สวัสดีครับ คือพอดีช่วงเดือนถึงสองเดือนที่ผ่านมา มีเหตุให้ต้องตื่นเช้าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงได้มีโอกาสทำความรู้จักกับเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ของทางฝั่งอเมริกาอย่างจริงจัง แรก ๆ ก็ค่อนข้างหน้าเบื่อบ้าง เพราะไม่ค่อยรู้จักตัวผู้เล่น อีกทั้งยังดูออนไลน์ ซึ่งหลายครั้งคุณภาพของสตรีมค่อนข้างแย่ มิหนำซ้ำบางทีคนพากษ์ยังพากษ์เป็นภาษาสเปนอีก ก็เลยยังไม่ค่อยรู้สึกติดตาตรึงใจเท่าไหร่นัก
อันที่จริงสมัยก่อนผมเคยนึกอยากดูอยากติดตาม MLS (ขออนุญาติใช้ตัวย่อ) แต่ด้วยความที่เวลาต่างกันมาก ส่วนมากจะแข่งกันช่วงเช้าบ้านเรา มิหนำซ้ำพื้นที่ข่าวก็มีน้อย สื่อไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก เลยทำให้ลำบากในการติดตาม สุดท้ายผมก็ลืม ๆ ไป
แต่มาปีนี้ด้วยความที่ MLS ค่อนข้างเติบโตขึ้นมาก นักเตะดัง ๆ ย้ายมากันหลายคน (กาก้า,บีย่า,เจอร์ราด,แลมพาร์ด,ปีร์โล่,ดร๊อกบา) และทีมก็เพิ่มขี้นเป็น 20 ทีม (เพิ่มขึ้นจากสมัยที่ผมเคยติดตามผ่าน ๆ ตอนนั้นมีแค่ 12 ทีม) นอกจากนั้นเทคโนโลยีอะไรต่าง ๆ ก็พัฒนาขึ้นมาก ประกอบกับภาษาอังกฤษของเจ้าของกระทู้ก็แข็งแรงขึ้น สามารถทำให้ติดตามข่าวสารทางอินเตอร์เน็ตได้สะดวก เลยทำให้เกิดการตกหลุมรัก MLS อย่างจริงจัง ... ขนาดที่ว่าเมื่อคืนดูแมน.ซิตี้ กับเชลซี แค่ครึ่งเดียว รีบนอน จะได้ตื่นมาดู ซีแอตเทิล ซาวเดอร์ส กับ ออร์แลนโด้ เตะตอนตี 4
บอกตามตรงผมเองก็สองจิตสองใจมาพักนึงแล้วว่าจะตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดีมั้ย เสิร์ชหาดู เห็นมีคนพูดถึง MLS ในพันทิปอยู่บ้าง แต่ไม่ค่อยมีรายละเอียดอะไรมากนัก ... พูดง่าย ๆ คือลีกนี้อยู่นอกเหนือเรดาร์ของนักดูบอลทั่วๆ ไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แต่ไหนๆก็ไหนๆ เขียนมาขนาดนี้แล้ว ผมขอใส่เต็มเลยแล้วกัน
ขอเริ่มที่รูปแบบการแข่งขันกันก่อน ... ทีมใน MLS แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม สองสาย อีสเทิร์น กับ เวสเทิร์น กลุ่มล่ะ 10 ทีม ฤดูกาลปรกติเริ่มแข่งตั้งแต่ เดือนมีนาคม-ตุลาคม ทุกทีมต้องเตะทีมละ 34 นัด 24 นัดเจอทีมในสายเดียวกัน ส่วนอีก 10 นัด เจอกับทีมสายอื่น ... แต่บอกเลยว่าการจัดตารางแข่งขันของที่นี่แปลก คือบางทีมอาจต้องเจอกันถดูกาลหนึ่ง 3 นัด ยกตัวอย่างเช่นพวกทีมคู่รักคู่แค้น (rivalries) ทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะเป็น ทิมเบอร์ส vs ซาวเดอร์ส, แอลเอ กาแล๊คซี่ vs ซาน โฮเซ เอิร์ธเควกส์ เป็นต้น
