทำไว้แสบมากเมื่อมา WCW คงเป็นตอนที่เขาได้เข้าไปมีส่วนในการวางเนื้อเรื่องครีเอทีฟหลังฉาก แล้วพยายามเขียนบทให้พวกของตนดูดีอยู่ตลอดเวลา จนนำไปสู่เรตติ้งที่ตกต่ำลง

และสุดท้าย สมาคมก็ต้องขายกิจการให้กับ WWF ไปในที่สุด

และเมื่อ WWF เปลี่ยนมาเป็น WWE ทาง Vince McMahon ที่รู้จักกับตัวโฮแกนมานาน (จะบอกว่า Vince คือคนที่ปั้นโฮแกนมากับมือก็คงไม่ผิดนัก) ย่อมที่จะรู้จักนิสัยของโฮแกนว่าเป็นคนอย่างไร

เขาจึงแทบจะ "กัน" ไม่ให้โฮแกน (ที่พ่วงติดมากับ WCW) ได้เข้ามามีส่วนในด้านครีเอทีฟหลังฉากแม้แต่น้อย

และเมื่อตกลงกันไม่ได้ในหลายๆ เรื่อง โฮแกนก็จึงตัดสินใจออกจาก WWE ไปอยู่สมาคมคู่แข่งที่กำลังมาแรงในตอนนั้น คือ TNA


การเข้ามาใน TNA ของโฮแกนนั้น จึงเป็นความหวังของสมาคมแห่งนี้ที่จะได้ก้าวหน้าไปอีกระดับหนึ่ง โดยพวกเขาหวังว่าจะสามารถแข่งขันกับ WWE ได้ เพราะสามารถคว้าเอาสตาร์ระดับบิ๊กเนมอย่างโฮแกนมาอยู่ในมือได้แล้ว

แน่นอนว่าสมาคมเกิดอาการเห่อโฮแกนอย่างเห็นได้ชัด แทบจะให้อำนาจทุกอย่างแก่ตัวเขา

ซึ่งโฮแกนก็ไม่รอช้า เริ่มที่จะบริหารสมาคม TNA ไปใน "ทิศทางของตัวเอง" อีกครั้งหนึ่ง

จนในที่สุด TNA ที่ได้ชื่อว่าเป็นสมาคมทางเลือกใหม่ ดาวรุ่งพุ่งแรง ก็กลับกลายเป็นสมาคมที่ก๊อบปี้ไอเดียแทบทุกอย่างมาจาก WWE และ WCW (แต่ทำได้แย่กว่า) และเอาแต่เขียนบทให้ตัวโฮแกนเองดูเด่นกว่าที่ควร (โดยที่ตัวเขาแทบจะไม่ต้องปล้ำเลยด้วยซ้ำ)

จนกลายเป็นสมาคมที่โดนแฟนๆ ทั้งวงการล้อเลียนสารพัดถึงความไม่ได้เรื่อง

TNA กลายเป็นสมาคมที่ไม่มีใครคาดหวังอีกต่อไป และก็เริ่มที่จะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่โฮแกนนั้นไม่ได้เดือดร้อนอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเขามีสัญญาในช่องทีวีซึ่งฉายรายการของ TNA ที่ต้องจ่ายค่าตัวอันแสนแพงให้เขาอยู่แล้ว

ในที่สุด โฮแกนก็ไม่ต่อสัญญากับ TNA และออกไปพร้อมด้วยเงินจำนวนมหาศาล

ขณะที่ TNA ได้กลายเป็นสมาคมเกรดต่ำที่รอวันเจ๊งโดยไม่มีทีท่าจะดีขึ้นแต่อย่างใด


โฮแกนไม่ได้ไปไหนไกล เขากลับมาจูบปากกับ Vince McMahon อีกครั้งด้วยเหตุผลทางธุรกิจล้วนๆ

แต่ในคราวนี้ WWE ใช้งานโฮแกนได้อย่างดีเยี่ยม จากภาพลักษณ์ที่โดนแฟนๆ มวยปล้ำดูถูกมาตลอดในช่วงหลังๆ ก็เริ่มเปลี่ยนไป

ถึงเขาจะเป็นชายที่เหลวไหลหรือเห็นแก่ได้เพียงใด ในชีวิตจริง โฮแกนก็คือฮีโร่ของแฟนมวยปล้ำทุกคน

การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ใน WWE ครั้งนี้ ทำให้เแฟนๆ มวยปล้ำที่ชื่นชอบเขามาตั้งแต่เด็กได้หวนรำลึกถึงความทรงจำอันสวยงามในอดีตอีกครั้งหนึ่ง

แต่ความรู้สึกนั้นก็อยู่ไม่ได้นาน เมื่อข่าวฉาวของโฮแกนครั้งใหม่ได้ถูกเปิดเผยขึ้น

และในครั้งนี้ มันทำให้ชีวิตของเขาพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว...


