[CR] รีวิว Mi Band ตรงไป-ตรงมา มันมีดีอะไร? ใส่ทำไม?

สวัสดีค่ะ ตามชื่อกระทู้เลยค่ะ จะมารีวิว Mi Band นะคะ ออกตัวแรงก่อนเลยค่ะ ว่า 1.เราเป็นคนที่โง่เทคโนโลยีมากกกกก 2.เขียนกระทู้ครั้งแรกในชีวิต 3.เขียนเพราะอยากเขียนค่ะ ต้นตอของการเขียนคือมีเพื่อนๆในเฟสบุคขอให้รีวิวค่ะ (ไหนๆก็ไหนๆลงพันทิปไปเลยแล้วกัน เผื่อคนอื่น”อาจจะ”อยากรู้บ้าง) จะพยายามทำให้ดีที่สุดแล้วกันนะคะ 555555

สำหรับคนที่เกิดมาไม่เคยได้ยินว่า Mi Band มันคืออะไรบนโลก? มันคือ ไอ่สิ่งนี้ค่ะ



เดี๋ยวขอเล่าแบบบ้านๆตามลำดับเวลานะคะ (เพื่อความเข้าใจง่ายและเป็นกันเอง)

ตอนที่1 ปมในใจ (ต้นปี2015)
คือ เห็นเพื่อนใส่ Jawbone แล้วอิจฉาริษยาอยากได้ใคร่มีบ้างค่ะ ถามเผือกใหญ่เลยค่ะ มันทำไรบ้าง? ใช้ยังไง? พอรู้ว่ามันทำไรได้บ้างเท่านั้นแหละค่ะ หูตาแวววาว อู้หูอ้าหาอยากได้ๆ!!! พอมารู้ราคาเท่านั้นแหละค่ะ คิดหนักเลยค่ะ คืออีเพื่อนบอกว่ามันซื้อมาจากเว็บอเมซอน ราคา3000ฝ่า ถ้าในเมืองที่ที่เอาเข้ามาขาย 5000ฝ่า  (เลิกคิดต่อ คิดในในกูวิ่งแบบบ้านๆด้วยแอพไนกี้รันก็ได้วะ)

ตอนที่2 เชื่อซู่ชิง (ปลายเดือนพ.ค. 2015)
ดิฉันดูรายการ Cool Tech ช่อง Voice TV โดยบังเอิญค่ะ พี่ซู่ชิงพิธีกร(คนในรูปปลากรอบ) เค้าแนะนำสินค้าเจ้ามี่แบนแหละค่ะ พี่เค้าร่ายสรรพคุณใหญ่เลยค่ะ ว่านับก้าวเดิน+ระยะทางเดินได้ ตรวจวัดการนอนได้ รายงานผลผ่านแอพในมือถือได้ทั้งไอโฟนและแอนดรอยด์ และ ราคาถูกมากแค่ 14 เหรียญยูเอส และ ขายดีมากกกกกในอเมริกา(ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเกินล้านตัว) โหยยยยยยยยยยยยย  ดีอะ อยากๆๆๆๆๆๆๆๆ



เท่านั้นแหละค่ะคุณผู้ชม!!! จะรออะไรอีกหละคะคุณขา??? เปิดคอมหาซื้อออนไลน์ทันทีเลยค่ะ เซิชๆๆใหญ่เลยค่ะ ลองเทียบราคาดูสามสี่เว็บ สุดท้ายมาลงเอยที่เว็บ allbuy.com ค่ะ ที่เลือกเว็บนี้เพราะ ราคาถูกสุดแล้วค่ะ และที่สำคัญ”ส่งฟรีถึงประตูบ้าน”ค่ะ (ดูรูปปลากรอบเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้นนะคะ)



จากนั้นก็รีบซื้อทันทีเลยค่ะ เว็บจะมีอีเมลมายืนยันค่ะว่า ซื้อเรียบร้อยแล้ว จะจัดส่งภายใน 7-20วัน

ตอนที่3 ลงไม้ลงมือ(23 มิ.ย. 2015)
พอของมาก็รีบแกะ และ เซ็ตอัพมันเลยค่ะ ในกล่องมีคู่มือภาษาจีนล้วนๆมาให้1แผ่น มีสาย1เส้น ตัวเครื่อง 1 อัน และที่ชาร์จ 1 อัน แกะแล้วประกอบแล้วได้หน้าตาประมาณนี้



ก่อนอื่นเราก็โหลดแอพมันมาก่อนนะคะ ก็ง่ายๆบ้านๆ พิมพ์เซิชใน app store ว่า  mi band มันก็โผล่มาแล้วค่ะ แอพมันมีจริงๆว่า Mi Fit ค่ะ



