Insdie Out... (spoiled)
เป็นภาพยนตร์ที่เราอยากดูทันทีที่เห็น Trailer
เป็นภาพยนตร์ที่เราพยายามจะลากคนอื่นไปดูด้วยให้ได้ แต่สุดท้ายก็ดูคนเดียว
เป็นภาพยนตร์ที่เราเข้าไปดูแล้วร้องไห้ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก
แล้วก็ร้องตลอดเป็นระยะ จนกระทั่งจบเรื่อง
ซึ่งเราก็ตอบตัวเองไม่ได้ ว่าร้องไห้ทำไม...
ดีนะเนี่ย ที่ดูคนเดียว
เราว่า มนุษย์ทุกคนเติบโตมาพร้อมกับ Joy จริงๆ นะ
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมเราถึงอยากกลับไปเป็นเด็ก
เพราะช่วงเวลาวัยเด็ก Joy ของเราได้ทำงานอย่างเต็มที่มาก
ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องเศร้า ไม่ต้องคิดมากวุ่นวายอะไรว่าใครจะสนใจหรือเปล่า
ก็ขอให้สนุก ก็มีความสุขดีแล้ว
แต่คงเพราะชีวิตมันซับซ้อนขึ้น ต้องมีการตอบสนองให้เราอยู่รอด
เลยต้องมี Sadness, Angry, fear, Disgust มาอยู่ด้วยกัน
ปรับสมดุลกัน ในวันที่ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นเรื่อยๆ
อารมณ์ที่สำคัญและมักจะมีผลกับเรานานๆ จริงๆ ก็คือ Joy กับ Sadness
ส่วนอารมณ์ตัวอื่นๆ เข้ามาทำหน้าที่เฉพาะตัวของเค้า เพื่อปกป้องเรา
พอ Joy กับ Sadness หายไป
ก็ไม่มีความรู้สึกอะไรสำคัญพอที่จะมีบทบาทกับชีวิตอีกแล้ว
ทุกคนคงมีช่วงเวลาที่ Joy กับ Sadness หลงหายไปบ้างล่ะ
ช่วงที่ตัวชา ตัวสั่น มึนงง ไม่รู้จะรู้สึกยังไง ก็น่าจะเป็นสถานการณ์อะไรแบบนี้มั้ง
ตอนที่ Joy กับ Pingpong พยายามจะขึ้นมาจากเหวข้างล่าง
เราร้องไห้เป็นเผาเต่าเลย
เหมือนเรามองเห็นตัวเองในช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่า..
เราจะกลับมาเป็นอย่างที่เราเคยเป็นได้อีกไหมในชีวิตนี้
เราจะมีความสุขได้อีกไหม...
ช่วงเวลานั้นคงเป็นช่วงที่ Joy ของเราดิ้นรนเป็นอย่างมาก
แล้ว Sadness ก็พยายามประคองตัวเราอยู่อย่างเหน็ดเหนื่อย
พอดูการ์ตูนเรื่องนี้ เราเลยรู้ว่า Joy ยังพยายามจะกลับมาเสมอ
ตัวเราเองยังพยายามที่จะดิ้นรนเพื่อให้เรามีความสุขเสมอ
ไม่ว่าจะหลงทางไปแค่ไหน ไม่ว่าจะทำอะไรหล่นหายไปบ้าง
แต่ Joy ก็ดิ้นรนจะกลับมาหาเราให้ได้
เราเชื่อว่า อาจจะมีบางคน ที่ Joy หาทางกลับศูนย์บัญชาการไม่เจอ
และ Sadness ก็ต้องคุม Control ไปด้วยความเศร้าหมอง
รู้สึกผิดว่าชั้นทำให้เค้าเศร้าอีกแล้ว แต่ชั้นก็ไปไหนไม่ได้
เป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต
อาจจะมีบางคนที่ Joy หาทางกลับเจอ มีบทบาทเหนือ Sadness ได้เหมือนเดิม
และ Sadness ก็จะถูกกดเอาไว้อีก รอวันที่จะได้ทำงาน
เมื่อเราเจอจุดเปลี่ยนผ่านบางอย่าง
Joy กับ Sadness ก็อาจจะหลงทางด้วยกันอีกครั้ง
เพื่อให้ 2 คนนี้เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันสักที
ช่วงเวลาที่เราเศร้าที่สุดในชีวิต
ชีวิตเองนั่นแหละ ที่สอนเราว่า ความเศร้า คือความงดงาม
คือบทกวี คือศิลปะ คือความฉลาดและความเข้าใจ
คือสิ่งจำเป็นในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ (ที่ไม่ได้แก่เพราะกินข้าวอย่างเดียว)
แล้วชีวิตก็สอนเราว่า แต่ความรื่นเริงของชีวิต เค้าก็จะกลับมาหาเราอยู่ดี
เพราะเค้าคือแสงสว่าง เค้าคือคนขับเคลื่อนเราไปข้างหน้า
เค้ามีความพยายาม และเค้าก็รักเราไม่น้อยไปกว่าที่ความเศร้าเป็นห่วงเราเลย
เพียงแต่ก็ต้องอดทนสักหน่อย ให้เวลาเค้านิดนึงในการปรับตัว ในการเข้าใจ
เอาล่ะ
เกาะมันพังไปแล้วก็จริง
แต่ว่าเกาะใหม่ก็กำลังถูกสร้างอยู่นะ
ขอบคุณ Joy
ขอบคุณ Sadness
Inside Out - ความสุขของเรายังอยู่ใช่มั้ย...
