ในวันที่เหตุการณ์ในชีวิตจำเป็นต้องพรากเรากับลูกระยะหนึ่ง เราหวังว่าคนที่ดูแลลูกให้เราจะรักและเห็นความสำคัญของความรักอย่างที่เรามีให้ลูกของเรา
วันที่เราต้องตัดสินใจถอนรากถอนโคน ย้ายถิ่นฐานไปประเทศไอร์แลนด์ สองคนพ่อแม่ต้องเดินทางไปหาบ้านเช่าไว้ก่อน จำเป็นต้องฝากน้องไว้กับบ้านพัก ไปดูหมาหลายแห่ง ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแถว ถ้าเป็นโรงพยาบาลที่มีเจ้าของเป็นสัตวแพทย์ก็จะมีลูกจ้างช่วยดูแลให้ตอนกลางวัน ฟังจากคำแนะนำจากพนักงานจากคาร์โก้ ก็แนะนำให้พักใกล้สนามบินจะได้ทำงานง่ายสำหรับคาร์โก้ตอนส่งน้องตามเราไป เราไปดูแล้วก็รับไม่ได้ เพราะน้องต้องอยู่ตั้ง 30 วันก่อนเดินทาง ถ้าให้น้องอยู่ในกรงแล้วแค่เอาอาหารมาให้ พาออกไปเดินตามหน้าที่ที่สั่งมา ตามค่าจ้างที่ได้เท่านั้นขอเป็นทางเลือกสุดท้าย เดชะบุญที่เพื่อนพี่สาวผู้รักหมาแนะนำให้น้องได้ไปอยู่ที่ Dog Society บรรยากาศแรกที่เข้าไปคือ พวกน้องๆตั้งแต่เจ้าของไปถึงพนักงานทุกคนมีหัวใจรักหมาเหมือนกันหมด ไม่ใช่แค่ต้องรักหมา แต่ต้องรักเจ้าของหมาด้วย เขาเข้าใจว่าเราแคร์ลูกเราขนาดไหน และเราเลี้ยงแบบใส่ใจไม่ใช่ตามใจ เราให้ความสำคัญกับเขาเต็มที่ เรามองเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว พอพ่อกับแม่มีความเชื่อมั่น ลูกชายก็เชื่อมั่นวิ่งไปเล่นกับพี่เลี้ยงได้ทันที พอเราเดินทางมาถึงไอร์แลนด์ เราดูเขาผ่านกล้องวงจรปิดทุกวัน เราส่งใจเป็นกำลังใจให้ทั้งตัวเขาและพี่เลี้ยงทุกคนในการทำงาน และเราก็ไม่ผิดหวังในตัวน้องเลย ที่ทำตัวน่ารักกับพี่เลี้ยง (มีคนพิเศษของเขาคนเดียว คนอื่นแค่ยืนใกล้ๆแต่ไม่เล่นด้วยคับ)  เราไม่ผิดหวังใน Dog Society ด้วย ที่ทำให้ความกังวลต่างๆ หายไป คุ้มค่ากับความสัมพันธ์ที่เราเลือกที่จะสร้างกับ Dog Society Thank You!!! คุณมิ้งค์ คุณลึก และทีมงาน Dog Society ทุกคน สำหรับเวลาและความพยายามที่ทำให้หนึ่งเดือนดีๆ ในกรุงเทพฯของวินสตั้น และการเดินทางมาพบพ่อกับแม่ที่รออยู่ที่ Ireland ค่ะ  / John +Jeab&Winston (Republic of Ireland)