จากนั้นเราก็ค่อยๆทำตามที่แอพมันบอกในการ pair เครื่องกับมือถือเราอะค่ะ มันก็จะบอกเราประมาณว่า ใส่ชื่อ-อีเมลล์-พาสเวิร์ด รายละเอียดสุขภาพเราพวกน้ำหนักส่วนสูง เลือกหน่วยในการายงานผล(กิโลเมตร ไมล์ ปอนด์ กิโลกรัม ฯลฯ) ใส่มือซ้ายหรือขวา เป้าหมายจำนวนก้าวในการเดินต่อวัน และอื่นๆ และตอนที่มันแพร์ มันก็จะบอกให้วางมือถือใกล้ๆเครื่อง และ ตอนนึงมันบอกให้เราเอานิ้วแตะที่เครื่องเพื่อบ่งบอกยืนยันความเป็นเจ้าของด้วย (จำได้ไม่หมด แต่ตอนเซ็ตอัพก็ประมาณนี้แหละค่ะ)

ตอนที่4 ใช้จริงๆ

ในชีวิตประจำวัน มันมีพระเดชพระคุณต่อเราดังต่อไปนี้ค่ะ

1.นับก้าวเดินก้าววิ่งของเรา ว่าเป็นระยะทางเท่าไหร่?
•    เวลาเปิดแอพ มันก็จะ sync กันเองโดยอัตโนมัติเลยค่ะ (มันเชื่อมกับมือถือเราผ่าน Bluetooth) มันจะรายงานผลว่า สถานการณ์เดินของเราวันนี้เป็นไงบ้าง  ถ้าดูจากรูปด้านล่าง เราจะเห็นอีรอบรอบวงกลม ซึ่งมันจะโชว์ว่า เราเดินไปเท่าไหร่แล้วตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ (ของเราตั้งไว้ 8,000 ก้าว) ซึ่งถ้าดูจากรูป คือหมายความว่า เรายังเดินไม่ถึงครึ่งหนึ่งของเป้าที่ตั้งไว้เลย และอีกนัยหนึ่ง มันก็เป็นเครื่องเตือนเราด้วยว่า เราเหลืออีกเยอะแค่ไหน กว่าจะ hit target


•    รายงานผลอย่างละเอียดลึกซึ้งว่า ช่วงเวลาไหนเดินเยอะ เดินน้อย จากรูปถ้าจำไม่ผิด ช่วง ตี1- 7 โมงเช้า เรานอนกราฟจึงไม่มีแท่งๆ และช่วง18.00-19.00 เราวิ่งออกกำลังกายบนลู่วิ่ง กราฟแท่งจึงดีดสูงช่วงนั้น


•    มันสามารถบันทึกเรคคอร์ดของเราเพื่อเปรียบเทียบกันวันก่อนๆได้ด้วยค่ะ เราจะรู้ทันทีว่า วันไหนเดินเยอะเดินน้อย  แล้วก็กลับไปดูวันเก่าๆได้ด้วยค่ะว่า เราเคยได้เดินหรือวิ่งได้วันละกี่ก้าว วิธีการดูก็ง่ายมาก เราก็จิ้มลงไปในกราฟวันที่อยากรู้ ผลมันก็จะโชว์ข้างล่างค่ะ


•    ถ้าวันไหน เราฟิตจัด เดินหรือวิ่งทะลุเป้า แบคกราวน์แอพจะเปลี่ยนเป็นสีส้มเพื่อแสดงความยินดีกับเราค่ะ 55555


•    ถ้าดึกแล้วยัง ไม่ hit goal มันก็จะไม่เปลี่ยนสี และคอมเม้นต์เราว่า Chill day for me


2.รายงานผลการนอนของเราว่า เราหลับนานแค่ไหน? หลับลึกนานเท่าไหร่? หลับไม่ลึกนานเท่าไหร่? ทั้งคืนตื่นกี่ที?

•    มันบอกเราได้ค่ะว่าเมื่อคืน เราหลับไปนานแค่ไหน จากภาพบอกว่า หลับไป 7 ชั่วโมง 17 นาที ซึ่งเราหลับลึกเพียงแค่ 1 ช.ม. 59 นาทีเท่านั้นเอง


•    ซึ่งถ้ากดเข้าไปดูดีเทลล์ มันสามารถแตกยิบย่อย ให้ดูได้เลยว่า เมื่อคืนเราหลับเป็นไง?
กล่าวคือ ถ้าเราเอานิ้วจิ้มไปบนแท่ง”ม่วงอ่อน” มันก็จะแจกแจงผลการนอน ช่วงที่เรา”หลับไม่ลึก” จากรูปคือเราจิ้มช่วงแท่งใหญ่สุดซ้ายสุด มันจึงโชว์ผลว่า เรานอนหลับไม่ลึก ณ ช่วงเวลา เที่ยงคืน 37นาที ถึง ตีสาม 30 นาที


