ก่อนอื่น  ขอเป็นกำลังใจให้รัฐจับคนร้ายให้ได้ในกรณีระเบิดที่ราชประสงค์




พฤติกรรมและความเห็นของนายสุวิทย์ในตอนนี้  นอกจากจะไม่ส่งผลดีใดๆ ทั้งต่อตัวเองและคนอื่นๆ แล้วยังเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ ในการเพียรยุยงส่งเสริมเติมไฟเข้ากองเพลิงแห่งความเกลียดชังกันและกันให้ลุกโชนหนักขึ้นไปอีก.....หลักฐานทั้งจากฝ่ายบ้านเมืองเองก็ยังไม่แน่ชัด   นายสุวิทย์ก็ด่วนสรุปโยงเหตุการณ์ด้วยอคติซะอย่างนี้   แต่ปากยังพร่ำหาความปรองดองและชอบธรรมเพื่อประโยชน์อะไร???


ไม่นานมานี้พระรูปหนึ่งโดนยิงมรณภาพที่อุดรฯ เจ้าหน้าที่จับคนร้ายได้   แล้วนำคนร้ายมาขอขมาต่อพระผู้เป็นพ่อของพระผู้ตาย......พระผู้เป็นพ่อผู้สูญเสียลูกชายยกโทษให้ผู้ร้าย  ปล่อยให้กฏหมายทางโลกจัดการเอง   ส่วน “ทางธรรม” ถือว่าเป็นอโหสิกรรมจากผู้เป็นพ่อ  ไม่จองเวรจองกรรมกัน....................เรื่องราวอย่างนี้ไม่รู้ว่าซึมซับเข้ากะโหลกของนายสุวิทย์ที่ห่มเหลืองหลอกชาวบ้านไปวันๆ หรือไม่?  


อดีตสามเณรเปรียญรูปหนึ่งโพสต์ในเฟสบุ๊คของท่านต่อกรณีระเบิดที่ราชประสงค์ในเชิงว่า  ศาสนาพุทธจะยังคงเป็นที่อบรมบ่มนิสัยให้คนไทยไม่รักไม่เกียจชังกันและกัน   ..ท่านเป็นอดีตสามเณรเปรียญธรรมตอนนี้เป็นพระอายุรุ่นหลานนายสุวิทย์แท้ๆ  แต่วุฒิภาวะและเสนอมุมมองต่อเหตุการณ์นี้แตกต่างกันราวขาวกับดำ


ญาติโยมไม่ว่าฝ่ายไหนๆ ส่วนใหญ่เขาก็ยังไม่วิพากย์วิจารณ์หรือชี้แนะอะไรมากมายนัก   และเชื่อว่าทุกคนที่มีใจเป็นธรรมจะยังคงนิ่งและส่งกำลังใจให้รัฐบาลจับคนร้ายให้ได้ในเร็ววัน.....แต่อย่าทำตัวน่ารังเกียจอย่างนายสุวิทย์เลย