ทำสีลมให้คนเดินสบายขยายทางเท้า"บีบ"ถนน
สนข.สรุป 18 มาตรการจัดระบบการเดินทางคนกรุง นำร่องในถนนสีลมเพิ่มขนาดทางเท้าบีบช่องจราจรให้คนหันมาให้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่ม
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณรองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)กล่าวว่าสนข.ได้ศึกษาโครงการบริหารจัดการความต้องการในการเดินทางรองรับการพัฒนาโครงข่ายการจราจรและระบบขนส่งสาธารณะในเขตกรุงเทพมหานครเพื่อนำมาวางแผนจัดการรูปแบบการเดินทางให้สอดคล้องกับระบบขนส่งสาธารณะซึ่งได้ข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการที่จะมาดำเนินการทั้งหมด18มาตรการ ดังนี้ 1.มาตรการทำงานแบบยืดหยุ่น2.มาตรการแผนการเดินทาง3.มาตรการณรงค์4.มาตรการเชื่อมต่อและเปลี่ยนรูปแบบการเดินทาง5.มาตรการพื้นที่จอดแล้วจรร่วมกับชุมชน6.มาตรการสนับสนุนขนส่งสาธารณะระบบด้ายระบบตั๋วร่วม7.มาตรการสนับสนุนการเดินทางโดยไม่ใช้เครื่องยนต์และการปรับปรุงการเชื่อมต่อการเดินทางระบบขนส่งสาธารณะ8.มาตรการปรับช่องจราจร9.มาตรการสกายวอล์ค10.มาตรการกองทุนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ11.มาตรการสนับสนุนรถสาธารณะ12.มาตรการใช้ระบบไอทีช่วยการจราจรและรถสาธรณะ12.มาตรการสนับสนุนช่งเดินรถมวลชน13.มาตรการลดผู้ขับขี่อันตรายบนท้องถนน14.มาตรการห้ามรถบางประเภทเข้างบางพื้นที่และบางเวลา15.มาตรการเก็บค่าใช้ถนน16.มาตรการเพิ่อมค่าครองครองรถยนต์17.มาตรการห้ามจอกและหยุดรถบริเวณทางแยก18.มาตรการห้ามจอดหรือหยุดรถบริเวณกากบาทเหลืองโดยทั้ง18มาตรการจะแบ่งการดำเนินการออกทั้งหมดเป็น3ระยะซึ่งระยะที่1จะเป็นระยะเร่งด่วนต้องดำเนินการภายในปี2559-2560โดยส่วนใหญ่จะเน้นมาตรการเชิงสนับสนุนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อรองรับระบบโครงข่ายรถไฟฟ้าที่มีในปัจจุบันดังนั้นสนข.จึงได้มีการกำหนดโครงการนำร่องการปรับเปลี่ยนช่องจราจรในถนนสีลม
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่าปัจจุบันถนนสีลมมีขนาด 6ช่องจราจรและมีรถไฟฟ้าผ่านถึง2เส้นทางรวมทั้งมีปริมาณคนเดินทางเท้าประมาณ1,000-2,000คนต่อชั่วโมงดังนั้นเพื่อความะสดวกให้ประชาชนสามารถเดินทางไปต่อระบบรถไฟฟ้าได้สนข.จึงมีแนวคิดที่จะสนับสนุนการเดินทางเท้าโดยการปรับขนาดทางเท้าให้กว้างมากขึ้นและลดช่องจราจรเดินรถให้เหลือน้อยลงเพื่อเป็นการบีบให้ประชาชนในย่านถนนสีลมใช้รถให้น้อยลงทั้งนี้สนข.ได้มีการกำหนดพื้นที่ดำเนินการในถนนสีลมฝั่งขาเข้าจากถนนพระราม4มุ่งหน้าถนนนราธิวาสบริเวณใต้บีทีเอสศาลาแดงระยะทาได้ศึกษาเสร็จสิ้นแล้วและอยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร(กทม.)เพื่อให้รับมาตรการดังกล่าวไปดำเนินการออกแบบและประเมินงบประมาณคาดว่ากทม.จะเริ่มดำเนินการได้ประมาณปี2559ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวอาจจะส่งผลให้ผู้ใช้รถมีพื้นที่ในการขับขี่น้อยลงดังนั้นเมื่อผู้รถเห็นถึงความลำบากในการใช้ถนนก็จะหันมาใช้รถระบบขนส่งมากยิ่งขึ้นก็ดังนั้นภายหลังจากที่ดำเนินการได้แล้วก็จะต้องมีการประเมิรและติดตามดูผลด้วยว่ามาตรการสามารถใช้ได้ผลหรือไม่.