ถ้าเราเอาเอานิ้วจิ้มแท่ง “ม่วงเข้ม” มันแสดงผลช่วงที่เรา “หลับลึก” ซึ่ง อันนี้เราจิ้มแท่งม่วงเข้มขวาสุดซึ่งมันอ่านผล ให้เราว่า เราหลับลึกช่วง หกโมงแปดนาที ถึง หกโมงห้าสิบเอ็ดนาที


ส่วนแท่ง “สีส้ม” ถ้าเราเอานิ้วจิ้มไป มันจะรายงานผล “การตื่นกลางดึก” ของเรา  อันนี้ของเราตื่นมาเข้าห้องน้ำ5555555 เราตื่นช่วง 7.34 เข้าเสร็จกลับไปเอาหัวฟาดเตียงหลับต่อ ซึ่งผล็อยหลับไปตอน 7.43  


•    เช่นเดียวกับวิ่ง มันสามารถเปรียบเทียบพฤติกรรมการนอนย้อนหลังได้ โดยแบ่งแท่งกราฟเป็นแบบรายวันและในหนึ่งแท่งแบ่งเป็นอัตราส่วน หลับลึก:หลับไม่ลึก (เราเคยมีวันที่หลับแบบไม่มีช่วงม่วงเข้มด้วย คือแบบกลัวไม่ตื่น กลัวตื่นอาบน้ำแต่งตัวไปสนามบินไม่ทัน หลับแบบไม่กี่ชั่วโมงฝันนู่นนี่ตลอด พอตื่นมาดูแอพเลยตกใจเบาๆ)


3.ตั้งปลุก
เราสามารถตั้งปลุกได้ด้วยนะ มันไม่ร้อง แต่สั่นอย่างเดียว อันนี้เราชอบมาก เพราะ ไม่รบกวนใครและไม่ตกใจดี มันจะสั่น อื๊ดดดดด อื๊ดดดดดดด แบบมือถือสั่นอะค่ะ


4.สั่นบอกเมื่อมีคนโทรเข้า
อันนี้เราตั้งได้ค่ะ ว่าจะให้มันสั่นกี่วินาที แต่เราตั้ง แปดวิ พอ เพราะ ไม่เห็นประโยชน์ของการตั้งแบบมากวินาทีมากกว่านี้ 5-8 วิก็รู้แล้วว่ามีคนโทรมา


5.สั่นบอกเมื่อเราเดินครบจำนวนก้าวตามเป้าหมายที่เซ็ตไว้แล้ว
มันก็จะสั่นบอก อื๊ดดดดดด อื๊ดดดดดดด มีไฟกระพริบ (บอกว่าเดินครบตามเป้าแล้วนะ) และสีไฟกระพริบตั้งได้นะ ชอบสีไรก็สีนั้นไป

6. บันทึกน้ำหนักในแต่ละวัน
(อันนี้เราไม่ได้ใช้ ไม่มีรายละเอียด แหะๆ) และล่าสุดสามารถ ใช้งานคู่กับ Mi scale (เครื่องชั่งน้ำหนักยี่ห้อของมันเอง)ได้แล้ว เข้าใจว่าพอขึ้นชั่งแล้วมันสร้าง sync ขึ้นมาบันทึกบนแอพได้เลย


7.แชร์ผลการนอน-ผลการเดิน/วิ่ง-ผลการควบคุมน้ำหนัก ลงบนโลกโซเชียลให้เพื่อนๆเราดูได้ (ถ้าอยากอวด)


เพิ่มเติม: ในส่วนของโพรไฟล์ของเราเพื่อแชร์ข้อมูล เราสามารถตั้งชื่อ ใส่รูปเราก็ได้นะ แต่เราไม่ได้ทำ เพราะไม่ได้ตั้งใจจะใช้งานเพื่อแชร์ผล (ตั้งใจใช้มี่แบนด์เพื่อดูข้อมูลของตัวเองลับๆคนเดียว)


ตอนที่ 5 รู้เช่นเห็นชาติ (กลางเดือน ส.ค. 2015)

หลังจากที่เราใช้จนครบเดือน และล่วงเลยมาจนแบตหมดไปแล้วรอบนึงแล้ว (ใช้เวลาทั้งหมด 48 วัน กว่าแบตจะยอมหมด 55555555) พบว่า เจ้ามี่แบนด์ของเรามี “ข้อดี-ข้อเสีย” ดังนี้