เมื่อจบฤดูกาลปรกติ ก็จะมี 12 ทีม ได้เข้าสู่รอบเพลย์ออฟ ซึ่งก็คืออันดับ 1-6 จากทั้ง 2 สายนั่นเอง ... แต่ก่อนจะไปกันต่อ ตอนจบฤดูกาลปรกตินี่เองที่จะมีหนึ่งทีมได้รับโทรฟี่แรกของปี Supporters' Shield ... ถาดรางวัลนี้ ถ้าอธิบายง่าย ๆ คือมอบให้กับทีมที่ดีที่สุด มีคะแนนรวมมากที่สุด ถ้าเปรียบกับลีกในส่วนอื่นของโลก มันก็คือโทรฟี่ที่มอบให้แช้มป์ลีกนั่นเอง (เหมือนเชลซีได้ถ้วยแช้มป์พรีเมียร์ลีกปีที่แล้ว) ... ถ้าถามว่าได้ Supporter's Shield นี่มีราคาค่างวดขนาดไหน ก็มีราคา มีความสำคัญในระดับหนึ่ง แต่ไม่มากเท่า MLS Cup แฟน ๆ อาจชอบ แต่สื่ออาจพูดถึงน้อย โค้ชบางคนได้เข้ารอบเพลย์ออฟชัวร์แล้ว อาจพักตัวนักเตะ คือไอ้ถาดนี้จะได้หรือไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ไอ้เจ้าถาด Supporters' Shield สมัยก่อนใช้ชื่อว่า Supporters' Scudetto แฟนบอลในไมอามี่เป็นคนต้นคิด โดยตั้งใจจะมอบให้กับทีม แทมป้า เบย์ มิวตินี่ ซึ่งเป็นทีมที่ดีที่สุดในฤดูกาลปรกติของปี 1996 แต่กลับไปแพ้ ดีซี ยูไนเต็ต ในนัดชิง MLS Cup ปีนั้น ตัวถาดเองกลุ่มแฟนจากทีมต่าง ๆ เป็นคนหาเงินจัดซื้อ ลีกไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เริ่มมอบกันจริงๆในปี 1999 ทุกวันนี้ทีมที่ได้ถาด จะได้โควต้า CONCACAF Champions League ในปีถัดไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซีแอตเทิล ซาวเดอร์ส แช้มป์ปีที่แล้ว
จากนั้นก็เข้าสู่ช่วง MLS Cup เพลย์ออฟ หรือที่เขาเรียกกันว่า Postseason แข่งกันแบบ 2 นัด เหย้าเยือน รวมลูกได้เสีย ระหว่างทีมในสายเดียวกัน จากนั้นทีมแช้มป์จากทั้ง 2 สาย ก็เข้าชิง MLS Cup โดยนัดชิงจะเตะนัดเดียว ทีมที่ได้เป็นเจ้าบ้านในนัดชิง คือทีมที่มีคะแนนในฤดูกาลปรกติดีกว่าอีกทีม (ไม่ใช้สนามเป็นกลาง) ยกตัวอย่างเช่น ทีม ก ฤดูกาลปรกติ ทำได้ 46 แต้ม ขณะที่ทีม ข ได้แค่ 39 แต้ม ในกรณีนี้ทีม ก ก็จะได้เป็นเจ้าบ้านในนัดชิงไปแบบอัตโนมัติ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แอลเอ กาแล็คซี่ แช้มป์ MLS Cup 2014
โดยนัดชิง MLS Cup จะเตะกันประมาณช่วงต้นเดือน ธันวาคม จากนั้นก็ปิดฤดูกาล
ขอแทรกเครื่องเคียงอีกสักเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอ นอกจากโทรฟี่รางวัลที่กล่าวมาข้างบนนั้นแล้ว ในอเมริกาก็ยังมีอีก 1 ถ้วย คือ US Open Cup ซึ่งถ้วยนี้ถ้าให้เปรียบง่าย ๆ ก็คือถ้วยเอฟเอคัพนั่นเอง ระดับความสำคัญก็ไม่มากนัก ส่วนมากเตะกันกลางสัปดาห์ แฟนบอลดูน้อยอย่างน่าเกลียด ถ้วยนี้เริ่มแข่งกันตั้งแต่ปี 1914 เตะแบบน๊อคเอ้าท์ มีทีมลีกล่าง ๆ ร่วมแข่งด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซีแอตเทิล ซาวเดอร์ส แช้มป์ US Open Cup ปีที่แล้ว
ก็นั่นแหละครับ ท่านผู้ชม รูปแบบการแข่งขันคร่าวๆ ของ MLS แต่ยังมีเรื่องน่าสนใจอีกเล็กน้อยที่อยากจะพูดถึง อย่างเช่นเรื่องข้อดีข้อเสีย จุดที่น่าสนใจของลีก และเหล่าแฟน ๆ ใน MLS บางทีมที่ค่อนมีสีสัน จนได้รับคำชมจากแฟนบอล และสื่ออื่น ๆ ทั่วโลก พูดง่าย ๆ คือเป็นหน้าเป็นตาของลีก ดังนั้น ผมจะขอหยุดตรงนี้ก่อน และจะขอมาต่ออีกนิดล่ะกันน่ะครับ
To Be Continued ...