http://www.dailynews.co.th/bangkok/342832
ทำ สีลม ให้คนเดินสบาย ขยายทางเท้า บีบช่องจราจร ให้คนหันมาให้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่ม
สนข.สรุป 18 มาตรการจัดระบบการเดินทางคนกรุง นำร่องในถนนสีลมเพิ่มขนาดทางเท้าบีบช่องจราจรให้คนหันมาให้ระบบขนส่งสาธารณะเพิ่ม
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณรองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร(สนข.)กล่าวว่าสนข.ได้ศึกษาโครงการบริหารจัดการความต้องการในการเดินทางรองรับการพัฒนาโครงข่ายการจราจรและระบบขนส่งสาธารณะในเขตกรุงเทพมหานครเพื่อนำมาวางแผนจัดการรูปแบบการเดินทางให้สอดคล้องกับระบบขนส่งสาธารณะซึ่งได้ข้อสรุปเกี่ยวกับมาตรการที่จะมาดำเนินการทั้งหมด18มาตรการ ดังนี้ 1.มาตรการทำงานแบบยืดหยุ่น2.มาตรการแผนการเดินทาง3.มาตรการณรงค์4.มาตรการเชื่อมต่อและเปลี่ยนรูปแบบการเดินทาง5.มาตรการพื้นที่จอดแล้วจรร่วมกับชุมชน6.มาตรการสนับสนุนขนส่งสาธารณะระบบด้ายระบบตั๋วร่วม7.มาตรการสนับสนุนการเดินทางโดยไม่ใช้เครื่องยนต์และการปรับปรุงการเชื่อมต่อการเดินทางระบบขนส่งสาธารณะ8.มาตรการปรับช่องจราจร9.มาตรการสกายวอล์ค10.มาตรการกองทุนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะ11.มาตรการสนับสนุนรถสาธารณะ12.มาตรการใช้ระบบไอทีช่วยการจราจรและรถสาธรณะ12.มาตรการสนับสนุนช่งเดินรถมวลชน13.มาตรการลดผู้ขับขี่อันตรายบนท้องถนน14.มาตรการห้ามรถบางประเภทเข้างบางพื้นที่และบางเวลา15.มาตรการเก็บค่าใช้ถนน16.มาตรการเพิ่อมค่าครองครองรถยนต์17.มาตรการห้ามจอกและหยุดรถบริเวณทางแยก18.มาตรการห้ามจอดหรือหยุดรถบริเวณกากบาทเหลืองโดยทั้ง18มาตรการจะแบ่งการดำเนินการออกทั้งหมดเป็น3ระยะซึ่งระยะที่1จะเป็นระยะเร่งด่วนต้องดำเนินการภายในปี2559-2560โดยส่วนใหญ่จะเน้นมาตรการเชิงสนับสนุนที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อรองรับระบบโครงข่ายรถไฟฟ้าที่มีในปัจจุบันดังนั้นสนข.จึงได้มีการกำหนดโครงการนำร่องการปรับเปลี่ยนช่องจราจรในถนนสีลม
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่าปัจจุบันถนนสีลมมีขนาด 6ช่องจราจรและมีรถไฟฟ้าผ่านถึง2เส้นทางรวมทั้งมีปริมาณคนเดินทางเท้าประมาณ1,000-2,000คนต่อชั่วโมงดังนั้นเพื่อความะสดวกให้ประชาชนสามารถเดินทางไปต่อระบบรถไฟฟ้าได้สนข.จึงมีแนวคิดที่จะสนับสนุนการเดินทางเท้าโดยการปรับขนาดทางเท้าให้กว้างมากขึ้นและลดช่องจราจรเดินรถให้เหลือน้อยลงเพื่อเป็นการบีบให้ประชาชนในย่านถนนสีลมใช้รถให้น้อยลงทั้งนี้สนข.ได้มีการกำหนดพื้นที่ดำเนินการในถนนสีลมฝั่งขาเข้าจากถนนพระราม4มุ่งหน้าถนนนราธิวาสบริเวณใต้บีทีเอสศาลาแดงระยะทาได้ศึกษาเสร็จสิ้นแล้วและอยู่ระหว่างหารือกับหน่วยงานท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร(กทม.)เพื่อให้รับมาตรการดังกล่าวไปดำเนินการออกแบบและประเมินงบประมาณคาดว่ากทม.จะเริ่มดำเนินการได้ประมาณปี2559ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวอาจจะส่งผลให้ผู้ใช้รถมีพื้นที่ในการขับขี่น้อยลงดังนั้นเมื่อผู้รถเห็นถึงความลำบากในการใช้ถนนก็จะหันมาใช้รถระบบขนส่งมากยิ่งขึ้นก็ดังนั้นภายหลังจากที่ดำเนินการได้แล้วก็จะต้องมีการประเมิรและติดตามดูผลด้วยว่ามาตรการสามารถใช้ได้ผลหรือไม่.
http://www.dailynews.co.th/bangkok/342832