10 อันดับนักเตะฟอร์มเด่น ไทยพรีเมียร์ลีก (เลก 1)

กระทู้สนทนา


10. รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก (เชียงราย ยูไนเต็ด)เป็นฤดูกาลที่แจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัวของปีกรายนี้ เร่ิมต้นด้วย การเป็นนักเตะเยาวชนจากเพื่อนตำรวจภายใต้การปลุกปั้นของ ชัยยงค์ ขำเปี่ยม ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับ ลำพูน วอลลิเออร์ในศึก ดิวิชั่น 2 ก่อนจะย้ายตามชัยยงค์ไปอยู่ที่ เชียงใหม่ในปี 2013  และกลายเป็นกำลังของทีมมาโดยตลอดตั้งแต่บัดนั้น จนฟอร์มไปเตะตา

โค้ชโจ ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น กุนซือเชียงรายในเกมอุ่นเครื่องระหว่างเชียงใหม่กับเชียงราย ก่อนที่โค้ชโจจะตัดสินใจดึงมาร่วมทีม และให้สวมหมายเลข 11 อดีตหมายเลขของโค้ชโจนั่นเอง รุ่งรัฐประเดิมปีแรกในไทยพรีเมียร์ลีกได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการกลายเป็นกำลังหลักของทีมในทันที ด้วยสไตล์การเล่นที่เลี้ยงบอล ครองบอลได้ดี มีทักษะ เทคนิคที่ดี และที่สำคัญของ มีการเล่นเป็นทีมที่ดี และการจ่ายบอลครอสที่ดูจะโดดเด่นกว่าปีกสัญชาติไทยคนอื่นๆ

รุ่งรัฐกลายเป็นความหวังสูงสุดของทีมในช่วงที่เชียงรายประสบปัญหานักเตะบาดเจ็บมากมาย โดยเฉพาะเรนาน มาร์เกวซ แม้เชียงรายจะมีผลงานในตลาดซื้อขายนักเตะที่ไม่ดีนักในช่วงเลกแรก เสียอัสซัมเซาไป ขณะที่ตัวที่ได้มาทนแทนอย่าง เรนานตินโญ่ ถือว่าสอบตกอย่างสิ้นเชิง แต่การได้ตัวรุ่งรัฐ ภูมิจันทึกมา อาจจะเป็นซื้อตัวที่ยอดเยี่ยมที่สุดในฤดูกาลนี้ก็เป็นได้  

เค้าเป็นกำลังหลักของทีมในช่วงวิกฤตนักเตะเจ็บ พอดีมาอยู่กลางตารางได้ในเวลานี้ โดย 17 เกมในเลกแรก รุ่งรัฐได้ลงสนามไปครบทั้ง 17 เกม โดยได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงถึง 14 เกม และตัวสำรองอีก 3 เกม ยิงได้ 2 ประตูกับอีก 4 Assist ถึงแม้ว่า หลังจากกลับมาจากศึกซีเกมส์ ฟอร์มของรุ่งรัฐจะหลุดไปจากเดิม แต่การลงมาเป็นตัวสำรองและทำได้ 1 Assist ในเกมล่าสุด น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีของปีกรายนี




9. Angelo Machuca (ราชนาวี)

กองกลางเพลย์เมคเกอร์วัย 30 ปีชาว ปารากวัย ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ในลีกไทยมาครบทุกดิวิชั่น ไม่ว่าจะเป็นไทยพรีเมียร์ลีกกับ บีอีซี เทโรศาสนในปี 2010 ลีกภูมิภาคดิวิชั่น 2 กับ ปากน้ำโพ เอ็นเอสอาร์ยูในปี 2012 และยามาฮ่าลีกวันกับเชียงใหม่ เอฟซีในปี 2013 ก่อนจะกลับสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งในปี 2015 กับราชนาวี ราชนาวีถือเป็นตัวเต็งในการตกชั้นฤดูกาลนี้ หากดูจากสภาพผู้เล่น ที่มีนักเตะที่มีประสบการณ์ในไทยพรีเมียร์ลีกค่อนข้างน้อย

ขณะที่นักเตะต่างชาติส่วนใหญ่ก็มีประสบการณ์ในลีกล่างของประเทศซะส่วนใหญ่ ผลงานเลกแรกของราชนาวี ก็ถือว่าตามคาด 17 เกม เก็บได้เพียง 12 แต้มอยู่อันดับที่ 15 ของตาราง แต่ฟอร์มโดยรวมของ Machuca ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ ในแต่ละเกม เราจะเห็นมาชูก้าแทบจะเป็นความหวังเดียวในเกมรุกของทีม ครองบอลเก็บบอลในแดนหน้า เลี้ยงลุย เรียกฟาว์ล และขึ้นมายิงฟรีคิกเอง ผลงานในเลกแรก มาชูก้าลงสนามเป็นตัวจริงครบทั้ง 17 เกม และโดนเปลี่ยนออกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น โดยยิงไปแล้ว 5 ประตูกับ 4 Assist ซึ่งถ้าราชนาวีไม่มี มาชูก้า ราชนาวีอาจจะจมบ๊วยไปแล้วก็เป็นได้






