ทุกวันนี้ คนเราใช้ชีวิตส่วนใหญ่หมดไปกับการทำงาน
คนที่โชคดีหน่อย คือ คนที่ได้ทำงานที่บ้าน ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทาง
ส่วนคนอื่นๆ ที่เป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ก็ต้องอดทน ทำกันต่อไป
ในที่ทำงาน ถ้าคนที่ทำบุญมาดีหน่อย ก็จะเจอกับเพื่อนร่วมงานที่ดี
ช่วยกันส่งเสริม ให้กำลังใจกันในการทำงาน
แต่ถ้าคนที่โชคไม่เข้าข้าง ก็จะเจอเพื่อนร่วมงานแย่ๆ อย่างที่เราเจออยู่ทุกวันนี้
คนอะไร ไม่มีความเป็นมิตรเอาเสียเลย ไม่เฉพาะกับเราเท่านั้น แต่ยังเป็นแบบนี้กับทุกๆ คน
แต่คนนี้ก็แปลกเนอะ เจอกันต่อหน้าก็พูดจากันดี เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
แต่พอลับหลัง ก็มาว่าสารพัด ว่าไม่ดีอย่างโน้น ไม่ดีอย่างนี้ ไม่ชอบโน่นนี่ บลาๆๆๆๆ
หน้าไหว้ หลังหลอกกันทั้งนั้น …....... นี่แหละหนา มนุษย์ เชื่อใจอะไรใครไม่ได้เลยจริงๆ
ความสัมพันธ์บนผลประโยชน์ของตังเอง และเพื่อความเอาตัวรอด
รู้รักษาตัวรอด เป็นยอดดี จริงๆ …..........
การทำงาน ในยุคสมัยนี้ บางทีต้องอาศัยการปล่อยวาง อย่างมาก เพราะถ้ามามัวแต่ใส่ใจอะไรทุกอย่าง
คนที่เจ็บ ก็จะเป็นเราเสียเอง ที่ทนอยู่กับอะไรแบบนี้ไม่ได้ และสุดท้ายก็ต้องออกไปจากที่นี่
และแน่นอนว่า ตอนนี้ เราก็กำลังหาทางออกใหม่ให้กับตัวเอง
เหนื่อย และท้อมากจริงๆ กับการทำงานที่นี่ ปัญหาเรื่องคน พอทนได้
แต่มีปัญหาเรื่องตำแหน่งหน้าที่ มันเกินไปแล้ว
มันรู้สึกว่า ไม่ไหวแล้วจริงๆ ทุกๆ อย่างมันประดังเข้ามา
และคิดว่า ทำไมเราต้องมาทน หรือเจอกับอะไรแบบนี้ด้วย
ในเมื่อเรามีทางเลือก และความอดทนของคนย่อมมีจำกัด
เมื่อมาถึงวันนี้ วันที่ทุกๆ อย่างในชีวิตเริ่มนิ่ง และนั่งคิดมาสักระยะหนึ่ง
นั่งนิ่งๆ ให้ความคิดตกตะกอน และทบทวนอะไรหลายๆ อย่างที่เข้ามาในชีวิต
บวก ลบ คูณ หาร ทุกอย่าง โดยปราศจากอคติ อยู่กับตัวเองเงียบๆ
นั่งฟังความคิดของตนเอง ทบทวนตัวเอง …...... ทุกมิติ
และคำตอบที่ได้รับ ในวันนี้ คือ การที่เราตัดสินใจ ออกไปแสวงหาโอกาสให้กับตัวเอง
ได้เรียนรู้โลกภายนอก ทุกสิ่ง ทุกอย่าง มันไม่ใช่ของเรา
ในเมื่อที่ ที่เราอยู่ มันไม่ใช่ที่ของเราตั้งแต่แรก เราก็ต้องออกไปหาที่ใหม่
อย่ายึดมั่น อย่ายึดติดกับสิ่งที่เห็น เราต้องก้าวไปข้างหน้า
เราไม่มีทางอับจนหนทาง ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ และพลังในการต่อสู้