เมื่อผมกลายมาเป็นแฟนพันธุ์แท้ เมเจอร์ลีก ซอกเกอร์ (MLS)
อันที่จริงสมัยก่อนผมเคยนึกอยากดูอยากติดตาม MLS (ขออนุญาติใช้ตัวย่อ) แต่ด้วยความที่เวลาต่างกันมาก ส่วนมากจะแข่งกันช่วงเช้าบ้านเรา มิหนำซ้ำพื้นที่ข่าวก็มีน้อย สื่อไม่ค่อยให้ความสนใจมากนัก เลยทำให้ลำบากในการติดตาม สุดท้ายผมก็ลืม ๆ ไป
แต่มาปีนี้ด้วยความที่ MLS ค่อนข้างเติบโตขึ้นมาก นักเตะดัง ๆ ย้ายมากันหลายคน (กาก้า,บีย่า,เจอร์ราด,แลมพาร์ด,ปีร์โล่,ดร๊อกบา) และทีมก็เพิ่มขี้นเป็น 20 ทีม (เพิ่มขึ้นจากสมัยที่ผมเคยติดตามผ่าน ๆ ตอนนั้นมีแค่ 12 ทีม) นอกจากนั้นเทคโนโลยีอะไรต่าง ๆ ก็พัฒนาขึ้นมาก ประกอบกับภาษาอังกฤษของเจ้าของกระทู้ก็แข็งแรงขึ้น สามารถทำให้ติดตามข่าวสารทางอินเตอร์เน็ตได้สะดวก เลยทำให้เกิดการตกหลุมรัก MLS อย่างจริงจัง ... ขนาดที่ว่าเมื่อคืนดูแมน.ซิตี้ กับเชลซี แค่ครึ่งเดียว รีบนอน จะได้ตื่นมาดู ซีแอตเทิล ซาวเดอร์ส กับ ออร์แลนโด้ เตะตอนตี 4
บอกตามตรงผมเองก็สองจิตสองใจมาพักนึงแล้วว่าจะตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดีมั้ย เสิร์ชหาดู เห็นมีคนพูดถึง MLS ในพันทิปอยู่บ้าง แต่ไม่ค่อยมีรายละเอียดอะไรมากนัก ... พูดง่าย ๆ คือลีกนี้อยู่นอกเหนือเรดาร์ของนักดูบอลทั่วๆ ไป [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอเริ่มที่รูปแบบการแข่งขันกันก่อน ... ทีมใน MLS แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม สองสาย อีสเทิร์น กับ เวสเทิร์น กลุ่มล่ะ 10 ทีม ฤดูกาลปรกติเริ่มแข่งตั้งแต่ เดือนมีนาคม-ตุลาคม ทุกทีมต้องเตะทีมละ 34 นัด 24 นัดเจอทีมในสายเดียวกัน ส่วนอีก 10 นัด เจอกับทีมสายอื่น ... แต่บอกเลยว่าการจัดตารางแข่งขันของที่นี่แปลก คือบางทีมอาจต้องเจอกันถดูกาลหนึ่ง 3 นัด ยกตัวอย่างเช่นพวกทีมคู่รักคู่แค้น (rivalries) ทั้งหลายแหล่ ไม่ว่าจะเป็น ทิมเบอร์ส vs ซาวเดอร์ส, แอลเอ กาแล๊คซี่ vs ซาน โฮเซ เอิร์ธเควกส์ เป็นต้น