8. Cleiton Sliva (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)หัวหอกอดีตดาวซัลโวไทยพรีเมียร์ลีก 2012 กลับมาอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมอีกครั้งในฤดูกาล 2015 หลังจากในฤดูกาล 2014 เค้าไปตัดสินใจออกไปหาความท้าทายใหม่ในลีกแม๊กซิโก แต่ก็โชคร้าย

เมื่อทีมประสบปัญหาทางด้านการเงิน ทำให้คลีตันกลับมาในไทยพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง แต่ปฎิเสธที่กลับต้นสังกัดเดิมอย่างบีอีซี เทโรศาสน และเลือก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดแทน ในครึ่งฤดูกาลหลังของปี 2014 คลีตันไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งของตัวเองได้เลย หลังจากร้างสนามไปนานกว่าครึ่งปี แต่มาในปีนี้ สภาพร่างกายกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง ในปีนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คลีตัน คือความหวังสูงสุดในแนวรุก ในยามที่ มาริโอ้ ยูรอฟสกี้ และธีรศิลป์ แดงดา ยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเดิมๆกลับมาได้ ขณะที่ชนานันท์ในบทบาทกองหน้าฝั่งขวาก็เล่นไม่ออก แม้ว่าคลีตันจะถูกโยกมาเล่นทางฝั่งซ้ายเป็นส่วนใหญ่

แต่ไม่ใช่ปัญหาของเค้าที่ผลิตสกอร์ไปแล้ว 9 ประตู จากการลงเล่นไป 16 เกมในฤดูกาลนี้ พร้อมกับอีก 3 Assist นอกจากการยิงประตู ที่ปีนี้คลีตันกลับมายิงประตูได้อย่างเฉียบขาด และหาจังหวะยิงได้ในทุกจังหวะแล้วความขยันของเค้าในการช่วยวิ่งไล่ เล่นเกมรับในทุกๆเกมยังมีส่วนสำคัญที่ทำให้เอสซีจี เมืองทอง บินสูง อยู่ในฐานะรองจ่าฝูงในช่วงเลกแรก





7. Heberty (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)

เจ้าของดาวซัลโวไทยพรีเมียร์ลีก 2014 และเจ้าของสถิติยิงประตูได้มากที่สุดใน 1 ฤดูกาล คือ 26 ประตู แม้ในฤดูกาลนี้ทีมจะเสริมเกมรุกต่างชาติอย่าง บรูโน่ และมิเชลลินี่ เข้ามาทดแทน โดยเฉพาะในรายของบรูโน่ ที่ทำให้เฮอร์แบร์ตี้ต้องปรับบทบาทลงมาเล่นเป็นตัวต่ำมากขึ้นในช่วงต้นฤดูกาล ส่งผลให้ทีมและผลงานของเฮอร์แบร์ตี้ ตกลงไปในช่วงแรก แต่พอปรับกลับมาใช้Heberty ในบทบาทหน้าเป้าอีกครั้ง ก็ทำให้เค้าสามารถกลับมาระเบิดฟอร์มได้ดังเดิม และยังแบกรับภาระการยิงประตูแทบจะคนเดียวของทีมเช่นเดิม ในช่วง 17 เกมแรกของ ไทยพรีเมียร์ลีก ราชบุรี ยิงไปได้ 20 ประตู เป็นผลงานของ Heberty ถึง 11 ประตู หรือคิดเป็น 55%

ของจำนวนประตูที่ทีมยิงได้เลยทีเดียว และแม้คู่แข่งจะรู้ทั้งรู้และส่งคนตามประกบ Heberty 1-2 คนแทบทุกแมตช์ แต่ก็ไม่วายโดน Heberty แผลงฤทธิ์ได้อยู่ดี โดยเฉพาะทีเด็ดจากลูกฟรีคิก ที่ยังคงอันตรายเหมือนในฤดูกาลที่ผ่านมา และมีส่วนสำคัญที่ทำให้ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี กลายเป็นทีมค่อนบนของตารางอย่างเต็มตัวในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา Heberty ได้ลงสนามครบทั้ง 17 แมตช์ โดยเป็นตัวจริงถึง 16 แมตช์ ยิงได้ 11 ประตูกับ 2 Assist
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่