6. ภคิณ ไก่แก้ว


ชื่อนี้อาจจะไม่คุ้นหูแฟนบอลซักเท่าไหร่ ภคิณ ไก่แก้ว หรือ ชื่อเดิมคือ ศุภเสกข์ ไก่แก้ว อาจจะไม่ได้เป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงมากนัก แต่ผลงานในสนามกับบางกอกกล๊าส เอฟซี ในช่วง 3 ปีที่ผ่าน ถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยมทีเดียว โดยในฤดูกาล 2013 ภคิณได้ลงสนามไปเพียง 21 เกม แต่ยิงไป 5 ประตูกับ 5 Assist ซึ่งเป็นคนจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูมากที่สุดในทีมในฤดูกาลนั้น ฤดูกาล 2014 ได้ลงสนามไป 32 เกม ยิงไป 4 ประตูกับ 8 Assist


ซึ่งจ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูได้มากเป็นอันดับ 2 ของทีมรองจาก ทาเชฟสกี้คนเดียว ขณะที่ฤดูกาลปัจจุบันได้ลงสนามไป 19 นัด จาก 20 เกม ทำไป 4 ประตูกับ 1 Assist ซึ่งยิงได้มากเป็นอันดับ 2 ในทีมเวลานี้ รองจาก ทาเชฟสกี้ ภคิณเป็นนักเตะที่มีทีมเวิร์กที่ดี มีสปีดบอลเร็ว ชอบจ่ายบอลจังหวะเดียว ซึ่งน่าจะเข้ากับระบบของซิโก้ได้ดี มีทีเด็ดของลูกฟรีคิก และสอดขึ้นไปยิงประตูได้เก่ง แต่ปัญหาของเค้าคือ เรื่องความสม่ำเสมอที่หากเกมไหน ฟอร์มหลุดแล้ว ก็หลุดแบบออกทะเล ผิดพลาดง่ายๆ  ถือเป็นทางเลือกที่น่าทดลองไม่น้อยสำหรับทีมชาติไทยในเวลานี


5. ดัสกร ทองเหลา


ชื่อนี้ในทีมชาติ อาจจะทำให้แฟนบอลส่วนใหญ่ร้องยี้ไม่น้อย สืบเนื่องจาก ตลอด 10 ปีในนามทีมชาติไทยของดัสกร ถือเป็นยุคที่ตกต่ำที่สุดยุคนึงของทีมชาติไทย ซึ่งไม่สามารถคว้าแชมป์ AFF SUZUKI CUP ได้แม้แต่ครั้งเดียว และล้มแหลวแทบทุกรายการที่เข้าร่วมการแข่งขัน และดัสกรคือนักเตะกำลังหลักที่มักถูกวิพากษ์วิจารณ์มากมาย


ไม่ว่าจะเป็นการครองบอลอยู่กับตัวนานเกินไป ออกบอลช้า หรือมักจะลงมาล้วงบอลลึกเกินไป ทำให้เกมขาดความไหลลื่นและการเล่นเป็นทีม แต่หากมองผลงานในสโมสรแล้ว กัปตันโก้ ยังมีผลงานที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในฤดูกาลที่แล้ว ที่เค้าทำไปถึง 10 ประตูกับ 9 Assist ขณะที่บทบาทในฤดูกาลนี้ของดัสกร เปลี่ยนไป เมื่อ ดราแกน ทาลายิซ มอบหมายให้ สารัช อยู่เย็นลงมาเล่นเป็นตัว hold บอล เหมือนที่ทำผลงานได้ดีในทีมชาติไทย และขยับดัสกรขึ้นมาเล่นสูงขึ้น ทำให้บทบาทของดัสกรดูลดลง