การทำงาน เหมือนกับการใช้ชีวิต (ใครบางคนเคยกล่าวเอาไว้)
คนที่โชคดีหน่อย คือ คนที่ได้ทำงานที่บ้าน ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทาง
ส่วนคนอื่นๆ ที่เป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ก็ต้องอดทน ทำกันต่อไป
ในที่ทำงาน ถ้าคนที่ทำบุญมาดีหน่อย ก็จะเจอกับเพื่อนร่วมงานที่ดี
ช่วยกันส่งเสริม ให้กำลังใจกันในการทำงาน
แต่ถ้าคนที่โชคไม่เข้าข้าง ก็จะเจอเพื่อนร่วมงานแย่ๆ อย่างที่เราเจออยู่ทุกวันนี้
คนอะไร ไม่มีความเป็นมิตรเอาเสียเลย ไม่เฉพาะกับเราเท่านั้น แต่ยังเป็นแบบนี้กับทุกๆ คน
แต่คนนี้ก็แปลกเนอะ เจอกันต่อหน้าก็พูดจากันดี เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
แต่พอลับหลัง ก็มาว่าสารพัด ว่าไม่ดีอย่างโน้น ไม่ดีอย่างนี้ ไม่ชอบโน่นนี่ บลาๆๆๆๆ
หน้าไหว้ หลังหลอกกันทั้งนั้น …....... นี่แหละหนา มนุษย์ เชื่อใจอะไรใครไม่ได้เลยจริงๆ
ความสัมพันธ์บนผลประโยชน์ของตังเอง และเพื่อความเอาตัวรอด
รู้รักษาตัวรอด เป็นยอดดี จริงๆ …..........
การทำงาน ในยุคสมัยนี้ บางทีต้องอาศัยการปล่อยวาง อย่างมาก เพราะถ้ามามัวแต่ใส่ใจอะไรทุกอย่าง
คนที่เจ็บ ก็จะเป็นเราเสียเอง ที่ทนอยู่กับอะไรแบบนี้ไม่ได้ และสุดท้ายก็ต้องออกไปจากที่นี่
และแน่นอนว่า ตอนนี้ เราก็กำลังหาทางออกใหม่ให้กับตัวเอง
เหนื่อย และท้อมากจริงๆ กับการทำงานที่นี่ ปัญหาเรื่องคน พอทนได้
แต่มีปัญหาเรื่องตำแหน่งหน้าที่ มันเกินไปแล้ว
มันรู้สึกว่า ไม่ไหวแล้วจริงๆ ทุกๆ อย่างมันประดังเข้ามา
และคิดว่า ทำไมเราต้องมาทน หรือเจอกับอะไรแบบนี้ด้วย
ในเมื่อเรามีทางเลือก และความอดทนของคนย่อมมีจำกัด
เมื่อมาถึงวันนี้ วันที่ทุกๆ อย่างในชีวิตเริ่มนิ่ง และนั่งคิดมาสักระยะหนึ่ง
นั่งนิ่งๆ ให้ความคิดตกตะกอน และทบทวนอะไรหลายๆ อย่างที่เข้ามาในชีวิต
บวก ลบ คูณ หาร ทุกอย่าง โดยปราศจากอคติ อยู่กับตัวเองเงียบๆ
นั่งฟังความคิดของตนเอง ทบทวนตัวเอง …...... ทุกมิติ
และคำตอบที่ได้รับ ในวันนี้ คือ การที่เราตัดสินใจ ออกไปแสวงหาโอกาสให้กับตัวเอง
ได้เรียนรู้โลกภายนอก ทุกสิ่ง ทุกอย่าง มันไม่ใช่ของเรา
ในเมื่อที่ ที่เราอยู่ มันไม่ใช่ที่ของเราตั้งแต่แรก เราก็ต้องออกไปหาที่ใหม่
อย่ายึดมั่น อย่ายึดติดกับสิ่งที่เห็น เราต้องก้าวไปข้างหน้า
เราไม่มีทางอับจนหนทาง ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ และพลังในการต่อสู้