จู่ๆ วันหนึ่ง ทางสมาคม WWE ก็ตัดสินใจ "ลบทุกอย่าง" ที่เกี่ยวกับตัวของ Hulk Hogan ออกไปจนหมด ทั้งประวัติในเว็บไซต์ หรือแม้แต่รายชื่อใน Hall of Fame ของสมาคมเองก็ตาม

นอกจากนี้ ยังลามไปถึงรายการ Tough Enough รายการเฟ้นหาดาวรุ่งที่มีโฮแกนเป็น 1 ในพิธีกร ซึ่งก็ได้ทำการถอดตัวโฮแกนออกจากรายการทันที

และที่ตลกมากไปกว่านั้น ก็คือการจัดการกับแคแร็กเตอร์ของนักมวยปล้ำในสมาคมคนหนึ่งอย่าง Curtis Axel ที่กำลังใช้แคแร็กเตอร์ล้อเลียนโฮแกนอยู่ (ทั้งการแต่งกาย ทั้งวิธีการพูด สไตล์การปล้ำ เรียกว่าก๊อบมาเหมือนเป๊ะๆ) ให้เปลี่ยนกลับไปใช้แคแร็กเตอร์เดิมก่อนหน้านี้ของเขาเอง เพื่อที่จะได้ไม่เหลือร่องรอยของตัวโฮแกนในสมาคมแม้แต่นิดเดียว

เรียกได้ว่าการ "ลบตัวตน" โฮแกนครั้งนี้ มีความรุนแรงพอๆ กับกรณีของ Chris Benoit ที่ทำฆาตกรรมภรรยาและบุตรชายของตนเลยทีเดียว

แล้วโฮแกนไปทำอะไรเข้า WWE ถึงได้ตัดสินใจตัดขาดตัวเขาแบบไม่เผาผี ซึ่งร้ายแรงกว่าครั้งไหนๆ ที่ทั้งสองฝ่ายเคยมีปัญหากันมา


เรื่องมาถึงบางอ้อ เมื่อมีการปล่อยคลิปฉาว ที่มีเสียงของโฮแกนกำลังพูดกับใครคนหนึ่งเกี่ยวกับการเหยียดสีผิว ใจความเกี่ยวกับการที่ลูกสาวของเขากำลังคบหาอยู่กับชายผิวดำ ซึ่งทำให้เขาไม่พอใจอย่างแรง เพราะโฮแกนนั้นเกลียดคนดำมาก

ที่ร้ายแรงไปกว่านั้นก็คือการที่โฮแกนเรียกคนผิวดำว่า "นิกก้า" ซึ่งเป็นคำดูถูกคนดำที่ร้ายแรงที่สุดในบรรดาคำต่างๆ ทั้งหมด

เนื่องจากประเด็นเหยียดสีผิวไม่ใช่เรื่องล้อเล่น โฮแกนจึงกลายเป็นผู้ที่โดนสื่อและสังคมรอบตัวรุมประณามแทบจะทันที นั่นจึงเป็นเหตุให้ WWE สมาคมที่พยายามรักษาภาพลักษณ์ของตนไว้เป็นอย่างดีมาตลอด ต้องออกมาจัดการ "แบน" โฮแกน ก่อนที่ข่าวจะหลุดออกไปสองสามวันล่วงหน้าก่อนซะเลย

นี่จึงเป็นฟางเส้นสุดท้ายระหว่างตัวโฮแกนกับ WWE จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นท่าทีว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถกลับมาร่วมงานกันได้อีก

แต่ต้องไม่ลืมว่านี่คือวงการมวยปล้ำ อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้แต่สิ่งที่ทุกคนคิดว่าจะไม่มีทางเกิดขึ้น

อย่างกรณี Bret "The Hitman" Hart ยอมคืนดีกับ WWE ก็ยังเกิดขึ้นมาแล้ว

การที่เราจะได้เห็น Hulk Hogan ในคราบของ "Hulkamania" ฮีโร่ของแฟนมวยปล้ำทุกคน ออกมาบนเวทีเพื่อปลุกให้แฟนๆ ลุกฮือกันอีกครั้ง ก็อาจจะเกิดขึ้นในสักวันหนึ่งได้เช่นกัน

แม้ว่าคราวนี้ทุกคนจะเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่า สิ่งที่เขาทำบนเวทีนั้น มันสะท้อนถึงตัวตนที่แท้จริงของเขามากน้อยเพียงใด...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่