เป็นภาพยนตร์ที่เราอยากดูทันทีที่เห็น Trailer
เป็นภาพยนตร์ที่เราพยายามจะลากคนอื่นไปดูด้วยให้ได้ แต่สุดท้ายก็ดูคนเดียว
เป็นภาพยนตร์ที่เราเข้าไปดูแล้วร้องไห้ตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก
แล้วก็ร้องตลอดเป็นระยะ จนกระทั่งจบเรื่อง
ซึ่งเราก็ตอบตัวเองไม่ได้ ว่าร้องไห้ทำไม...
ดีนะเนี่ย ที่ดูคนเดียว
เราว่า มนุษย์ทุกคนเติบโตมาพร้อมกับ Joy จริงๆ นะ
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำไมเราถึงอยากกลับไปเป็นเด็ก
เพราะช่วงเวลาวัยเด็ก Joy ของเราได้ทำงานอย่างเต็มที่มาก
ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องเศร้า ไม่ต้องคิดมากวุ่นวายอะไรว่าใครจะสนใจหรือเปล่า
ก็ขอให้สนุก ก็มีความสุขดีแล้ว
แต่คงเพราะชีวิตมันซับซ้อนขึ้น ต้องมีการตอบสนองให้เราอยู่รอด
เลยต้องมี Sadness, Angry, fear, Disgust มาอยู่ด้วยกัน
ปรับสมดุลกัน ในวันที่ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นเรื่อยๆ
อารมณ์ที่สำคัญและมักจะมีผลกับเรานานๆ จริงๆ ก็คือ Joy กับ Sadness
ส่วนอารมณ์ตัวอื่นๆ เข้ามาทำหน้าที่เฉพาะตัวของเค้า เพื่อปกป้องเรา
พอ Joy กับ Sadness หายไป
ก็ไม่มีความรู้สึกอะไรสำคัญพอที่จะมีบทบาทกับชีวิตอีกแล้ว
ทุกคนคงมีช่วงเวลาที่ Joy กับ Sadness หลงหายไปบ้างล่ะ
ช่วงที่ตัวชา ตัวสั่น มึนงง ไม่รู้จะรู้สึกยังไง ก็น่าจะเป็นสถานการณ์อะไรแบบนี้มั้ง
ตอนที่ Joy กับ Pingpong พยายามจะขึ้นมาจากเหวข้างล่าง
เราร้องไห้เป็นเผาเต่าเลย
เหมือนเรามองเห็นตัวเองในช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่า..
เราจะกลับมาเป็นอย่างที่เราเคยเป็นได้อีกไหมในชีวิตนี้
เราจะมีความสุขได้อีกไหม...
ช่วงเวลานั้นคงเป็นช่วงที่ Joy ของเราดิ้นรนเป็นอย่างมาก
แล้ว Sadness ก็พยายามประคองตัวเราอยู่อย่างเหน็ดเหนื่อย
พอดูการ์ตูนเรื่องนี้ เราเลยรู้ว่า Joy ยังพยายามจะกลับมาเสมอ
ตัวเราเองยังพยายามที่จะดิ้นรนเพื่อให้เรามีความสุขเสมอ
ไม่ว่าจะหลงทางไปแค่ไหน ไม่ว่าจะทำอะไรหล่นหายไปบ้าง
แต่ Joy ก็ดิ้นรนจะกลับมาหาเราให้ได้
เราเชื่อว่า อาจจะมีบางคน ที่ Joy หาทางกลับศูนย์บัญชาการไม่เจอ
และ Sadness ก็ต้องคุม Control ไปด้วยความเศร้าหมอง
รู้สึกผิดว่าชั้นทำให้เค้าเศร้าอีกแล้ว แต่ชั้นก็ไปไหนไม่ได้
เป็นแบบนี้ไปตลอดชีวิต
อาจจะมีบางคนที่ Joy หาทางกลับเจอ มีบทบาทเหนือ Sadness ได้เหมือนเดิม
และ Sadness ก็จะถูกกดเอาไว้อีก รอวันที่จะได้ทำงาน
เมื่อเราเจอจุดเปลี่ยนผ่านบางอย่าง
Joy กับ Sadness ก็อาจจะหลงทางด้วยกันอีกครั้ง
เพื่อให้ 2 คนนี้เรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันสักที
ช่วงเวลาที่เราเศร้าที่สุดในชีวิต
ชีวิตเองนั่นแหละ ที่สอนเราว่า ความเศร้า คือความงดงาม
คือบทกวี คือศิลปะ คือความฉลาดและความเข้าใจ
คือสิ่งจำเป็นในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ (ที่ไม่ได้แก่เพราะกินข้าวอย่างเดียว)
แล้วชีวิตก็สอนเราว่า แต่ความรื่นเริงของชีวิต เค้าก็จะกลับมาหาเราอยู่ดี
เพราะเค้าคือแสงสว่าง เค้าคือคนขับเคลื่อนเราไปข้างหน้า
เค้ามีความพยายาม และเค้าก็รักเราไม่น้อยไปกว่าที่ความเศร้าเป็นห่วงเราเลย
เพียงแต่ก็ต้องอดทนสักหน่อย ให้เวลาเค้านิดนึงในการปรับตัว ในการเข้าใจ
เอาล่ะ
เกาะมันพังไปแล้วก็จริง
แต่ว่าเกาะใหม่ก็กำลังถูกสร้างอยู่นะ
ขอบคุณ Joy
ขอบคุณ Sadness