ข้อดี
1. แบตเตอรี่อยู่ยั้งยืนยงมาก เราใช้ 48 วันกว่าจะยอมหมด (ความหมดเร็วหมดช้าอยู่ที่ว่าเราใช้ลูกเล่นมันเยอะแค่ไหน ถ้าไม่ปลุก ไม่แจ้งเตือนตอนโทรเข้า คาดว่ามันจะใช้ได้นานกว่านี้)
2. ราคาถูกมากกกกกกกก อันนึงไม่ถึง 500 ร้อยบาทไทย เลยซื้อได้แบบไม่ต้องคิดมาก และถ้าเปรียบเทียบกับ wearable technology อื่นๆ จัดว่าถูกมากเลยทีเดียว
3. ใช้แสดงผล ได้ทั้ง ios และ Android
4. เบา เล็ก ไม่เกะกะ ไม่รำคาญ
5. วัดการนอนได้ค่อนข้างแม่นยำ
6. กันน้ำ อันนี้ ฟินส์มาก คือ เราว่ายน้ำด้วย ใส่ว่ายน้ำได้สบาย อาบน้ำ ล้างจาน ซักผ้า ซักรองเท้า ทำได้สบายใจไม่มีประเด็น  
7. ปลุกเราแบบสั่นๆเงียบ ไม่น่ารำคาญเหมือนนาฬิกาปลุกทั่วไป
8. คนโทรมา เรารู้ แม้มือถือเราไม่ได้อยู่กับตัวเรา เราอาจวางมือถือไว้ซักที่แล้วเดินไปทำนู่นนี่ พอมันสั่นเราจะรู้ทันทีและเดินไปรับโทรศัพท์ได้เลย
9. สายปรับขนาดได้ (ข้อมืออ้วนผอมแค่ไหนก็ใส่ได้) สายเปลี่ยนได้ ถ้าไม่ชอบสีดำที่มากับเครื่องก็ซื้อสีอื่นๆมาเปลี่ยนได้ (เว็บ allbuy ขายเส้นละ 3 USD)
10. เหมาะกับคนใส่ใจสุขภาพ มันทำให้เรา กระตือรือร้นขึ้นกว่าเดิมนิดนึงว่า เรามี target การเดินที่ต้องhitในแต่ละวัน (สร้าง KPI ด้านสุขภาพให้ตัวเอง)

ข้อเสีย
1. การที่เราใส่มีแบนด์ตลอดเวลา บางทีก็ชอบมโนไปเองว่าใส่นาฬิกาออกมาจากบ้านแล้ว บางทีชอบยกขึ้นมาดูเพราะเรานึกว่าเป็นนาฬิกา (ซึ่งชีวิตจริงมันไม่ใช่!!!)
2. ระบบแจ้งเตือนโทรศัพท์เข้ามันมึนๆ กล่าวคือ ช่วงแรกๆตอนเริ่มใช้หลังชาร์จแบตเต็ม ก็สั่นทุกครั้งเมื่อมีสายเข้า แต่อยู่ไปอยู่มาก็เลิกสั่นไปเอง พอแบตหมด ชาร์จใหม่ หลังแบตเต็มใหม่ๆ ก็สั่นๆเมื่อมีคนโทรเข้า แล้วอยู่ๆก็เลิกสั่นไปเองอีกแล้ว (ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม???)
3. เนื่องจากมันวัดการออกกำลังกาย ได้แค่เดินกับวิ่ง ฉะนั้นเมื่อว่ายน้ำ มันนับก้าวเป็นเดินให้?!?!?!? (เอาวะกำขี้ดีกว่ากำตด ดีกว่ามันไม่วัดอะไรเลย)
4. นอนกลางวันไม่นับ! คือเราเคยป่วยมาก แล้วนอนเกือบทั้งวัน ช่วงที่เรานอนกลางวัน มันไม่นับเป็นนอน(ไม่รู้ว่ามันจับไม่เจอหรือยังไง หรือระบบมันตั้งไว้ ให้มนุษย์เรานอนได้แค่ครั้งเดียว) กล่าวคือ มันแสดงผลเป็น อยู่เฉยๆ ไม่ได้เดินไม่ได้อะไร
5. ทำอะไรไม่ค่อยได้มาก เพราะว่ามันไม่มีจอแสดงผล จึงแจ้งเตือนนั่นนี่ได้แค่ สั่นๆ กับ มีเม็ดไฟเล็กๆกระพริบๆ คนใช้งานต้องจำสัญลักษณ์ของสีไฟที่กระพริบ กับลักษณะการสั่นให้ดี (แต่จริงๆก็ไม่ได้มีอะไรให้จำมาก หลักๆก็โทรเข้า เดินครบtarget และ แบตหมด)
6. ดูรกเกะกะนิดนึง เมื่อเราต้องใส่นาฬิกาด้วยอีกเรือนนึง มันดูขี่กันซ้ำซ้อนไงไม่รู้ ยิ่งถ้าต้องแต่ตัวสวยงามเป็นทางการ อาจต้องถอดมี่แบนด์ออก เพื่อความเนี๊ยบเป๊ะของการแต่งกาย

(มีต่อ)
ชื่อสินค้า:   Mi Band
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่