แต่ดูจะเป็นผลดีกับทีม ที่ทำให้สปีดเกมเร็วขึ้น และเมื่อดัสกรได้ยืนสูงขึ้น จังหวะ killer pass สลับบอลยาว ยังเป็นลูกที่เป็นทีเด็ดของนักเตะรายนี้เช่นเดิม อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ดัสกรเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในตำแหน่งนี้ ก็คือ การประสานงานของดัสกร กับ สารัช และ ธีรศิลป์ 2 ตัวหลักในทีมชาติ ทำได้ดีอยู่แล้ว เนื่องจากเล่นอยู่ในสโมสรเดียวกัน โดยเฉพาะในรายของธีรศิลป์ ที่เล่นกันมายาวนาน และดัสกรรู้จังหวะขยับตัว หาที่ว่างของธีรศิลป์เป็นอย่างดี และมักเป็นคน Assist ให้ธีรศิลป์บ่อยครั้ง


ต่างจากนักเตะคนอื่นๆที่เราเห็นได้ชัดในเกมเจอกับเวียดนาม ที่หลายๆครั้ง ธีรศิลป์ขยับเข้าช่อง แต่นักเตะคนอื่นๆ ไม่จ่ายในจังหวะที่ขยับ ทำให้บทบาทของธีรศิลป์หายไปในเกมนั้น แต่จุดอ่อนก็คือ เรื่องของสปีดบอล ที่ทีมชาติเน้นสปีดที่เร็ว และความฟิตในการวิ่งไล่บดคู่แข่ง


4. ธีรศิลป์ แดงดา

หัวหอกหมายเลขหนึ่งเมืองไทย ฟอร์มและความมั่นใจหดหายไปมาก หลังจากไปเล่นให้กับ อัลเมเรียเป็นเวลา 6 เดือน โดยแทบไม่มีโอกาสลงสนาม ทำให้ฟอร์มในช่วงแรกของฤดูกาลนี้ จังหวะของเจ้าตัวดูจะหายไปมาก โดยเฉพาะการปิดสกอร์ ที่หลายๆจังหวะ ถ้าเป็นธีรศิลป์เมื่อก่อน จะยิงจังหวะแรก แต่ในฤดูกาลนี้ ความมั่นใจที่หดหาย ทำให้เค้าไม่กล้ายิง


และเลือกที่จะส่งแทนเป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับ ในฤดูกาลนี้ เอสซีจี เมืองทอง กองหน้าตัวเป้าล้นทีม นอกจากธีรศิลป์แล้วยังมี คลีตัน ซิลวา และ ชนานันท์ ป้อมบุปผา ในตำแหน่งเดียวกัน ทำให้บทบาทของธีรศิลป์ในฤดูกาลนี้ แตกต่างออกไปจากที่เค้าเคยเล่น หลายๆครั้ง ธีรศิลป์ต้องโยกออกไปเล่นด้านขวา เพื่อหลีกทางให้ คลีตัน ซิลวาที่ฟอร์มดีเหลือเกินในฤดูกาลนี้ หรือบางครั้งโยกลงมาเป็น กองกลางตัวรุก ในช่วงที่ มาริโอ้ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีนัก ทำให้ช่วง 10 เกมแรกของธีรศิลป์ในฤดูกาลนี้ มีผลงานที่ไม่สู้ดีนัก แต่ทันทีที่เทพมุ้ยเริ่มปรับตัวกับบทบาทใหม่ได้ และสามารถเรียกความมั่นใจเดิมๆกลับมาได้


เค้าก็เริ่มโชว์ศักยภาพออกมาให้เห็น กับการเป็นนักเตะที่จ่ายบอลจังหวะสำคัญๆให้เพื่อนหลายๆครั้ง โดยในฤดูกาลนี้ ธีรศิลป์นำเป็นนักเตะที่จ่ายบอลให้เพื่อนทำประตูมากที่สุดถึง 8 ครั้ง และยิงไปได้อีก 4 ประตู ในบทบาทที่ลงมาเล่นต่ำกว่าปกติ ทำให้เทพมุ้ยถือเป็นตัวเลือกในบทบาทตัวแทนของชนาธิปที่น่าสนใจไม่น้อยในเกมเจอกับอิรัก ที่จะทำให้เค้ามีอิสระในการเล่นและมีบทบาทกับเกมมากขึ้น และเปิดทางให้ อดิศักดิ์ ไกรษรหรือคนอื่นๆในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้า