เมื่อจบฤดูกาลปรกติ ก็จะมี 12 ทีม ได้เข้าสู่รอบเพลย์ออฟ ซึ่งก็คืออันดับ 1-6 จากทั้ง 2 สายนั่นเอง ... แต่ก่อนจะไปกันต่อ ตอนจบฤดูกาลปรกตินี่เองที่จะมีหนึ่งทีมได้รับโทรฟี่แรกของปี Supporters' Shield ... ถาดรางวัลนี้ ถ้าอธิบายง่าย ๆ คือมอบให้กับทีมที่ดีที่สุด มีคะแนนรวมมากที่สุด ถ้าเปรียบกับลีกในส่วนอื่นของโลก มันก็คือโทรฟี่ที่มอบให้แช้มป์ลีกนั่นเอง (เหมือนเชลซีได้ถ้วยแช้มป์พรีเมียร์ลีกปีที่แล้ว) ... ถ้าถามว่าได้ Supporter's Shield นี่มีราคาค่างวดขนาดไหน ก็มีราคา มีความสำคัญในระดับหนึ่ง แต่ไม่มากเท่า MLS Cup แฟน ๆ อาจชอบ แต่สื่ออาจพูดถึงน้อย โค้ชบางคนได้เข้ารอบเพลย์ออฟชัวร์แล้ว อาจพักตัวนักเตะ คือไอ้ถาดนี้จะได้หรือไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากนั้นก็เข้าสู่ช่วง MLS Cup เพลย์ออฟ หรือที่เขาเรียกกันว่า Postseason แข่งกันแบบ 2 นัด เหย้าเยือน รวมลูกได้เสีย ระหว่างทีมในสายเดียวกัน จากนั้นทีมแช้มป์จากทั้ง 2 สาย ก็เข้าชิง MLS Cup โดยนัดชิงจะเตะนัดเดียว ทีมที่ได้เป็นเจ้าบ้านในนัดชิง คือทีมที่มีคะแนนในฤดูกาลปรกติดีกว่าอีกทีม (ไม่ใช้สนามเป็นกลาง) ยกตัวอย่างเช่น ทีม ก ฤดูกาลปรกติ ทำได้ 46 แต้ม ขณะที่ทีม ข ได้แค่ 39 แต้ม ในกรณีนี้ทีม ก ก็จะได้เป็นเจ้าบ้านในนัดชิงไปแบบอัตโนมัติ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยนัดชิง MLS Cup จะเตะกันประมาณช่วงต้นเดือน ธันวาคม จากนั้นก็ปิดฤดูกาล
ขอแทรกเครื่องเคียงอีกสักเล็กน้อยพอหอมปากหอมคอ นอกจากโทรฟี่รางวัลที่กล่าวมาข้างบนนั้นแล้ว ในอเมริกาก็ยังมีอีก 1 ถ้วย คือ US Open Cup ซึ่งถ้วยนี้ถ้าให้เปรียบง่าย ๆ ก็คือถ้วยเอฟเอคัพนั่นเอง ระดับความสำคัญก็ไม่มากนัก ส่วนมากเตะกันกลางสัปดาห์ แฟนบอลดูน้อยอย่างน่าเกลียด ถ้วยนี้เริ่มแข่งกันตั้งแต่ปี 1914 เตะแบบน๊อคเอ้าท์ มีทีมลีกล่าง ๆ ร่วมแข่งด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ก็นั่นแหละครับ ท่านผู้ชม รูปแบบการแข่งขันคร่าวๆ ของ MLS แต่ยังมีเรื่องน่าสนใจอีกเล็กน้อยที่อยากจะพูดถึง อย่างเช่นเรื่องข้อดีข้อเสีย จุดที่น่าสนใจของลีก และเหล่าแฟน ๆ ใน MLS บางทีมที่ค่อนมีสีสัน จนได้รับคำชมจากแฟนบอล และสื่ออื่น ๆ ทั่วโลก พูดง่าย ๆ คือเป็นหน้าเป็นตาของลีก ดังนั้น ผมจะขอหยุดตรงนี้ก่อน และจะขอมาต่ออีกนิดล่ะกันน่ะครับ
To Be Continued ...