อธิบายอย่างงี้ดีกว่า

แบตเตอรี่ที่อยู่ในรถของเรา มีไว้เพื่อทำหน้าที่จ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเสียง เครื่องปรับอากาศ อุปกรณ์ไฟต่างๆ เหมือนกับแบตมือถือที่ทำให้มือถือติดนั่นแหละครับ ใช้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็หมด

แต่....

ในรถของเราก็จะมีอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่เรียกว่า ไดชาร์จ ทำหน้าที่เสมือนแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า คอยผลิตและชาร์จไฟเข้าตัวแบต ทำให้ตัวแบตเตอรี่ของเรานั้นมีไฟฟ้าอยู่ตลอด ใช้ยังไงก็ไม่หมด

แต่(อีกที) ไดชาร์จจะทำงานก็ต่อเมื่อ เครื่องยนต์ทำงานเท่านั้นครับ ถ้าดับเครื่อง ไดชาร์จก็ไม่ทำงาน

สังเกตุง่ายๆ.............คุณขับรถเป็นปี แบตก็ไม่หมด เพราะมีไดชาร์จคอยเติมไฟให้แบตอยู่เสมอ เหมือนคุณเล่นมือถือโดยที่เสียบสายชาร์จไปด้วย เล่นไปเถอะ แบตไม่หมดแน่นอน แต่เมื่อคุณดับเครื่อง แล้วเปิดวิทยุฟังเพลงเปิดแอร์ นั่นก็เปรียบเหมือนคุณถอดสายชาร์ตแบต แล้วเอามือถือมาใช้งาน เล่นเกม เล่นเน็ต เล่นไปนานๆ แบตก็หมดเองครับ

**เพิ่มเติม แล้วอาการแบบนี้ จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตไหม..............ถ้าแบตของคุณยังเก็บประจุไฟได้ดี สตาร์ตติดชึ่งเดียว ก็ยังไม่ถึงเวลาครับ แต่ถ้าเมื่อไหร่เริ่มสตาร์ตติดยาก หรือ ขับรถกลับมาบ้าน หลับฝันดี ตื่นเช้ามาสตาร์ตไม่ติด ต้องพ่วงแบตอยู่บ่อยครั้ง นั่นแปลว่าแบตคุณเสื่อมแล้ว ถึงค่อยเปลี่ยน

เปลี่ยนแบตอะไรดี แบตน้ำ แบตกึ่งน้ำกึ่งแห้ง หรือแบตแห้ง............แล้วแต่เงินคุณเลย เหมือนกันหมด แค่แบตน้ำต้องเสียเวลาหมั่นเติมน้ำกลั่นเท่านั้นเอง แบตกึ่งน้ำกึ่งแห้งเสียเวลาเติมน้ำกลั่นเหมือนกัน แต่ไม่บ่อยและไม่มากเท่าแบตน้ำ และสุดท้าย แบตแห้ง ไม่ต้องไปยุ่งอะไรเลย ไม่ต้องไปเสียเวลาเติมน้ำกลั่น แบตหมดค่อยเปลี่ยนทีเดียว